กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 632
ด้านนอกจวนแม่ทัพ กู้ชูหน่วนซ่อนตัวอยู่ข้างต้นหลิวไม่ไกลนัก และลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่
จวนแม่ทัพยังคงเหมือนเดิม และมองไม่เห็นความแตกต่างใด ๆ แต่นางกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเป็นความเงียบสงบก่อนเกิดพายุ
ไม่ใช่ว่านางไม่เคยคิดว่านี่เป็นหมากกระดานหนึ่ง
แม่ทัพใหญ่อยู่ในสนามรบมานานหลายสิบปีแล้ว หากมีเรื่องสำคัญก็จะพูดคุยกับนางอย่างลับ ๆ และไม่มีทางที่จะโง่ให้คนรับใช้มาบอกให้นางมาพบที่ห้องลับ
นางให้คนไปสืบมาแล้ว คนรับใช้ผู้นั้นเป็นคนของจวนแม่ทัพจริง ๆ ภูมิหลังขาวสะอาด และเป็นคนสนิทของแม่ทัพใหญ่
กู้ชูหน่วนเดินกลับมา นางลังเลซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าไป
หากคำสั่งลับนั้นเป็นของแม่ทัพใหญ่ เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือ เขากำลังตกอยู่ในอันตราย และต้องการใช้วิธีนี้เพื่อบอกให้นางกระทำการอย่างระมัดระวัง
อย่างที่สองคือ มีคนต้องการจะทำให้แม่ทัพใหญ่กับนางขัดแย้งกัน
หากไม่ใช่คำสั่งของเขา เช่นนั้นก็ไม่ต้องคิดถึงความเป็นไปได้เลย เห็นได้ชัดว่ามีคนต้องการมุ่งเป้าไปที่พวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปได้อย่างไหน นางก็ต้องไปดูให้แน่ใจว่าแม่ทัพใหญ่และไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดยังอยู่ดี
กู้ชูหน่วนไม่ต้องการจะทำให้ผู้คนในจวนแม่ทัพตกใจ ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะปีนข้ามกำแพงเข้าไป
นางเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพียงแค่กะพริบตาเบา ๆ นางก็เข้าไปในจวนแม่ทัพแล้ว แม่ทัพใหญ่เซี่ยวเคยพานางเข้าไปในห้องลับครั้งหนึ่ง กู้ชูหน่วนคุ้นเคยกับจวนแม่ทัพเป็นอย่างดี นางจึงตรงเข้าไปในห้องลับท่ามกลางความมืด
ทางเข้าห้องลับอยู่หลังภาพวาดในห้องตำรา
กู้ชูหน่วนยังไม่ทันจะได้เข้าไปในห้องตำรา นางก็ได้กลิ่นคาวเลือด
นางเงยหน้าขึ้นในทันที แววตาของนางเปล่งประกาย และมีลางสังหรณ์ไม่ดี
“ปัง……”
นางเอาเท้าถีบประตูห้องตำราให้เปิดออก และสิ่งที่เห็นคือร่างของแม่ทัพใหญ่เซี่ยวนอนจมอยู่ในกองเลือด
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวตายอย่างน่าอนาถข้างหน้าโต๊ะ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง และตายตาไม่หลับ ดูเหมือนว่าก่อนตายเขาจะตกใจอย่างมาก
เมื่อมองลงไป กู้ชูหน่วนก็เห็นว่าหัวใจของแม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกควักออกมา หัวใจของเขาถูกบดขยี้จนแตกเป็นเสี่ยง ๆ และน่าสยดสยอง
“แม่ทัพใหญ่เซี่ยว……”
กู้ชูหน่วนหน้ามืดและแทบจะยืนไม่อยู่ นางจับชีพจรของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว แม่ทัพใหญ่เซี่ยวเสียชีวิตแล้ว
กู้ชูหน่วนจึงรีบหยิบหัวใจที่ถูกควักออกมา ที่แท้ไข่มุกมังกรที่อยู่ในหัวใจก็ถูกแย่งชิงไปแล้ว
ในเวลาเดียวกัน คนรับใช้คนหนึ่งก็เข้ามาพร้อมกับถ้วยน้ำแกงโสม และเห็นว่ากู้ชูหน่วนถือหัวใจที่แหลกสลายของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว รวมทั้งร่างที่ตายอย่างน่าอนาถของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว
คนรับใช้ตกตะลึงและเขาอุทานด้วยความตกใจ “ฮ้า……ท่านแม่ทัพใหญ่ถูกสังหาร……ท่านแม่ทัพใหญ่ถูกสังหาร…”
เสียงนี้เป็นเสียงตะโกนด้วยความตกใจอย่างสุดขีด และดังสนั่นไปทั่วทั้งจวนแม่ทัพที่เงียบสงัด
ผู้คนในจวนแม่ทัพต่างตระหนกตกใจ และรีบวิ่งมาที่ห้องตำรา
กู้ชูหน่วนทำอะไรไม่ถูก และเห็นว่ามือทั้งสองข้างของนางเต็มไปด้วยเลือด นางต้องการจะจากไป แต่หากนางจากไป นางก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีก
ในช่วงเวลาที่นางกำลังลังเล เซี่ยวอวี่ชง เซี่ยวอวี่โหลว เซี่ยวอวี่เซวียน รวมทั้งเซี่ยวหว่านเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ต่างก็รีบเข้ามา
เมื่อเห็นฉากที่อยู่ข้างใน พวกเขาก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด และเซี่ยวหว่านเอ๋อร์ก็เป็นลม
“ท่านพ่อ……”
เซี่ยวอวี่ชงและเซี่ยวอวี่โหลวตะโกนด้วยความเศร้าโศกเสียใจ และรีบไปที่ร่างของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว
สีหน้าของเซี่ยวอวี่เซวียนซีดเผือด เขาจ้องมองมือที่เปื้อนเลือดของกู้ชูหน่วน และเซไปมาสองสามครั้ง นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยคำถามและความไม่อยากจะเชื่อ
เซี่ยวอวี่ชงคว้าคอเสื้อของกู้ชูหน่วนและตะโกนด้วยความโกรธ “ทำไมท่านต้องฆ่าท่านพ่อของข้า ทำไม……”
“ชิ้ง ๆ ๆ ……”
แม้ว่าคนรับใช้ของจวนแม่ทัพส่วนใหญ่จะเป็นคนชราและอ่อนแอ แต่ที่นี่ก็มีทหารอยู่ไม่น้อย เหล่าทหารที่อยู่ในจวนต่างพากันชักอาวุธออกและล้อมกู้ชูหน่วนไว้
เซี่ยวอวี่ชงชักดาบออกมาด้วยความโกรธ เขาอยากจะฆ่ากู้ชูหน่วนเสียเดี๋ยวนี้เลย
เซียวอวี่โหลวรีบหยุดเขา “พี่ใหญ่ เรื่องนี้ยังไม่ได้แน่ชัด และยืนยันไม่ได้ว่านางฆ่าท่าพ่อ ท่านจะหุนหันพลันแล่นไม่ได้”
“ใครก็ได้ ไปเชิญนักชันสูตรมา” เซียวอวี่ชงตะโกนและจ้องไปที่กู้ชูหน่วนอย่างโหดเหี้ยม “หากท่านพ่อของข้าถูกท่านฆ่า ต่อให้ท่านจะเป็นพระชายาหาน ข้าก็จะไม่ปล่อยท่านไป”
นัยน์ตาขอกู้ชูหน่วนเป็นประกายด้วยความเจ็บปวดใจ
นางน่าจะคาดเดาจุดจบเช่นนี้ได้ตั้งนานแล้ว…..
ใครพยายามจะให้ร้ายนาง?
เรื่องที่ไข่มุกเม็ดที่เจ็ดอยู่ในหัวใจของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว นอกจากนางกับเยี่ยจิ่งหานแล้ว ยังมีใครอีกที่รู้?
ไม่นานนักชันสูตรก็มาอย่างรวดเร็ว และมาทั้งมดห้าคน
เซี่ยวอวี่ชงให้คนรับใช้ที่รู้เรื่องนี้เล่าทุกอย่าง จวนแม่ทัพทั้งหมดตกอยู่ในสภาวะที่ตึงเครียด
“เรียนนายน้อยใหญ่ หลายวันมานี้นายท่านไม่ค่อยสบาย ไม่อยากอาหาร คุณหนูจึงให้ข้าน้อยเอาน้ำแกงโสมไปให้นายท่าน แต่ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่ข้าน้อยเข้ามาแล้ว จะเห็นนายท่านนอนจมกองเลือด และพระชายาหานก็ทรงถือหัวใจที่แหลกสลายของนายท่านอยู่”
สีหน้าของเซี่ยวอวี่ชงเต็มไปด้วยความโกรธ เซี่ยวอวี่โหลวไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อเซี่ยวหว่านเอ๋อร์ฟื้นขึ้นมา นางก็คุกเข่าลงตรงหน้าร่างของแม่ทัพใหญ่เซี่ยวและสะอื้นไห้
ในทางกลับกัน เซี่ยวอวี่เซวียนตกใจจนเสียสติ และดูเหมือนจะยังไม่ตื่นจากฝันร้าย
กู้ชุหน่วนกล่าวว่า “ตอนที่ข้ามาถึง แม่ทัพใหญ่เซี่ยวก็เสียชีวิตแล้ว หัวใจของเขาถูกควักออกมา ข้าเพียงแค่ต้องการตรวจสอบดูหัวใจที่แหลกสลายของเขา”
“ในเมื่อท่านไม่ได้เป็นคนควักหัวใจของท่านพ่อข้า และไม่ใช่ท่านที่ขยี้หัวใจจนแหลกสลาย แล้วทำไมท่านต้องตรวจสอบด้วย?แหลกสลายหรือไม่นั้นมองด้วยตาก็รู้แล้ว?”
กู้ชูหน่วนทำปากขมุบขมิบ และไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องไข่มุกมังกรให้พวกเขาฟังอย่างไร
แต่ต่อให้อธิบาย บางทีพวกเขาก็อาจจะไม่เชื่อ
“ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”
“เป็นท่านแม่ทัพใหญ่ส่งจางเหว่ยไปบอกให้ข้ามาที่นี่ และนัดให้ข้ามาที่ห้องลับตอนเที่ยง”
“พระชายาหาน ท่านยังจะพูดจาขัดแย้งกับความเป็นจริง จางเหว่ยเพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อหนึ่งชั่วยามที่แล้ว และตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานการตายที่แน่ชัด และตอนนี้ท่านจะพูดอะไรก็ได้”
จางเหว่ยตายแล้ว?
นั่นหมายความว่าคนร้ายวางแผนไว้เป็นอย่างดี
“ต่อให้ท่านพ่อจะนัดกับท่านไว้ ทำไมเขาถึงส่งคนไปนัดท่านให้มาพบที่ห้องลับกลางวันแสก ๆ ?ข้าจำได้ว่าท่านพ่อของข้าไม่ชอบท่าน และไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับท่าน และห้องลับ แม้แต่พวกเราสี่คนพี่น้องก็ยังยากที่จะเข้าไปได้ แล้วท่านมีคุณสมบัติอะไร? แม้ว่าท่านพ่อจะนัดท่านไว้ ท่านก็สามารถเข้ามาได้อบย่างแบบเปิดเผย เหตุใดต้องปีน ข้ามกำแพงเข้ามา?”
เซี่ยวอวี่ชงพูดฉอด ๆ และแต่ละคำถามก็เฉียบแหลม
กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่นและกล่าวเพียงว่า “เรื่องนี้ซับซ้อน และในเวลานี้ข้าไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน”
“ไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน หรือว่าอธิบายไม่ชัดเจนกันแน่?”
เซี่ยวอวี่โหลวพูดโน้มน้าว “พี่ใหญ่ รอผลการชันสูตรพลิกศพก่อนเถอะ”
การเสียชีวิตของท่านพ่อ เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อพวกเขา
แต่เขาเชื่อว่ากู้ชูหน่วนไม่ใช่คนเช่นนั้น
ท่านพ่อไม่ชอบนาง แต่ต่อมาท่านพ่อก็รู้สึกชอบนางขึ้นมาบ้างแล้ว
บางทีอาจเป็นไปได้ที่ท่านจะเชิญนางมาที่นี่
แต่เขาไม่กล้าพูด
พี่ใหญ่มักจะอารมณ์ฉุนเฉียว หากพูดออกไปเขาอาจจะคิดว่ากู้ชูหน่วนวางแผนจะสังหารท่านพ่อไว้ล่วงหน้าแล้ว
ในที่สุดนักชันสูตรก็ตรวจพลิกศพเสร็จแล้ว และแต่ละคนก็พูดอย่างเคร่งขรึม
“แม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกลูกดอกอาบยาพิษ ทำให้ร่างกายของเขามีอาการชา และไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ พิษชนิดนี้ร้ายแรงมาก เพียงแค่โดนมันเพียงเล็กน้อย มันจะกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย และตายในที่สุด”
“พวกเราตรวจสอบพิษบนลูกดอกอย่างละเอียดแล้ว พิษชนิดนี้ซับซ้อนมาก และพวกเรายังไม่รู้ว่าเป็นยาพิษชนิดใด”
“แต่สิ่งที่แน่ชัดคือแม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกโจมตีจากด้านหลัง และผู้ที่โจมตีต้องเป็นผู้ที่แม่ทัพเซี่ยวไว้วางใจเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นก่อนที่จะเสียชีวิต เขาคงไม่ตกใจมากขนาดนี้”