กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 648
กู้ชูหน่วนคิดไม่ถึงว่าอาจารย์ซั่งกวนจะเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยนาง
ตอนที่อยู่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ซั่งกวนมักกลั่นแกล้งหาเรื่องนาง
“ตุ่บ……”
เปลวไฟที่เดือดพล่านกลับไม่ได้หยุดลงตามการบาดเจ็บของอาจารย์ซั่งกวน แต่ยังคงพุ่งพรวดกัดเซาะเข้ามา
อาจารย์ซั่งกวนยังคงฝืนความเจ็บปวดจากอวัยวะภายในที่เดือดพล่านและรวบรวมกำลังลมปราณแท้อีกครั้งเพื่อต้านทานคลื่นความร้อนนั้น
“ไป……รีบหนีไปเดี๋ยวนี้” อาจารย์ซั่งกวนกล่าวอย่างยากลำบาก
“ได้ ข้าออกไปก่อน ท่านอดทนเอาไว้”
เมื่อพูดจบ กู้ชูหน่วนก็วิ่งออกไป
อาจารย์ซั่งกวนรู้สึกสับสน
แค่นี้……
หนีไปแล้ว……
เหมือนกับตอนอยู่ที่ขั้วโลกเหนือไม่ผิดที่ทิ้งเขาไว้ โดยไม่สนใจความเป็นความตายของเขา จู่ๆ ก็……หนีไป……
เขาที่เดิมทีก็ไม่มีเรี่ยวแรงฝืนต่อไป เมื่อเสียสมาธิ อาจารย์ซั่งกวนก็ถูกคลื่นความร้อนนั้นห่อหุ้มปกคลุมโดยสมบูรณ์
เปลวเพลิงรอบๆ ตัวเขาดูเหมือนจะกลืนกินเขาทั้งเป็นทีละน้อย
เขาตกใจอย่างมาก
ไม่ง่ายเลยที่จะหนีเอาชีวิตรอดออกไปจากขั้วโลกเหนือได้ หรือกลับต้องมาจบชีวิตลงที่นี่อีก?
และในขณะที่อาจารย์ซั่งกวนฝืนทนต่อไปไม่ไหวนั้น ไกลออกไปก็มีเสียงควบม้าดังขึ้น เกือกม้าดังกึกก้อง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ลมพัดมาแต่ไกล ราวกับว่าทหารนับพันนับหมื่นกำลังพุ่งเข้าหา
นอกจากเสียงควบม้าที่ดังขึ้น ยังมีเสียงของกู้ชูหน่วนอีก
“ตาแก่ คนของข้ากำลังมาถึงแล้ว เจ้ายังไม่รีบวางมืออีกหรือ”
สีหน้าของชายชราชุดดำไม่พอใจนัก
เขาต้องฆ่ากู้ชูหน่วน
ซั่งกวนฉู่เขาก็ต้องฆ่า เด็กคนนี้อายุยังน้อยแต่กลับมาฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ หากปล่อยเอาไว้ ต่อไปคงต้องเป็นหนามพิษในอนาคตอย่างแน่นอน
เดิมทีเขาต้องการจัดการซั่งกวนฉู่ จากนั้นค่อยจัดการกู้ชูหน่วน แต่ตอนนี้คนของกู้ชูหน่วนกำลังจะมาถึงแล้ว หากเขาฆ่ากู้ชูหน่วนทีหลังคาดว่าคงจะยากเกินไป
ชายชราชุดดำตัดสินใจแน่วแน่
ในเมื่อฆ่ากู้ชูหน่วนไม่ได้ เช่นนั้นก็ฆ่าซั่งกวนฉู่ก่อนก็ได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ชายชราชุดดำก็เพิ่มพละกำลังมากขึ้น
ซั่งกวนฉู่ถูกเปลวไฟห่อหุ้มจนใบหน้าบิดเบี้ยวและแทบจะเปลี่ยนรูป
“ปัง……”
ไกลออกไป กู้ชูหน่วนควบม้าเร็วเข้ามาและในมือถือถังใบหนึ่ง จากนั้นสาดไปยังชายชราชุดดำอย่างแรง
ชายชราชุดดำหลบเลี่ยงโดยอัตโนมัติ
เข้าก้มลงมองเป็นเพียงแค่น้ำเปล่าเท่านั้น กลับไม่มีพิษอะไร ชายชราชุดดำหัวเราะเยาะ
ต่อให้มีพิษ เขาก็ไม่กลัว
คิดไม่ถึงว่าข้างหลังของกู้ชูหน่วนก็ยังมีอีกหนึ่งถัง ถังนี้ใช้โอกาสตอนที่ชายชราชุดดำรวบรวมกำลังเพื่อที่จะฆ่าซั่งกวนฉู่สาดเข้าไป
เหม็นเน่า
เหม็นเน่าเหลือเกิน
ชายชราชุดดำมองไปยังร่างกายของตัวเอง
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า อีกทั้งเต็มไปด้วยขี้
สีหน้าของชายชราชุดดำเปลี่ยนไปทันทีและความโกรธอย่างท่วมท้นก็เพิ่มขึ้นเดือดพล่าน
นังผู้หญิงสารเลว……
กล้าสาดขี้ใส่เขาอย่างนั้นหรือ……
เติบโตมาจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าดูถูกเหยียดหยามเขาถึงเพียงนี้
ชายชราชุดดำไม่สนใจซั่งกวนฉู่อีกต่อไป เขาคิดเพียงต้องการฆ่ากู้ชูหน่วนเท่านั้น
กู้ชูหน่วนใช้โอกาสตอนที่เขาโมโหและดึงซั่งกวนฉู่ที่บาดเจ็บสาหัสขึ้นหลังม้า จากนั้นจึงแทงมีดดาบสั้นลงไปที่ก้นของม้าอย่างเหี้ยมโหดและควบม้าออกไปอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา
ซั่งกวนฉู่กระอักเลือดออกมาอีกครั้งและเลอะเปรอะเปื้อนไปยังชุดสีขาวบริสุทธิ์ของเขา
มีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากของเขา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกู้ชูหน่วนกลับมาช่วยเขาหรือไม่ หรืออาจเป็นเพราะเจ้าเด็กวิเศษคนนี้สาดขี้ไปบนร่างกายของชายชราชุดดำ
ภายหลังของพวกเขาคือเสียงก่นด่าอย่างโมโหของชายชราชุดดำ “เด็กสารเลว หากวันนี้ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้จะไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป”
“ตู้ม……”
ฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยกำลังทะลุเมฆหมอก ราวกับลูกศรที่แหลมคม พุ่งตรงมาที่พวกเขา
ซั่งกวนฉู่รวบรวมลมปราณเพื่อต้านทานฝ่ามืออันรุนแรงนี้ แต่เมื่อเขาขยับ ร่างกายของเขาก็เจ็บปวดจนร้องออกมา และเมื่อมองไปยังมือทั้งสองข้างของเขา กลับรวบรวมลมปราณแท้ไม่ขึ้นแม้แต่นิดเดียว ลมปราณแท้ของเขาได้ถูกชายชราชุดดำกลืนกินไปหมดแล้ว
กู้ชูหน่วนดึงเชือกและหันหัวม้าเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีที่ร้ายแรง
แต่กลับเห็นว่าข้างหน้ามีก้อนหินขนาดใหญ่แตกกระจายเป็นฝุ่นผงเพราะพลังฝ่ามือนี้
นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
หากพลังฝ่ามือนี้โดนเข้าที่พวกเขา พวกเขายังจะมีชีวิตรอดได้อีกหรือไม่?
ไม่เพียงแค่พลังฝ่ามือเดียวเท่านั้น ยังคงมีพลังฝ่ามือปล่อยออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง ชายชราชุดดำยิ่งจู่โจมเข้ามาใกล้มากขึ้น
“เจี๊ยะ……”
กู้ชูหน่วนพยายามอย่างถึงที่สุด แต่ก็ไม่อาจเว้นระยะห่างออกไปจากชายชราชุดดำได้ แต่กลับถูกไล่จู่โจมอย่างกระชั้นชิดและนางเกือบจะถูกพลังฝ่ามือนั้นหลายครั้ง
ซั่งกวนฉู่พูดอย่างหมดเรี่ยวแรง “สองคนหนักเกินไปแล้ว ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้ เจ้ายังพอมีโอกาส”
“ที่นี่ไม่ใช่ห้องเรียนเสียหน่อย ต่อให้ท่านพูดมากกว่านี้ก็ไม่มีใครฟัง”
“ฉึก……”
กู้ชูหน่วนดึงเชือกม้าอย่างรุนแรง
พวกเขาไม่มีทางไปอีกเลยตรงหน้า นอกเหนือจากหน้าผาสูงที่อยู่ข้างหน้า
หน้าผามีความลึกมาก มองลงไปไม่เป็นก้นหุบเหวได้เลย หากตกลงไป คิดหรือว่านางจะยังมีชีวิตรอดอีก
กู้ชูหน่วนมองไปยังหน้าผาสูงและมองไปยังชายชราชุดดำที่ไล่ล่าเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงกัดฟันและพูดออกมาด้วยเสียงหนักแน่น “จับเอวของข้าให้แน่นและนั่งให้ดีล่ะ”
เสียงลมที่ดังขึ้นและลมที่พัดมาทำให้เขาไม่สามารถจะลืมตาขึ้นได้ เพราะกู้ชูหน่วนดึงเชือกม้า จึงทำให้ซั่งกวนฉู่ลืมตาขึ้นมาได้
เมื่อมองออกไป ใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดอาการประหม่า
กู้ชูหน่วนต้องการทำอะไร?
หรือว่านางต้องการขี่ม้าข้ามหน้าผาอันสูงชันนั้นหรือ?
หน้าผาที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้นั้นห่างไกลจากหน้าผาฝั่งตรงข้ามอย่างน้อยสองถึงสามเมตร จะข้ามไปได้อย่างไรกัน?
ความคิดนี้ยังไม่หายไป กู้ชูหน่วนขี่ม้าถอยหลังและหลังจากแส้ม้าถูกฟาดลงไปอย่างดุเดือด จากนั้นนางก็ควบม้าขาวข้ามหน้าผาออกไป
ชู่ว……
แม้แต่ซั่งกวนฉู่ที่พบเห็นอะไรมามากมายและมีความกล้าหาญก็ตกใจอย่างมาก
การกระทำและความคิดที่บ้าคลั่งเช่นนี้ก็คงมีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่คิดได้
ชายชราชุดดำเกือบจะจับตัวกู้ชูหน่วนและซั่งกวนฉู่ได้แล้วเชียว
แต่กลับคาดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะพุ่งไปสู่ทางตาย
หน้าผาของทั้งสองฝั่งมีระยะห่างไกลกันเช่นนี้ ต่อให้เขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับหกและใช้กำลังภายในก็ไม่สามารถข้ามไปได้ แต่นางกลับพยายามใช้ม้าเพื่อข้ามไป
“บ้า บ้าไปแล้ว……”
ชายชราชุดดำสบถออกมา แต่กลับไร้ความกล้าหาญที่จะไล่ตามไป ทำได้เพียงหรี่ตาอันเยือกเย็นมองไปที่กู้ชูหน่วน ที่ต่อให้รู้ว่าข้างหน้าเป็นนรกก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าไป
และก็เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ ระยะห่างสองถึงสามเมตร ต่อให้ความเร็วของม้าจะรวดเร็วมากเพียงใด หรือมือเท้าจะคล่องแคล่วมากเพียงใดก็ไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้ และระหว่างทางก็ตกลงในที่สุด
แต่เขากลับคาดไม่ถึงก็คือ กู้ชูหน่วนยกมือขวาขึ้นและมีเสียงดังเกิดขึ้นที่ก้อนหินขนาดใหญ่ของหน้าผาฝั่งตรงข้าม
มือข้างหนึ่งของนางดึงเถาวัลย์สว่านและอีกข้างหนึ่งจับซั่งกวนฉู่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพยายามปีนขึ้นไปบนยอดหน้าผาด้วยสายเถาวัลย์สว่าน
ชายชราชุดดำจะปล่อยให้นางขึ้นไปได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร
ต่อให้เขาไม่สามารถข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ แต่ยอดฝีมือระดับหกอย่างเขาแล้ว หากคิดต้องการทำให้พวกเขาตกลงไปหรือจะฆ่าพวกเขาเสีย กลับเป็นเรื่องง่ายดายอย่างมาก
อาจารย์ซั่งกวนขมวดคิ้วแน่
เถาวัลย์สว่านไม่ได้ถูกเกี่ยวอย่างเหนียวแน่น มันยังคงลื่นไหลไปข้างล่างและพวกเขาก็ถูกแขวนอยู่ระหว่างกลางของหน้าผา หากชายชราชุดดำคิดจะลงมือจัดการฆ่าตอนนี้ พวกเขาคงไม่สามารถมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นอาจารย์ซั่งกวนก็เข้าใจอย่างชัดเจนและรีบหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง จากนั้นจึงได้ยินเสียงหัวเราะของกู้ชูหน่วนดังขึ้นข้างหู
“อาจารย์ หากข้าไม่ตาย หากในอนาคตข้ายังมีโอกาสกลับไปเรียนที่สำนักศึกษาได้อีก ท่านอย่าได้หาเรื่องข้าอีกเลยได้หรือไม่?”
เมื่อพูดจบ รอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ของกู้ชูหน่วนก็เลือนหายไป และรวบรวมพลังไว้ที่ฝ่ามือ จากนั้นใช่พลังทั้งหมดที่มีเพื่อส่งซั่งกวนฉู่ขึ้นไปบนหน้าผา จากนั้นตัวนางเองก็เลื่อนตกลงไปข้างล่างตามเถาวัลย์สว่าน
ไม่รู้ว่าซั่งกวนฉู่จะเข้าใจในสิ่งที่กู้ชูหน่วนทำลงไปหรือไม่ และไม่รู้ว่าพละกำลังมาจากไหน ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้กำลังทั้งหมดที่นี่เพื่อต้องการส่งกู้ชูหน่วนให้ขึ้นไปบนหน้าผา
ทั้งสองต่างมีความคิดเช่นเดียวกัน
แต่น่าเสียดาย……
การร่วมมือกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ทั้งสองกลับตกลงไปยังหุบเหว
กู้ชูหน่วนตกใจสบถด่าออกมา
ไม่ง่ายเลยที่นางจะพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองให้ช่วยชีวิตซั่งกวนฉู่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าคนซื่อบื้อคนนี้กลับไม่รักชีวิตตัวเองเอาเสียเลย