กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 647
“ในเมื่อเจ้ายืนกรานจะปกป้องนาง เช่นนั้นเจ้าก็ตายไปพร้อมกับนางเลยเสียเถอะ” แววตาของชายชราชุดดำเหี้ยมโหดอำมหิต
ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงผลักอาจารย์ซั่งกวนถอยไปและกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้เป็นนักเรียนของสำนักศึกษาหลวงแล้ว อาจารย์ซั่งกวนยุ่งมากเกินไปหรือไม่”
“ถ้าไม่เหมือนกับใครบางคนที่ไร้น้ำใจไร้คุณธรรม ที่แม้แต่ผู้ช่วยชีวิตของตัวเองก็สามารถละทิ้งไปได้”
กู้ชูหน่วนตกตะลึง
อาจารย์ซั่งกวนได้พูดถึงผู้มีพระคุณช่วยชีวิตขึ้นมาถึงสองครั้งแล้ว เขาต้องการบอกอะไรกันแน่?
เมื่อพูดไปหมดแล้ว แต่อาจารย์ซั่งกวนก็ยังไม่ยอมไปไหน เดิมทีกู้ชูหน่วนก็ต้องการจะพูดเกลี้ยกล่อมอีก แต่จู่ๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรได้ นางจึงปล่อยไปตามความต้องการของเขา
ในสำนักศึกษาหลวง อาจารย์ซั่งกวนก็เหมือนกับสุนัขจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์และร้ายกาจ คนเช่นนี้จะถูกทำร้ายให้ตายง่ายๆ ได้อย่างไร
หากเขาสามารถยื้อเวลาได้บ้าง ไม่แน่คนของนางอาจจะมาได้ทันเวลา
“ในเมื่อท่านอยากตาย เช่นนั้นข้าทำได้เพียงขอให้เจ้าโชคดี”
อาจารย์ซั่งกวนตกตะลึงเล็กน้อย
เขาคิดว่านางน่าจะรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณบ้างเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่านางจะดูทีท่าน่าสนุกเช่นนี้
ท่าทางเช่นนี้ ทำให้เขานึกไปถึงเหตุการณ์ตอนอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ
แต่เวลาก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาคิดต่อไปได้อีก เพราะพลังฝ่ามือของชายชราชุดดำที่ปล่อยออกมา ทำให้ดินโคลนที่พื้นปลิวขึ้นโดยอัตโนมัติและแปลงร่างเป็นมนุษย์ดิน จากนั้นเดินมุ่งหน้าอาฆาตมายังเขา
อาจารย์ซั่งกวนไม่กล้าประมาทและปล่อยพลังฝ่ามือออกไปให้มนุษย์ดินนั้นแตกสลาย
มนุษย์ดินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ไม่นานก็กลับมารวบตัวอีกครั้ง ไม่ว่าเขาจะลงมือต่อสู้อย่างไร มันก็ไม่อาจแตกสลายหรือตายได้ แต่กลับพุ่งจู่โจมเข้าไป แต่ละกระบวนท่านั้นล้วนต้องการเอาชีวิตเขาเสียทีเดียว
กู้ชูหน่วนกวาดสายตาไปยังสนามต่อสู้ ถึงแม้ว่าระดับฝีมือของอาจารย์ซั่งกวนจะด้อยกว่าชายชราชุดดำถึงสองระดับขั้น แต่เขามีทักษะในการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วและมีประสบการณ์ต่อศัตรูมาก สามารถลดความเสี่ยงอันตรายได้ทุกครั้ง จากนั้นกู้ชูหน่วนก็ไม่ให้ความสนใจกับอาจารย์ซั่งกวนและแอบวิ่งไปหาฝูกวง หยิบเข็มเงินออกมาทำการฝังเข็มให้กับฝูกวง
ฝูกวงได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีพจรของเขาเกือบจะแตกสลายไปในเงื้อมมือของชายชราชุดดำ และรอยฝ่ามือที่หน้าอกของเขาก็เกือบจะพรากชีวิตของเขาไป
หลังจากบรรเทาอาการบาดเจ็บของเขาได้ กู้ชูหน่วนได้หยิบยาห้ามเลือดออกมาและช่วยห้ามเลือดให้ฝูกวง
ฝูกวงฟื้นขึ้นจากการหมดสติ เขาขมวดคิ้วและรีบกล่าวว่า “นายท่าน……”
“เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส หยุดพูดได้แล้ว”
“ตุ่บๆๆ……”
ไกลออกไป หินและทรายต่างปลิวว่อนและเสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้นไม่หยุด
กู้ชูหน่วนหันไปมอง กลับเห็นว่าอาจารย์ซั่งกวนและชายชราชุดดำต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน
คนหนึ่งฝีมือระดับสี่ คนหนึ่งฝีมือระดับหก อาจารย์ซั่งกวนกลับมีความสามารถหลบเลี่ยงกระบวนท่าสังหารอย่างต่อเนื่องของชายชราชุดดำได้
เขานั้นมีบาดแผลอยู่ก่อนแล้วและเหมือนจะมีพละกำลังที่ไม่แข็งแกร่งนัก แต่การเคลื่อนไหวของเขานั้นกลับดีกว่าชายชราชุดดำอย่างมาก
หากเขาสามารถพัฒนาฝีมือไปถึงระดับหกได้ แน่นอนว่าพละกำลังของเขาจะต้องเก่งกจยอดเยี่ยมกว่าชายชราชุดดำอย่างแน่นอน
“อืม……”
ฝูกวงส่งเสียงเจ็บปวดออกมา กู้ชูหน่วนจึงค้นพบว่านางเสียสมาธิในขณะที่ทำการพันแผลให้กับเขาและทำให้เขาเจ็บแผล
“เขารักษาตัวอยู่ที่นี่และห้ามเข้าไปในสนามต่อสู้ หากเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ดีก็รีบวิ่งหนีไป ไม่ต้องสนใจข้า”
“ขอรับ……”
หลังจากที่กู้ชูหน่วนทำแผลให้เขาเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงไปช่วยลั่วอิ่งที่นอนหมดสติทำแผล
อาการบาดเจ็บของลั่วอิ่งนั้นสาหัสกว่าฝูกวงอย่างมาก ในร่างกายของเขานั้นมีพลังจำนวนมาก ที่ไม่ต้องจู่โจมเขาก็สามารถทำให้ร่างกายของเขาแตกสลายได้
เมื่อรวมไปถึงบาดแผลทั้งภายในและภายนอกของเขาจำนวนมาก กู้ชูหน่วนไม่รู้จะทำการรักษาให้เขาได้อย่างไร
ทันใดนั้นอากาศก็เย็นลง กู้ชูหน่วนมองไปยังสนามต่อสู้
ซั่งกวนฉู่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ชุดสีขาวของเขาพลิ้วไหวไปตามลม ราวกับเทพบนฟ้าที่ปรากฏตัวขึ้นมา
ฝ่ามือทั้งสองของเขาผนึกกำลังและน้ำที่อยู่ไกลออกมาไปก็รวมตัวกันขึ้นมา จากนั้นก่อตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็งในอากาศ
ก้อนน้ำแข็งแตกกระจายและเปลี่ยนรูปเป็นแท่งน้ำแข็งจำนวนมากและพุ่งจู่โจมไปยังชายชราชุดดำ
กู้ชูหน่วนหรี่ตาลง
กระบวนท่านี้ เหตุใดถึงคุ้นตายิ่งนัก?
ช่างเหมือนกับกระบวนท่าหิมะน้ำแข็งทั่วท้องฟ้า? หรือไม่ก็ผนึกแข็งหมื่นลี้ของเหวินเส่าอี๋เหลือเกิน?
แท่งน้ำแข็งนั้นหนาวเหน็บอย่างมาก ทำให้ชายชราชุดดำไม่สามารถจู่โจมเดินหน้าได้อีก ถึงขั้นที่ถูกจู่โจมจนถอยหลังออกไป
กระบวนท่าที่คุ้นเคย ความเย็นชาที่คุ้นเคย ทำให้ชายชราชุดดำอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอาจารย์ซั่งกวนอยู่หลายครั้ง
เหตุใดกระบวนท่านี้ถึงคล้ายกับกระบวนท่าน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้ของเหวินเส่าอี๋?
ถึงแม้ว่าพละกำลังที่แท้จริงของเขาจะไม่สามารถปล่อยพลังน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้ที่น่าเกรงขามออกมาได้ หรือนี่อาจเป็นเพียงกระบวนท่าเล็กๆ ของน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้ก็เป็นได้ แต่กระบวนท่านี้ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้
หรือว่าเขาคือเหวินเส่าอี๋?
เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ใช่เหวินเส่าอี๋อย่างแน่นอน เหวินเส่าอี๋ได้ตายไปนานแล้วที่ขั้วโลกเหนือ
ถึงแม้ว่ากระบวนท่านี้จะเหมือนกับน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้ แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างจากน้ำแข็งผนึกหมื่นลี้และท่าทางของเขาก็ไม่เหมือนเหวินเส่าอี๋
ชายชราชุดดำก็ไม่กล้าประมาท ฝ่ามือทั้งสองรวบรวมพลังอีกครั้ง คลื่นแสงยิ่งมีความรุนแรงขึ้นและเปล่งแสงลุกโชนระยิบระยับและความร้อนก็เพิ่มสูงขึ้น
ความร้อนและความเย็นผสมเข้าด้วยกัน
กู้ชูหน่วนหนาวสั่น
อากาศประเดี๋ยวร้อนประเดี๋ยวหนาวเหน็บ พลังของทั้งสองสิ่งยังต่อสู้กันต่อเนื่อง
นางรู้ว่าสองคนนี้กำลังประลองกำลังภายในกัน หากกำลังภายในของใครลดลงก่อน ผู้นั้นจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
และนางรู้ดีกว่า ชายชราชุดดำจงใจใช้กระบวนท่านี้เพื่อยับยั้งอาจารย์ซั่งกวนและบีบบังคับไม่ให้อาจารย์ซั่งกวนเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าได้อีก
คนหนึ่งฝีมือระดับหก คนหนึ่งระดับสี่ ผู้ที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก่อนก็คืออาจารย์ซั่งกวน แน่นอนว่าต้องเป็นอาจารย์ซั่งกวน
กู้ชูหน่วนเทยาออกมาหลายเม็ดและให้ลั่วอิ่งกินเข้าไปก่อน จากนั้นจึงจัดการกับบาดแผลที่ค่อนข้างสาหัสเสียก่อนและไม่มีเวลาที่จะรักษาอาการบาดเจ็บภายในร่างกายของเขาแล้ว
และทำได้เพียงโซซัดโซเซลุกขึ้น เมื่อสะบัดมือออก อาวุธลับก็พุ่งตรงไปยังชายชราชุดดำ
ชายชราชุดดำยกมือซ้ายขึ้นเบาๆ และกวาดอาวุธลับของกู้ชูหน่วนกลับทั้งหมด
“ชิ่ว…….”
กู้ชูหน่วนหลบได้ ทำให้อาวุธลับไปปักลงที่เสาไม้และเสาไม้ทั้งหมดที่ถูกปักก็ล้มลงเกิดเสียงดังขึ้น
แต่กู้ชูหน่วนก็ยังไม่หยุดหลังจากกระบวนท่าแรกที่ล้มเหลวไป อาวุธลับของนางราวกับลมฤดูใบไม้ร่วงกวาดใบไม้พุ่งโจมตีชายชราชุดดำอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าพลังฝ่ามือของชายชราชุดดำจะมักทำให้อาวุธลับของกู้ชูหน่วนลอยกลับไป แต่อาวุธลับของนางนั้นยิงออกไปอย่างเหี้ยมโหด มีอาวุธลับจำนวนมากที่นางก็ไม่เคยเห็น นางแทบไม่มีเวลาคิด แต่กลับถูกโจมตีทั้งจากข้างหน้าและข้างหลัง
อาจารย์ซั่งกวนที่เดิมทีแทบจะอดทนต่อไปไม่ได้ เพราะการเข้าร่วมของกู้ชูหน่วนจึงทำให้ความกดดันของเขาผ่อนคลายลงและร่วมมือกับกู้ชูหน่วนได้เป็นอย่างดี โดนโจมตีจากทั้งทางซ้ายและทางขวา
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ตาแก่ ระวังล่ะ ข้าจะยิงไปทางซ้ายแล้ว”
ชายชราชุดดำยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจอะไร
คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะยิงออกไปทางซ้ายจริงและเขาเกือบจะถูกอาวุธลับเข้า
“ข้าบอกให้เจ้าระวังแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังไม่รู้จักระมัดระวังเช่นนี้นะ โชคดีที่เข็มเงินเหล่านี้ไม่โดนเจ้า ไม่เช่นนั้นหากถูกผิวหนังของเจ้าละก็ คงต้องตายอย่างไร้ข้อสงสัยอย่างแน่นอน”
“……”
“ครั้งนี้ ข้าจะยิงไปทางขวา ระวังล่ะ”
ชายชราชุดดำยังคงไม่สนใจ
ครั้งนี้ยังคงยิงไปทางขวาและความโกรธโมโหของชายชราชุดดำก็เพิ่มขึ้น
กู้ชูหน่วนถอนหายใจ “เฮ้อ ไม่เชื่อฟังคำพูดของข้าระวังจะโชคร้ายล่ะ ครั้งนี้ข้าจะบอกเจ้าด้วยความหวังดีละกัน ว่าข้าจะยังคงยิงไปทางขวา”
ครั้งที่สามกู้ชูหน่วนกลับไม่ยิงออกไปทางขวา แต่กลับยิงไปที่ช่วงล่างแท่งชีวิตของเขา
ชายชราชุดดำโกรธจัด
เป็นถึงยอดฝีมือระดับหก แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ สองคนก็ไม่อาจจัดการได้อย่างนั้นหรือ?
ความร้อนอันเดือดพล่านเพิ่มขึ้นและเข้าปกคลุมอากาศเย็นของอาจารย์ซั่งกวน จนถึงขั้นที่อากาศความร้อนนั้นสามารถดูดกลืนพวกเขาไปได้
สีหน้าของอาจารย์ซั่งกวนเปลี่ยนไป พลังการจู่โจมระดับนี้ แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็ไม่อาจต้านทานได้
เขากระตุ้นลมปราณแท้เพื่อต้านทานและขณะเดียวกันก็โอบกอดกู้ชูหน่วน
“ระวัง……”
“ตู้ม……”
อากาศเย็นพังทลายและความร้อนได้เข้ามาครอบงำและกัดเซาะอาจารย์ซั่งกวนและคนอื่นอย่างเมามัน
ท่ามกลางความสิ้นหวัง อาจารย์ซั่งกวนใช้ร่างกายของตัวเองป้องกันความร้อนที่ร้ายแรงนั้นแทนกู้ชูหน่วน
“ตุ่บ……”
เลือดสีแดงพุ่งออกมาเต็มปาก ลมหายใจของอาจารย์ซั่งกวนอ่อนลงและเกือบจะสังเวยชีวิตลง