กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 666

บทที่ 666

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 666
กู้ชูหน่วนถอนหายใจโดยที่แม้ว่าจะรู้สึกไม่วางใจ แต่ก็ยังขึ้นรถม้าและเร่งรีบกลับไปยังเผ่าหยกอย่างรวดเร็วตลอดทาง

บนรถม้ากู้ชูหน่วนและเหวินเส่าอี๋รวมทั้งเสี่ยวลู่อยู่ในรถคันเดียวกัน ผู้อาวุโสหกและผู้อาวุโสเจ็ดแยกกันอยู่ที่คันหน้าและคันหลังตามลำดับ

ระหว่างทางผู้คนจำนวนมากมายที่มีอานุภาพสูงดังสายลมพายุเช่นนั้นยกผงธุลีปลิวว่อนทั่วทั้งท้องฟ้า

ผู้คนเหล่านี้ล้วนเปิดเผยหน้าตา จุดไท่หยางของพวกเขายกสูงขึ้น และยื่นออกมา ทุกครั้งที่ถึงยังจุดที่กำหนดรวมทั้งป้อมปราการก็จะมีคนมาสับเปลี่ยนม้าและก็รีบเร่งเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน

รถคันตรงกลางเป็นรถม้าที่เรียบง่ายและไม่หรูหราโอ่อ่า

กู้ชูหน่วนมองดูต้นไม้ที่ผ่านไม่หยุดทางนอกหน้าต่างและแตะวงแหวนอวกาศในมือไปตลอดทางเนื่องด้วยเกรงว่าวงแหวนอวกาศจะถูกคนแย่งชิงไปและไข่มุกมังกรด้านในก็จะหายไปอีกครั้ง

เหวินเส่าอี๋นั่งอยู่ตรงข้ามกับนาง ขาของเขาถูกตรวนด้วยกุญแจอันหนักอึ้งและก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยเช่นกัน

แม้ว่าจะอยู่ในรถม้าคันเดียวกันแต่ทั้งสองกลับไม่ได้พูดคุยกันโดยที่ต่างมีความคิดของตนเอง

“โครม……”

“ชวี่ร์……”

รถม้าที่พุ่งพะยานอยู่จู่ๆก็ได้หยุดลงกะทันหันโดยที่กีบเท้าของม้ายกขึ้นจนรถม้าทั้งคันแทบจะถูกลากขึ้นเลย

กู้ชูหน่วนและเหวินเส่าอี๋ที่ยังคงครุ่นคิดอยู่เกือบจะถูกโยนออกไป

ด้านนอกดังกึกก้องขึ้นด้วยกลิ่นไอสังหารโดยที่ทั้งพื้นนั้นสั่นสะเทือน

นี่ก็ไม่รู้ว่าคลื่นลูกที่เท่าใดมาสกัดกั้นพวกเขาอีก

หลังจากที่พวกเขาได้ไข่มุกมังกรมาผู้คนที่ตามสังหารพวกเขาไม่ขาดต่อเนื่องเลย เพียงแค่ว่าถูกคนของพวกเขาขวางไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังจัดการเอาไว้เลยทั้งหมด

รูปแบบในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะใหญ่กว่าครั้งก่อนมากมายนัก กลิ่นเลือดยังวนเวียนติดอยู่ที่ปลายจมูกพีร้อมด้วยเสียงการฆ่าสังหารอันโหดเหี้ยมทั่วทุกหนแห่งนอกรถม้า

กู้ชูหน่วนเปิดผ้าม่านขึ้น ด้านนอกคือกองกำลังของเผ่าเพลิงฟ้าที่ไล่ตามมา รวมทั้งเหล่าผู้อาวุโสมากมายและคนอื่นๆของเผ่าเพลิงฟ้าด้วย

ผู้คนเหล่านี้ลงมืออย่างเหี้ยมโหดโดยที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันให้ถึงตายโดยไม่มีความเมตตาปรานีเลยแม้แต่น้อย

“มอบไข่มุกมังกรที่นายน้อยเผ่ายังมีอยู่อีกออกมา มิเช่นนั้นพวกเจ้าอย่าได้คิดที่จะมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่”

“หึ เพียงแค่พวกเจ้าก็คู่ควรงั้นหรือ? มาดูกันว่าข้าจะทุบเจ้าจนตายอย่างไร”

หลังจากที่เสี่ยวลู่ฟังเสียงกระซิบกระซาบของคนรับใช้แล้วก็ถวายรายงานอย่างเคารพ

“นายท่าน เป็นผู้คนชั้นในของเผ่าเพลิงฟ้า รองหัวหน้าเผ่าซือคงได้เปิดเผยข่าวคราวแก่เผ่าเพลิงฟ้าแล้วยังร่วมมือกับเหล่าผู้อาวุโสไท่ซั่งสูงสุดทั้งหลายของเผ่าเพลิงฟ้าร่วมกันต่อสู้กับพวกเรา ดังนั้นจึงได้ซุ่มโจมตีอย่างหนักหน่วงขึ้นที่ทะเลสาบฉางผิงนี้เพื่อสกัดกั้นพวกเราเอาไว้”

เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการเห็น

ไม่ว่าเผ่าเพลิงฟ้าหรือว่าเผ่าหยกก็ไม่ควรฆ่าฟันกันเองเพื่อเขาและไข่มุกมังกรทำให้ผู้คนได้รับบาดเจ็บและล้มตายมากมายเช่นนี้

เสี่ยวลู่กล่าว “ผู้อาวุโสหกและคนอื่นๆได้ฝ่าฟันสังหารจนได้เส้นทางนองเลือดเส้นทางหนึ่งออกมา พวกเรารีบพุ่งออกไปก่อนซึ่งคนของเราได้เข้ามาสนับสนุนอยู่ตลอดโดยที่พวกเขาไม่สามารถสนใจพวกเราได้”

ไม่รอให้กู้ชูหน่วนกล่าวสวีหู่ที่ดูแลอยู่นอกรถม้าได้ขับรถม้าด้วยตนเองและรีบพุ่งทะยานออกจากซากศพแห่งทะเลโลหิตไป ที่ตามติดอยู่ด้านหลังรถม้าก็ยังมีลูกน้องผู้ซื่อสัตย์หลายคนของนิกายเทพอสูรรวมทั้งผู้อาวุโสเจ็ด

เหวินเส่าอี๋กล่าวว่า “สี่ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเพลิงฟ้าได้ออกมากันหมดแล้ว ครั้งนี้เผ่าเพลิงฟ้าได้เคลื่อนไหวโดนค่ายตารางแท้แล้ว ต้องการไปให้ถึงเผ่าหยกอย่างปลอดภัยเกรงว่าจะไม่ง่ายดายเช่นนั้น ผืนแผ่นดินนี้อยู่ใกล้เผ่าเพลิงฟ้ายิ่งนัก คนของพวกเจ้ารีบเร่งเข้ามาสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่องก็ไม่แน่ว่าจะสามารถพังเข้ามาได้ ”

เสี่ยวลู่ยกมีดสั้นขึ้นวางอยู่ที่ตำแหน่งคอของเขาและข่มขู่อย่างเย็นชาว่า “อย่าว่าแต่พวกเราจะสามารถออกไปได้ แม้ว่าจะออกไปไม่ได้คนแรกที่จะต้องตายก็ต้องเป็นเพียงเจ้าเท่านั้น”

ความเป็นความตายใกล้เข้ามาถึงเหวินเส่าอี๋ก็มั่นคงราวกับภูเขาไท่ซานโดยไม่ขยับเขยื้อน ทว่ามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสง่างามและกล่าวเสียงเบาว่า “ข้าตายไปความขัดแย้งระหว่างสองเผ่ามีแต่จะยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ”

กู้ชูหน่วนยกยิ้มขึ้นอย่างมั่นใจจากนั้นค่อยๆกล่าวว่า “หากว่าเผ่าหยกมีความสามารถเพียงเท่านี้ก็ไม่เรียกว่าเผ่าหยกแล้ว

เหวินเส่าอี๋ครุ่นคิดขึ้น

เพื่อไข่มุกมังกรนางยอมทุ่มจริงๆหรือ? เอาชีวิตของผู้คนมากมายเช่นนี้มาล้อเล่นหรือ?

“ท่านคิดว่าข้าเต็มใจหรือ? เผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยกจะต่อสู้กันในไม่ช้าก็เร็ว นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น”

ใช่สิ การต่อสู้ระหว่างเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยกเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ระหว่างพวกเขาไม่ใช่เจ้าตายก็เป็นข้าที่ต้องตาย

เพียงแค่เสียดายชีวิตบริสุทธิ์มากมายนั้น

รถม้าพุ่งทะยานออกไปแต่เสียงการฆ่าสังหารในหูกลับไม่ได้สิ้นสุดลงเลย ผู้คนแต่ละคลื่นแต่ละลูกเข้าร่วมการสู้รบโดยที่ตลอดทางนั้นไม่รู้ว่าเลือดไหลนองมากเพียงใด

“ปล่อยข้าซะ ข้าจะไปยุติการต่อสู้นี้” เหวินเส่าอี๋กล่าว

“ท่านคิดว่าท่านกลับไปแล้วพวกเขาจะหยุดหรือ? ท่านคิดว่าท่านเกลี้ยกล่อมพวกเขาแล้วพวกเขาจะยอมละทิ้งไข่มุกมังกรหรือ?”

“ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องเสียสละชีวิตมากมายเช่นนั้น”

“หากว่าไม่จำเป็นเหตุใดเผ่าเพลิงฟ้าถึงต้องให้ได้มาให้ได้? หึ……เพียงแค่ชิงไข่มุกมังกรมาได้เผ่าหยกก็ไม่สามารถพลิกชีวิตให้กลับมาดีขึ้นได้ อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่แม้แต่ใช้พละกำลังของทั้งเผ่า เผ่าเพลิงฟ้าของพวกเจ้าก็จะไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านพ้นไป”

ทุกประโยคของกู้ชูหน่วนทิ่มแทงใจ

แม้ว่าเหวินเส่าอี๋จะเข้าใจในเหตุผลแต่เขาก็ยังคงทำสิ่งใดไม่ถูก

ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเผ่ามีมานับพันกว่าปีแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถจัดการได้ด้วยกำลังของตนเองเพียงผู้เดียวได้

เมื่อได้กลิ่นเลือดฉุนที่ปลายจมูกเหวินเส่าอี๋นั้นไร้ซึ่งความกล้าที่จะเปิดม่านขึ้นเพื่อดูสถานการณ์อันน่าเศร้าสลดภายนอก

เสี่ยวลู่ได้รับสัญญาณจากกู้ชูหน่วนจึงได้วางมีดสั้นที่อยู่ตรงคอของเขาลง

“โครม……”

รถม้าถูกรั้งอย่างแรงอีกครั้ง

เสี่ยวลู่กลาวว่า “เกิดอันใดขึ้น?”

“เป็นคนของหานอ๋อง พวกเขาได้ขวางทางไปเอาไว้”

กู้ชูหน่วนดึงผ้าม่านรถออกโดยแรง สิ่งที่เห็นในดวงตาคือเจี้ยงเสวี่ยแบกเยี่ยจิ่งหานที่ได้บาดเจ็บสาหัสมาด้วยความร้อนรนกระวนกระวาย

เขายังมาไม่ถึงเสียงก็ได้มาถึงก่อนแล้ว

“พระชายาพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดช่วยนายท่านด้วย นายท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสนักจนเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว”

“เร็ว พาเขาขึ้นรถม้า”

ในใจของกู้ชูหน่วนนั้นตื่นตระหนกเสียแล้ว

อาการบาดเจ็บของเยี่ยจิ่งหานร้ายแรงเพียงใดนั้น สีหน้าของเขาซีดเซียวเสียจนไร้ซึ่งร่องรอยของเลือดพร้อมกับตัวอันสั่นเทาและเหน็บหนาวตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา

เสื้อผ้าสีม่วงทั้งร่างเปรอะเปื้อนเลือดเสียจนมองสีไม่ออกและยังมีโพรงเลือดอยู่หลายแห่งในร่างกายพร้อมเลือดสีแดงสดที่ยังคงไหลออกมาตามโพรงเลือดไม่หยุด

เพียงแต่ไม่รู้ว่าพิษของเขากำเริบหรือเปล่าถึงได้ทำให้ร่างทั้งร่างของเขาแข็งตัวซะแล้ว แม้กระทั่งเลือดเหล่านั้นก็แข็งตัวไปด้วย

มือของกู้ชูหน่วนนั้นสั่นเทา นางเป่าลมให้เยี่ยจิ่งหานไม่หยุดเพื่อช่วยให้ร่างกายเขาอบอุ่นขึ้น จากนั้นก็เทยาสองสามเม็ดและบังคับให้เขากิน

“เสี่ยวลู่ จุดเตาเพิ่มหลายเตาหน่อยทำให้รถม้าอบอุ่น”

“เจ้าค่ะ”

“เจี้ยเสวี่ยเจ้าไปรินน้ำสะอาดมา ร่างกายบางส่วนของเขาถูกพิษจำต้องทำความสะอาดและถอนพิษ”

“ขอรับ”

“เหตุใดเยี่ยจิ่งหานถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น? ผู้ใดเป็นผู้ลงมือกัน?”

กู้ชูหน่วนด้านหนึ่งช่วยเขารักษาและด้านหนึ่งก็ถาม

ดวงตาสีดำและขาวแบ่งแยกกันชัดเจนของนางมีความวิตกกังวลและกลิ่นไอแห่งการสังหารราวกับว่าโกรธเคืองที่มีคนทำร้ายเยี่ยจิ่งหานสาหัสเช่นนั้น

“เป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้า เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ข้าก็ไม่ประจักษ์ รู้เพียงว่าขณะที่ข้ามาถึงนายท่านได้ชิ

งไข่มุกมังกรไปแล้วและให้ข้ามอบไข่มุกมังกรให้กับท่าน”

“หลังจากที่ข้ามอบไข่มุกมังกรให้กับแม่นางเสี่ยวลู่แล้วก็วนกลับไปหานายท่าน นายท่านถูกสี่ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเพลิงฟ้าโจมตี และถูก……ถูกพวกเขาทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเรายังมีพี่น้องมากมายและทุกคนต่างก็…… ”

เจี้ยงเสวี่ยสะอึกสะอื้น

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท