“ไปกันเถอะ ไปชั้นต่อไปกัน”
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นจิตใจดีและกล่าวว่า “ข้าเห็นว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสนัก ไม่ต้องการพักผ่อนสักหน่อยหรือ?”
พักผ่อน?
เขาได้เสียเวลาไปมากเช่นนั้นแล้วจะมีเวลาพักผ่อนที่ใดอีก
ทุกครั้งที่ล่าช้าาิบห้านาที ความกังวลของเขาก็มากขึ้นเล็กน้อย
เขานึกไม่ออกจริงๆว่าหากว่าเกิดอันใดขึ้นกับเส่าอี๋ที่นี่แล้วเขาจะทำเช่นไรดี
“ก็ได้ เจ้าบอกว่าไปต่อก็ไปต่อเถอะ”
กู้ชูหน่วนดีดตัวขึ้นและกระโดดลงไป
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยก็กระโดดตามลงไปเช่นกัน
หลังจากผ่านสิบหกชั้นด้านหน้ามาแล้ว เขารู้อย่างลึกซึ้งว่าภยันตรายเพิ่มขึ้นอีกสองเท่าในแต่ละชั้นถัดไป
ชั้นที่สิบเจ็ดจะต้องบุกเข้าไปไม่ง่ายเป็นแน่
สิบหกชั้นด้านหน้านั้นลงไปก็พบกับความอันตรายทั้งสิ้น
เช่นไรก็ตามหลังจากที่เขาลงถึงชั้นที่สิบเจ็ดภยันตรายก็ไม่มาไม่ถึงสักที
ความสงบก่อนเกิดพายุฝนฟ้าเช่นนี้ทำให้จิตใจของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยยิ่งหยุดนิ่งซะแล้ว
เขาไม่เชื่อว่าชั้นที่สิบเจ็ดจะไม่มีอันตรายอันใด
กู้ชูหน่วนจ้องมองไปทั้งซ้ายขวาอย่างระมัดระวังและรู้สึกว่าชั้นที่สิบเจ็ดดูแตกต่างออกไป
จะสามารถลากผู้เฒ่าอมตะอั้นเฮยไปสู่ความตายได้หรือไม่ก็ต้องอาศัยสองชั้นสุดท้ายแล้ว หากชั้นที่สิบเจ็ดไม่มีภยันตรายใดๆนางก็ไม่มั่นใจว่าชั้นที่สิบแปดจะสามารถลากเขาไปสู่ความตายได้หรือไม่
“ไม่ถูก ที่นี่มีลมหายใจของเส่าอี๋แต่ลมหายใจอ่อนเกินไปและทุกอย่างก็ลอยขึ้นด้านบน เส่าอี๋เคยมาถึงเหวไร้สิ้นสุดแต่เขาได้จากไปแล้วใช่หรือไม่?” จู่ๆผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยก็กล่าวขึ้นในทันใด
กู้ชูหน่วนตกตะลึงอยู่ในใจแต่ไม่ได้แสดงอาการบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
“จากไป? เขาสูญเสียวรยุทธ์ไปแล้วจะออกจากเหวไร้สิ้นสุดได้อย่างไร”
“แม่สาวโสโครก ข้ารู้ว่าเจ้านั้นไม่บริสุทธิ์ใจ เจ้าหลอกใช้ประโยชน์จากเส่าอี๋และจงใจลากข้ามาที่นี่ก็เพื่อใช้ชั้นที่สิบแปดของเหวไร้สิ้นสุดขังข้าให้ตายถูกหรือไม่?”
“ผู้อาวุโสกล่าวขบขันเสียแล้ว เหตุใดที่ข้าจะ……”
ไม่รอให้กู้ชูหน่วนกล่าวจบผู้อาวุโสอั้นเฮยก็ขัดจังหวะนางอย่างรวดเร็ว
“เจ้าคงยังไม่รู้ วิชาสั่งฝนของข้าไม่เพียงแต่สังหารคนได้ทั้งยังสามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งในใต้หล้า ที่นี่มีกลิ่นลมหายใจของเจ้า ลมหายใจของเส่าอี๋และลมหายใจของผู้อาวุโสหกแห่งเผ่าหยก กลิ่นลมหายใจเจ้าทั้งสองนั้นแรงนักส่วนของเส่าอี๋นั้นอ่อนนัก หากว่าข้าคาดเดาไม่ผิดแล้วหล่ะก็น่าจะเป็นพวกเจ้าสองคนที่พาตัวเส่าอี๋ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสออกจากเหวไร้สิ้นสุด”
“ผู้อาวุโสสูงต่อสู้เอาชนะเหวินเส่าอี๋จนถึงเหวไร้สิ้นสุด ข้าจะกล้าพาเขาออกมาได้อย่างไรเจ้ารู้สึกผิดพลาดไปแล้ว”
“ใช่หรือ”
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยสั่งฝนให้กลายเป็นกระจกและส่องภาพขึ้นเป็นฉากๆให้ปรากฏขึ้นบนนั้น
ภาพนั้นเป็นรูปกู้ชูหน่วนแบกเหวินเส่าอี๋ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยมีผู้อาวุโสหกเปิดทางให้ เป็นภาพที่นำตัวเหวินเส่าอี๋ออกไปอยู่ตลอดทาง
ระหว่างทางเหวินเส่าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป กู้ชูหน่วนยังพันแผลให้ด้วยตนเองอีกด้วย
“วิชาสั่งฝนแข็งตัวไม่เคยล้มเหลวยิ่งลมหายใจของพวกเจ้าแรงขึ้น ภาพในกระจกก็ยิ่งควบแน่นออกมาชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น”
“แม่สาวน้อยเห็นแก่ที่เจ้าพันแผลของเส่าอี๋ไว้ เจ้าบอกข้าทีว่าเส่าอี๋อยู่ที่ใดแล้วข้าจะไม่สังหารเจ้าเป็นการชั่วคราว”
เรื่องโกหกถูกเปิดเผยและรวมทั้งกำลังภายในของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยหมดลงเป็นอย่างมากและก็อยู่ในเหวไร้สิ้นสุด กู้ชูหน่วนจึงไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไปพร้อมยิ้มเยาะเย้ย
“ใช่ เหวินเส่าอี๋จากไปแล้วจริงๆ หากว่ารอให้เจ้ามาช่วยเขาเกรงว่าเจ้าจะเห็นแต่กระดูกเฉาตายเพียงเท่านั้น ส่วนเขาอยู่ที่ใดนั้น……ข้าว่าเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
“ดังนั้นเจ้าจะริเริ่มรนหาที่ตายหรือ?”
“ผู้ใดที่จะรนหาที่ตายยังไม่รู้หรอก”
กู้ชูหน่วนสูดลมหายใจเข้าจากนั้นดึงดาบอ่อนออกจากเอวแล้วยิ้มอย่างเย็นชา “ขั้นสูงสุดระดับหกใช่ไหม วันนี้ข้่อยากจะขอคำแนะนำดูสักหน่อย ลองดูซิว่าข้าซึ่งเป็นขั้นกลางระดับสี่จะสามารถล้มขั้นสูงสุดระดับหกได้หรือไม่
“แขนของบุรุษถือเป็นรถยนต์ซึ่งอยู่เหนือความสามารถของตน”
ใบหน้าได้ถูกฉีกออกแล้ว กลิ่นควันดินปืนระหว่างกู้ชูหน่วนและผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยกำลังจะปะทุขึ้น
กู้ชูหน่วนไม่กล้าประมาท แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียกำลังภายในไปมาก เช่นไรอูฐตัวผอมที่ตายแล้วก็ตัวใหญ่กว่าม้า
ดาบอ่อนควงดอกดาบแปดดอกขึ้นมา ท่าทางเริ่มขึ้นของกู้ชูหน่วนก็เป็นกระบวนท่าอันสูง เฉือนเป็นแนวขวางตรงหัวใจและเส้นจุดพิฆาตอีกเจ็ดจุดของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮย
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยหัวเราะเยาะขึ้นเสียงหนึ่งโดยที่รู้สึกหงุดหงิดใจยิ่งนัก
เพียงแค่ขั้นกลางระดับสี่ก็กล้าที่จะยั่วยุเขาคิดว่าเขาเป็นเสือตกยากที่ถูกสุนัขรังแกจริงๆหรือ?
ฝ่ามือขวาแข็งขึ้น พลังฝ่ามือของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยทำให้กลายเป็นสายฝนยิงเข้าใส่กู้ชูหน่วนราวกับเข็มดอกแพร์
ฝนของเขามีฤทธิ์กัดกร่อน เมื่อถูกเปรอะปนเข้าก็เน่าเปื่อยไป
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยพายุสายฝนไปทั่วเหวไร้สิ้นสุดที่ชั้นสิบเจ็ด
กู้ชูหน่วนหลีกเลี่ยงไม่ได้และที่สำคัญที่สุดคือสายฝนตกกระหน่ำเหล่านี้ดูราวกับว่ามีดวงตาเช่นนั้นซึ่งตามติดนางอย่างใกล้ชิด
อั้นเฮยปรากฏรอยยิ้มได้ใจขึ้นที่มุมปาก
นางต้องการที่จะรีบสู้รีบจบ เช่นนั้นเขาจะส่งเสริมนาง
เพียงแค่ระดับสี่เผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ของเขาซึ่งไร้ซึ่งความสามารถที่จะคลี่คลายไปได้
จากนั้นผู้อาวุโสสูงสุดเฮยตกตะลึง
ดอกดาบของกู้ชูหน่วนหมุนขึ้นและรูปกลายร่างกลายเป็นแสงประกาย กลับควงดอกดาบดึงประกายแสงวงกลมขึ้นและขัดขวางฝนกระหน่ำทั้งหมดของเขาเอาไว้ภายนอก
พายุฝนฟ้าของเขาทรงพลังเพียงใดเขานั้นรู้ดีกว่าผู้ใด ส่วนกู้ชูหน่วนเป็นเพียงระดับสี่เท่านั้น ก็สามารถใช้ดอกดาบเปิดช่องรับประกายแสงและขวางกั้นอันตรายทั้งหมดจากภายนอก
ไม่เพียงเท่านั้นความรู้สึกจู่โจมของนางไม่เปลี่ยน ดอกดาบได้แปรเปลี่ยนไปและหักเลี้ยวมุมหนึ่งพร้อมเสียงชิ่วแทงเป็นแนวขวางมาจากด้านหลังของเขาโดยตั้งใจที่จะเจาะทะลุหัวใจของเขา
ฝีเท้าของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยขยับเป็นแนวขวางไปด้านข้าง ฝ่ามือพิมพ์ไปบนท้องฟ้าฝ่ามือหนึ่งและอยู่ท่ามกลางการเคลื่อนรูปแบบเปลี่ยนตำแหน่ง พร้อมทั้งจับดาบอ่อนของกู้ชูหน่วนไว้ด้วยความเร็วอันว่องไวนัก
เสียงแกร๊กเสียงหนึ่ง เขาต้องการทำลายดาบอ่อนให้หักและทำลายอาวุธของกู้ชู้หน่วนไป
สิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยประหลาดใจอีกครั้งก็คือเห็นได้ชัดว่าดาบอ่อนของนางถูกเขายับยั้งไว้แล้ว แต่ก็ยังสามารถระเบิดขึ้นด้วยพละกำลังมหาศาลและกระแทกกระทั้นจนเขาถอยหลังไปสองสามก้าว
“ชู่ว์ๆๆ….. ”
กู้ชูหน่วนใช้ความว่องไวโจมตีความว่องไว ความหนักหน่วงโจมตีความหนักหน่วงโดยใช้กระบวนท่าชนิดต่างๆทั้ง เป่า ฟัน เคาะ สับ และฟัน ทุกกระบวนท่าพยายามทุ่มเทกำลังทั้งหมดและหมายมั่นจะเอาเขาให้อยู่
“แม่สาวน้อยด้วยพละกำลังของเจ้า ความแข็งแกร่งของเจ้าได้อยู่เหนือกว่าขั้นกลางระดับสี่เดียวกันไปตั้งนานแล้ว”
ประโยคนี้เขายกย่องชื่นชมจากใจ
ใต้หล้าวันนี้เพียงแค่ระดับสี่ก็มีความแข็งแกร่งเพียงนี้เกรงว่าจะมีเพียงเส่าอี๋เท่านั้น
เส่าอี๋ของเขาขึ้นถึงระดับหกตั้งแต่อายุน้อยๆ
ส่วนนางหากว่าได้รับการสอนให้ดี ขึ้นถึงระดับหกเป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็วเท่านั้นเอง
หญิงผู้นี้อันตรายเกินไปไม่สามารถให้คงอยู่ได้แน่นอน
มิเช่นนั้นภายภาคหน้าเผ่าเพลิงฟ้าจะต้องมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกรายเป็นแน่
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ “ระดับสี่อ่อนเกินไป อย่างน้อยต้องอยู่เหนือกว่าขั้นสูงสุดระดับหก”
“ช่างเป็นน้ำเสียงที่แข็งแกร่งนัก ข้าก็อยากจะดูว่าเจ้าจะบ้าบิ่นไปถึงเมื่อใด
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยปรากฏกลิ่นไอสังหารแว๊บผ่าน
ในมือผนึกเข้าจากนั้นพายุฝนก็เพิ่มความแรงขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับได้ยินเสียงฟ้าร้องดังก้องบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง สายฟ้าวูบวาบเกิดประกายไปทั่วท้องฟ้าซึ่งส่องสว่างตลอดทั้งคืนเสมือนเวลากลางวัน
ฝนตกกระหน่ำลงมาจากเดิมทีเป็นสายฝนอันน้อยนิดกลายเป็นฝนตกปานกลาง ฝนตกหนักกระทั่งฝนกระหน่ำอย่างรุนแรง
หยาดฝนทุกหยดก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนซึ่งหมุนวนเวียนอลหม่าน และวงกลมใหญ่มหึมาได้ล้อมรอบกู้ชูหน่วนเอาไว้ภายใน
หากว่าที่นี่มีผู้อื่นอยู่ เกรงว่าทุกคนจะตกใจจนตื่นกันหมด
นี่เป็นกระบวนท่าความเคลื่อนไหวอันแข็งแกร่งของขั้นสูงสุดระดับระดับหก เมื่อถูกน้ำฝนหมุนวนเข้าไม่ตายอยู่ตรงนั้นแล้วก็ไม่เหลือแม้แต่เศษซากแม้แต่ชิ้นส่วนหนึ่ง
กู้ชูหน่วนได้ปกปิดตัวเองด้วยดาบดอกมาโดยตลอด พายุกระหน่ำภายนอกไม่สามารถโจมตีนางได้เป็นการชั่วคราว
ดวงตาของนางหลักแหลม เผชิญหน้ากับกระบวนท่าความเคลื่อนไหวอันทรงพลังของขั้นสูงสุดระดับหกก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกหวาดกลัวใดๆออกมาเลย แต่กัดฟันไว้แน่นและชี้ดาบอ่อนของตนไปยังบนท้องฟ้าโดยตรง