กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 752
“ค่ายกลพิฆาตขั้นสูงสุดระดับเจ็ดที่ไม่มีใครเทียบนั่นยากที่จะทำลาย และไม่รู้ว่าหากผู้อาวุโสสูงสุดและรองหัวหน้าเผ่าร่วมมือกันจะสามารถทำลายได้หรือไม่?”
สีหน้าของซือคงดูไม่ค่อยดีนัก
ทำลาย?
ทำลายอย่างไร?
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าค่ายกลอยู่ที่ไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะทำลายมันได้อย่างไร?
“หมดเวลาแล้ว”
“แกรก…..”
น่าหลานหลิงลั่วไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาพูด เขารู้เพียงว่าหมดเวลาแล้ว และเขาจะฆ่าทีละคน
หน้าตาท่าทางที่เยือกเย็นและไร้ความปรานีเช่นนั้น ดูเหมือนต้องการจะฆ่าทุกคนในเผ่าเพลิงฟ้าให้สิ้นซาก
เหวินเส่าอี๋เหลือบมองศีรษะที่ยังคงกลิ้งอยู่บนพื้น เขากำหมัดแน่น และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ความอดทนของข้าก็มีจำกัดเช่นกัน ก่อนที่จะหมดเวลาถัดไป หากพวกท่านไม่ตัดสินใจ พวกเราจะเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ และตายอยู่ด้วยกันที่นี่”
“รองหัวหน้าเผ่า……”
ผู้คนต่างพากันวิตกกังวล และบางคนเกลี้ยกล่อมรองหัวหน้าเผ่าซือคง ด้วยเกรงว่าเหวินเส่าอี๋อาจจะทำอะไรก็ได้
บางคนเกลี้ยกล่อมน่าหลานหลิงลั่ว และขอให้น่าหลานหลิงลั่วหยุดการเข่นฆ่าเสียก่อน
รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่พอใจ
ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสดี ๆ มาอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ จะปล่อยให้สูญเปล่าได้อย่างไร
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาคือต้องกำจัดเหวินเส่าอี๋ เพื่อให้ได้มาซึ่งไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด และพลังลมปราณของหัวหน้าเผ่า
แต่ในตอนนี้ยังไม่ได้สักอย่าง
หลังจากสิ่งที่เหวินเส่าอี๋กล่าว ซือคงก็ยังเลือกที่จะเชื่อ
ถึงอย่างไรเหวินเส่าอี๋ก็พูดตรง ๆ มาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยพูดเกินจริงหรือหลอกลวงใครเลย
เขากัดฟัน “ตกลง ข้ารับปากเจ้า ปล่อยพวกเขา ให้พวกเขาไป”
“รองหัวหน้าเผ่า นี่จะ……”
“บอกให้เจ้าทำเจ้าก็ทำสิ”
ต้องจบตัวเหวินเส่าอี๋ไว้ก่อน ส่วนคนที่รอดตายเหล่านั้นก็ช่าง ไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าพวกเขา
“นายน้อย……” ซ่งอวี้กล่าวอย่างเป็นกังวล
จะอยู่หรือตายก็ไม่ต่างกัน
“พวกเจ้าออกไปก่อน นี่เป็นคำสั่ง ใครก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก”
เหวินเส่าอี๋ขยิบตาให้เขา และดูเหมือนว่าซ่งอวี้จะเข้าใจอะไรบางอย่าง
เขาโบกมือให้เหล่าพี่น้องทั้งหลายที่ถูกจับเป็นเชลยรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
ลูกน้องของรองหัวหน้าเผ่าซือคงรีบตามไปในทันที
เหวินเส่าอี๋เตือน “รองหัวหน้าเผ่า ข้าว่ารอจนกว่าพวกเขาจะออกไปจากเผ่าเพลิงฟ้าอย่างปลอดภัย แล้วเราค่อยคุยกัน ในเมื่อข้ากล้าที่จะอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าไม่ต้องให้ข้ารับใช้ไปคอยควบคุม”
“ปล่อยพวกเขาไป ใครก็ห้ามขวาง”
“ขอรับ”
หลังจากที่ซ่งอวี้และคนอื่น ๆ ออกไปจากตำหนักสวรรค์ ข้างนอกก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น
ผู้คนต่างพากันออกไปดูข้างนอก
แต่เมื่อเห็นคนของน่าหลานหลิงลั่วกวัดแกว่งมีดแล่เนื้อ คนหลายพันคนก็รีบโอบล้อมไว้ เห็นใครก็ฆ่า และบีบบังคับให้ซ่งอวี้และคนอื่น ๆ กลับไปที่ตำหนักสวรรค์
แต่เมื่อพวกเขากลับไปที่ตำหนักสวรรค์ คนของน่าหลานหลิงลั่วก็พากันก้าวไปข้างหน้าและโจมตีพวกเขา
เหวินเส่าอี๋โกรธ
รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็โกรธเช่นกัน
“น่าหลานหลิงลั่ว เจ้ากำลังทำอะไร?”
“ครั้งนี้พวกเรามาเพื่อช่วยหัวหน้าเผ่า หัวหน้าเผ่าถูกพวกเขาบีบบังคับ จะปล่อยพวกเขาไปได้อย่างไร?”
ซือคงกล่าวเตือน “ที่นี่มีค่ายกลพิฆาต หากผิดพลาด ทุกคนก็จะตาย”
“ตายก็ตายสิ ถึงอย่างไรเหวินเส่าอี๋ก็ต้องถูกฝังไปพร้อมกันไม่ใช่หรือ”
บ้าไปแล้ว
น่าหลานหลิงลั่วบ้าไปแล้ว
ตัวเองอยากตายก็ช่าง ยังจะลากผู้คนไปตายด้วยอีก
แม้ว่าซือคงจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะฉีกหน้าเขา ถึงอย่างไรคนที่น่าหลานหลิงลั่วพามาก็มีจำนวนมาก
หากต่อต้านเขา เขาก็จะสูญเสียมากเกินไป
เมื่อถูกขนาบทั้งสองข้าง คนของเหวินเส่าอี๋ก็ล้มลงทีละคน
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงถูกโอบล้อม และพยายามอย่างเต็มที่จะปกป้องหัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวน
ผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนอดกลั้นมาหลายวันแล้ว และอดทนจนถึงขีดสุดนานแล้ว สาวกผู้ภักดีจำนวนมากล้มลงทีละคน และเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ดวงตาของผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนหรี่ลง เขาสันดาปพลังวิญญาณของตัวเอง เพื่อเพิ่มกำลังภายในของเขาอย่างรวดเร็ว
พลังอันทรงพลังกระแทกเข้ากับพื้นและปกคลุมทั่วทั้งตำหนักสวรรค์ ทุกคนรู้สึกถูกกดจนต้องคลานลงไปที่พื้น และไม่กล้าที่จะต่อต้าน
นี่คือการบีบบังคับของมหาอำนาจสูงสุดอันดับหก
ผู้คนต่างพากันตกใจ
โดยเฉพาะเหวินเส่าอี๋
ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นการสันดาปพลังวิญญาณอันน่าสังเวชของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยครั้งหนึ่ง และเขารู้ดีกว่าใคร ๆ
“ไม่……ท่านปู่ซ่งหยวน อย่า หยุดเดี๋ยวนี้……”
เหวินเส่าอี๋ตะโกนและต้องการจะรีบเข้าไป แต่ถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงขวางไว้ และทำได้เพียงมองดูผู้ผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนสันดาปดวงพลังวิญญาณของเขาจนหมด
ซ่งหยวนตะโกนว่า “พยัคฆ์ย่อมไม่แสดงพลัง พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยงั้นหรือ?เจ้าเด็กน้อยซือคง เจ้าเด็กน้อยน่าหลัน และเจ้าตงหลิง วันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าสองคนก่อน”
“ตูม……”
คนที่อยู่ใกล้ ๆ ผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนต่างกระเด็นออกไป ทั้งบาดเจ็บและตาย ไม่รู้ว่าความคับข้องใจถูกเพิ่มเข้ามามากแค่ไหน
เป็นกลิ่นอายของพลังที่แข็งแกร่งมาก แม้แต่กู้ชูหน่วนและเสี่ยวลู่ก็เกือบจะกระเด็นออกไป
“ผู้อาวุโสซ่งหยวนใกล้จะถูกทำลายแล้ว” กู้ชูหน่วนกล่าว
พลังวิญญาณสันดาปจนเห็นได้ว่าคนผู้นี้อยู่ไม่ไกลจากความตาย และไม่สามารถคุกคามใด ๆ ได้อีกต่อไป
นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเขา เผ่าหยกจะต้องเก็บแรงละกำลังคนไว้เพื่อจัดการกับเขา
เสี่ยวลู่แทบอยากจะให้ซ่งหยวนตายตรงหน้า และจัดการทุกอย่างที่ตำหนักสวรรค์
ซ่งหยวนโจมตีซือคงและคนอื่น ๆ โดยตรง
ซือคงโบกมือและปล่อยให้ผู้อาวุโสที่เป็นลูกร้องลูกน้องของตัวเอง และยอดฝีมือของน่าหลานหลิงลั่วก้าวไปข้างหน้าเพื่อยังยั้งผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวน
ลูกน้องของเขาก้าวไปข้างหน้า แต่น่าเสียดายที่ความแตกต่างของความแข็งแกร่ง พวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ของซงหยวนด้วยความโกรธได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ลูกน้องของเขาก้าวไปข้างหน้า แบ่งออกเป็นสองฝ่าย และมองดูการต่อสู้อย่างเย็นชา
“”ตูม ๆ ๆ ……”
ผู้อาวุโสของเผ่าเพลิงฟ้าต่างพากันกระอักเลือดและล้มลงกับพื้น
ผู้อาวุโสซ่งหยวนเข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่ง นัยน์ตาทั้งสองข้างแดงก่ำและพูดพึมพำ “พวกเจ้าช่วยไอ้เด็กน้อยซือคง ฆ่าเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง แม้กระทั่งคนชรา เด็ก และผู้หญิงก็ไม่ละเว้น พวกเจ้าแต่ละคนสมควรตาย”
“ไม่……ท่านปู่ซ่งหยวน ท่านรีบหยุดเถอะ”
เหวินเส่าอี๋ถูกมัดมือทั้งสองข้าง และพยายามตะโกนอย่างสุดกำลัง
เขารู้ว่าทุก ๆ วินาทีที่มีการสันดาปจะต้องสูญเสียพลังชีวิตของเขาไปหลายปี
หากยังสันดาปเช่นนี้ต่อไป เขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เกิดใหม่ นับประสากับชีวิต
ซ่งอวี้เป็นหลานชายแท้ ๆ ของผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวน เมื่อเห็นท่านปู่ของตัวเองสันดาปพลังวิญญาณต่อหน้าต่อตา เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจ แต่เขาทำได้เพียงฆ่าเพื่อฝ่าออกมาจากวงล้อม ร่วมมือกับซ่งหยวน เพื่อพาหัวหน้าเผ่าและนายน้อยออกไป
รองหัวหน้าเผ่าซือคงผลักผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาออกไปทีละคน “บุกเข้าไป ไปยับยั้งตาเฒ่านั่นไว้”
บุกเข้าไปก็ตาย ผู้อาวุโสเหล่านั้นจะกล้าเข้าไปได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม คำสั่งของรองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่อาจฝ่าฝืนได้ หากพวกเขาไม่ทำตาม พวกเขาก็คงจะจะถูกเขาฆ่าตาย จึงทำได้เพียงจำใจต้องทำ
“น่าหลานหลิงลั่ว ทำไมคนของเจ้าไม่บุกเข้าไป?” รองหัวหน้าเผ่าซือคงรู้สึกโกรธ
เดิมทีผู้ที่สันดาปพลังวิญญาณไม่สามารถจะทนได้นานนัก
หากยับยั้งเขาไว้ เกรงว่าจะไม่สามารถฆ่าเขาได้
วันนี้มีลงเพิ่มค่ะ