กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 748

บทที่ 748

ซ่งอวี้กล่างด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “ท่านผู้เฒ่าเฉิน ข้าจะสกัดพวกมันไว้ รบกวนท่านนำลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งคุ้มครองนายน้อยและผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนออกจากที่นี่ที”

ท่านผู้เฒ่าเฉินกัดฟันกล่าว “แม้นจะต้องตาย ข้าก็จักส่งพวกเขาออกไปอย่างปลอดภัยให้จงได้”

เหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ด้านหลังก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่เด็ดขาด

แม้นร่างจะแยกกระดูกจะร้าว พวกเขาก็ไม่หวั่น

ซ่งหยวนโกรธจนคำรามออกมา

แต่ก่อนเป็นเขาเองที่ปกป้องคนอื่นมาโดยตลอด

ต้องให้คนอื่นมาปกป้องเขาตั้งแต่เมื่อใดกัน

เขากล่าวอย่างเกรี้ยวโกรธ “ซือคงไอ้คนชั้นต่ำ เก่งจริงก็ส่งยาถอนพิษมาให้ข้า แล้วสู้กันอย่างสง่าผ่าเผย”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงหัวเราะ

มือขวาของเขาส่งสัญญาณ นักธนูต่างก็ยิงธนูออกไป ลูกธนูถูกยิงออกไปฟิ้วๆ ราวกับสายฝน

ลูกศิษย์ฝั่งเหวินเส่าอี้ต่างก็พากันทำลายลูกธนูด้วยอาวุธ พยายามปกป้องเหวินเส่าอี้และคนอื่นๆ อย่างสุดความสามารถ

หัวลูกธนูมียาพิษ

ทั้งยังเป็นยาพิษขั้นร้ายแรงด้วย

หากโดนเข้าต้องตายสถานเดียว

ลูกศิษย์หลายคนที่ถูกยิง ต่างก็ล้มลงและตายในทันที

ซ่งหยวนโกรธจนคำรามออกมา “ไอ้คนเลวทราม เจ้าวางยาข้าเพียงคนเดียวไม่พอ ยังใช้วิธีเลวทรามเช่นนี้ทำร้ายคนในเผ่าด้วย ข้า…ข้าจะฆ่าเจ้า”

ท่านผู้เฒ่าเฉินขวางผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนไว้ และออกคำสั่งให้บ่าวเปิดทางโลหิตส่งพวกเขาออกไปอย่างปลอดภัย

“ผู้อาวุโสสูงสุด ตราบใดที่ยังมีชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง เราถอยออกก่อนดีกว่า รอให้พลังของท่านฟื้นฟู มีความแค้นอันใดค่อยกลับมาแก้แค้นยังทัน”

“เห็นใบหน้ามันใบนั้นแล้ว ข้าอยากจะฉีกให้เละทันที เจ้าปล่อยข้า ข้าจะฟาดมันเสียให้ตาย”

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด แม้นท่านจะไม่นึกถึงตัวเอง แต่ก็ต้องนึกถึงนายน้อยด้วย หากท่านเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน นายน้อยเพียงตัวคนเดียว เขาจะทำอย่างไร? อีกอย่างตอนนี้เราเสียเปรียบมากนัก”

“งั้น…งั้นก็ได้ พวกเจ้ารีบนำตัวเจ้าเด็กเส่าอี้ออกไปเร็วเข้า”

คนของพวกเขาล้มลงทีละคนๆ

แม้นซ่งหยวนจะเก่งกาจมากเพียงใด ก็รู้ว่าต้องคำนึงถึงส่วนรวม

เขาดึงเหวินเส่าอี้ไว้ อยากจะให้เขาออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

แต่เหวินเส่าอี้กลับยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ และมองเหล่าลูกศิษย์ที่ล้มลมเพราะยาพิษไปทีละคน สายตาเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัว แม้แต่อุณหภูมิในร่างกายเขาก็ลดลงอย่างมากจนผู้คนตกใจ

ซ่งหยวนมิรู้ว่า เพราะเผชิญกับเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ จึงทำให้เขาได้รับผลกระทบมากเพียงนี้หรือไม่

“เจ้าเด็กเส่าอี้ หนี รีบหนีเร็ว”

“นายน้อย พวกท่านรีบหนีไป แม้นข้าน้อยจักต้องตายก็ต้องสกัดพวกมันเอาไว้ให้ได้”

“ตายก็ต้องปกป้องนายน้อย”

“ตายก็ต้องปกป้องนายน้อย”

เมื่อลูกธนูถูกยิงจนหมด เหล่าลูกศิษย์อีกทางกลุ่มหนึ่งของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ฆ่าตามมาด้วยท่าทางดุร้าย

ศัตรูมีมาก เราแย่ คนของเหวินเส่าอี้แพ้อย่างราบคาบ

ดวงตาอบอุ่นคู่นั้นของเขา เต็มไปด้วยสีเลือด

ฉากเหตุการณ์โหดร้ายที่เกิดขึ้นในเผ่าหยก ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา

ฉากเหมือนกัน

การนองเลือดเหมือนกัน

และเหล่าลูกศิษย์ที่จงรักภักดีต่อเขา ต่างก็ยอมเสียสละชีวิตตนเอง เพื่อปกป้องเขาเหมือนกัน

มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่เหมือนกันนั่นคือ ครั้งก่อนเป็นการสู้ระหว่างความแค้นของทั้งสองเผ่า

แต่ครั้งนี้เป็นการสู้กันในเผ่าเดียวกัน

เหวินเส่าอี้กุมมือเสียงดังกรอบ

เขาเงยหน้าขึ้นนบัดดล และกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง “รองหัวหน้าเผ่า ท่านจะทำให้เผ่าเพลิงฟ้ากลายเป็นสระโลหิต เพราะสู้กันในเผ่าจริงหรือ?”

“การขจัดสิ่งสกปรกในตระกูลนั้น บางครั้งก็ต้องแลกด้วยบางอย่างเช่นกัน”

ในประโยคสั้นๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะปรองดองกันอย่างแน่นอน รองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องการจะฆ่าพวกเขาให้สิ้นซากโดยไว

ไม่มีผู้ใดในเหตุการณ์กล้าปริปากพูด เพราะกลัวว่าจะไปขัดใจรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้

เหวินเส่าอี้หัวเราะแห้ง “ดี ดี ดี…”

เขาเปลี่ยนจากความอ่อนโยนในอดีต กลายเป็นจิตสังหารเต็มล้น เปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายความเย็นชาไปทั่วร่างกาย “ในเมื่อเจ้าไม่สนใจความเป็นความตายของลูกศิษย์ในเผ่า เช่นนั้นก็อย่าถือโทษข้าแล้วกัน”

เหวินเส่าอี้หรี่ตาอันเย็นชาลง ดึงขลุ่ยหยกออกมาจากเอวของลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆ นิ้วมืออันเรียวยาววางลงบนขลุ่ยหยก เสียงเพลงอันไพเราะก็ค่อยๆ บรรเลงขึ้น

เสียงเพลงบรรเลงขึ้น ทั่วท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีในบัดดล กลิ่นอายอันแข็งแกร่งกระจายออกมาถี่ๆ

“โครมคราม…”

พื้นดินกำลังสั่นคลอน ราวกับมีกองทัพม้านับหมื่นกำลังวิ่งตรู่เข้ามา

“ปังๆๆ…”

บัวหิมะทั้งเจ็ดดอกผลิบานบนท้องฟ้า ดอกหนึ่งดูพร่างพรายและงดงามกว่าอีกดอกหนึ่ง

ขณะที่บังหิมะกำลังผลิบาน บนท้องฟ้าก็ลอยเต็มไปด้วยบัวหิมะอันมโหฬาร

ไม่…

นั่นไม่ใช่บัวหิมะ

แต่เป็นร่มบัวหิมะ

ทว่าคนที่อยู่ใต้ร่มบัวหิมะนั้นกลับเป็นหญิงสาวผู้งดงามไร้เทียมทานคนหนึ่ง

หญิงสาวทุกคนล้วนสวมชุดสีขาว ผ้าคลุมสีขาว รูปร่างเพรียวงาม เอวคอดกิ่ว กลิ่นอายเทพธิดาเป็นประกาย ราวกับเป็นเทพธิดาจิ่งเทียนเซวียนที่ลงมาจุติบนโลก ช่างสง่างามไร้ที่ติจริงๆ

รวมทั้งสายตาอันมีเสนห์ของพวกนางแล้ว เหล่าลูกศิษย์ไม่น้อยมองจนเหม่อลอย

พวกนางลงมาพร้อมกับร่มบัวหิมะ เพราะเช่นนี้ จึงมองไม่ออกว่าพวกนางลงมือกันอย่างไร เหล่าลูกศิษย์ฝั่งรองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงได้ล้มลงไปทีละคนๆ

ท่ามกลางหมู่คน ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา

“อย่ามองตาของพวกนาง นั่นเป็นวิชามาร เร็วเข้า รีบหลับตาลงเร็ว”

หญิงสาวที่งดงามเพียงนี้ ชายหนุ่มทั่วไปจะยอมปิดตาได้อย่างไรกัน

ลูกศิษย์บางคนหลับตาลงในบัดดล ทว่าไม่ทันแล้ว จึงได้ล้มลงไปทีละคนๆ อย่างมิทราบสาเหตุ และไม่รู้ว่าตายหรือเป็น

มีลูกศิษย์หลายคนที่ต้องกับดักนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงและรองหัวหน้าเผ่าซือคงจึงได้ร่วมกันสร้างเกราะป้องกันยักษ์ออกมา เกราะป้องกันยักษ์เปล่งแสงบาดตาผู้คนออกมา ทำให้เหล่าลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งมิอาจลืมตาได้ ทำได้เพียงปิดตาของตนอย่างทรมาน

“วิชามารหายสาบสูญตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงปรากฏที่นี่ได้กัน?”

“ไม่รู้สิ หญิงสาวพวกนี้มาจากที่ใดกัน? ดูแล้วพวกนางมิน่าใช่คนของเผ่าเพลิงฟ้านะ”

“รองหัวหน้าเผ่า เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ หญิงสาวพวกนั้นต่างเชี่ยวชาญด้านการใช้ยาพิษ มีลูกศิษย์หลายคนที่บาดเจ็บจากผงยาพิษของพวกนางขอรับ”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงกริ้วโกรธ ส่งสัญญาณมือให้นักธนูยิงหญิงสาวพวกนี้ซะ

ฟิ้วๆๆ…

ลูกธนูสายฝนเปลี่ยนทิศทาง ยิงไปทางหญิงสาวพวกนั้นอย่างอัดแน่น

ร่มบัวหิมะของเหล่าหญิงสาวหมุน ไม่รู้ว่าร่มบัวหิมะนี้ทำจากวัสดุอะไร ถึงได้รับลูกธนูไปได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น

มิเพียงรับลูกธนูไว้ได้เท่านั้น แต่พวกมันยังเต้นตามจังหวะอยู่ท่ามกลางอากาศ และส่งเสียงหัวเราะมายาออกมากจากปาก

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพวกนางแล้ว ลูกศิษย์ฝั่งรองหัวหน้าเผ่าซือคงพลันปิดหูของตนอย่างทรามานโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ละคนต่างมีเลือดไหลออกจากจมูก เจ็บปวดจนต้องคำรามออกมา

ยังมีเหล่าทหารสวมชุดเกราะเงินที่มาพร้อมกับพวกนางหลายคนที่ในมือถือปืนเงิน และสวมหน้ากากสีเงินไว้บนหน้า

ทหารเหล่านี้ต่างก็นั่งอยู่บนหลังม้ารบ จิตสังหารเต็มเปี่ยม ความชั่วร้ายเต็มล้น ราวกับเป็นวิญญาณร้ายที่ออกมาจากนรกอย่างไรอย่างนั้น

ท่ารางของพวกเขาดูเย็นชาและแข็งแกร่ง ทั้งแต่ละคนยังมีดวงตาที่เฉียบคม เพียงแค่มองไปแวบหนึ่งก็รู้ได้ทันทีว่าคนพวกนี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือ และมิง่ายที่จะต่อกรได้

ที่ยากยิ่งกว่าคือ พวกเขามีคนนับหมื่นคน

ทันทีที่คนเหล่านี้ออกมา ก็ล้อมรอบรองหัวหน้าเผ่าซือคงและคนอื่นๆ ไว้ทันที

พวกเขาไม่ได้ฆ่าคน ราวกับกำลังรอคำสั่งจากเหวินเส่าอี้

เพียงแค่เหวินเส่าอี้พูดออกมาประโยคเดียว พวกเขาจักฆ่าให้สิ้นซากในทันใด

รองหัวหน้าเผ่าซือคงอดมิได้ที่จะหัวเราะเยาะ “ดี ที่แท้แล้วเจ้ายังซ่อนนักฆ่าไว้มากมายเพียงนี้อย่างนั้นหรือ แต่ก่อนข้ามองเจ้าต่ำไปเสียจริง”

“พวกมันเอาไว้ต่อกรกับคนนอก เส่าอี้ไม่นึกเลยว่าจะต้องนำมาสู้กับคนกันเอง”

“เจ้าคงคิดที่จะวางแผนรวบอำนาจตั้งนานแล้วสินะ ถึงได้ฝึกฝนยอดฝีมืออย่างลับๆ มากมายเพียงนี้”

“รองหัวหน้าเผ่า เพียงแค่ท่านถอนทัพออกไป ศึกครั้งนี้ก็จะเป็นโมฆะ แต่หากท่านยังยืนหยัดเช่นนี้ ข้าเองก็ทำได้เพียงเล่นกับท่านจนสุดทาง”

ในเผ่าหยก เขาเห็นลูกศิษย์หลายคนที่ต้องตาย เพื่อปกป้องเขากับตาตนเอง

วันนี้…

เขามิสามารถมองดูเหล่าลูกศิษย์ที่จงรักภักดีต่อเขาต้องตายไปต่อหน้าต่อตาอีกต่อไป

เขามิได้ทำเพื่อตนเอง

แต่ทำเพื่อคนในเผ่าที่มีความจงรักภักดีต่อเขา

เพราะเช่นนี้…แม้นว่าเขาจะสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมด ก็ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อปกป้องพวกเขาให้ได้

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท