ซ่งอวี้กล่างด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “ท่านผู้เฒ่าเฉิน ข้าจะสกัดพวกมันไว้ รบกวนท่านนำลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งคุ้มครองนายน้อยและผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนออกจากที่นี่ที”
ท่านผู้เฒ่าเฉินกัดฟันกล่าว “แม้นจะต้องตาย ข้าก็จักส่งพวกเขาออกไปอย่างปลอดภัยให้จงได้”
เหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ด้านหลังก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่เด็ดขาด
แม้นร่างจะแยกกระดูกจะร้าว พวกเขาก็ไม่หวั่น
ซ่งหยวนโกรธจนคำรามออกมา
แต่ก่อนเป็นเขาเองที่ปกป้องคนอื่นมาโดยตลอด
ต้องให้คนอื่นมาปกป้องเขาตั้งแต่เมื่อใดกัน
เขากล่าวอย่างเกรี้ยวโกรธ “ซือคงไอ้คนชั้นต่ำ เก่งจริงก็ส่งยาถอนพิษมาให้ข้า แล้วสู้กันอย่างสง่าผ่าเผย”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงหัวเราะ
มือขวาของเขาส่งสัญญาณ นักธนูต่างก็ยิงธนูออกไป ลูกธนูถูกยิงออกไปฟิ้วๆ ราวกับสายฝน
ลูกศิษย์ฝั่งเหวินเส่าอี้ต่างก็พากันทำลายลูกธนูด้วยอาวุธ พยายามปกป้องเหวินเส่าอี้และคนอื่นๆ อย่างสุดความสามารถ
หัวลูกธนูมียาพิษ
ทั้งยังเป็นยาพิษขั้นร้ายแรงด้วย
หากโดนเข้าต้องตายสถานเดียว
ลูกศิษย์หลายคนที่ถูกยิง ต่างก็ล้มลงและตายในทันที
ซ่งหยวนโกรธจนคำรามออกมา “ไอ้คนเลวทราม เจ้าวางยาข้าเพียงคนเดียวไม่พอ ยังใช้วิธีเลวทรามเช่นนี้ทำร้ายคนในเผ่าด้วย ข้า…ข้าจะฆ่าเจ้า”
ท่านผู้เฒ่าเฉินขวางผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนไว้ และออกคำสั่งให้บ่าวเปิดทางโลหิตส่งพวกเขาออกไปอย่างปลอดภัย
“ผู้อาวุโสสูงสุด ตราบใดที่ยังมีชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง เราถอยออกก่อนดีกว่า รอให้พลังของท่านฟื้นฟู มีความแค้นอันใดค่อยกลับมาแก้แค้นยังทัน”
“เห็นใบหน้ามันใบนั้นแล้ว ข้าอยากจะฉีกให้เละทันที เจ้าปล่อยข้า ข้าจะฟาดมันเสียให้ตาย”
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด แม้นท่านจะไม่นึกถึงตัวเอง แต่ก็ต้องนึกถึงนายน้อยด้วย หากท่านเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน นายน้อยเพียงตัวคนเดียว เขาจะทำอย่างไร? อีกอย่างตอนนี้เราเสียเปรียบมากนัก”
“งั้น…งั้นก็ได้ พวกเจ้ารีบนำตัวเจ้าเด็กเส่าอี้ออกไปเร็วเข้า”
คนของพวกเขาล้มลงทีละคนๆ
แม้นซ่งหยวนจะเก่งกาจมากเพียงใด ก็รู้ว่าต้องคำนึงถึงส่วนรวม
เขาดึงเหวินเส่าอี้ไว้ อยากจะให้เขาออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
แต่เหวินเส่าอี้กลับยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ และมองเหล่าลูกศิษย์ที่ล้มลมเพราะยาพิษไปทีละคน สายตาเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัว แม้แต่อุณหภูมิในร่างกายเขาก็ลดลงอย่างมากจนผู้คนตกใจ
ซ่งหยวนมิรู้ว่า เพราะเผชิญกับเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ จึงทำให้เขาได้รับผลกระทบมากเพียงนี้หรือไม่
“เจ้าเด็กเส่าอี้ หนี รีบหนีเร็ว”
“นายน้อย พวกท่านรีบหนีไป แม้นข้าน้อยจักต้องตายก็ต้องสกัดพวกมันเอาไว้ให้ได้”
“ตายก็ต้องปกป้องนายน้อย”
“ตายก็ต้องปกป้องนายน้อย”
เมื่อลูกธนูถูกยิงจนหมด เหล่าลูกศิษย์อีกทางกลุ่มหนึ่งของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ฆ่าตามมาด้วยท่าทางดุร้าย
ศัตรูมีมาก เราแย่ คนของเหวินเส่าอี้แพ้อย่างราบคาบ
ดวงตาอบอุ่นคู่นั้นของเขา เต็มไปด้วยสีเลือด
ฉากเหตุการณ์โหดร้ายที่เกิดขึ้นในเผ่าหยก ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา
ฉากเหมือนกัน
การนองเลือดเหมือนกัน
และเหล่าลูกศิษย์ที่จงรักภักดีต่อเขา ต่างก็ยอมเสียสละชีวิตตนเอง เพื่อปกป้องเขาเหมือนกัน
มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่เหมือนกันนั่นคือ ครั้งก่อนเป็นการสู้ระหว่างความแค้นของทั้งสองเผ่า
แต่ครั้งนี้เป็นการสู้กันในเผ่าเดียวกัน
เหวินเส่าอี้กุมมือเสียงดังกรอบ
เขาเงยหน้าขึ้นนบัดดล และกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง “รองหัวหน้าเผ่า ท่านจะทำให้เผ่าเพลิงฟ้ากลายเป็นสระโลหิต เพราะสู้กันในเผ่าจริงหรือ?”
“การขจัดสิ่งสกปรกในตระกูลนั้น บางครั้งก็ต้องแลกด้วยบางอย่างเช่นกัน”
ในประโยคสั้นๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะปรองดองกันอย่างแน่นอน รองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องการจะฆ่าพวกเขาให้สิ้นซากโดยไว
ไม่มีผู้ใดในเหตุการณ์กล้าปริปากพูด เพราะกลัวว่าจะไปขัดใจรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้
เหวินเส่าอี้หัวเราะแห้ง “ดี ดี ดี…”
เขาเปลี่ยนจากความอ่อนโยนในอดีต กลายเป็นจิตสังหารเต็มล้น เปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายความเย็นชาไปทั่วร่างกาย “ในเมื่อเจ้าไม่สนใจความเป็นความตายของลูกศิษย์ในเผ่า เช่นนั้นก็อย่าถือโทษข้าแล้วกัน”
เหวินเส่าอี้หรี่ตาอันเย็นชาลง ดึงขลุ่ยหยกออกมาจากเอวของลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆ นิ้วมืออันเรียวยาววางลงบนขลุ่ยหยก เสียงเพลงอันไพเราะก็ค่อยๆ บรรเลงขึ้น
เสียงเพลงบรรเลงขึ้น ทั่วท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีในบัดดล กลิ่นอายอันแข็งแกร่งกระจายออกมาถี่ๆ
“โครมคราม…”
พื้นดินกำลังสั่นคลอน ราวกับมีกองทัพม้านับหมื่นกำลังวิ่งตรู่เข้ามา
“ปังๆๆ…”
บัวหิมะทั้งเจ็ดดอกผลิบานบนท้องฟ้า ดอกหนึ่งดูพร่างพรายและงดงามกว่าอีกดอกหนึ่ง
ขณะที่บังหิมะกำลังผลิบาน บนท้องฟ้าก็ลอยเต็มไปด้วยบัวหิมะอันมโหฬาร
ไม่…
นั่นไม่ใช่บัวหิมะ
แต่เป็นร่มบัวหิมะ
ทว่าคนที่อยู่ใต้ร่มบัวหิมะนั้นกลับเป็นหญิงสาวผู้งดงามไร้เทียมทานคนหนึ่ง
หญิงสาวทุกคนล้วนสวมชุดสีขาว ผ้าคลุมสีขาว รูปร่างเพรียวงาม เอวคอดกิ่ว กลิ่นอายเทพธิดาเป็นประกาย ราวกับเป็นเทพธิดาจิ่งเทียนเซวียนที่ลงมาจุติบนโลก ช่างสง่างามไร้ที่ติจริงๆ
รวมทั้งสายตาอันมีเสนห์ของพวกนางแล้ว เหล่าลูกศิษย์ไม่น้อยมองจนเหม่อลอย
พวกนางลงมาพร้อมกับร่มบัวหิมะ เพราะเช่นนี้ จึงมองไม่ออกว่าพวกนางลงมือกันอย่างไร เหล่าลูกศิษย์ฝั่งรองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงได้ล้มลงไปทีละคนๆ
ท่ามกลางหมู่คน ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา
“อย่ามองตาของพวกนาง นั่นเป็นวิชามาร เร็วเข้า รีบหลับตาลงเร็ว”
หญิงสาวที่งดงามเพียงนี้ ชายหนุ่มทั่วไปจะยอมปิดตาได้อย่างไรกัน
ลูกศิษย์บางคนหลับตาลงในบัดดล ทว่าไม่ทันแล้ว จึงได้ล้มลงไปทีละคนๆ อย่างมิทราบสาเหตุ และไม่รู้ว่าตายหรือเป็น
มีลูกศิษย์หลายคนที่ต้องกับดักนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดตงหลิงและรองหัวหน้าเผ่าซือคงจึงได้ร่วมกันสร้างเกราะป้องกันยักษ์ออกมา เกราะป้องกันยักษ์เปล่งแสงบาดตาผู้คนออกมา ทำให้เหล่าลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งมิอาจลืมตาได้ ทำได้เพียงปิดตาของตนอย่างทรมาน
“วิชามารหายสาบสูญตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงปรากฏที่นี่ได้กัน?”
“ไม่รู้สิ หญิงสาวพวกนี้มาจากที่ใดกัน? ดูแล้วพวกนางมิน่าใช่คนของเผ่าเพลิงฟ้านะ”
“รองหัวหน้าเผ่า เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ หญิงสาวพวกนั้นต่างเชี่ยวชาญด้านการใช้ยาพิษ มีลูกศิษย์หลายคนที่บาดเจ็บจากผงยาพิษของพวกนางขอรับ”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงกริ้วโกรธ ส่งสัญญาณมือให้นักธนูยิงหญิงสาวพวกนี้ซะ
ฟิ้วๆๆ…
ลูกธนูสายฝนเปลี่ยนทิศทาง ยิงไปทางหญิงสาวพวกนั้นอย่างอัดแน่น
ร่มบัวหิมะของเหล่าหญิงสาวหมุน ไม่รู้ว่าร่มบัวหิมะนี้ทำจากวัสดุอะไร ถึงได้รับลูกธนูไปได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น
มิเพียงรับลูกธนูไว้ได้เท่านั้น แต่พวกมันยังเต้นตามจังหวะอยู่ท่ามกลางอากาศ และส่งเสียงหัวเราะมายาออกมากจากปาก
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพวกนางแล้ว ลูกศิษย์ฝั่งรองหัวหน้าเผ่าซือคงพลันปิดหูของตนอย่างทรามานโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ละคนต่างมีเลือดไหลออกจากจมูก เจ็บปวดจนต้องคำรามออกมา
ยังมีเหล่าทหารสวมชุดเกราะเงินที่มาพร้อมกับพวกนางหลายคนที่ในมือถือปืนเงิน และสวมหน้ากากสีเงินไว้บนหน้า
ทหารเหล่านี้ต่างก็นั่งอยู่บนหลังม้ารบ จิตสังหารเต็มเปี่ยม ความชั่วร้ายเต็มล้น ราวกับเป็นวิญญาณร้ายที่ออกมาจากนรกอย่างไรอย่างนั้น
ท่ารางของพวกเขาดูเย็นชาและแข็งแกร่ง ทั้งแต่ละคนยังมีดวงตาที่เฉียบคม เพียงแค่มองไปแวบหนึ่งก็รู้ได้ทันทีว่าคนพวกนี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือ และมิง่ายที่จะต่อกรได้
ที่ยากยิ่งกว่าคือ พวกเขามีคนนับหมื่นคน
ทันทีที่คนเหล่านี้ออกมา ก็ล้อมรอบรองหัวหน้าเผ่าซือคงและคนอื่นๆ ไว้ทันที
พวกเขาไม่ได้ฆ่าคน ราวกับกำลังรอคำสั่งจากเหวินเส่าอี้
เพียงแค่เหวินเส่าอี้พูดออกมาประโยคเดียว พวกเขาจักฆ่าให้สิ้นซากในทันใด
รองหัวหน้าเผ่าซือคงอดมิได้ที่จะหัวเราะเยาะ “ดี ที่แท้แล้วเจ้ายังซ่อนนักฆ่าไว้มากมายเพียงนี้อย่างนั้นหรือ แต่ก่อนข้ามองเจ้าต่ำไปเสียจริง”
“พวกมันเอาไว้ต่อกรกับคนนอก เส่าอี้ไม่นึกเลยว่าจะต้องนำมาสู้กับคนกันเอง”
“เจ้าคงคิดที่จะวางแผนรวบอำนาจตั้งนานแล้วสินะ ถึงได้ฝึกฝนยอดฝีมืออย่างลับๆ มากมายเพียงนี้”
“รองหัวหน้าเผ่า เพียงแค่ท่านถอนทัพออกไป ศึกครั้งนี้ก็จะเป็นโมฆะ แต่หากท่านยังยืนหยัดเช่นนี้ ข้าเองก็ทำได้เพียงเล่นกับท่านจนสุดทาง”
ในเผ่าหยก เขาเห็นลูกศิษย์หลายคนที่ต้องตาย เพื่อปกป้องเขากับตาตนเอง
วันนี้…
เขามิสามารถมองดูเหล่าลูกศิษย์ที่จงรักภักดีต่อเขาต้องตายไปต่อหน้าต่อตาอีกต่อไป
เขามิได้ทำเพื่อตนเอง
แต่ทำเพื่อคนในเผ่าที่มีความจงรักภักดีต่อเขา
เพราะเช่นนี้…แม้นว่าเขาจะสูญเสียวรยุทธ์ทั้งหมด ก็ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อปกป้องพวกเขาให้ได้