กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ตอนที่ 740
ตั้งตนเป็นกษัตริย์งั้นหรือ?
กองทัพของตระกูลเซี่ยวจะภักดีต่อตระกูลเซี่ยวเพียงตระกูลเดียว
หลังจากที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวตาย ทั้งตระกูลเซี่ยวก็ถูกทำลายไปด้วย เซี่ยวอวี๋เซวียนจึงได้กลายเป็นนายน้อยเพียงหนึ่งของของกองทัพตระกูลเซี่ยวไปโดยปริยาย
พวกเขาจะต้องยอมรับเซี่ยวอวี๋เซวียนเป็นนาย ซึ่งเป็นไปตามคาดอยู่แล้ว
เซี่ยวอวี๋เซวียนมีความแค้นอยู่เต็มอก ที่เขานำขบวนกองทัพของตระกูลเซี่ยวและตั้งตนเป็นกษัตริย์นั้นก็เป็นไปตามคาดเช่นกัน
ณ ภูเขาเทียนฟ่าน…
ภูเขาเทียนฟ่านใกล้กับเผ่าเพลิงฟ้ามาก
เขา…
คงคิดจะสู้กับเผ่าเพลิงฟ้าโดยชี้ชะตาขาดเพียงครั้งเดียวเลย ถึงได้ตั้งกองทัพไว้ที่นี่…
“นายท่าน ตามที่ข้าน้อยได้สืบหามานั้น เซี่ยวอวี๋เซวียนกับหุบเขาตันหุยนั้นสนิทสนมกันมาก เขา…เป็นไปได้ที่จะเป็นนายน้อยแห่งหุบเขาตันหุยขอรับ”
ท่าทางขยี้ตาของกู้ชูหน่วนหยุดชะงัก
นายน้อยแห่งหุบเขาตันหุย?
น่าหลานหลิงลั่ว?
นางควรนึกได้ตั้งนานแล้ว
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะตนเอง
นางช่างโง่เขลายิ่งนัก
รู้จักกันมานานเพียงนี้ แต่กลับนึกไม่ออกว่าเซี่ยวอวี๋เซวียนก็คือนายน้อยแห่งหุบเขาตันหุย
มิน่า…
มิน่าน่าหลานหลิงลั่วถึงได้ยื่นมือเข้ามาช่วยนางเช่นนั้น…
“ช่วงนี้หุบเขาตันหุยกำลังกลั่นยาจำนวนมาก จึงได้ปิดประตูหุบเขาไปแล้ว ข้าน้อยเดาว่า พวกเขาน่าจะอยากช่วยเพิ่มพลังให้กับคุณชายเซี่ยว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของกองทัพตระกูลเซี่ยวไปสู่จุดสูงสุด จากนั้นค่อยไปสู้กับเผ่าเพลิงฟ้าให้รู้แพ้รู้ชนะเลยเจ้าค่ะ”
“เผ่าเพลิงฟ้าทราบสารนี้หรือไม่?”
“คาดว่าไม่ทราบเจ้าค่ะ หุบเขาตันหุยเก็บเป็นความลับไว้อย่างดี ข้าน้อยเองก็เพราะสืบหามาหลายที่ ถึงได้กล้าคาดเดาเช่นนี้ได้ ทว่าเบาะแสเรื่องความสัมพันธ์ของคุณชายเซี่ยวกับหุบเขาตันหุยนั้น ข้าน้อยได้ทำลายไปหมดแล้ว ทางเผ่าเพลิงฟ้าจะมิอาจสืบหาได้เจ้าค่ะ”
“อืม เจ้าทำได้ดีมาก จดหมายฉบับนี้ เจ้าพยายามหาคนนำไปส่งให้กับเซี่ยวอวี๋เซวียนที คำสั่งคือต้องให้เซี่ยวอวี๋เซวียนเป็นผู้เปิดจดหมายเองเท่านั้น”
“เจ้าค่ะ”
“นายท่านคาดเดาถูก ทันทีที่จักรพรรดิแห่งรัฐฉู่สิ้นพระชนม์ รัฐฉู่ไม่มีทายาท จึงได้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายใน เหล่าองค์ชายต่างก็อยากมีทหารเพื่อตั้งตนเป็นกษัตริย์ โชคดีที่นายท่านได้วางแผนล่วงหน้าและส่งกองกำลังไปสกัดพวกเขาไว้ก่อนแล้ว หลานชายของจักรพรรดิแห่งรัฐฉู่เข้ายึดดูแลกิจต่างๆ รัฐแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม”
หลังจากที่กู้ชูหน่วนยื่นจดหมายให้กับเสี่ยวลู่ ก็รู้สึกมีก้อนหินกดทับอยู่ในใจ มิรู้ว่าเซี่ยวอวี๋เซวียนเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
ต้องสูญเสียครอบครัวภายในชั่วค่ำคืน ความเจ็บปวดนี้มิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้
ในจดหมายฉบับนั้น ได้เขียนถึงสาเหตุการตายของแม่ทัพใหญ่เซี่ยวไว้
มาวันนี้ แม้นกู้ชูหน่วนจะไปหาด้วยตนเอง เซี่ยวอวี๋เซวียนก็ไม่มีทางมาพบนางอย่างแน่นอน
เพราะเช่นนี้ นางจึงทำได้เพียงเขียนความจริงทุกอย่างไว้ในจดหมาย แล้วขอให้ผู้คนนำไปให้เซี่ยวอวี๋เซวียน
“ตึงๆๆ…”
เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก กู้ชูหน่วนกล่าว “เข้ามา”
ประตูเปิดออก สตรีโฉมงามคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
สตรีผู้นั้นสง่างามและสูงส่ง ทั่งเรือนร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายความใจดีและเป็นมิตร เพียงแค่พบหน้ากันก็ทำให้ผู้อื่นอยากจะเข้าใกล้นางมากขึ้น
โฉมหน้าของนางเหมือนกับอัครมเหสีฉู่อย่างไร้ที่ติ ทั้งกิริยาท่าทางก็เหมือนด้วย หากมิทราบมาเสียก่อนว่าอัครมเหสีฉู่นั้นได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เกรงว่าคงจะมองสตรีตรงหน้าเป็นจักพรรดินีเสียแล้ว
“คารวะเจ้าค่ะนายท่าน”
ผู้มาเยือนคุกเขาลงไป และทำความเคารพอย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ
กู้ชูหน่วนพยุงนางลุกขึ้นด้วยตนเอง
“มิต้องมากพิธีหรอก วิชาแปลงโฉมของสีซื่นนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ช่างคล้ายอัครมเหสีฉู่เสียจริง
เมื่อเห็นใบหน้าที่คล้ายคลึงใบนั้นแล้ว กู้ชูหน่วนรู้สึกตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ
นางกล่างอย่างขำขันว่า “หลายวันมานี้ลำบากเจ้าแล้ว ที่ต้องคอยเลียนแบบอัครมเหสีฉู่”
“สามารถแบ่งเบาภาระของนายท่านได้ เป็นพรของข้าน้อยเจ้าค่ะ เพียงแต่เสียดายที่อัครมเหสีฉู่อยู่สูงส่งเยี่ยงนัก ข้าน้อยจึงเลียนแบบความสูงส่งของพระองค์ได้มิสมบูรณ์เจ้าค่ะ”
“เพียงพอแล้ว ตาเฒ่าซือคงเจ้าเล่ห์นัก เขารู้ดีว่าเจ้ามิใช่อัครมเหสีฉู่ หากเหมือนมากเกินไปมันจะเป็นการวาดงูเติมขา”
“เจ้าค่ะ”
“ครั้งนี้จะให้เจ้าเข้าไปในเผ่าเพลิงฟ้า และยั่วยวนตาเฒ่าซือคง ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเพลิงฟ้าแตกฉาน ก่อให้เกิดความวุ่นวายกันภายใน ภารกิจนี้อันตรายนัก หากเจ้าจะถอยก็ยังทัน”
“นายท่านล้อข้าเล่นแล้ว ข้าน้อยอยากตอบแทนบุญคุณนายท่านมานานหลายปี ไม่มีโอกาสเสียที ครั้งนี้ แม้นข้าน้อยจักต้องตาย ก็ต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จแทนนายท่านให้จงได้เจ้าค่ะ”
นางหวังเพียงแค่ ตนจะสามารถสร้างความวุ่นวายร้าวฉานให้กับเผ่าเพลิงฟ้าได้ เพื่อเป็นการง่ายต่อนายท่านที่จะส่งคนไปบุกเผ่าเพลิงฟ้า และฆ่าล้างคนของเผ่าเพลิงฟ้าให้สิ้นซาก
ณ บริเวณพื้นที่ราบแคบแห่งหนึ่งในเผ่าเพลิงฟ้า
สตรีวัยกลางคนที่หน้าตาอัปลักษณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยตุ่ม และหลังค่อมกำลังเดินอย่างเชื่องช้าพร้อมกับลากเกวียนผักกาด
ด้านหลังเกวียน มีสตรีปากเบี้ยวตาเหล่ หน้าตาธรรมดาทั่วไปกำลังช่วยเข็นอยู่ข้างหลัง
ลูกศิษย์เผ่าเพลิงฟ้าที่เดินผ่านเห็นพวกนางทั้งสองเข้า ก็มองด้วยสายตาน่ารังเกียจ จากนั้นก็เดินต่อไป ไม่แม้แต่จะเหลียวมองพวกนางอีกเลย ยิ่งมิอยากสนใจว่าสตรีวัยกลางคนทั้งสองจะเข็นผักที่มีอยู่เต็มเกวียนนั้นไหวหรือไม่
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สตรีวัยกลางคนแม้นจะเชื่องช้า และอ่อนแอ แต่ทว่าสายตาอันเฉียบคมที่เพ่งมองนั้น กลับทำให้คนอื่นมิอยากเชื่อว่าทั้งสองจะเป็นเพียงชาวนาธรรมดาๆ เท่านั้น
สตรีที่ปากเบี้ยวตาเหล่เป็นเสี่ยวลู่ที่ปลอมตัวมาเอง นางกล่างด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “นายท่าน พวกข้าเข้ามายังใจกลางของเผ่าเพลิงฟ้าอย่างราบรื่นแล้วเจ้าค่ะ”
“อืม ทำตามแผนได้”
สายตากู้ชูหน่วนดุดัน
หากมิอาจกำจัดเผ่าเพลิงฟ้าก่อนตายได้นั้น นางต้องตายตาไม่หลับอย่างแน่นอน
ศึกครั้งนี้ นางต้องชนะเท่านั้น ห้ามแพ้โดยเด็ดขาด และจักต้องทำลายเผ่าเพลิงฟ้าให้สิ้นซากภายในระยะเวลาอันสั้นด้วย
เป้าหมายของการส่งผักของพวกนางคือ ในห้องครัวใจกลางเผ่าเพลิงฟ้า
ยิ่งเดินเข้าไปลึกมากเพียงใด ศิษย์ของเผ่าเพลิงฟ้าก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
กู้ชูหน่วนและเสี่ยวลู่ต่างก็ได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเขา
“รู้หรือยังว่านายน้อยกลับมาแล้ว?”
“จริงหรือ นายน้อยกลับมาก็เป็นเรื่องดีสิ ข้าว่าแล้ว เผ่าเพลิงฟ้าของเราออกรบไปหลายพันคน ทั้งยังมีผู้อาวุโสสูงสุดที่อยู่ระดับหกขั้นสูงสุดสี่ท่าน รวมทั้งฮวาอิ่งด้วย แม้นแม่น้ำของเผ่าหยกจะลึกเพียงใด ก็ต้องนำตัวนายน้อยกลับมาได้อย่างแน่นอน”
“เรื่องดีอะไรกัน หึ เรื่องร้ายน่ะสิ นายน้อยกลับมาแล้วก็จริง แต่วรยุทธ์ของเขาถูกทำลาย ทั้งยังถูกดึงกระดูกไหปลาร้าออกด้วย แม้แต่ผู้คนนับพันที่ตามไปช่วยเขาก็กลายเป็นศพอยู่ในเผ่าหยก”
ผู้คนตะลึงงัน “อะไรนะ เป็นไปได้อย่างไรกัน เผ่าเพลิงฟ้าของเราส่งระดับหกขั้นสูงสุดไปตั้งห้าคน ทั้งยังมีเหล่าลูกศิษย์ที่เก่งกาจอีกด้วย เหตุใดจึงสู้คนเผ่าหยกที่ไร้พลังพวกนั้นมิได้กัน”
“นั่นน่ะสิ นายน้อยเป็นลูกรักพระเจ้าถึงขั้นไหนกัน จะถูกทำลายวรยุทธ์และกระดูกไหปลาร้าได้อย่างไร”
“เรื่องเช่นนี้ ข้าจะกล้าล้อเล่นงั้นหรือ เจ้าคอยดูเถอะ ไม่พ้นสองวัน ทั้งเผ่าเพลิงฟ้าจักต้องเปลี่ยนไปแน่นอน ตอนนี้เหล่าลูกศิษย์ฝ่ายในต่างก็ทราบเรื่องกันหมดแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานเหล่าลูกศิษย์ฝ่ายนอกก็จะทราบเรื่องเช่นกัน”
“เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้ล้อเล่น?”
“เรื่องใหญ่เพียงนี้ ข้าจะกล้าล้อเล่นได้อย่างไรกัน?”
“โอ้ สวรรค์ หากเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นพวกเราเผ่าเพลิงฟ้าก็สูญเสียครั้งใหญ่เลยน่ะสิ?”
“ก็ไม่ขนาดนั้น ได้ยินมาว่าเหล่าผู้อาวุโสมีปัญหากับนายน้อยมาก รองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงขั้นร่วมมือกับผู้อาวุโสสูงสุดหลายท่าน วางแผนจะฆ่านายน้อยด้วย”
“นายน้อยเป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าเผ่า หัวหน้าเผ่าจะเห็นด้วยหรือ?”
“หากมีผู้อาวุโสในเผ่าเพลิงฟ้าของเราที่เห็นด้วยเกินกว่าครึ่ง แม้หัวหน้าเผ่าจะไม่เห็นด้วย ก็มิอาจทำอะไรได้ นายน้อยเองก็น่าสงสาร เป็นอัจฉริยะดีๆ คนหนึ่ง กลับตกลงมาจากระดับหกถึงระดับล่างสุดได้ ตอนนี้ยังสูญเสียวรยุทธ์ มิอาจฝึกฝนวรยุทธ์ได้อีก เฮ้อ…นี่มันช่างเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าฆ่าเขาทิ้งเสียอีก”
“เผ่าหยกก็ลงมือเหี้ยมโหดไร้ความปราณีเสียจริง สมน้ำหน้าที่พวกมันต้องคำสาปโลหิตได้ จากที่ข้าดูมา พวกเราออกไปสู้กันทั้งเผ่าเสียดีกว่า ฆ่าพวกมันเสียให้หมด ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกมันจะมีเรี่ยวแรงสักแค่ไหนเชียวที่ต้องถูกคำสาปโลหิตทรมานเช่นนี้”
“หากพวกมันไม่แข็งแหร่งจริง จะฆ่ายอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุดทั้งห้าคนของเราภายในครั้งเดียวได้อย่างนั้นหรือ? เผ่าหยกถูกซ่อนไว้นานหลายพันปี ไม่แน่พวกมันอาจจะมีระดับเจ็ดแล้วก็เป็นได้”
“หัวหน้าเผ่าของเราก็ระดับเจ็ดมิใช่หรือ จะกลัวอะไรกัน”