กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 772

บทที่ 772

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 772
ไม่ไกลจากห้องกลั่นยาของเผ่าหยก เยี่ยจิ่งหานและคนอื่นๆได้พบกับจอมมารซึ่งๆหน้า

จอมมารสวมชุดสีแดงพร้อมรอยยิ้มสดใสพร้อมคำพูดและการกระทำที่อิสระเสรี รูปร่างของเขาสูงโปร่งหน้าตาสระสวยงดงาม งดงามมากจนแยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง

โดยเฉพาะดวงตาสีฟ้าข้างหนึ่งและสีม่วงข้างหนึ่งคู่นั้นซึ่งดึงวิญญาณไปโดยไม่รู้ตัว

ดูเหมือนว่าจอมมารจะอารมณ์ดีนัก เห็นเยี่ยจิงหานแล้วยากนักที่จะไม่โมโหโทโสต่อเขาแต่กลับทักทายเขาด้วยใบหน้าที่ปรากฏรอยยิ้ม

“ชีวิตคนเราไม่พบเจอกันได้อีกที่ใด ท่านหานอ๋องพวกเราพบกันอีกแล้วนะ คราวนี้ท่านอย่าได้อิจฉาข้านะ”

เยี่ยจิ่งหาน “……”

ผู้อาวุโสหก “……”

ชิงเฟิงเจี้ยวเสวี่ย”……”

ไม่มีผู้ใดรู้ว่าจอมมารต้องการจะสื่อถึงสิ่งใด

อิจฉา?

อิจฉาสิ่งใดต่อเขา?

เผ่าหยกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงเช่นนี้แล้วเขาจะมีความสุขอันใด?

เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะเข้าร่วมกับผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ดของเผ่าเพลิงฟ้าเพื่อมาโจมตีเผ่าหยก?

ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้

ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจอมมารมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับกู้ชูหน่วนและเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมกับเผ่าเพลิงฟ้า

กล่าวถึงนิสัยของเขาแล้วเขาต้องการสังหารผู้ใดก็สังหารผู้นั้น แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะได้เขาก็ไม่คิดที่จะร่วมมือกับผู้ใดเลย

เยี่ยจิ่งหานมองไปโดยรอบ

ที่นี่นอกจากจอมมารแล้วไม่มีลูกน้องของเขาเลย

เมื่อนึกถึงนิสัยงี่เง่าทั่วไปของจอมมาร เยี่ยจิ่งหานจึงคร้านที่จะเสียเวลากับเขามากนักและตรงไปยังห้องกลั่นยาเลย

จอมมารเดินไปเบื้องหน้าเคียงข้างกับเขาพร้อมปรากฏรอยยิ้มตรงมุมปาก

“เสี่ยวเยี่ยเยี่ยวันนี้กลิ่นเลือดของเผ่าหยกดูเหมือนจะค่อนข้างรุนแรง คนของท่านบุกตีเข้ามาจากนั้นกลับถูกเผ่าหยกบุกตีแทนใช่หรือไม่?”

จอมมารส่ายศีรษะแล้วโต้เถียงด้วยเสียงจุ๊ๆๆๆ “ไม่น่าจะใช่นะ หากว่าใช่ท่านก็คงจะถูกโยนออกไปแล้ว จะยังสามารถเข้าไปในเขตศูนย์กลางของเผ่าหยกกับผู้อาวุโสหกได้อย่างไร”

“ข้ารู้แล้ว เมื่อไม่นานมานี้เผ่าหยกโจมตีเผ่าเพลิงฟ้าไม่เพียงแต่ได้รับชัยชนะยังได้กำจัดเผ่าเพลิงฟ้าด้วย ต้องมีตัวเล็กตัวน้อยในเผ่าเพลิงฟ้าที่ไม่พอใจแล้วก็มาสร้างปัญหาที่เผ่าหยก จากนั้นก็ถูกเผ่าหยกจัดการจนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นกลิ่นเลือดจึงตลบอบอวลไปทั่วทั้งเผ่าหยกใช่หรือไม่?”

เยี่ยจิ่งหาน “……”

ผู้อาวุโสหก “……”

ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ย “……”

จอมมารถูมือของเขาอย่างสำนึกผิด “ช่วงเวลาที่ผ่านมาข้ายุ่งอยู่กับการปลูกดอกพุดซ้อนจึงไม่มีเวลาไปใส่ใจกับสถานการณ์ภายนอก มิเช่นนั้นข้าก็จะส่งกองกำลังออกไปช่วยเผ่าหยกด้วยแล้ว”

“ข้าไม่ชอบหน้าเผ่าเพลิงฟ้ามาตั้งนานแล้วถูกทำลายแล้วก็ดี ใช่แล้ว เหวินเส่าอี๋ผู้นั้นหล่ะ ได้ยินมาว่าท่านต่อสู้กับเขาอย่างหนัก พวกท่านสองคนใครแพ้ใครชนะ? เขาตายแล้วหรือเปล่า?”

“ข้าเห็นว่าเขาปฏิบัติต่อพี่หญิงไม่ธรรมดาตายไปก็ดีแล้ว ข้าก็จะได้มีคู่ต่อสู้ด้านความรักน้อยลงคนหนึ่ง เพียงแต่ว่าผู้ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้กลับตายไปเช่นนี้ก็ช่างน่าเสียดายจริงๆ ต่อไปต้องการจะหาคนประลองยุทธ์ก็ไร้ผู้ใดประลองเสียแล้ว”

“ใช่แล้ว วันนี้คนของเผ่าหยกหายไปไหนกันหมด เหตุใดตลอดทางมาเห็นเพียงแค่ไม่กี่คน? เป็นไปได้หรือไม่ว่า……พวกเขารู้ว่าวันนี้ข้าจะสู่ขอพี่หญิงดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงเตรียมสร้างความประหลาดใจให้กับข้า?”

จอมมารแอบหัวเราะเยาะและรอยยิ้มยิ่งยิ้มก็ยิ่งกว้างมากขึ้น

ผู้อาวุโสหกกระตุกมุมปาก ในที่สุดก็อดไม่ได้แล้วกล่าวว่า “จอมมาร เจ้าไม่รู้สึกหรือว่าบรรยากาศในวันนี้ผิดปกติ?”

หากไม่ใช่ว่ารู้ว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับอาหน่วน ผู้อาวุโสหกก็คงจะคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อจับผิด

“บรรยากาศผิดปกติ? ข้ารู้สึกว่าบรรยากาศช่างดีนักนี่นา ไร้ซึ่งก้อนเมฆ ไม่หนาวไม่ร้อน ทิวทัศน์ก็งดงามเพียงแค่ขาดโฉมงามก็เท่านั้น”

เยี่ยจิ่งหานเอ่ยออกมาประโยคหนึ่งว่า “ใช้สมองหมูของเจ้าลองคิดดูให้ดี”

อะไรเสี่ยวเยี่ยเยี่ย?

เสี่ยวเยี่ยเยี่ยก็ใช่ว่าเขาสามารถเรียกได้หรือ?

ในโลกนี้กล้าเรียกเสี่ยวเยี่ยเยี่ยนั้นมีเพียงกู้ชูหน่วนเท่านั้น

“สมองหมู?”

จอมมารตกตะลึง

ใช้เวลานานกว่าจะตอบสนองได้ว่าเยี่ยจิ่งหานกำลังด่าเขา

เขาไม่โกรธแต่กลับยิ้ม “ข้าว่าท่านอิจฉาหล่ะสิ ท่านยังไม่รู้สินะว่าพี่หญิงได้บอกแล้วว่าเพียงแค่ข้าสามารถปลูกดอกพุดซ้อนได้ภูเขาหนึ่งนางก็จะรับปากแต่งงานกับข้า ข้าจึงปลูกพันธุ์พืชทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดและทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากมายและในที่สุดก็สามารถปลูกดอกพุดซ้อนได้เต็มทั้งภูเขาแล้ว”

“พี่หญิงเห็นดอกพุดซ้อนแล้วจะต้องมีความสุขมากมายเป็นแน่”

เมื่อผ่านเขตหวงห้ามของเผ่าหยก ประตูของเขตหวงห้ามได้ถูกคนใช้ฝ่ามือทะลายจนเป็นรูฝ่ามือหนึ่ง

ประตูของเขตหวงห้ามทำขึ้นด้วยเหล็กชั้นดีนับหมื่นปีซึ่งดาบปืนฟันไม่เข้า แต่รอยฝ่ามือนี้ประทับลงไปได้ลึกนัก

รอยยิ้มของจอมมารชะงักลง แตะๆประตูเขตหวงห้ามจากนั้นก็ถามเยี่ยจิ่งหานอย่างประหลาดใจ

“ผู้ใดช่างร้ายกาจเช่นนี้ คงไม่ใช่ผู้แข็งแแกร่งระดับเจ็ดหรอกนะ?”

เยี่ยจิ่งหานไม่ได้ตอบกลับเขาแต่ยังคงวิ่งต่อไปโดยที่ต้องการให้ไปถึงยังห้องกลั่นยาในทันที

จอมมารว่องไวยิ่งนักและได้เดินเคียงคู่ไปกับเยี่ยจิ่งหานและคนอื่นๆอยู่ตลอด

เขาเอียงศีรษะถามว่า “เผ่าหยกได้ปรากฏผู้แข็งแแกร่งระดับเจ็ดอีกแล้วหรือ? หรือว่าพี่หญิงทะลายการถูกผนึกและได้ฟื้นคืนวรยุทธ์แล้ว?”

“พี่หญิงต้องรู้ว่าอีกไม่นานข้าจะปลูกดอกพุดซ้อนได้ทั่วทั้งภูเขาดังนั้นจึงได้ทลายผนึกออกเพื่อแสดงความยินดีกับข้า”

“แต่ว่าไม่ถูกนี่นา ทำลายผนึกออกคำสาปโลหิตของนางก็ต้องกำเริบไม่ใช่หรือ? เยี่ยจิ่งหานท่านคิดว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“ผู้อาวุโสสูง……”

จอมมารไม่ได้รอถึงคำตอบของเยี่ยจิ่งหานแต่ได้ยินเยี่ยจิ่งหานเรียกผู้อาวุโสสูงขึ้นคำหนึ่ง

ทุกคนมองไปพร้อมเพรียงกันกลับเห็นผู้อาวุโสสูงล้มอยู่ตรงหน้าห้องกลั่นยา ใบหน้าของเขาซีดเผือดพร้อมเอนตัวพิงกำแพงอย่างไร้เรี่ยวแรง

ผู้อาวุโสหกรีบช่วยประคองเขาขึ้น

“ผู้อาวุโสสูงท่านไม่เป็นไรนะ?”

“เร็ว ผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ที่นั่น รีบไปช่วยผู้อาวุโสสูงสุด”

“ชู่ว์ๆๆ……”

ร่างของเยี่ยจิ่งหานกะพริบหายไปในทันใด

ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยก็ได้หายไปด้วย

ผู้อาวุโสหกกัดฟันจากนั้นวางผู้อาวุโสสูงลงและก็ต้องการวิ่งไปดูด้วย

จอมมารดึงแขนเสื้อของเขาไว้แล้วถามอย่างสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้น? เผ่าหยกเกิดความวุ่นวายภายในหรือ?”

ผู้อาวุโสหกสะบัดมือออกอย่างแรง “เจ้ายังดูไม่ออกหรือว่าเผ่าหยกถูกผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ดโจมตี ผู้คนในเผ่าทั้งตายทั้งได้รับบาดเจ็บทั้งหายตัวไป”

ความโง่เง่าของเขานี้

เป็นถึงตำแหน่งจอมมารได้อย่างไร?

จอมมารตกตะลึง

“ผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ดไม่ใช่พี่หญิงหรอกหรือ?”

“อาหน่วนจะฆ่าคนของตนเองหรือ? เจ้าไม่เห็นศพทั่วทั้งพื้นหรือ?”

“ข้าหลงทาง วนกลับมาจากครึ่งทางก็ไม่เห็นศพนี่นา”

“โอ๊ย ข้าคุยกับเจ้าไม่รู้จบ ข้าไปก่อนนะ”

“รอเดี๋ยว แล้วพี่หญิงอยู่ที่ใด?”

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร”

ผู้อาวุโสหกหวังเพียงว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะสามารถใช้กลไกค่ายกลของบรรพบุรุษขัดขวางผู้แข็งแกร่งระดับเจ็ดผู้นั้นเอาไว้ได้

มิเช่นนั้นเผ่าหยกทั้งเผ่าจะตกอยู่ในอันตรายกันหมด

จากนั้นผู้อาวุโสสูงสุดได้รับบาดเจ็บ อีกฝ่ายเป็นระดับเจ็ดเขาจึงหวาดกลัวจริงๆ

สิ่งที่เขากลัวมากกว่าคืออาหน่วนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

จอมมารมองยังมือขวาของตนเอง จากนั้นก็มองยังมือซ้ายของตนเองและตอบสนองกลับไปกลับมา

เขาตบต้นขาและตะโกนว่า “รอข้าก่อน ตาเฒ่าน้อย ท่านพาข้าไปพบพี่หญิงหน่อย”

ชิ่ว……

ตรงหน้าทุกๆคนได้หยุดชะงักลง

จอมมารก็หยุดลงด้วยเช่นกัน

เมื่อเห็นทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าก็อดแปลกใจไม่ได้ เขตหวงห้าม……

ถูกทำลายลงไปหมด

เขตหวงห้ามอันแข็งแกร่งถูกทำลายโดยพละกำลังอันทรงพลังเลยโดยตรง

ห้องปรึกษากิจของเผ่าหยกก็พังยับเยินจนแหลกลานไปทั่ว

แม้แต่ห้องกลั่นยาก็บิดเบี้ยวไปเป็นครึ่ง ซากปรักหักพังอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง

มีเลือดจำนวนมากมายบนพื้นแต่ไม่เห็นศพแม้แต่ศพเดียว

และก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ยิ่งไม่รู้ว่าเลือดเหล่านี้ผู้ใดทิ้งเอาไว้

พวกเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีว่าความหายนะของเผ่าหยกนั้นร้ายแรงเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดไว้

“ดูสิ นั่นผู้อาวุโสสูงสุด” จู่ๆเจี้ยงเสวี่ยก็ตะโกนขึ้น

ผู้อาวุโสสูงสุดก้มหน้าลงล่าง เส้นชีพจรทั้งหมดในร่างกายของเขาฉีดขาดหมดและกำลังจะหมดลมแล้ว

ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นผู้อาวุโสที่เก่งกาจของเผ่าหยก แม้แต่เขายังได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ แล้วกู้ชูหน่วนหล่ะ……

บทที่ 771

บทที่ 773

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท