กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 795

บทที่ 795

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 795
หลังจากที่กู้ชูหน่วนจากไป ไม่นานก็วนกลับมาอีกครั้ง และแย่งชิงหยกสวรรค์น้ำแข็งที่อาบเลือดมาด้วย

ไป๋หลี่เจิ้น “……”

ซั่งกวนชิง “……”

เซียวอวี่เซวียนยิ้ม

แม่สาวผู้นี้ ไม่ละเว้นแม้แต่น้อยจริง ๆ

ลึกเข้าไปในหุบเขาเจียงเจ๋อซาน กู้ชูหน่วนแบ่งของออกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกที่เก็บไว้ในกระสอบ นางตั้งใจว่าจะนำจะแลกเปลี่ยนเป็นเงิน

และสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ นางจึงกินลงไปทั้งหมดในคราวเดียว

ฝีเท้าของเซี่ยวอวี่เซวียนช้าลงและอยากจะห้าม แต่ก็ไม่ทันแล้ว

“เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?ถึงได้กินยามากมายขนาดนั้น หลังจากกินยาไปหลายเม็ดด้วยกัน เจ้าอยากให้ร่างแตกตายหรืออย่างไร?”

“แค่ยาเพียงไม่กี่เม็ด และไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก ไม่ต้องกังวล ไม่ตายหรอก เจ้าช่วยคุ้มกันข้าด้วย”

“……”

นั่นแค่ไม่กี่เม็ดงั้นหรือ?

อย่างน้อยก็น่าจะหลายสิบเม็ด อีกทั้งยังมีสมุนไพรชั้นยอดอยู่ไม่น้อย

เซี่ยวอวี่เซวียนพูดไม่ออก

นางไม่เป็นไรจริง ๆ

แม้ว่าจะเป็นกังวล แต่จากประสบการณ์ครั้งก่อน และความคล้ายคลึงระหว่างนางกับกู้ชูหน่วน ทำให้เซี่ยวอวี่เซวียนมีความหวังบางอย่าง บางทีนางอาจจะหลอมรวมเม็ดยาเหล่านั้นให้เข้ากับตนเองได้จริง ๆ

เวลาผ่านไปเป็นนาทีต่อนาที

ร่างกายของกู้ชูหน่วนแดงทั้งตัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง และขาวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เซี่ยวอวี่เซวียนถือพัดก้านดำไว้ในมือและมีเหงื่อออก

เจ้าเสือน้อยอยู่ข้าง ๆ กู้ชูหน่วนตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งคลอดออกมาไม่นานหรือไม่ จึงยังกระหายเลือดอยู่ มันนอนอยู่บนตักกู้ชูหน่วน และหลับไปเหมือนหมูตาย อีกทั้งยังมีเสียงกรน

ในที่สุด……

แสงสีม่วงก็พุ่งออกมาจากร่างกาย วรยุทธขั้นที่สามของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนเป็นขั้นที่สี่ และจากนั้นก็เป็นขั้นที่ห้า

นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและบ่นว่า “ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการไปให้ถึงขั้นที่ห้า มันอ่อนแอเกินไป”

เช่นเดียวกันกับสมุนไพร หากให้นางกลั่นแล้ว อย่างน้อยก็จะสามารถกลั่นยาเพิ่มขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่ง

เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะเยาะ “ในเวลาเพียงครึ่งวัน เพิ่มขึ้นจากขั้นที่หนึ่งเป็นขั้นที่ห้า เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ?”

“ยังไม่บรรลุระดับแรก มีอะไรน่าพอใจกัน”

“แม่สาวน้อย ข้าจะชี้แนะให้เจ้าสักประโยค ยิ่งก้าวหน้าเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่ได้สำหรับเจ้ามากเท่านั้น”

ไม่ว่าร่างกายของนางจะผิดเพี้ยนขนาดไหน ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่กู้ชูหน่วน

และในโลกนี้ก็ไม่ได้มีกู้ชูหน่วนมีมากมายนัก

“ทำไมเจ้าเสือน้อยตัวนี้ถึงยังอยู่ที่นี่” กู้ชูหน่วนหิ้วมันขึ้นมา เจ้าเสือน้อยกำลังหลับอยู่บนพื้นที่เปียกชื้น เห็นได้ชัดว่ามันน้ำลายไหล

เจ้าเสือน้อยท่าทางสะลึมสะลือ มันหาวและเอนตัวลงไปอีกครั้ง ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะฉุดกระชากอย่างไร มันก็ไม่ยอมลุกขึ้น

“เจ้าติดข้าแล้วหรือ?”

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว

เซี่ยวอวี่เซวียนลูบขนสีขาวราวหิมะของเจ้าเสือน้อย แต่ถูกเจ้าเสือน้อยแยกเขี้ยวใส่และคำรามเสียงดัง

เขายิ้มและกล่าวว่า “เขี้ยวยังไม่ทันจะงอกก็กล้าดุร้ายใส่ข้าเสียแล้ว ไม่กลัวว่าข้าจะย่างเจ้าหรือ ในเมื่อมันต้องการจะให้เจ้าเป็นนาย เจ้าก็ยอมรับมันเถอะ มันเป็นอสุรกายระดับสามตั้งแต่เกิด ไม่ง่ายเลยที่จะหาเจอ”

“ข้าออกไปหาเสือมาสักตัวก็ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”

“มันตั้งใจจะติดตามเจ้า เจ้าก็แค่ตอบตกลงกับมันก็ได้แล้ว”

“ระดับสามนั้นอ่อนแอเกินไป ข้าไม่ต้องการมัน”

เซี่ยวอวี่เซวียนส่ายหัว

น่าเสียดายที่เจ้าเสือน้อยตัวนี้ไม่ได้อยากติดตามเขา มิเช่นนั้นเขาอยากจะยอมรับมัน

ในขณะที่พูดคุยกัน หุบเขาเจียงเจ๋อซานก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ท้องฟ้ามืดลงในทันที และลมหนาวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขาเจียงเจ๋อซาน

กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ช่างเป็นกลิ่นอายที่ทรงพลัง มีผู้ที่แข็งแกร่งกำลังต่อสู้กันอยู่รอบ ๆ ?”

เซี่ยวอวี่เซวียนสะบัดพัดอย่างรวดเร็ว เขาได้ยินเสียงขลุ่ยและเสียงฉินที่คุ้นเคย

เจ้าของขลุ่ยและฉินกำลังต่อสู้กัน

เสียงขลุ่ยกลางอากาศกลายเป็นมังกรยักษ์ มังกรยักษ์ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้โลกเกิดความโกลาหล และได้ยินเสียงคำรามของมังกรมาแต่ไกล

เสียงฉินอันไพเราะควบแน่นเป็นหยดน้ำ และรวมตัวกันเป็นหงส์น้ำแข็งที่กางปีกและโบยบินขึ้นสูง จากนั้นก็ต่อสู้กับมังกรยักษ์อย่างสุดชีวิต

ทันใดนั้นกลิ่นอายของเซี่ยวอวี่เซวียนก็เย็นยะเยือก ดวงตาที่ยาวและแคบของเขาจ้องมองขึ้นไปในอากาศ

“เป็นพวกเขา……”

เยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋

ทำไมเหวินเส่าอี๋ถึงมาที่รัฐปิงได้?

หรือว่ามาเพราะของเหลววิญญาณไท่ยี?

ไม่สิ……

เขากับกู้ชูหน่วนมีความบาดหมางกันอย่างลึกซึ้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะมาเอาของเหลววิญญาณไท่ยี

ต่อให้เป็นเช่นนั้น เขาก็คงต้องการจะทำลายของเหลวจิตวิญญาณไท่ยี่

เขามาที่รัฐปิง น่าจะมีจุดประสงค์อื่น

เมื่อนึกถึงผู้คนสามร้อยยี่สิบห้าชีวิตของตระกูลเซี่ยวที่ต้องตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของ มือของเผ่าเพลิงฟ้า เซี่ยวอวี่เซวียนก็กำมือทั้งสองข้างไว้แน่น

กู้ชูหน่วนตกใจกับกลิ่นอายที่เยือกเย็นของเขา

ในความคิดของนาง ชายผู้นี้ไม่ควรจะมีความแค้นที่ฝังลึก และไม่ควรจะมีกลิ่นอายที่เยือกเย็นเช่นนี้

เขาควรจะเป็นคนเสเพล ที่ทำอะไรตามอำเภอใจ และเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเอง

“เป็นอะไรไป เจ้ารู้จักพวกเขา?และมีเรื่องบาดหมางกับพวกเขาหรือ?”

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรถาม” เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวอย่างเย็นชา ไม่มีความเป็นกันเองอย่างเมื่อครู่

กู้ชูหน่วนเบ้ปาก

ไม่ถามก็ไม่ถาม

ทำอะไรกับหน้าเหม็นอะไรบางอย่าง

เมื่อมองดูการต่อสู้ในอากาศที่กำลังดุเดือด ทั้งมังกรยักษ์และหงส์วารีต่างก็ไม่ยอมแพ้ และไม่มีใครสามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้

ในเวลานี้อสุรกายในหุบเขาเจียงเจ๋อซานต่างก็กระวนกระวายและวิ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าพวกเขาหวาดกลัวการสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่าย

“ตูมตาม……”

ทั้งหุบเขาสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และกู้ชูหน่วนก็แทบจะยืนไม่อยู่

เซี่ยวอวี่เซวียนช่วยประคองนางและกล่าวว่า “ผู้ที่มาที่นี่ล้วนแต่รับมือได้ยาก เจ้าจึงไม่สามารถฉกฉวยผลประโยชน์ วันนี้เจ้าได้ของล้ำค่ามามากพอแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ”

“เจ้าพูดถูก ข้าจะออกไปจากที่นี่ นกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ ความมั่งคั่งย่อมอยู่บนความเสี่ยง บางทีข้าอาจจะคว้าอะไรได้บ้าง”

ในขณะที่กู้ชูหน่วนกล่าว นางก็เดินไปยังทิศทางที่มีการต่อสู้

เจ้าเสือน้อยเดินตามไปด้วย

กู้ชูหน่วนโยนกระสอบให้เจ้าเสือน้อย และทิ้งประโยคไว้ว่า “ดูแลกระสอบนี้ให้ดี ๆ ในนั้นล้วนเป็นข้าวของทั้งหมดของข้า”

“โฮก ๆ……”

เจ้าเสือน้อยส่งเสียงคำรามราวกับว่ามันเข้าใจแล้ว อีกทั้งยังใช้เขี้ยวที่ยังไม่งอกลากกระสอบ แล้วเดินวนกู้ชูหน่วน

เซี่ยวอวี่เซวียนลูบหน้าผากของตัวเอง

นี่มันผู้หญิงอะไรกัน

วิปริตยิ่งกว่ากู้ชูหน่วนเสียอีก อีกทั้งยังละโมบ

เยี่ยจิ่งหานเป็นยอดฝีมือระดับหก

เหวินเส่าอี๋ก็เป็นยอดฝีมือระดับหกเช่นกัน

เขามีวรยุทธระดับห้ายังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา

ส่วนนางมีเพียงแค่วรยุทธขั้นที่ห้าเท่านั้น แต่กลับกล้าที่จะเข้าไปฉกฉวยผลประโยชน์

นางคิดว่าทุกคนเหมือนไป๋หลี่เจิ้นและซั่งกวนชิง ที่ยอมปล่อยให้นางวิ่งเล่นไปมาได้งั้นหรือ?

“เจ้าเด็กวิปริต หยุดเดี๋ยวนี้นะ เจ้าจะเข้าไปไม่ได้ เจ้าอาจถูกลูกหลงตายได้”

อย่าดูถูกกู้ชูหน่วนและเจ้าเสือน้อย พวกเขาวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนเซี่ยวอวี่เซวียนก็ต้องไล่ตามไป

เมื่อเซี่ยวอวี่เซวียนตามกู้ชูหน่วนไปทันแล้ว การต่อสู้ข้างหน้าก็จบลงอย่างกะทันหัน และไม่รู้ว่าใครแพ้ใครชนะ

“ฮ้า……”

เซี่ยวอวี่เซวียนหยุดชะงัก

เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกระงับ

ไม่ใช่แค่เซี่ยวอวี่เซวียน แต่กู้ชูหน่วนและเจ้าเสือน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ก็เช่นกัน

“บริเวณนี้ถูกควบคุม วรยุทธทั้งหมดจึงถูกระงับ เจ้ารีบกลับไป”

“วรยุทธของทุกคนถูกระงับงั้นหรือ?” กู้ชูหน่วนยิ้มและกะพริบตา

“ใช่”

เซี่ยวอวี่เซวียนรู้สึกโกรธในใจเล็กน้อย

ทำไมถึงรู้สึกว่ารอยยิ้มดูเจ้าเล่ห์ขนาดนี้?

“วรยุทธของสองยอดฝีมือที่อยู่ตรงหน้าก็ถูกระงับเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดต่อสู้กัน?”

“วรยุทธของพวกเขาบรรลุระดับหกแล้ว และแต่ละคนก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ” เซี่ยวอวี่เซวียนเตือน

“เช่นนั้นประโยชน์ที่ได้รับก็จะยิ่งสูง เจ้าเสือน้อย ไปกันเถอะ พวกเราไปคว้าเอาผประโยชน์กัน”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท