กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 853

บทที่ 853

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 853

มุมปากของกู้ชูหน่วนขยับ ในใจของนางมีเป็นหมื่นล้านคำพูด แต่สุดท้ายก็พูดออกมาเพียง “บอกให้เจ้าฝืนอดทนไว้ ใกล้จะหมดลมหายใจแล้วใช่หรือไม่ ข้าดูว่าครั้งนี้ยังมีใครสามารถช่วยชีวิตของเจ้าได้อีก”

นางพูดพลางและตรวจวัดชีพจรให้เขา

อดพูดไม่ได้ว่า พลังฝ่ามือของเยี่ยจิ่งหานเมื่อสักครู่ช่างร้ายแรงมาก ต่อให้ความสามารถของเซี่ยวอี่เซวียนจะแข็งแกร่งกว่านี้ก็ไม่อาจต้านทานได้ อีกทั้งเขายังบาดเจ็บสาหัส

เส้นชีพจรของเขาอ่อนล้าอย่างมาก อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ง่ายเลยที่จะช่วยชีวิตกลับมาได้ เกรงว่าครั้งนี้จะต้องเจอกับอันตรายอีกแล้ว

ครั้งที่แล้วดอกบัวศักดิ์สิทธิ์หลากสีได้ช่วยชีวิตเขาไว้

ครั้งนี้ล่ะ?

จะช่วยอย่างไร?

ทันใดนั้น ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สีก็ได้ปรากฏขึ้นในหัวของนาง

กู้ชูหน่วนตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องนำดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีกลับมาให้ได้

ในใจของกู้ชูหน่วนคิดมากสับสนวุ่นวาย เซี่ยวอวี่เซวียนกลับคิดมากกว่านาง

คันฉ่องเฟิ่งหวงถูกทำลายไปแล้ว

เขาคิดไม่ออกเลยว่าจะมีวิธีไหนที่จะสามารถชุบชีวิตของแม่สาวอัปลักษณ์กลับคืนมาได้

หรือว่า……

ถึงวาระที่นางจะจากไปแล้วจริงๆ?

และเมื่อมองไปที่หญิงสาวที่มีความคล้ายคลึงกับกู้ชูหน่วนตรงหน้า ทันใดนั้นเซี่ยวอวี่เซวียนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความหดหู่

อวัยวะภายในพลุ่งพล่านอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเซี่ยวอวี่เซวียนก็กระอักเลือดออกมาและหมดสติไปอีกครั้ง

“เจ้าเสือน้อย เจ้าดูแลเซี่ยวอวี่เซวียนดีๆ ข้าจะรีบกลับมา”

“นายท่าน ท่านจะไปไหนอีก?”

“ไปเอายาศักดิ์สิทธิ์กลับมา”

ยาศักดิ์สิทธิ์?

ยาศักดิ์สิทธิ์อะไร?

บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ยังสามารถรักษาให้หายได้หรือ?

หรือว่าที่นี่ยังมีดอกบัวศักดิ์สิทธิ์หลากสี?

ไม่ ที่นี่มีเพียงดอกบัวศักดิ์สามสีเท่านั้น

นายท่านอยากจะไปเอาดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีมา?

เจ้าเสือน้อยร้อนรนขึ้นมา

จากนั้นรีบพาเซี่ยวอวี่เซวียนไปแอบซ่อนอย่างดี และพาตัวเองออกไล่ตามกู้ชูหน่วนไป

เบื้องหน้าของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสี

แต่ละสำนักกำลังต่อสู้กับอสุรร้ายยอดฝีมืออย่างดุเดือดเลือดพล่าน

แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ไล่ล่าขวานผานกู่ไปแล้ว แต่ก็มีจำนวนมากที่ไม่ยอมปล่อยโอกาสในการได้ครอบครองดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสี

บนพื้นมีเลือดไหลนอง และซากศพก็กองพะเนินเหมือนภูเขา

ทันทีที่กู้ชูหน่วนมาถึงก็ได้เผชิญกับการปิดล้อมของอสุรกายยอดฝีมือจำนวนหนึ่ง

ทุกคนต่างกำลังแย่งชิงดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสี ใครจะสนใจนาง

มีเพียงแค่หนิงเทียนโย่วและองค์ชายหยางโม่ที่ช่วยบ้างเล็กน้อย

แต่กำลังความสามารถของพวกเขามีกำจัดและไม่สามารถรอดพ้นจากอสุรกายยอดฝีมือเหล่านั้นไปได้

เกรงว่าเสียงเสือคำรามออกมา

ไกลออกไปก็มีเสือขนาดยักษ์วิ่งเข้ามา กรงเล็บของมันทำให้เกิดฝุ่นตลบอบอวล

เมื่อมันมาถึงก็จัดการอสุรกายยอดฝีมือระดับสามจำนวนหนึ่งกระเด็นลอยออกไป กรงเล็บของมันตะปบออกไป จากนั้นก็ทำให้อสุรกายจำนวนหนึ่งต้องตายลงทั้งเป็น

“โฮ่……”

เสือเกิดความโกรธ

หินและทรายต่างลอยขึ้น

ทุกคนต่างพากันตกตะลึงและต่างพากันมองไปที่เสือตัวนั้น

เมื่อเจ้าเสือน้อยแสดงพลานุภาพ อสุรกายต่างพากันหวาดกลัวจนตัวสั่น และบางตัวก็อดไม่ได้ที่จะคลานลงไป

นี่คือการแสดงพลานุภาพของเจ้าป่า

และนี่คือการแสดงพลานุภาพของเผ่าพันธุ์

ผู้นำของแต่ละสำนักและผู้นำตระกูลต่างพากันตกตะลึง

“เสือดำในตำนาน……”

“คือเสือดำในตำนาน เสือดำในตำนานสูญพันธุ์ไปแล้วไม่ใช่หรือ? นี่ถือเป็นอสูรร้ายเชียวนะ”

“ใช่น่ะสิ ดูจากลักษณะของมันแล้วคาดว่าน่าจะเป็นเพียงเสือดำเท่านั้น แต่กลับมีพลานุภาพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ หากมันเติบโตขึ้น เช่นนั้นระดับความสามารถของมันจะต้องสูงกว่าระดับเจ็ดแน่ๆ?”

การปรากฏตัวของเจ้าเสือน้อย ทำให้คนจำนวนไม่น้อยละความสนใจจากดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีที่พวกเขาปรารถนา

พวกเขากลับปรารถนาในตัวเจ้าเสือน้อยมากกว่า

หากสามารถทำสัญญาด้วยได้……

เช่นนั้นคงไม่กล้าคาดเดาที่สำนักของพวกเขาจะเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใด

และไม่นานก็มีปรมาจารย์ควบคุมสัตว์ร้ายอุทานด้วยความตกตะลึง

“ผิด มันถูกคนอื่นทำสัญญาไปแล้ว”

ถูกคนอื่นทำสัญญาไปแล้ว?

ใครกันช่างเก่งกาจเช่นนี้ที่สามารถทำสัญญากับเสือดำโบราณได้?

เสือดำโบราณมีอารมณ์เกรี้ยวกราดไม่ใช่หรือ?

หรือยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นที่หกคนนั้นจะทำสัญญาไป?

เจ้าเสือน้อยส่งเสียงคำรามทำให้อสุรร้ายทุกตัวต่างพากันถอยหนี หลังจากที่ทำให้พวกมันหวาดกลัวจนตัวสั่น จากนั้นก็รีบกลับไปข้างกายของกู้ชูหน่วนและออดอ้อนนาง ราวกับต้องการให้กู้ชูหน่วนให้อภัยกับการที่มันปล่อยให้เซี่ยวอวี่เซวียนต้องอยู่คนเดียว

ทุกคนต่างพากันตกตะลึงอีกครั้ง

เจ้าของของเสือดำโบราณคือกู้ชูหน่วนหรือ?

นางเพิ่งจะมีความสามารถระดับสองเองไม่ใช่หรือ?

ทำเช่นไรถึงสามารถทำให้เสือดำโบราณยอมจำนนต่อนาง?

กระทิงไฟเก้าเขาเดินออกมาข้างหน้าทันทีและมองไปยังเหล่าอสุรร้ายด้วยความเย่อหยิ่ง

ราวกับกำลังบอกกับเหล่าอสุรร้ายว่าเขาไม่ได้ยอมจำนนง่ายๆ เช่นนั้น

เสือดำโบราณถูกนางทำสัญญาไปแล้ว มันยอมรับนางเป็นแม่ก็ไม่เป็นเรื่องน่าอับอายอะไร

เหล่าอสุรร้ายต่างพากันยกย่องและเคารพกู้ชูหน่วน โดยไม่กล้าดูถูกนางอีก

เดิมทีแต่ละสำนักคิดต้องการตัวนางอยู่แล้ว และตอนนี้ก็ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะต้องและด้วยอะไร เช่นนั้นก็ต้องพากู้ชูหน่วนมาเข้าร่วมสำนักให้ได้

นายท่านหนิงจับเคราและหัวเราะออกมา “ไม่แปลกที่เป็นว่าที่หลานสะใภ้ที่ข้าหมายตา แม้แต่เสือดำโบราณก็ยอมตกให้เจ้าเป็นเจ้าของ”

ผู้อาวุโสของตระกูลเหวินคนหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางมู่ ตระกูลเหวินของเราไม่เคยรับคนนอกเข้ามาในตระกูล แต่หากเจ้ายอม เช่นนั้นแล้วประตูของตระกูลเหวินพร้อมที่จะเปิดรอเจ้าเข้ามาทุกเมื่อ”

กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของเจ้าเสือน้อยและกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าก็พูดมาแล้วว่าไม่รับคนนอกเข้าตระกูล หากข้าจะเข้าไปจริง หากตระกูลใหญ่มีข้าเพียงคนเดียวที่เป็นคนนอก เช่นนั้นข้าคงต้องถูกรังแกอย่างหนักแน่ๆ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด ทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสแย่ลงเล็กน้อย

กี่ปีมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องการคน ไม่คิดเลยว่าจะถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดีเช่นนี้

สำนักตระกูลอื่นก็ต่างพากันกล่าวออกมา

“แม่นางมู่ เพียงแต่เจ้ายอมที่จะเข้าร่วมกับตระกูลของข้า ข้ายอมเป็นรองและยกตำแหน่งผู้นำให้กับเจ้า”

“ข้าสามารถให้เจ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดได้”

“ผู้อาวุโสจะไปยากอะไร ข้ายกตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับเจ้า หลังจากนั้นเจ้าก็คือเจ้าสำนักของสำนักฉางซา”

“……”

ทุกคนต่างพากันแย่งชิง

สีหน้าของผู้นำตระกูลไป๋หลี่เคร่งขรึมและดูไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

สีหน้าของผู้นำตระกูลซั่งกวนก็ไม่ดีมากนัก

ผู้อาวุโสของตระกูลซั่งกวนคนหนึ่งกล่าวว่า “ข้าบอกแล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่อาจยกเลิกได้ แต่พวกเจ้ากลับไม่เชื่อข้า หากหมิงหลางได้แต่งงานกับนาง เช่นนั้นแล้วเสือดำโบราณก็ตกเป็นของตระกูลซั่งกวนของเรา”

“พอเถอะ ยกเลิกการแต่งงาน นั่นก็เป็นเพราะภรรยาของเจ้าเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน”

“เจ้า……”

หยางโม่กล่าว “แม่นางมู่ ไม่เช่นนั้นเข้าร่วมกับตระกูลราชวงศ์ของข้าเถอะ ตระกูลราชวงศ์ของข้า……”

ไป๋หลี่เจิ้นพูดขัดจังหวะหยางโม่

“ก็แค่ควบคุมเสือดำโบราณได้เท่านั้น มีอะไรให้น่าภาคภูมิใจกัน ตอนนี้เสือดำโบราณยังตัวเล็กและเพิ่งเกิดออกมา เรามีจำนวนมากเช่นนี้ หรือว่าจะสู้ไม่ได้เพียงแค่เสือดำโบราณเพียงตัวเดียว? เพียงแค่มู่หน่วนตายไป เช่นนั้นสัญญาก็จะเป็นโมฆะเอง”

ผู้นำตระกูลไป๋หลี่จ้องไป๋หลี่เจิ้นตาเขม็ง

มู่หน่วนตายไป สัญญาก็จะเป็นโมฆะ แต่เสือดำโบราณก็จะตายไปพร้อมกันด้วย

เขาเป็นถึงผู้อาวุโส แม้แต่เรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นี้ก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ?

เจ้าของทำสัญญากับอสุรร้าย เมื่ออสุรร้ายตายไป เจ้าของจะไม่มีความผิดเลยหรือ

แต่หากเจ้าของตายไป อสุรร้ายทั้งหมดที่ติดตามทำสัญญาด้วยก็จะตายไปพร้อมกัน

สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ เสือดำโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เสือดำโบราณที่ตายไปแล้ว

“ฝ่อๆ……”

ไม่รู้ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาจากที่ไหน ลำตัวของมันกลายร่างเป็นงูเหลือมยักษ์เก้าหัวและหันไปยิ้มให้ไป๋หลี่เจิ้น แม้แต่หางของมันก็สะบัดไป หากไป๋หลี่เจิ้นเคลื่อนตัวช้ากว่านี้ คงถูกสะบัดและกระเด็นออกไปอย่างแรงจนกระอักเลือดออกมา

เขาเหลือเชื่อมาก

ราชางูเหลือมเก้าเศียร……

มันไม่ได้ยอมจำนนต่อพวกเขาหรอกหรือ?

เหตุใดมันถึงโจมตีเขา?

หรือว่าเขาทำอะไรผิดต่อมันเข้า?

เมื่อเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ปรากฏตัว ไม่เพียงแค่ไป๋หลี่เจิ้นเท่านั้นที่ตกตะลึง

ทุกคนต่างพากันตกตะลึง

ทุกคนต่างพากันอุทานออกมา “ราชางูเหลือมเก้าเศียร……”

“ใช่ราชางูเหลือมเก้าเศียร……นี่”ก็ถือเป็นอสูรร้ายโบราณในตำนานที่ยากจะพบเจอบนโลกใบนี้ หายากพอๆ กับของมีค่า ไม่คิดว่าจะได้เห็นมันที่นี่เวลานี้

“หากราชางูเหลือมเก้าเศียรสามารถไปถึงระดับสูงสุด เช่นนั้นพละกำลังความแข็งแกร่งของมันไม่น้อยไปกว่าเสือดำโบราณเลย หรืออาจจะด้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ”

อสูรร้ายสองตัวที่หาได้ยากบนโลกใบนี้ นับพันปีต่างก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้น

จู่ๆ พวกเขาก็ได้เห็นพร้อมกันถึงสองตัว

และสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงยิ่งไปกว่านั้นคือ

หลังจากที่ราชางูเหลือมโจมตีไป๋หลี่เจิ้นแล้ว ก็เป็นเหมือนดังเช่นเสือดำโบราณที่เข้าไปออดอ้อนกู้ชูหน่วนราวกับเด็ก

นี่ นี่ นี่……

อย่าบอกพวกเขานะว่า ราชางูเหลือมก็ถูกผู้หญิงคนนี้ทำสัญญาไปแล้ว?

หากจริง เช่นนั้นโลกนี้ช่างมืดมิดเสียเหลือเกิน……

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท