กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 859
“นี่คือจวนมู่เจ้าอย่าได้กระทำเรื่อยเปื่อยนะ ไม่เช่นนั้นข้าจะตะโกนให้คนช่วย”
“ช่วย? ผู้ใดจะสามารถช่วยเจ้าได้? เพียงแค่ผู้เฒ่าตระกูลมู่ระดับสามหรือ?” เหวินเส่าอี๋หัวเราะเยาะพร้อมแววตาอันรังเกียจ
กู้ชูหน่วนพิงกำแพงอยู่ได้ยินด้านนอกยังมีเสียงที่ทะเลาะกันอยู่ในใจก็เย็นลงเป็นครึ่ง
ใช่สิ เขาเป็นระดับหก
ส่วนผู้ที่เก่งกาจที่สุดในตระกูลมู่ก็เป็นเพียงแค่ระดับสามเท่านั้น
แม้ว่าตระกูลมู่ทั้งหมดรวมกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา หากว่าฝืนปะทะก็รนหาที่ตายเท่านั้นเอง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้กู้ชูหน่วนก็ทรุดตัวลงบนเตียง ดึงเสื้อผ้าออกแล้วนอนลงราวกับว่าจะถูกฆ่าจะแกงเช่นนั้น
“ข่มขืนก่อนแล้วสังหารหรือว่าจะสังหารก่อนแล้วค่อยข่มขืนก็แล้วแต่เจ้า เช่นไรพวกเราทั้งสองก็ได้กรบไหว้และแต่งงานกันแล้ว หากว่าข้าตายในอ้อมแขนของเจ้าจริงๆผู้อื่นก็คงจะไม่กล้ากล่าวสิ่งใด”
เหวินเส่าอี๋ “……”
ทันใดนั้นเหวินเส่าอี๋ก็เห็นวงแหวนอวกาศในมือของกู้ชูหน่วน และก็ไม่รู้ว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไรถึงได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้ากู้ชูหน่วนและปลายจมูกก็เผชิญเข้ากับนาง
กู้ชูหน่วนตกใจรีบดึงเสื้อผ้าขึ้นให้ออกห่างจากเขาบ้าง
“คือว่า……ด้านนอกคนมากมายเกินไป รบกวนพวกเราได้ง่าย ไม่งั้นวันอื่นดีกว่า……”
“ชู่ว์……”
คอเสื้อถูกดึงออก กู้ชูหน่วนทั้งคนถูกเขาดึงขึ้น ไม่รอให้นางตอบสนองได้ก็ได้ถูกเหวินเส่าอี๋จับตัวไว้แล้ว
นางต้องการต่อต้านแต่ว่าร่างกายราวกับถูกตรึงเอาไว้ ไม่ว่านางจะดิ้นรนเพียงใดก็ทำได้เพียงแค่มองดูภาพบินผ่านไปอย่างรวดเร็วตรงหน้านาง
“เหวินเส่าอี๋ มีสิ่งใดก็ค่อยๆกล่าว เจ้าวางข้าลงก่อน”
“ตุ๊บ……”
คอเจ็บปวดกู้ชูหน่วนก็หมดสติไปเลย
เมื่อนางฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็อยู่ในห้องลับห้องหนึ่ง
ไม่ ที่ถูกต้องน่าจะเป็นอยู่ในห้องทรมานห้องหนึ่ง
ที่นี่แสงสว่างมืดสลัว ผนังทั้งหมดเป็นกำแพงหิน โดยมีความเยือกเย็นซึมออก
กำแพงหินเต็มไปด้วยเครื่องมือทรมาน ทั้งหมดมีที่กู้ชูหน่วนเรียกได้และที่ไม่สามารถเรียกได้อยู่ด้านในทั้งสิ้น เครื่องมือทรมานจำนวนมากยังมีคราบเลือดอยู่และก็ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าใดเคยถูกทรมานอยู่ที่นี่
มองไปเบื้องหน้า ด้านหน้ายังมีหัวกะโหลกหลายกะโหลกอยู่ด้วย
ส่วนเหวินเส่าอี๋นั้นยืนอยู่ด้านข้างหัวกะโหลกพร้อมกับมองลงมาที่นางอย่างเย็นชา
“ดูไม่ออกว่าเจ้าจะสง่างามแล้วยังมีความชอบด้านนี้ด้วย เสี่ยวหูเตี๋ย ข้า……”
“แหวนมาจากที่ใดกัน?”
“อะไรนะ……” กู้ชูหน่วนไม่ทันตอบสนองกลับ
“แหวนอวกาศได้มาจากที่ใด?”
“เจ้าบอกว่าแหวนในมือของข้าหรือ ได้มาจากการประมูล หากว่าเจ้าต้องการจ้าจะไปยังหอประมูลแล้วประมูลหลายๆวงที่ดีกว่ามามอบให้เจ้า”
เหวินเส่าอี๋สะบัดมือ กระแสลมได้พุ่งไปยังวงแหวนบนมือของกู้ชูหน่วน
แม้ว่าจะดูเหมือนสะบัดมือธรรมดาแต่ว่ามีกำลังภายในทอันแข็งแกร่งของเขาอยู่ด้วย
แหวนทั่งวๆไปนั้นคงจะบินไปอยู่ในมือของเหวินเส่าอี๋ตั้งนานแล้ว
เช่นไรวงแหวนอวกาศบนมือของกู้ชูหน่วนกลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ยังอยู่ในมือของนางดังเล่นเดิมราวกับว่าไม่เคยแปรเปลี่ยน และเสมือนว่าจะผูกมัดอย่างแน่นหนาเอาไว้กับเจ้าของของมัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ลมหายใจของเหวินเส่าอี๋เย็นลงเล็กน้อย แล้วก็ได้เพิ่มกำลังภายในขึ้นอีก
แหวนก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน
เหวินเส่าอี๋พยายามหลายครั้งติดต่อกันแต่ก็ไม่เป็นผล
ตรงกันข้ามกับกู้ชูหน่วนที่หายใจไม่ออกจากพละกำลังของเขา บาดแผลบนร่างกายฉีกขาดขึ้นอีกครั้ง เลือดสีแดงสดได้ไหลออกมาทำให้เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนแดง
“เจ็บแทบตายแล้ว นี่มันเอาของมีค่าหรือเอาชีวิต”
“ถอดแหวนออกซะ”
กู้ชูหน่วนรีบซ่อนมือขวาเอาไว้ด้านเพื่อปกป้องวงแหวนอวกาศแล้วทนความเจ็บปวดกัดฟันกล่าวว่า “เจ้าชอบแหวนเช่นนี้ข้าจะมอบที่ดียิ่งกว่าให้เจ้า แต่แหวนวงนี้ข้าไม่สามารถให้เจ้าได้”
“ถอดแหวนออกซะ”
ดวงตาคู่บึ้งตึงของเหวินเส่าอี๋จ้องมองไปยังมือที่นางซ่อนอยู่ด้านและสั่งการอย่างไร้ความปราณี
“เหตุใดเจ้าถึงได้ต้องการแหวนวงนี้? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้ารู้จักเจ้าของแหวนเดิมแล้งยังมีความหลังกับเจ้าของแหวนด้วย?”
“ตุ๊บ……”
ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนคาดเดาความจริงถูกต้องหรือไม่เหวินเส่าอี๋สะบัดมือก็ได้โยนกู้ชูหน่วนออกไปเลยโดยตรง
การเขวี้ยงนั้นใช้พลังมากจนมือของกู้ชูหน่วนกระแทกกับกำแพงและหลุดออกจากจุดตรงนั้นเลย
นางกัดฟันแน่นบิดมือที่เตล็ดอยู่เสียงดังแกร๊กขึ้นด้วยตนเอง จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มสบายๆ ว่า “คนรักเก่าของเจ้าดูเหมือนว่าจะไม่ชอบเจ้านะ ไม่เช่นนั้นวงแหวนอวกาศเหตุใดถึงไม่ได้มีความรู้สึกอันใดกับเจ้าเลย”
“ครึก……”
คอถูกบีบกู้ชูหน่วนดิ้นรนสองสามครั้งแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกได้ จึงยอมแพ้การขัดขืนให้เหวินเส่าอี๋บีบนางแน่น
เขาเป็นขั้นสูงสุดระดับหก หากว่าต้องการสังหาร แม้ว่าจะทุ่มเทพยายามเพียงใดก็ไม่สามารถทสิ่งใดเขาได้
“เจ้าพูดมากยิ่งนัก”
ดวงตาดำเข้มของเหวินเส่าอี๋ค่อยๆเย็นลงกระทั่งๆได้ปรากฏเส้นเลือดสีแดงขึ้น มองออกว่าเขาโกนธจนแทบจะระเบิดแล้ว
กู้ชูหน่วนกล่าวเสียงหยาบ “สังหารข้าเจ้าก็ไม่สามารถเปิดวงแหวนอวกาศได้ วงแหวนอวกาศก็ไม่ยอมรับเจ้าเป็นเจ้านายหรอก”
“สังหารเจ้าข้าก็เปิดวงแหวนอวกาศได้เช่นเดิม หากถอดวงแหวนอวกาศออกไม่ได้ข้าก็จะตัดนิ้วของเจ้าทิ้งซะ”
จูาๆกลิ่นไอสังหารได้รายล้อมอยู่ในห้องลับจนกู้ชูหน่วนเนื้อตัวสั่นเทา
ชายหนุ่มตรงหน้าดูอ่อนโยนสง่างามหลัดพ้นจากความเป็นอมตะ แต่เมื่อบังเกิดกลิ่นไอสังหารช่างน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าวิญญาณชั่วร้ายในขุมนรกเสียอีก
เจ้าของแหวนมีความเคียดแค้นมากมายอันใดกับเขากันแน่ ถึงทำให้เขาแปรเปลี่ยนได้มากเช่นนี้
อากาศยิ่งอยู่ยิ่งเบาบางลงเรื่อยๆ หากว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ต้องรอให้เขาลงมือ นางก็จะต้องตายอยู่ตรงหน้าเขา
กู้ชูหน่วนกล่าวเสียงอ่อนว่า “เลือดไหลนองทั่วไท่ใช่ว่าจะทำให้เจ้ารู้สึกรังเกียจหรอกหรือ? เจ้า……เจ้าปล่อยข้าก่อนแล้วแล้วข้าจะถอดแหวนออกมาก็พอแเล้ว”
เหวินเส่าอี๋จ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่านางคงจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ มือที่บีบแน่นก็ค่ิยๆคลายออก
เป็นอิสระแล้วกู้ชูหน่วนก็สูดอากาศบริสุทธิ์และไอไม่หยุด ใช้เวลานานกว่าจะหยุดลงได้
ชายราวกับถูกเนรเทศยืนอยู่ตรงหน้านางพร้อมกับมองทาที่นางอย่างเย็นชา
กู้ชูหน่วนตบๆเสื้อผ้าแล้วยืนขึ้นเผชิญหน้ากับเขา ด้านหนึ่งถอดแหวนออกด้านหนึ่งเหล่มองเหวินเส่าอี๋ด้วยดวงตาดำสนิท
อาศัยช่วงจังหวะขณะที่เหวินเส่าอี๋มุ่งความสนใจอยู่ที่วงแหวนอวกาศ กู้ชูหน่วนก็ขว้างผงพิษหนึ่งกำออกไปเพื่อทำให้เหวินเส่าอี๋หมดสติลง
ไม่รู้ว่าเหวินเส่าอี๋เคฃื่อนไหวเช่นใดกลับชิงขว้างผงพิษกลับก่อนก้าวหนึ่งจนตกลงบนตัวของกู้ชูหน่วน
หากว่านางไม่รู้แจ้งพิษนับร้อยเกรงว่าคงจะถูกพิษของตนเองหมดสติไปนานแล้ว
กู้ชูหน่วนรู้สึกหวาดกลัว
นางยังไม่ได้ลงมือกับผงพิษเขารู้ได้ยอย่างไรว่านางจะทำสิ่งใด?
ในไม่ช้ามือทั้งคู่ของเหวินเส่าอี๋ผนึกกันกลายเป็นหมอกสีขาวเป็นชั้นๆปกคลุมรอบกายของนาง
กู้ชูหน่วนเพียงแค่รู้สึกว่าร่างกายถูกตรึงเอาไว้
อุณหภูมิบนมือสูงขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะเผาไหม้มือของนางจนเป็นถ่าน
แหวนในมือทนความร้อนไม่ไหว ไม่มีคำสั่งขอองนางก็ได้เปิดออกเองเลยโดยตรง
หลังจากแหวนเปิดออก ยาอายุวัฒนะ สมุนไพร เครื่องประดับเงินทองต่างๆด้านในก็ได้ออกมาอยู่ตรงหน้านางทีละชิ้นๆ