กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 885
ขุนพลสวรรค์กลัวไฟ
ไฟที่ลุกโชติช่วงเผาไหม้ขุนพลสวรรค์ และสามสิบหกขุนพลสวรรค์ก็ถูกทำลาย
ไม่ง่ายเลยที่สามสิบหกคนที่กำลังจะปีนหน้าผาที่สูงชันจะถูกไฟไหม้ตายในทันที และไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
ซั่งกวนชิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ฟิ้ว ๆ ๆ ……” หน้าไม้ยิงมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ซั่งกวนชิงโกรธมาก และอยากจะบุกเข้าไปอย่างไม่สนใจใดอะไร แต่สาวกหลายคนของตระกูลซั่งกวนเข้ามาขวางไว้
“ท่านผู้อาวุโส ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมต้องมีความหวัง พวกเราถอยก่อนเถอะ แล้วค่อยหาวิธีจัดการกับพวกเขาในภายหลัง”
ไป๋หลี่เฉิงไม่เห็นความหวังที่จะปีนหน้าผา เขาจับตัวกู้ชูหน่วนก่อนที่จะพาผู้คนล่าถอยออกไป
นิกายอื่น ๆ ก็หนีกันจ้าละหวั่น
ไม่ว่าซั่งกวนชิงจะไม่พอใจมากแค่ไหน เขาก็ทำได้แค่ล่าถอยออกไปก่อน
หากไม่ถอย ผู้คนก็จะบาดเจ็บล้มตายมากยิ่งขึ้น
ในชั่วพริบตาเดียว นิกายต่าง ๆ ก็กระจัดกระจายออกไป ส่วนที่ตายก็ตาย ส่วนที่หนีก็หนี ส่วนคนที่ยังอยู่ก็นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นและร้องโหยหวน
ชิงเฟิงตบต้นขา “แม่นางมู่ ท่านเก่งกาจเกินไปแล้ว และขับไล่พวกเขาออกไปอย่างง่ายดาย ข้าคิดว่าจะต้องมีการนองเลือดเสียแล้ว”
เจี้ยงเสวี่ยและคนอื่น ๆ ต่างก็เลื่อมใส
ใบหน้าของกู้ชูหน่วนไม่มีร่องรอยของความดีใจ และกลับโศกเศร้า
“คราวนี้พวกเขาประมาทและสูญเสียเป็นอย่างมาก หากรอการโจมตีครั้งต่อไป เกรงว่าจะไม่ง่ายที่จะหลอกล่อ”
“ข้าจะให้คนไปทำธนูไม้ไผ่และน้ำมันตะเกียงในทันที”
“ไม่มีประโยชน์ วิธีเดียวกันนี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“แล้วจะทำอย่างไรดี?” หรือว่าจะต้องใช้ร่างกายต่อสู้กับพวกเขาจนนองเลือดในที่สุด?
“จะทำอย่างไรได้ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน”
กู้ชูหน่วนกลอกตา นางกุมแผลที่ท้องไว้ และให้คนเข็นนางไปนั่งใต้ร่มไม้
วันหนึ่ง
สองวัน
สามวันผ่านไป
นิกายต่าง ๆ ไม่ได้โจมตี
และไม่มีข่าวคราวจากคนที่ส่งให้ออกไปตามหาเยี่ยจิ่งหาน
เสบียงอาหารที่หุบเขาหัวสุนัขยังสามารถที่จะอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง
เพียงแต่พวกเขาไม่อาจล่าถอยได้
ในช่วงบ่ายของวันที่สาม นิกายต่าง ๆ โจมตีอีกครั้ง
ครั้งนี้พวกเขานำกองกำลังมามากกว่าครั้งแรก
และ……คนส่วนใหญ่ในนั้นก็สวมชุดเกราะ คงเกรงว่าพวกเขาจะยิงหน้าไม้อีก
พวกเขามีอาวุธและยุทโธปกรณ์ครบครัน
ใบหน้าและหัวของพวกเขาถูกคลุมด้วยผ้า มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้นที่ถูกเปิดเผย และยังถือร่มไว้ในมือ
อีกทั้งดวงตาที่ถูกเปิดเผยก็ใช้มือปิดกั้นเป็นระยะ ๆ ด้วย
“นางมาร หากเจ้ายอมจำนนแต่โดยดี พวกเราจะพิจารณาลงโทษสถานเบา มิเช่นนั้นวันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า”
กู้ชูหน่วนอยู่นั่งบนรถเข็น นางเคาะหูและกล่าวอย่างไม่อดทน “คำพูดนี้ข้าได้ยินมามากเกินไปแล้ว เอาที่ใหม่กว่านี้ได้หรือไม่?”
“จุดไฟ”
เมื่อได้ยินคำว่าจุดไฟ นิกายต่าง ๆ ก็นำกองฟืนมาและจุดไฟ
พวกเขาต้องการใช้ควันเพื่อทำให้คนบนหน้าผามองเห็นไม่ชัด ไม่สามารถยิงหน้าไม้ได้ ไม่สามารถเตรียมที่จะโยนน้ำมันตะเกียงได้ และถือโอกาสปีนขึ้นไปข้างบนหน้าผา
กู้ชูหน่วนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา และกล่าวเสียงดัง “หากพวกเจ้าหันหลังกลับไปเสียในตอนนี้ บางทีอาจจะสามารถรักาาชีวิตไว้ได้”
“ช่างน่าขัน เยี่ยจิ่งหานไม่อยู่ที่นี่ ลำพังแค่พวกเจ้าจะยับยั้งพวกเราได้อย่างไร?”
ควันเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
กู้ชูหน่วนไม่ได้ขัดขวาง
และปล่อยให้พวกเขาสร้างควันต่อไป
ไม่นานควันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา ทั้งสองฝ่ายต่างมองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัดเจน
ไป๋หลี่เฉิงรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ซั่งกวนชิงถูกนางถอดเสื้อผ้า และสามสิบหกขุนพลสวรรค์ก็ตายอย่างอนาถด้วยมือของกู้ชูหน่วน นใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
แม้จะรู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่คิดว่านางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว และศัตรูมีจำนวนมากกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงไม่ได้สนใจ
“ไม่ว่าวันนี้จะต้องแลกด้วยอะไร ข้าก็จะฆ่านางมารผู้นั้นให้จงได้”
กู้ชูหน่วนไม่สนใจและยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยกระวนกระวายใจ
“แม่นางมู่ ควันมากเกินไปแล้ว หากถูกพวกเขาโจมตีก็คงจะสายเกินไปแล้ว พวกเราควรจะตอบโต้หรือไม่?”
“จะรีบร้อนอะไร หน้าผาไม่สูงเกินไป ไม่ต่ำเกินไป หากพวกเขาจะปีนขึ้นมาคงต้องใช้เวลาพอสมควร”
“แต่……หากรอให้พวกเขาปีนขึ้นมาก็จะสายเกินไปแล้ว”
“ยังมีของล้ำค่าเหล่านั้นอยู่ไม่ใช่หรือ?” กู้ชูหน่วนชี้ไปที่ตะกร้าลูกบอลสองตะกร้าที่อยู่ด้านข้าง
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยขมวดคิ้ว
พวกเขาไม่รู้ว่าลูกบอลเล็ก ๆ เหล่านั้นจะทำอะไรได้ และรู้เพียงว่ากู้ชูหน่วนทำลูกบอลเล็ก ๆ เหล่านั้นมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว
เพื่อที่จะทำลูกบอลเล็ก ๆ เหล่านั้น นางจึงเหนื่อยมากเกินไป และอาการบาดเจ็บของนางก็ไม่ดีขึ้น
ไม่ว่าลูกบอลเล็ก ๆ นั่นจะเป็นอาวุธลับอะไร ก็ไม่สามารถทำอะไรยอดฝีมือของสำนักต่าง ๆ ในใต้หล้าได้
พวกเขาร้อนใจ
แต่กู้ชูหน่วนไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย นางกลับดื่มชาอย่างช้า ๆ และหาว
การหาวเช่นนี้ ช่างคล้ายกับพระชายาของพวกเขามาก
“แม่นางมู่ หากไม่โจมตีในยามคับขันก็อาจจะสายเกินไป”
“เยี่ยจิ่งหานไม่เคยสอนให้พวกเจ้าสงบสติอารมณ์เมื่อต้องรับมือกับสิ่งต่าง ๆ หรือ?”
“นี่มันเวลาใดแล้ว แม่นางมู่ ท่านเลิกล้อเล่นได้แล้ว”
กู้ชูหน่วนแหงนมองท้องฟ้า นางหลับตาลง ฮัมเพลงเบา ๆ และเพลิดเพลินกับแสงแดด
ลักษณะท่าทางเช่นนี้ อย่าว่าแต่ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยเกาหัวอย่างกระวนกระวายใจเลย องครักษ์คนอื่น ๆ ก็กระวนกระวายใจเช่นกัน
ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมผู้นำทั้งสองต้องฟังคำสั่งของนางด้วย
หลังจากผ่านไปสักพัก เจี้ยงเสวี่ยก็รออีกต่อไปไม่ไหวแล้ว
ดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียมากเกินไปแล้ว
เดิมทีกำลังคนที่นายท่านนำมานั้นไม่เพียงพอ และพวกเขาทั้งหมดเป็นลูกน้องของนายท่านที่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง หากพวกเขาตายหมดแล้ว นายท่านจะ…….
เจี้ยงเสวี่ยกัดฟันและกล่าวว่า “แม่นางมู่ ในเมื่อท่านไม่มีวิธีที่จะยับยั้งพวกเขา เช่นนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา องครักษ์ทั้งหลายฟังคำสั่งของข้า……”
“จะรีบร้อนไปทำไม ข้าบอกหรือว่าข้าไม่มีวิธี?เพียงแค่จะดูความอดทนของเจ้าเท่านั้น ไม่รู้จริง ๆ ว่าต่อไปหญิงผู้ใดจะกล้าแต่งงานกับเจ้า”
กู้ชูหน่วนนั่งตัวตรงและสั่งคนข้างหลังว่า “จำตำแหน่งที่ข้าบอกพวกเจ้าได้หรือไม่?อีกเดี๋ยวโยนของล้ำค่าเหล่านี้ลงไป”
“ขอรับ”
องครักษ์กลุ่มหนึ่งออกมา หยิบลูกบอลขึ้นมา แล้วโยนลงไปที่ด้านล่างอย่างแรง
เมื่อลูกบอลตกลงบนพื้นก็เกิดเสียงดัง แม้แต่พื้นก็สั่นสะเทือนอยู่หลายครั้ง
“ฮ้า……”
ผู้คนที่อยู่บนหน้าผาต่างตกตะลึง
ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่ง
นี่เป็นอาวุธลับอะไร?
ทำไมถึงมีพลังทำลายล้างมากขนาดนี้?
“ตูม ๆ ๆ ……”
เมื่อโยนลูกบอลลงไป ก็มีเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องจากด้านล่าง และพื้นดินก็สั่นสะเทือนมากขึ้นเรื่อย ๆ
คนที่โยนลูกบอลลงไปต่างตกตะลึง
กู้ชูหน่วนกลอกตา “มั่วงุนงงอะไรอยู่ ยังไม่รีบโยนลงไปอีก จะรอให้พวกมันปีนขึ้นไปหรืออย่างไร?”
“ขอรับ ๆ……”
“ตูม ๆ ๆ ……”
ด้านล่างมีการระเบิดอย่างต่อเนื่อง
กลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นดินปืนลอยขึ้นมาจากด้านล่าง
ชิงเฟิงกลืนน้ำลาย ด้วยกลิ่นคาวเลือดที่แรงขนาดนี้ เขานึกไม่ออกว่าด้านล่างมีคนตายมากแค่ไหน
ใบหน้าของเจี้ยงเสวี่ยซีดขาว และเสียงร้องโหยหวนของสาวกของนิกายต่าง ๆ ก็ก้องอยู่ในหูของเขา
อาวุธลับชนิดนี้……
พวกเขาไม่เคยได้ยิน
และไม่เคยเห็นมาก่อน
หากใช้ในสงคราม ยังจะต้องสู้อีกอีกหรือ?
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ประหยัดหน่อย ของล้ำค่าเหล่านี้มีน้อยมาก และมีเพียงเท่านี้”
ชิงเฟิงตัวสั่นและกล่าวว่า “แม่นางมู่ ท่านทำอาวุธลับนี้ได้อย่างไร สอนข้าได้หรือไม่?ข้าจะได้ให้คนทำเยอะ ๆ”
“ทำไม่ได้ ส่วนผสมมีจำนวนจำกัด และส่วนผสมทั้งหุบเขาหัวสุนัขก็ถูกข้าใช้หมดแล้ว”