กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 882
มีเยี่ยจิ่งหานสูญเสียชี่แท้ในการรักษาอย่างมาก
เซี่ยวอวี่เซวียนกับกู้ชูหน่วนถึงได้มีลมหายใจกลับมา
ไม่รู้ว่าภายในรถม้ามีหมอมาสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้กำลังช่วยรักษาห้ามเลือดให้พวกเขาอยู่
การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล่องแคล่วว่องไว
พอดูก็รู้ว่าเป็นหมอที่มีความรู้มากมายและเป็นมาหลายปี
การกระทำของพวกเขารวดเร็วมาก ราวกับว่าสำหรับพวกเขานั้นเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
กู้ชูหน่วนเอียงตัวอยู่ ตอนที่สะลึมสะลือได้ยินน้ำเสียงอิดโรยของเซี่ยวอวี่เซวียนกำลังพูดกับเยี่ยจิ่งหานอยู่
“เขาตามสังหารอยู่ทางด้านหลัง”
“อืม”
ใครตามสังหารอยู่ข้างหลัง?
เหวินเส่าอี๋?
น่าจะเป็นเหวินเส่าอี๋ มีเพียงเหวินเส่าอี๋ที่ทำให้เยี่ยจิ่งหานหวาดกลัวอย่างนี้
“ตระกูลเหวินเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเพลิงฟ้า นี่คืออาณาบริเวณของพวกเขา พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี”
“อืม”
เผ่าเพลิงฟ้าอีกแล้ว เหตุใดมันถึงคุ้นอย่างนี้นะ?
“ท่านไม่ควรสิ้นเปลืองชี่แท้”
“พักผ่อนก่อน ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดแล้ว”เยี่ยจิ่งหานกล่าวขึ้น
“ข้าบาดเจ็บสาหัส พาข้าไปด้วยมันคือความยากลำบาก ท่านรีบพามู่หน่วนไปเถิด นี่คือขวานผานกู่ หากว่าได้….ขอให้ท่านพานางไปถึงรัฐเยี่ยด้วย อย่างน้อยที่นั่นก็ไม่มีผู้ใดตามสังหารนาง แคกๆ…..”
“หากว่าเจ้าตาย อาหน่วนไม่มีทางสงบใจมีสุขหรอก พวกเจ้าสองคน ข้าล้วนไม่มีทางละทิ้งใครทั้งนั้น”
“นี่เป็นแผนการที่เขาจงใจวางไว้ เขาต้องการที่จะเอาท่านทิ้งไว้ที่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็งถอนรากถอนโคนทั้งหมด รวมถึงชีวิตของท่านด้วย”
“ข้ารู้”
“เช่นนั้นท่านยังเคลื่อนไหวไพ่ที่ยังไม่ได้เปิดทั้งหมด หรือว่าท่านไม่อยากให้อาหน่วนฟื้นคืนชีพแล้ว”
กู้ชูหน่วนรู้สึกหนักอึ้งที่หัวมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาพูดคุยอะไรกัน นางไม่ได้ยินแล้ว
นางได้ยินเพียงเสียงฉินดังขึ้น ยิ่งดังยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆๆ
บรรยากาศภายในรถม้าอึมครึมมากขึ้นๆ
นางรู้ เหวินเส่าอี๋ตามมาแล้ว
อีกทั้งอยู่ห่างจากพวกนางไม่ไกล
รอนางตื่นมาอีกครั้ง ก็ได้อยู่ที่ห้องไม้บนภูเขาลึกแห่งหนึ่งแล้ว
ห้องนี้นางคุ้นชินมาก
เมื่อไม่นานมานี้ นางพักอยู่ที่นี่สิบเอ็ดวันกับเยี่ยจิ่งหาน
“แม่นางมู่ ท่านตื่นแล้ว ดื่มยาก่อนเถิด”
ชิงเฟิงเห็นนางตื่น ใบหน้าแสดงออกถึงความดีใจ จากนั้นยกถ้วยยามาข้างกายนาง
กู้ชูหน่วนเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บจนไม่ไหวแล้ว
เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะสลบไปทะลวงเข้ามาในใจ
นางรีบกล่าวขึ้นว่า“เซี่ยวอวี่เซวียนล่ะ?เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชิงเฟิงหุบลง
“ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จัดชั่วดีจริงๆ เพื่อท่านแล้ว นายท่านของข้าไม่เพียงนำกำลังคนทั้งหมดที่มีอยู่ในดินแดนวิญญาณเยือกแข็งมาต่อต้านการโจมตีของเหวินเส่าอี๋ แม้แต่ตัวเขาเองยังออกโรงเอง ท่านก็ไม่สนใจใส่ใจเขาสักหน่อยเลย กลับกันมาถามหาเซี่ยวอวี่เซวียนก่อนแล้วนี่นะ”
“เซี่ยวอวี่เซวียนเป็นอย่างไรบ้าง”
“บาดเจ็บสาหัส นายท่านได้เชิญหมอที่ดีที่สุดมารักษาให้เขา อีกทั้งสูญเสียชี่แท้เพื่อรักษาบาดแผลพวกท่านด้วย ตอนนี้พวกท่านสองคนไม่ตายหรอก ส่วนนายท่านนะพูดยาก”
วรยุทธ์ของนายท่านกับเหวินเส่าอี๋สูสีกัน ไม่มีใครเอาเปรียบใครได้
แต่ตอนนี้
เหวินเส่าอี๋วางแผน ทำให้นางและเซี่ยวอวี่เซวียนบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งทำให้แต่ละสำนักใช้กำลังปราบนาง
เขารู้ว่านายท่านไม่มีทางมองพวกเขาตายได้ เลยจำเป็นต้องใช้ชี่แท้รักษาช่วยชีวิตพวกเขาไว้
พอนายท่านสูญเสียชี่แท้ปริมาณมาก นายท่านก็จะสู้เหวินเส่าอี๋ไม่ได้
ที่น่าสะอิดสะเอียนคือ
เขายังใช้แผนการกลอุบายแต่ละอย่าง บีบบังคับให้นายท่านจำใจต้องโยกย้ายกำลังคนทั้งหมดออกมา
เมื่อส่งไปปกป้องคนของนาง ก็ถูกคนของเหวินเส่าอี๋สังหาร
แม้แต่ชีวิตรอดล้วนไม่มี
การสู้รบนี้ พวกเขาไม่รู้เลยว่าต้องสูญเสียพี่น้องที่สละชีพไปเท่าไหร่
กู้ชูหน่วนได้ยินว่าเซี่ยวอวี่เซวียนมิเป็นอะไร ก็วางใจลง
ไม่นานนางกล่าวถามขึ้นอีกว่า“นายท่านของท่านสู้พวกเขาได้ไหม?”
“วางใจเถอะ ไม่มีใครในโลกนี้ทำอะไรกับนายท่านของข้าได้หรอก”
หากอยู่ที่รัฐเยี่ย ชิงเฟิงสามารถกล่าวพูดได้อย่างภาคภูมิใจ
แต่ที่นี่คือดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง เป็นอาณาบริเวณของเหวินเส่าอี๋
พละกำลังของพวกเขาแกร่งกล้า
อีกทั้งนายท่าน….
เขาก็เป็นห่วง
เงยหน้ามองกู้ชูหน่ด้วยสีหน้าที่ไม่ดี
เขากล่าวออกมาอย่างไม่มั่นใจหนึ่งประโยคว่า“ท่านคงไม่ใช่กลัวว่านายท่านจะแพ้ แล้วคนเหล่านั้นจะตามมาสังหารถึงที่นี่หรอกนะ….”
ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนได้ยินที่ชิงเฟิงพูดหรือไม่ นางหลับตาลงอย่างเงียบๆ บนตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศลมหายใจที่เศร้าโศก
ชิงเฟิงไม่คุ้นชินท่าทางที่เศร้าสลดหดหู่ของนาง น้ำเสียงจึงนุ่มนวลขึ้นมาบ้าง
“หากครอบครัวของท่านมีชีวิตรอดอยู่ ก็ต้องหวังว่าท่านจะมีชีวิตรอดอย่างปลอดภัยแน่นอน”
กู้ชูหน่วนกำมือทั้งสองข้างแน่น และลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความเศร้าโศกที่มีเหือดหายไปหมด มันแทนที่ด้วยความยืดหยัดแข็งแกร่ง
นางพยายามลองลุกขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ล้มเหลว รอยบาดแผลที่อยู่บนร่างกายเปิดออกมา เลือดสดไหลออกมีทีละนิด
“ท่านไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?ไม่ง่ายที่นายท่านจะลากท่านออกมาได้ หยุดเคลื่อนไหวได้แล้ว”
กู้ชูหน่วนละความพยายามแล้ว
เมื่อมองบนร่างกายของนาง บาดแผลของนางหนักกว่าที่เป็นมา
นางต้องการเวลารักษาบาดแผล
“ประคองข้าลุกขึ้น เพื่อไปดูเซี่ยวอวี่เซวียนสักหน่อยได้หรือไม่?”
“นายท่านรู้ตั้งนานแล้วว่าท่านละทิ้งคุณชานเซี่ยวไม่ได้ เพราะฉะนั้นเลยเอาท่านไว้ในห้องเดียวกันกับคุณชายเซี่ยว นั่น”
ชิงเฟิงเปิดม่านออก จึงเห็นเซี่ยวอวี่เซวียนนอนอยู่บนเตียงหลังหนึ่ง
ดวงตาทั้งสองข้างหลับสนิท ใบหน้าซีดเผือด บนร่างกายห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผลจำนวนมาก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่น
“ประคองข้าไปหน่อย”
“ไม่ได้ ท่านยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้”
“เช่นนั้นท่านช่วยทำด้ายให้ข้าหน่อย มัดปลายข้างหนึ่งกับชีพจรของเขา และให้ปลายอีกข้างหนึ่งกับข้า”
“เอ่อ….ได้ๆ”
ชิงเฟิงทำตามที่นางบอก นำด้ายแดงอีกฝั่งมัดมาให้นาง
“คุณชายเซี่ยวกับจอมมารเป็นสหายที่ดีที่สุดของพระชายา ต่อให้นายท่านตาย ก็ไม่มีทางปล่อยให้คุณชายเซี่ยวเป็นอันตราย ท่านยังไม่เชื่อนายท่าน”
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าเมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามีบุญคุณความแค้นอะไรกัน และนางก็ไม่อยากจะรับรู้ด้วย
นางไม่เชื่อคนอื่น นางชื่อเพียงตนเอง
กู้ชูหน่วนจับแมะชีพจรของเซี่ยวอวี่เซวียนผ่านเส้นด้าย
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยความแปลกใจว่า“พวกเจ้าให้เขากินยาอายุวัฒนะระดับแปด?”
“ใช่ นั่นคือยาที่เผ่าหยกมอบแก่นายท่านก่อนที่นายท่านจะมารัฐปิง ทั้งหมดมีสองเม็ด ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน นายท่านก็ตัดใจใช้ยาสองเม็ดนั่นไม่ลงเลย ไม่เพียงแค่เป็นยาอายุวัฒนะระดับแปดที่หายากล้ำค่านะ แต่มันเป็นเพราะเมื่อก่อนพระชายากลั่นหลอมออกมา”
”ระดับแปด….วิชาหลอมยาของพระชายาท่านนี่เก่งมาก”เยี่ยจิ่งหานได้ลงทุนอย่างมาก
กู้ชูหน่วนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นบริเวณจุดตันเถียน น่าจะเป็นผลของยาอายุวัฒนะระดับแปด
หากไม่ได้นาอายุวัฒนะระดับแปด เกรงว่านางกับเซี่ยวอวี่เซวียนตายนานแล้ว
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยน้ำเสียงโรยราว่า“เขายังไม่ได้พ้นขีดอันตราย”
“นายท่านพยายามแล้ว”
เมื่อมองไปที่ลมหายใจอิดโรยของเซี่ยวอวี่เซวียน และใบหน้าที่ซีดเซียว นึกถึงตอนอยู่หุบเขาอสุรกายที่เขาเสียสละชีวิตเพื่อช่วยนาง ปกป้องนางด้วยชีวิตของเขาในจวนมู่ กู้ชูหน่วนรู้สึกว่าตนเองเป็นหนี้เซี่ยวอวี่เซวียนอย่างมากมาย
“ตู้ม…..”
พื้นดินสั่นสะเทือน สถานการณ์ด้านนอกแปรผัน แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล ยังสัมผัสได้ถึงการสู้รบอันหนักหน่วง
ชิงเฟิงหน้าถอดสี ไม่สนใจกู้ชูหน่วนแล้ว เขาวิ่งอุตลุดไปทางหน้าต่าง
ท้องฟ้าแจ่มใสถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำในทันใด และอุณหภูมิก็ลดลงอย่างหวุดหวิด หนาวจนต้องทำให้คนกระชับชุดแน่น
เมฆดำจะสลายไปชั่วขณะหนึ่ง และรวมตัวกันอีก ตามด้วยลมพัดและฟ้าร้อง อาจมีฝนตกหนักได้ตลอดเวลา
ใจของกู้ชูหน่วนจมดิ่งสู่ก้นบึ้งหัวใจ
เหวินเส่าอี๋ขับเคลื่อนน้ำได้
ด้านนอกคือเหวินเส่าอี๋จริงๆ
แม้จะรู้ว่าเป็นเหวินเส่าอี๋นานแล้ว ใจของกู้ชูหน่วนก็ยังอดไม่ได้ที่จะหนักอึ้งขึ้นมา
แต่ละสำนักบนพื้นพิภพปราบปราม
แม้แต่ฝ่ายราชการยังตามสังหาร
บวกเหวินเส่าอี๋เข้าไปด้วย
ได้ยินน้ำเสียงของชิงเฟิง พละกำลังของเหวินเส่าอี๋ไม่แผ่วเลย
ภายใต้การโจมตีสามด้าน อย่าพูดว่าเยี่ยจิ่งหานได้สูญเสียชี่แท้เพื่อช่วยพวกเขาเลย
ต่อให้เขาอยู่ในชั้นสูงสุด ก็ไม่อาจต้านทานสู้กับคนจำนวนมากขนาดนั้นได้