ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 7 ท่านพ่อ อย่าตีเลย

ตอนที่ 7 ท่านพ่อ อย่าตีเลย

ลู่เจียวมองพวกเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วสั่งต้าเป่าอีกครั้ง “ไปหาไม้เรียวมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” 

ครั้งนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ขวางนาง สิ่งที่ต้าเป่าทำในวันนี้ สมควรได้รับการสั่งสอนจริงๆ ไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าอาจทำเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้ 

เวลานี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกเสียใจมาก เสียใจที่ตนทำเรื่องเช่นนั้นต่อหน้าเด็กๆ เขาควรคิดหาวิธีอื่นตั้งแต่แรก 

ต้าเป่าน้ำตาคลอ เดินพล่านออกไปด้านนอกด้วยสองขาที่สั่นงันงก 

เขาต้องถูกมารดาใจอำมหิตคนนี้ตีตายแน่ๆ ฮือๆ เขาต้องตายแน่ๆ 

แม้จะกลัวเพียงใด ทว่าต้าเป่าก็หาไม้เรียวที่ใช้ตีพวกเขาประจำจนเจอ 

ลู่เจียวยื่นมือไปรับไม้เรียวไว้ มองแฝดสี่ยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน แล้วพูดอย่างเฉยเมย 

“พวกเจ้าสามคนดูไว้ให้ดี ถ้าวันหลังยังทำเรื่องไม่ดีอีก ต้องถูกลงโทษเช่นนี้เหมือนกัน” 

นางพูดจบก็สั่งต้าเป่า “ยื่นมือออกมา” 

ต้าเป่ายื่นมือที่ผอมจนเหลือแต่หนังออกมา ลู่เจียวเห็นมือของเขาก็ตีไม่ลง ทว่าหากไม่อบรบเสียบ้าง ภายภาคหน้าพวกเขาอาจทำความชั่วที่ไม่สมควรให้อภัยอีก ขณะที่ตีฝ่ามือของต้าเป่า นางก็พูดเสียงเรียบ 

“ใช่ ข้าผิดเองที่ที่ผ่านมาเฆี่ยนตีพวกเจ้าไปเรื่อย แต่ว่าข้าเป็นเพียงหญิงบ้านนอกกคนหนึ่ง ต่อให้จะเสียชื่อก็ไม่เป็นไร ทว่าพวกเจ้ายังต้องร่ำเรียนหนังสือแล้วสอบข้าราชการ ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าพวกเจ้าเคยวางยาฆ่ามารดาตัวเอง แล้วจะรับราชการเป็นขุนนางได้อย่างไร” 

ลู่เจียวพูดแทงใจต้าเป่ามาก เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าก็พานร้องไห้ตามไปด้วย ขณะเดียวกันพวกเขาก็ขอร้องอ้อนวอนแทนพี่ใหญ่ตัวเอง 

“อย่าตีท่านพี่เลย วันข้างหน้าพวกเราไม่กล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว” 

“ข้าก็ไม่กล้าอีกแล้ว” 

“พวกเราจะไม่ทำร้ายท่านอีก จะยอมให้ท่านเฆี่ยนตีพวกเราต่อไป” 

ลู่เจียวได้ยินคำพูดพวกเขา ก็ยิ่งตีไม่ลง แรงมือแผ่วลงไปมาก สุดท้ายแค่ตีฝ่ามือของต้าเป่าเพียงยี่สิบที ถือว่าลงโทษเบาลงไปมากแล้ว 

“จำไว้ วันข้างหน้าจะทำอะไรก็ควรคิดให้รอบคอบ เรื่องใดควรทำไม่ควรทำ ถ้าไม่แน่ใจ ก็อย่าไปทำ” 

แฝดสี่แค่สี่ขวบเท่านั้น บางเรื่องก็พอรู้บ้างแล้ว ทว่าต่อให้บางเรื่องจะฟังไม่รู้ความ ก็ตั้งอกตั้งใจฟังอย่างมาก 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเตียงหรี่ตามองสตรีที่อยู่ด้านข้าง 

ตอนนี้ หญิงผู้นี้สั่งสอนบุตรชายได้ดีจริงๆ ไม่ได้โง่เขลาเหมือนที่ผ่านมา ทว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่เชื่อว่านางจะมีความอดทนต่อเด็กๆ มากเช่นนี้ คิดว่าคงมีคนคอยชี้ทาง หรือจะเป็นแม่ยายของเขา 

แต่ก่อนแม่ยายเคยเป็นสาวใช้ในตระกูลชั้นสูง ประสบการณ์ที่สั่งสมมาย่อมมากกว่าหญิงในชนบทคนอื่นๆ 

คิดว่าเรื่องพวกนี้แม่ยายคงเป็นสอนนาง เซี่ยอวิ๋นจิ่นแสยะยิ้มดูหมิ่น มองลู่เจียวด้วยความเย็นชา 

ลู่เจียวกวาดสายตามองเซี่ยอวิ๋นจิ่นและแฝดสี่ แล้วพูดเสียงเนือย 

“ตอนนี้ข้าเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่าพวกเจ้าเกลียดข้าแค่ไหน” 

นางพูดจบก็ชะงักไป แล้วหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเตียง “พวกเรามาคุยกันดีๆ เถอะ” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ส่งเสียงใดๆ ลู่เจียวเอ่ยขึ้นช้าๆ 

“เซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าก็น่าจะรู้ว่าแต่ก่อนตอนข้าอยู่บ้านตัวเอง ข้าไม่ได้เป็นเช่นนี้ ตอนนั้นแม้ข้าจะดื้อด้านสักหน่อย แต่ก็ไม่เคยไร้เหตุผลเช่นนี้” 

ลู่เจียวพูดความคิดตอนที่ร่างเดิมอยู่ที่บ้านพ่อแม่ออกมา นางแค่ดื้อด้านเท่านั้น ทว่าก็ถือว่าดีกับคนนอก ไม่เหมือนตอนนี้ที่พูดจาหยาบคาย ทำร้ายคนอื่นอย่างไร้เหตุผล 

นางเปลี่ยนไปเช่นนี้ เหตุผลส่วนหนึ่งก็มาจากเซี่ยอวิ๋นจิ่น 

“ข้าเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ ก็เพราะขอแล้วไม่เคยได้ ข้าคาดหวังว่าจะได้แต่งเข้าตระกูลเซี่ย อยากให้เจ้าชอบข้า ดีกับข้าเสียหน่อย แต่น่าเสียดาย ในสายตาของเจ้าไม่เพียงแต่ไม่มีข้า แล้วยังรังเกียจข้าอีก” 

ความฝันงดงามที่อยากแต่งเข้าตระกูลเซี่ยพังทลาย เดิมทีนึกว่าจะได้สามีที่ดี สุดท้ายกลับได้สามีที่เฉยเมยต่อนาง ร่างเดิมเลยยิ่งทำตัวไร้เหตุผล ทำตัวเอาแต่ใจ ถึงขั้นที่ตีบุตรชายตัวเองอย่างไร้เหตุผล ก็เพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่นมักจะทำให้นางโมโหอยู่บ่อยๆ 

ร่างเดิมเห็นว่าตนเองตีบุตรแล้วทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นโมโห ด้วยเหตุนี้จึงใช้วิธีนี้แก้แค้นเขา ทว่านานวันเข้ากลับยิ่งรุนแรงกับเด็กๆ 

แน่นอน เหตุผลอีกหนึ่งประการคือ เมื่อได้ทำเช่นนี้ ลู่เจียวรู้สึกว่าชีวิตมีสีสันมากขึ้น ร่างเดิมเลยทำตามใจตัวเอง 

ลู่เจียวจึงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส นางเอาเหตุผลนี้มาอ้างว่าต้องการเปลี่ยนแปลงนิสัยแย่ๆ ของตัวเอง ม่อย่างนั้น ให้นางทำตัวเอาแต่ใจและไร้เหตุผลต่อไปเหมือนร่างเดิมคงเหนื่อยแย่ 

“ตอนนี้ข้าเหนื่อยแล้ว ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอีก ข้าตัดสินใจแล้ว พวกเราหย่ากันเถอะ” 

“หย่า?” 

ในที่สุด สีหน้าของเซี่ยอวิ๋นจิ่นเปลี่ยนไป แววตาหม่นหมองจนอธิบายไม่ถูก มุมปากยิ้มเย้ยหยันชัดเจนกว่าเดิม 

หญิงผู้นี้พูดจาอ้อมค้อมมากมายขนาดนี้ ก็เพราะอยากหย่าร้าง แยกทางกับสามีและบุตรนี่เอง 

นี่เห็นเขาพิการ ไม่อยากจะอยู่ปรนนิบัติเขาแล้วใช่หรือไม่ 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยกมุมปากขึ้นอย่างดูหมิ่น นัยน์ตาเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งพันปี 

ลู่เจียวมองสีหน้าเย็นชาของเขาก็พูดอะไรไม่ออก ทว่ายังคงดึงดันพูดต่อ 

“แต่เจ้าวางใจเถอะ ไม่ใช่ว่าจะหย่ากันตอนนี้หรอก รอให้ขาของเจ้าหายดีค่อยหย่ากัน ก่อนหน้านี้หมอที่หอเป่าเหอกล่าวว่าในค่ายทหารมีหมอมากฝีมือที่รักษาขาของเจ้าได้ไม่ใช่หรือ ข้าจะไปหาหมอมาผ่าตัดรักษา ถ้าขาของเจ้าดีขึ้น พวกเราค่อยหย่ากัน เจ้าว่าเช่นนี้ดีหรือไม่” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นแสยะยิ้ม “จะหาหมอทหารฝีมือพระกาฬมารักษาขาข้า เจ้าจะไปหาที่ไหน” 

ลู่เจียวเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก ข้าต้องหาเจอแน่นอน เจ้าวางใจเถอะ” 

“ถ้าหาไม่เจอล่ะ” 

“หาไม่เจอก็ไม่หย่า ก่อนที่ข้าจะออกจากชีวิตเจ้า ก็ต้องรักษาขาของเจ้าให้หายก่อน” 

ลู่เจียวไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย ลำพังตัวนางเองก็ผ่าตัดได้แล้ว ตอนนี้มียารักษา อุปกรณ์และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องในห้วงอากาศ แทบจะไม่ขาดสิ่งที่ต้องใช้ในการผ่าตัดเลย 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นจับจ้องลู่เจียวด้วยสายตาลุ่มลึก นางหน้าโง่คนนี้ดูเหมือนจะฉลาดขึ้นมาหน่อย คำพูดคำจาและการกระทำ ช่างแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดูๆ แล้วแม่ยายคงเสียเวลาสั่งสอนนางไปไม่น้อย 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียวเพียงปราดเดียวเงียบๆ “หากหาหมอที่มารักษาข้าหายได้จริงๆ วันที่รักษาหาย ข้าจะส่งใบหย่าให้เจ้าเอง” 

“ได้” 

ลู่เจียวดีอกดีใจมาก ดีจริงๆ ตอนนี้แค่ต้องหาโอกาสเหมาะๆ ผ่าตัดขาของเขาเท่านั้น จากนั้นก็ให้เขาพักฟื้นสองสามเดือน นางก็จะได้ออกจากบ้านเซี่ยเสียที 

ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วรู้สึกจิตใจแจ่มใสขึ้นมาทันที นางหันไปหาแฝดสี่ที่อยู่ด้านหลัง “ตอนนี้พวกเจ้าเห็นหรือยัง ข้ากับบิดาพวกเจ้าใกล้จะหย่ากันแล้ว ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องกังวลว่าข้าจะตีพวกเจ้าอีก” 

แฝดสี่แลกเปลี่ยนสายตากัน ไม่รู้ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร 

มารดาจิตใจอำมหิตจะจากไป พวกเขาน่าจะดีใจถึงจะถูก เหตุใดถึงไม่มีความสุขเล่า 

แฝดสี่อ้ำอึ้ง ลู่เจียวลุกขึ้นเดินออกไป ตอนเดินผ่านต้าเป่าก็เห็นมือเล็กๆ บวมแดง อยากจะทายาให้เขา ทว่าพอนึกว่าพฤติกรรมวางยาฆ่ามารดา จึงอยากให้เด็กคนนี้หลาบจำเสียก่อน 

“ข้าจะออกไปทำมื้อเช้า” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนางจากไป สายตาเจือความดูหมิ่น เขาจะคอยดูว่านางจะหาหมอทหารมาผ่าตัดขาเขาได้อย่างไร 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดพลางปั้นหน้าเย็นชาใส่แฝดสี่ 

“ต้าเป่า เอาไม้เรียวมานี่” 

ต้าเป่าสะดุ้งตกใจ เขายังเจ็บฝ่ามืออยู่เลย หญิงสารเลวนั่นเพิ่งตีเขา ท่านพ่อจะตีเขาอีกแล้วหรือ 

เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าต่างขอร้องอ้อนวอนเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ อย่าตีเลย” 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท