ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 17 หมดกำลังใจ

ตอนที่ 17 หมดกำลังใจ

ลู่เจียวบังเอิญได้ยินคำพูดนี้พอดี นางหันหน้ามองเสิ่นซิ่วที่อยู่ด้านหลัง แล้วพูดด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม 

“ภรรยาเอ้อร์โก่ว วันหลังอย่าส่งของกินมาให้อวิ๋นจิ่นของข้าอีก เจ้าเป็นหญิงหม้าย เอาแต่ส่งของกินมาให้สามีคนอื่นเช่นนี้ ระวังชื่อเสียงจะเสื่อมเสียเอา” 

ลู่เจียวพูดจบก็หันหลังเดินจากไป คนในหมู่บ้านเซี่ยที่อยู่ด้านหลังต่างก็ฉงนสงสัย “ภรรยาเอ้อร์โก่วหรือ ใครคือภรรยาเอ้อร์โก่ว” 

“แล้วใครคือหญิงหม้าย ใครกันแน่ที่ส่งของกินไปให้อวิ๋นจิ่นทุกวี่ทุกวัน” 

ทุกคนเสวนากัน ก็นึกถึงชื่อของสามีเสิ่นซิ่ว เหมือนจะชื่อว่าซูเอ้อร์โก่ว ภรรยาซูเอ้อร์โก่วก็หมายถึงเสิ่นซิ่วน่ะสิ เสิ่นซิ่วเสียสามีไป เลยกลายเป็นหญิงหม้ายอย่างไรเล่า 

ทุกคนทอดสายตาไปยังเสิ่นซิ่ว นึกถึงคำพูดของลู่เจียว สีหน้าก็ไม่ค่อยดี 

พวกเขารู้ว่านางอยากออกเรือนไปเป็นภรรยาของอวิ๋นจิ่น นางกับอวิ๋นจิ่นในวัยเด็กเหมาะสมกัน ทว่าอวิ๋นจิ่นไม่เคยบอกว่าจะสู่ขอนาง ทั้งสองตระกูลก็ไม่เคยให้พวกเขาหมั้นหมายกันด้วย 

ตอนนั้นลู่เจียวยังเคยโวยวายเพราะเรื่องนี้ นึกไม่ถึงว่าเสิ่นซิ่วที่ออกเรือนไปแล้วเป็นหม้ายเพราะสามีตายจาก ถึงกับยังมาตามเกี้ยวสามีคนอื่นต่อ 

นี่มันความเหมาะสมไปแล้ว 

เสิ่นซิ่วได้ยินรอบทิศวิพากษ์วิจารณ์ตนเช่นนี้ก็เครียดจนร้องไห้ นางสาวเท้าวิ่งหนีท่ามกลางเสียงนินทาของผู้คนด้านหลัง 

ลู่เจียวไม่สนใจเรื่องพวกนี้ นางกลับไปต้มยาให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นต่อ 

ตอนต้มยาเสร็จ ที่นอกรั้วบ้านพวกเขาก็มีคนมาเยือน ล้วนเป็นคนทั้งครอบครัวป้ารอง 

มีทั้งป้ารอง เซี่ยไหลฝู จ้าวซื่อและเซี่ยเสี่ยวเป่า 

ทว่าพวกเขากลับไม่ได้เข้ามา เพียงตะโกนจากนอกรั้วว่า “ภรรยาอวิ๋นจิ่นอยู่ไหม” 

ลู่เจียวกำลังยกยาต้มออกมา พอเห็นทั้งครอบครัวป้ารองมา ก็รีบเข้าไปต้อนรับ “ท่านป้า พวกท่านมาที่นี่ได้อย่างไร” 

ป้ารองพูดด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “พวกเรามาขอบคุณที่เจ้าช่วยเอาก้างปลาออกให้เสี่ยวเป่าน่ะสิ” 

ลู่เจียวเปิดประตูไม่ไผ่ เชิญพวกเขาเข้ามา “ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” 

เซี่ยไหลฝูมองจ้าวซื่อเพียงปราดเดียว จ้าวซื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองไม่เคยเป็นมิตรกับลู่เจียวตลอดมา เลยเดินขึ้นหน้าไปขอโทษทันที 

“น้องสะใภ้ พี่สะใภ้คนนี้ขอโทษจากใจจริง อย่าโกรธข้าเลย ข้าเป็นคนหยาบและปากจัดเท่านั้น” 

จ้าวซื่อพูดจบก็ล้วงเหรียญทองแดงเสื้อห้าสิบเหรียญออกจากแขนยัดเข้ามือลู่เจียว แต่ลู่เจียวกลับผลักกลับไป 

“พี่สะใภ้ ข้าช่วยด้วยความเต็มใจ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ท่านเอากลับไปเถอะ” 

จ้าวซื่อยังคงยื่นให้นางต่อ สุดท้ายป้ารองก็พูด “เอาเถอะ แค่จำบุญคุณครั้งนี้ของเจียวเจียวไว้ก็พอ วันข้างหน้ายังมีโอกาสได้ตอบแทน” 

ลู่เจียวยิ้มด้วยความเกรงใจ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจริงๆ ไม่ต้องจดจำเป็นพิเศษหรอก” 

เซี่ยไหลฝูและจ้าวซื่อมองลู่เจียวเปลี่ยนไป นางเปลี่ยนไปจริงๆ เปลี่ยนเป็นคนดี ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ 

เซี่ยไหลฝูมองลู่เจียวพร้อมถามว่า “ตอนนี้อวิ๋นจิ่นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว” 

“ถือว่าสบายดี” 

เซี่ยไหลฝูพูดขึ้น “พวกเราเข้าไปเยี่ยมเขาหน่อยได้ไหม” 

ลู่เจียวจึงพาพวกเขาไปที่เรือนตะวันออก พอเข้าไปถึงในเรือน กลับไม่มีแม้แต่เก้าอี้รับแขก 

เซี่ยไหลฝูเห็นบ้านชำรุดเช่นนี้ ก็ขุ่นเคืองใจที่ทั้งครอบครัวเซี่ยเหล่าเกินเลือดเย็นแล้งน้ำใจ แววตาที่จับจ้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นนั้นเคล้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ 

“อวิ๋นจิ่น รู้สึกอย่างไรบ้างแล้ว ดีขึ้นหน่อยไหม” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นแววตาเห็นอกเห็นใจของเซี่ยไหลฝู ทั้งร่างแผ่ความยะเยือกโดยไม่รู้ตัว แววตาดูหม่นหมองขึ้นมาทันที 

แต่ก่อนคนพวกนี้มองเขาด้วยแววตานับถือราวกับตนไม่ใช่คนใต้หล้าเดียวกับพวกเขา 

ตอนนี้เขากลับกลายเป็นผู้ที่คนอื่นเวทนา ภายในใจเสมือนอัดอั้นอารมณ์ความรู้สึกมากมายไว้ ทุกข์ทรมานเหลือจะกล่าว 

“ขอบคุณพี่ไหลฝูที่เป็นห่วง ข้าไม่เป็นไรแล้ว” 

เซี่ยไหลฝูถอนหายใจ ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ จะไม่เป็นไรได้อย่างไร แม้ดูเผินๆ คล้ายไม่หนักหนา แต่ดูจากสีหน้าของเขาก็รู้ว่าไม่สู้ดีนัก 

เซี่ยไหลฝูใคร่อยากช่วยเขา แต่นึกถึงยาหนึ่งชุดที่ราคาสูงลิ่วถึงหนึ่งตำลึงกว่าก็จนปัญญาจริงๆ ทำได้เพียงปลอบโยนเขา 

“อวิ๋นจิ่น เจ้าอย่าคิดมากเลย คนดีสวรรค์ย่อมคุ้มครอง ต้องดีขึ้นแน่นอน” 

จ้าวซื่อที่อยู่ด้านหลังพยักหน้าคล้อยตาม ป้ารองเดินไปกุมมือเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้วปลอบโยน “คนดีต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว ต้องดีขึ้นแน่นอน” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “อืม” 

เซี่ยไหลฝูและจ้าวซื่อถามถึงแฝดสี่ด้วยความเป็นห่วง แล้วยังกำชับให้เซี่ยต้าเป่าที่อยู่ด้านข้างดูแลน้องๆ ให้ดี เซี่ยต้าเป่าพยักหน้ารับระรัว 

สุดท้ายทั้งครอบครัวก็ออกจากห้อง ลู่เจียวไปส่งพวกเขา แล้วค่อยกลับไปป้อนยาให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงยังคงปั้นหน้าปั้นปึ่ง ผ่านไปพักใหญ่ก็ไม่ยอมขยับตัว ราวกับต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวงอกเงยไม่ได้อีก เขามองลู่เจียวอย่างสิ้นหวัง 

“ลู่เจียว หากข้าเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าจะดูแลแฝดสี่ให้ดีใช่หรือไม่” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งจะเอ่ยจบ ลู่เจียวยังไม่ทันได้พูดอะไร แฝดสี่ก็ตื่นตกใจจนร้องไห้ฟูมฟาย 

“ท่านพ่อ” 

“ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อตาย” 

“ท่านพ่อรีบดื่มยาเถอะ ดื่มแล้วจะดีขึ้นเอง” 

ลู่เจียวจ้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังพูดบ้าอะไรอีก ทำให้เด็กๆ ตกใจหมดแล้ว” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหน้าหนีเข้าด้านใน เห็นท่าทางเศร้าเสียใจของแฝดสี่ เขาก็เศร้าใจไม่น้อย 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นสงสารเด็กๆ ต่อว่าตัวเองในใจว่า น้ำเข้าสมองหรือไร 

เขาจะฝากแฝดสี่ไว้กับนางได้อย่างไร นางเป็นคนอย่างไร เขาไม่รู้เชียวหรือ ตอนนี้นางทำดีกับแฝดสี่ ก็แค่เพราะอยากหย่าร้างกับเขา หรืออาจจะอยากสานความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเท่านั้น 

หากเขาตาย นางต้องกระทำรุนแรงกับแฝดสี่แน่นอน ฉะนั้นเขายังตายไม่ได้ 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งนึกได้ ทั้งร่างเปี่ยมชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาเริ่มเป็นประกาย ทั้งตัวราวกับดอกเหมยที่เบ่งบานอย่างงดงามในฤดูหนาว 

เขาจับจ้องแฝดสี่ด้วยแววตาอ่อนโยน 

“เอาเถอะ พวกเจ้าอย่าร้องเลย พ่อไม่เป็นอะไรแล้ว ดื่มยาแล้วจะหายเอง รอให้หายก่อน พ่อค่อยสอนหนังสือพวกเจ้า” 

ต้าเป่าเช็ดน้ำตาตัวเอง แล้วชี้ไปที่ถ้วยยาในมือลู่เจียว 

“เช่นนั้นท่านรีบกินเถอะ” 

ลู่เจียวจ้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยความดุดันปราดหนึ่ง ยื่นมือพยุงร่างที่ตะแคงข้างของเขาขึ้น ป้อนยาให้เขาดื่ม 

ครั้งนี้เขากลับให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่นานก็ดื่มหมด 

แฝดสี่เห็นเขาดื่มยาจนหมดก็หยุดร้องไห้ทันที ทว่าแววตายังคงแดงระเรื่อ ใบหน้าน้อยๆ เต็มไปด้วยความกังวล แต่ละคนกลัวจนต้องนั่งข้างเตียงเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ไปไหน 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้หัวใจก็เหมือนถูกบาด นี่คือบุตรของเขา เขาจะยอมทอดทิ้งไปได้อย่างไร 

ต่อให้เขาจะเป็นพิการ ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อบุตร เด็กกำพร้าพ่อน่าเวทนาเพียงใด 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยายามยื่นมือไปลูบศีรษะของแฝดสี่ “เอาเถอะ ข้าไม่ดีเอง ไม่ควรพูดจาทำร้ายพวกเจ้า นี่ฟ้าก็มืดแล้ว นอนกันเถอะ” 

แฝดสี่ซบข้างกายเขาอย่างระมัดระวัง ต่างยื่นมือข้างหนึ่งไปจับเสื้อของเขาไว้ กลัวว่าบิดาจะทิ้งพวกเขาไป 

ลู่เจียวเห็นภาพนี้ก็รู้สึกทรมานใจ นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร 

“ข้าเคยพูดว่าจะหาคนมารักษาขาของเจ้าให้หาย ก็ต้องทำให้ได้ วันข้างหน้าก็อย่าพูดอะไรที่ทำให้พวกเขาเสียขวัญอีก” 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท