ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 24 แมลงปอไม้ไผ่

ตอนที่ 24 แมลงปอไม้ไผ่

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดอย่างละเอียด จู่ๆ ก็นึกถึงก่อนหน้านี้ที่ลู่เจียวได้รับบาดเจ็บตรงศีรษะ เหมือนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นมา นางก็ดูแปลกไป ฉะนั้นในตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่ลู่เจียวจะไม่ใช่คนเดิม 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงความเป็นได้นี้แววตาก็เยือกเย็นขึ้นมา นัยน์ตาดำสนิททอประกายแสงเย็นเฉียบ 

ทว่าผ่านไปไม่นาน เขาก็นึกได้ว่าลู่เจียวในตอนนี้ไม่ได้โหดร้ายเหมือนนางในตอนแรก กลับเป็นคนจิตใจดี แล้วยังรักและเป็นห่วงแฝดสี่คนด้วยซ้ำ 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกถึงเรื่องพวกนี้ก็ผ่อนคลายลง ทว่าภายในใจยังคงหวาดระแวง 

ต่อให้ภายนอกคนคนนั้นจะดูเหมือนไม่ประสงค์ร้าย แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังนางจะไม่มีกลอุบายใดๆ ฉะนั้นเขายังต้องจับตาดูนางไปก่อน หากนางยังคงมีจิตใจดีเช่นนี้ เขาก็คงไม่คิดฆ่านางตายอีก 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็ค่อยๆ หลับตาพักผ่อนด้วยความสบายใจ 

ลู่เจียวที่อยู่ด้านนอกกลับไม่รู้อะไรเลย นางเอาไม้ไผ่และยางไม้มาต่อกันเป็นกระโถนอุจจาระให้เขาถ่ายบนเตียงได้เอง 

แฝดสี่มองนางยุ่งวุ่นวายด้วยความแปลกใจ 

ลู่เจียวเห็นว่าแฝดสี่ไม่มีอะไรทำ จึงทำไม้ไผ่แมลงปอให้พวกเขาเล่น 

“มานี่ นี่เป็นแมลงปอไม้ไผ่ พวกเจ้าเอาไปเล่นเถอะ” 

แฝดสี่มองไม้ไผ่แมลงปอในมือของนางด้วยความแปลกใจ ลู่เจียวบิดไม้ไผ่แมลงปอด้วยสองมือ แมลงปอไม้ไผ่ก็บินขึ้นฟ้า 

แฝดสี่มองด้วยนัยน์ตาลุกวาว ตื่นเต้นดีใจกับไม้ไผ่แมลงปอบนอากาศ ผ่านไปสักพัก ของเล่นชิ้นนี้ถึงจะร่วงสู่พื้น 

“พวกเจ้าลองแข่งกันดูว่าของใครบินสูงกว่า” 

ตอนนี้แฝดสี่ไม่ค่อยกลัวลู่เจียวแล้ว ต่างคนต่างยื่นมือรับไว้ แล้ววิ่งไปเล่นของเล่นแปลกใหม่นี้กลางลานบ้าน ผ่านไปสักพักก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน 

เมื่อมีเสียงหัวเราะ ลานบ้านเงียบสงัดก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที ลู่เจียวประกอบกระโถนอุจจาระพลางมองพวกเขา ทั้งยังครุ่นคิดว่าตอนบ่ายหลังจากขายเห็ดหลินจือได้แล้วจะเอาเงินไปซื้ออะไรบ้าง 

ลู่เจียวคำนวณค่าใช้จ่ายพร้อมประกอบโถอุจจาระอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เก็บข้าวของเข้าที่ พอเห็นว่าเวลายังไม่สายนัก นางจึงไปบ้านผู้ใหญ่บ้านก่อน 

ตอนนี้พวกเขาแตกคอกับคนในตระกูลเซี่ยไปแล้ว จำเป็นต้องมาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใหญ่บ้านไว้ 

ลู่เจียวคิดแล้วก็เอาขาหมูออกมา พร้อมกับเอากระต่ายป่าที่ได้จากเมื่อวานใส่เข้าไปในตะกร้า แล้วเอาผ้าคลุมไว้ 

“ข้าจะไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน พวกเจ้าจะไปด้วยไหม” 

ลู่เจียวหิ้วตะกร้าพลางถามแฝดสี่คนที่เล่นกันอย่างมีความสุขตรงกลางลาน 

แฝดสี่ได้ยินคำพูดของนางก็หันไปมองอย่างรวดเร็ว เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าลังเล ทว่าต้าเป่ากลับส่ายหัวอย่างรู้กาลเทศะ 

“ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อ” 

เอ้อร์เป่า ซานเป่า และซื่อเป่าได้ยินคำพูดนาง ก็ส่ายหัวทันที “พวกเราก็จะอยู่กับท่านพ่อ” 

ลู่เจียวกลับไม่บังคับพวกเขาแต่อย่างไร หิ้วตะกร้าเตรียมเดินจากไป ซื่อเป่าที่อยู่ด้านหลังมองพี่ชายทั้งสาม จู่ๆ ก็วิ่งออกไปหาลู่เจียวแล้วกุมมือของนางไว้ 

ลู่เจียวก้มหน้ามองเขาด้วยความข้องใจเพียงพริบตาเดียว เห็นเขากะพริบตากลมโตจ้องหน้านางกลับ 

ลู่เจียวพูดยิ้มๆ “เจ้าอยากไปบ้านผู้ใหญ่บ้านกับแม่หรือ” 

ซื่อเป่ารีบหันไปมองพี่ชายสามคนปราดหนึ่ง แล้วพยักหน้าเต็มแรง สื่อว่าอยากไปกับนาง 

ลู่เจียวไม่ปฏิเสธ “ได้ เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” 

เอ้อร์เป่าและซานเป่าเห็นท่าทางของซื่อเป่า ก็ร้องขึ้นด้วยความโกรธ “พี่ใหญ่ดูซื่อเป่าสิ” 

ต้าเป่ามองลู่เจียว สลับกับมองซื่อเป่า คิดว่านางมารร้ายคนนี้คงไม่เอาซื่อเป่าไปขายอยู่แล้ว จึงพยักหน้า “เขาจะไปก็ปล่อยให้ไปเถอะ” 

พูดจบก็หันไปมองเอ้อร์เป่าและซานเป่า “พวกเจ้าก็ไปด้วยสิ ข้าเฝ้าท่านพ่อคนเดียวก็พอ” 

เอ้อร์เป่าและซานเป่าได้ยินก็หวั่นไหวทันที พวกเขาก็อยากออกไปเล่น แต่ให้พี่ใหญ่เฝ้าคนเดียวคงไม่ดีกระมัง 

ลู่เจียวไม่สนใจคนที่อยู่ด้านหลัง จูงมือซื่อเป่าเดินออกจากรั้ว เอ้อร์เป่าและซานเป่าร้อนใจอย่างมาก สุดท้ายก็ไม่สนพี่ใหญ่ สาวเท้าวิ่งตามออกไปทันที 

“ข้า ข้าก็จะไป” 

“ข้าก็อยากไป” 

ลู่เจียวหันมามองเอ้อร์เป่าและซานเป่า ลูกตากลมโตของเด็กๆ ดูไม่เป็นสุข เห็นหน้าตาของพวกเขาคล้ายคลึงกับหน้าตาตัวเองในชาติก่อน นางก็อุ่นใจขึ้นมา 

นางในภพก่อนไม่ทันได้มีแฟนเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูก ตอนนี้กลับเห็นเด็กที่คล้ายหน้าตาตัวเอง จึงดีใจเป็นพิเศษ 

“ได้ อย่างนั้นก็ตามมาเร็ว ไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้ว ข้ายังต้องกลับมาหุงข้าว” 

เอ้อร์เป่าและซานเป่ายิ้มขึ้นทันที ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดต่อพี่ใหญ่ จึงหันไปมองด้านหลัง 

ต้าเป่าหันหลังเดินเข้าไปในเรือนแล้ว พวกเขารีบตามลู่เจียวที่อยู่ด้านหน้าไป แม่และลูกๆ มุ่งหน้าไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน 

ผู้ใหญ่บ้านนามว่าเซี่ยฟู่กุ้ย เป็นชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขามีบุตรชายสองและบุตรีหนึ่ง เป็นบุรุษผู้เที่ยงธรรมและได้รับการยกย่องจากคนในหมู่บ้านเซี่ย 

ก่อนที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นยังไม่ได้รับบาดเจ็บ เซี่ยฟู่กุ้ยคาดหวังกับเขาไว้มาก หากเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ออกจากหมู่บ้านเซี่ยไปเป็นขุนนางชั้นสูง หมู่บ้านเซี่ยอาจเจริญรุ่งเรืองไปด้วย 

เพียงแต่เขายังไม่ทันได้ฝัน เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว 

เซี่ยฟู่กุ้ยปวดใจยิ่งกว่าบิดามารดาของเซี่ยอวิ๋นจิ่นเสียอีก 

ทว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เซี่ยฟู่กุ้ยก็จนปัญญาจริงๆ แล้วยิ่งเห็นท่าทีของทั้งตระกูลเซี่ยและเซี่ยเหล่าเกิน ทำให้เขายิ่งเห็นอกเห็นใจเซี่ยอวิ๋นจิ่น 

เซี่ยฟู่กุ้ยเห็นลู่เจียวมาเยือนจึงถามด้วยความเป็นห่วง “ภรรยาอวิ๋นจิ่น มีอะไรให้ช่วยหรือ มีเรื่องยากลำบากอะไรก็บอกข้า ดูว่าข้าจะช่วยอะไรได้หรือไม่” 

ลู่เจียวส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ผู้ใหญ่บ้าน ข้าไม่มีเรื่องลำบากอะไรหรอก ก่อนหน้านี้ข้ารบกวนท่านมาตลอด ไม่มีอะไรมาตอบแทน วันนี้ข้าชำแหละหมูป่า เหลือขาหมูอยู่หน่อย จึงเอามาฝากท่าน ได้โปรดอย่ารังเกียจ” 

ลู่เจียวพูดจบ เซี่ยฟู่กุ้ยก็ปฏิเสธก “เอากลับไปให้อวิ๋นจิ่นบำรุงร่างกายเถอะ พวกเราไม่ต้องการ” 

ภรรยาสกุลจางของเซี่ยฟู่กุ้ยก็พยักหน้าเห็นด้วย “ภรรยาอวิ๋นจิ่น เจ้าเอากลับไปเถอะ พวกเรายังมีเนื้อหนึ่งจินที่ซื้อมาจากบ้านเจ้า ยังไม่ทันได้กินเลย” 

ลู่เจียวเอามาแล้ว แล้วจะเอากลับไปได้อย่างไร จึงดึงดันกล่าวต่อ 

“ผู้ใหญ่บ้าน พี่สะใภ้ พวกท่านก็รู้ว่าข้าขึ้นเขาไปล่าสัตว์เองได้ ขาหมูนี่จึงไม่ได้เป็นของล้ำค่าอะไร เมื่อใดที่อวิ๋นจิ่นอยากกิน ข้าก็แค่ขึ้นไปล่าบนเขา พวกท่านรับไว้เถอะ ไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าถ้าข้าอยากให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยอะไรก็คงไม่กล้าเอ่ยปาก” 

สองสามีภรรยาเซี่ยฟู่กุ้ยแลกเปลี่ยนสายตากัน สุดท้ายเซี่ยฟู่กุ้ยก็พูดกับภรรยา “เช่นนั้นก็รับไว้เถอะ ดูว่าบ้านเรามีผักอะไรก็ให้นางกลับไป บ้านพวกนางไม่ได้ปลูกผักไว้” 

ลู่เจียวก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลัวว่าพวกเขาจะไม่รับ 

จางซื่อยกตะกร้าไปในครัว สุดท้ายเปิดผ้าคลุมมายังมีกระต่ายป่าหนึ่งตัว จึงตะโกนเรียก 

เซี่ยฟู่กุ้ยเดินไปด้วยความไม่พอใจ “เรียกทำไม” 

จางซื่อเอากระต่ายออกมา “ภรรยาอวิ๋นจิ่นยังให้กระต่ายมาอีกตัว” 

ในลานบ้านตระกูลเซี่ย หลานสองคนของเซี่ยฟู่กุ้ยวิ่งมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ “กระต่าย กระต่ายตัวนี้อ้วนมาก ต้องมีเนื้อให้กินเยอะแน่ๆ” 

ก่อนหน้านี้พวกเขาซื้อหมูป่า ตอนนี้ซื้อยังมีกระต่ายเนื้อดีขนาดนี้ ว้าว ช่างโชคดีจริงๆ 

จางซื่อมองท่าทางของหลานก็อยากจะเก็บไว้ ทว่าก็รู้สึกไม่ค่อยดี เลยมองเซี่ยฟู่กุ้ย ลู่เจียวที่อยู่ในเรือนก็เดินออกมาก็พูดยิ้มๆ 

“ถ้าผู้ใหญ่บ้านและพี่สะใภ้ไม่สบายใจ ก็ให้ผักข้าเยอะสักหน่อย ตอนนี้ที่บ้านข้าขาดแคลนผักที่สุดแล้ว” 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท