ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 49 แย่งท่านแม่ซึ่งๆ หน้า

ตอนที่ 49 แย่งท่านแม่ซึ่งๆ หน้า

ลู่เจียวหันไปมองเตียง เห็นว่ายังไม่มีใครหลับ แต่ละคนกำลังมองนางตาปริบๆ 

ลู่เจียวคิดว่าแฝดสี่น่าจะเห็นตนเอาลูกกวาดให้เซี่ยเอ้อร์จู้ เลยเกิดตะกละอยากกินขึ้นมา แต่ตอนนี้ดึกแล้ว กินไปคงฟันผุแน่ 

ทว่าพอเห็นสายตาราวกับลูกหมาน่าสงสารที่จับจ้องตน ลู่เจียวก็ปฏิเสธไม่ลง เลยให้พวกเขากินกันคนละเม็ด จากนั้นก็กล่าวเสียงขรึม 

“ต่อไปจะให้พวกเจ้ากินวันละสองเม็ด กลางคืนห้ามกินลูกกวาด เพราะแมงจะกินฟันจนผุ แล้วจะปวดฟันเอา” 

ลู่เจียวเพิ่งจะเอ่ยจบ แฝดสี่ต่างสะดุ้งตกใจ ก้มมองลูกกวาดในมือเหมือนจะอยากกินมาก แต่ก็ไม่กล้ากิน สีหน้าแต่ละคนดูลำบากใจมาก 

ลู่เจียวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้อนุโลมให้ก่อน แต่ครั้งหน้าห้ามกิน” 

ขณะที่พูด ก็นึกขึ้นได้ว่าสมัยนี้ไม่มีแปรงสีฟันและยาสีฟัน แบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆ นางเลยคิดว่าทำแปรงสีฟันและยาสีฟันออกมาให้ทั้งบ้านใช้ดีหรือไม่ 

เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าได้ยินคำพูดของลู่เจียว พลันแกะลูกกวาดยัดเข้าปากทันที 

ต้าเป่าไม่รีบกิน เขาแกะแล้วก็ยื่นไปริมฝีปากของเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ ให้ท่านกิน” 

เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าเห็นแล้วรู้สึกละอายใจ แต่ลูกกวาดเข้าไปในปากแล้ว แล้วจะทำอย่างไรได้ 

แฝดสามคิดจะคายลูกกวาดออกจากปาก 

ลู่เจียวกลัวว่าพวกเขาจะคายจริง จึงรีบพูดขึ้น “เอาเถอะ ท่านพ่อไม่กินลูกกวาดหรอก พวกเจ้ากินเองก็พอ” 

เห็นได้ชัดว่าแฝดสี่ไม่เชื่อ ลูกกวาดอร่อยขนาดนี้ ท่านพ่อจะไม่ชอบได้อย่างไร เด็กชายทั้งสี่หันไปมองลู่เจียวพร้อมกัน แม้จะไม่พูดอะไร แต่สายตากลับกำลังขอให้นางให้ลูกกวาดเซี่ยอวิ๋นจิ่นสักหนึ่ง 

ลู่เจียวจนปัญญา ควักลูกกวาดออกจากแขนเสื้อ และแกะกระดาษห่อป้อนเซี่ยอวิ๋นจิ่น 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ค่อยชอบกินลูกกวาดจริงๆ เขาไม่ชอบกินของที่หวานจัด ทว่าเห็นแฝดสี่มองเขาตาปริบๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะกินลูกกวาดเม็ดนี้ เขาจึงทำได้เพียงจำใจกิน 

ลู่เจียวหันไปมองแฝดสี่ “เอาละ รีบกินลูกกวาดแล้วรีบหลับได้แล้ว ดึกมากแล้ว” 

แฝดสี่นอนอยู่ด้านในสุด ลิ้มรสลูกกวาดอย่างมีความสุขแล้วเอ่ยว่า 

“ลูกกวาดหอมหวานเหลือเกิน” 

“ท่านแม่บอกให้กินวันละสองเม็ดก็พอ” 

“วันหลังข้าจะกินหนึ่งเม็ด แล้วเก็บไว้กินอีกหนึ่งเม็ด” 

ลู่เจียวไม่สนใจแฝดสี่ เอนกายลงนอน พรุ่งนี้ยังต้องกลับบ้านแม่ ทว่านางเพิ่งจะนอนลงบนพื้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เอ่ยขึ้น 

“เจ้าไปนอนที่เรือนตะวันตกเถอะ” 

สองวันมานี้เขารู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น อีกอย่างพี่รองมาคอยดูแลตอนเขาทำธุระส่วนตัว ไม่ต้องให้นางนอนเฝ้าตอนกลางคืนอีกต่อไป นางนอนบนพื้นนานวันเข้าย่อมไม่ดีต่อสุขภาพ 

ลู่เจียวที่นอนบนพื้นได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดเช่นนี้ พลันลุกขึ้นนั่งอย่างดีใจ 

พื้นชื้นเกินไปจริงๆ หากนอนติดต่อกันนานเข้าก็อาจป่วยได้ เป็นไปได้อย่านอนพื้นจะดีกว่า 

แม้เตียงในเรือนตะวันตกจะแข็ง ทว่าก็ย่อมดีกว่านอนพื้น 

ลู่เจียวผุดลุกขึ้น ม้วนเสื่อเตรียมเดินไปที่เรือนตะวันตก ซื่อเป่าที่อยู่บนเตียงพลันลุกขึ้น “ท่านแม่ ข้าจะไปนอนเป็นเพื่อน” 

ต้าเป่า เอ้อร์เป่าและซานเป่าจ้องหน้าเขา แย่งท่านแม่ซึ่งๆ หน้าแบบนี้เลยหรือ 

ลู่เจียวไม่คัดค้าน แต่อย่างไรก็ต้องดูว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะเห็นด้วยหรือไม่ นางจึงหันไปมองเขา 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไม่ปฏิเสธ เขามองลู่เจียว “เช่นนั้นเจ้าพาเขาไปนอนที่เรือนตะวันตกเถอะ” 

ส่วนสามคนที่เหลือไม่ได้ขอตามลู่เจียวไปนอนด้วย 

ลู่เจียวยื่นมือไปอุ้มซื่อเป่า ยกเสื่อขึ้น เดินไปที่เรือนตะวันตก 

ซื่อเป่ายื่นแขนเล็กๆ กอดคอลู่เจียวไว้ แย้มยิ้มอ่อนหวาน แฝดสามคนที่เหลือเห็นแล้วรู้สึกเจ็บใจ ต่างถลึงตามองซื่อเป่าด้วยความอิจฉา เหอะ ทำอย่างกับเป็นแม่ของเจ้าคนเดียว 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดเสียงเรียบ “เอาละ นี่ก็ดึกมากแล้ว หลับกันเถอะ” 

นี่เป็นครั้งแรกที่ซื่อเป่านอนกับลู่เจียว ตั้งแต่เขาจำความได้ก็ไม่เคยนอนกับมารดาเลย เขาเลยตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ ถึงขั้นนอนไม่หลับ 

อันที่จริงเตียงห้องนี้แข็งมาก ทว่ากลับรู้สึกนอนสบายกว่าเตียงของบิดา 

เขานอนข้างกายลู่เจียว จ้องหน้านางแล้วยิ้มจนตาหยีเป็นพระจันทร์เสี้ยว “ท่านแม่” 

พอขานเรียกเสร็จซื่อเป่าก็ขยับเข้าไปแนบชิดกับลู่เจียวราวกับลูกสุนัขขี้อ้อน 

ลู่เจียวมองเขาแล้วถอนหายใจ ต่อให้ร่างเดิมทำไม่ดีกับซื่อเป่าเพียงใด แต่พอตนทำดีกับเขาหน่อย เขาก็ใจอ่อนยอมเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน 

ดังนั้น ในใจของเด็กทุกคน มารดาย่อมสำคัญเสมอ 

ลู่เจียวคิดพลางยื่นมือดึงซื่อเป่าเข้ามาในอ้อมกอด “เอาเถอะ หลับได้แล้ว” 

แต่ซื่อเป่ายังคงนอนไม่หลับ ขานเรียกอย่างตื่นเต้นดีใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ท่านแม่” 

ลู่เจียวตอบกลับทุกครั้ง ต่อให้รู้ว่าซื่อเป่าจงใจเรียกซ้ำๆ ก็ตาม 

ลู่เจียวเห็นเด็กน้อยตื่นเต้นดีใจจนนอนไม่หลับ พลันกอดเขาไว้แน่น “แม่จะเล่านิทานก่อนนอนให้เจ้าฟัง” 

ซื่อเป่าตาลุกวาว “ดีเลย ท่านแม่เล่าเถอะ” 

ลู่เจียวเริ่มเล่านิทานก่อนนอน “นิทานเรื่องนี้ชื่อว่า สัตว์ตัวไหนแข็งแกร่งกว่า” 

“กาลครั้งหนึ่ง เจ้าลิงกับเจ้ากวางน้อยมาเจอกัน พวกมันต่างบอกว่าตัวเองแข็งแกร่ง จึงถกเถียงกันไม่หยุด ทันใดนั้นเอง ไก่แจ้ตัวหนึ่งก็เดินมาบอกว่า ‘พวกเจ้าเลิกเถียงกันได้แล้ว ไว้แข่งกันพรุ่งนี้ว่าใครจะแข็งแกร่งกว่า’ 

วันถัดมา พวกเขาเลยไปเชิญช้างมาเป็นกรรมการ ช้างบอกว่า ‘เห็นแม่น้ำตรงหน้านั้นไหม ตรงตลิ่งมีต้นผิงกั่ว[1]อยู่หนึ่งต้น ใครข้ามแม่น้ำไปเด็ดผลผิงกั่วก่อน คนนั้นเป็นฝ่ายชนะ’ 

ทั้งสองวิ่งไปข้างแม่น้ำพร้อมกัน ลิงข้ามแม่น้ำไม่ได้ แต่กวางข้ามได้ แต่กวางข้ามไปแล้วก็ปีนต้นไม้ขึ้นไปเด็ดผลผิงกั่วไม่ได้อยู่ดี เจ้าลิงจึงพูดว่า ‘เจ้าพาข้าข้ามแม่น้ำนี้สิ แล้วข้าจะเป็นฝ่ายปีนขึ้นไปเด็ดผิงกั่วเอง’ 

เจ้ากวางเลยกลับไปรับเจ้าลิงข้ามแม่น้ำ หลังจากลิงข้ามไปแล้ว ก็ปีนขึ้นไปเด็ดผลผิงกั่วลูกใหญ่ ช้างเลยประกาศว่า การแข่งขันครั้งนี้ถือว่าเสมอกัน” 

จุดประสงค์ที่ลู่เจียวเล่านิทานเรื่องนี้ แค่อยากถือโอกาสพูดเหตุผลให้เจ้าสี่ฟัง ทุกคนล้วนมีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง 

ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเด็กน้อยกลับไม่มีมุมมองเดียวกับนาง เขาวางขาเล็กๆ ไว้บนร่างของลู่เจียว แล้วหัวเราะจนตัวงอพลางเอ่ยว่า 

“ท่านแม่ เหตุใดลิงกับกวางถึงพูดได้ ข้าไม่เคยเห็นสัตว์พูดได้เลยนี่ น้องหมาของพวกเรายังพูดไม่ได้เลย” 

ลู่เจียวอ่อนใจ “เอาละ หลับได้แล้ว” 

ซื่อเป่ายังคงตื่นเต้นดีใจเหมือนเดิม แต่ก็เริ่มง่วงงุนแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เจียว ก็มุดเข้าไปในอ้อมกอดของนางทันที 

เดิมทีคนที่อยู่ในห้องตะวันออกกำลังจะหลับแล้ว ทว่าก็ได้ยินเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานดังจากเรือนตะวันตก แฝดสามคนที่เหลือได้ยินว่าลู่เจียวกำลังเล่านิทานให้ซื่อเป่าฟัง จึงรู้สึกน้อยอกน้อยใจขึ้นมา 

เอ้อร์เป่าแค่นเสียงไม่พอใจ “ใครก็เล่านิทานเป็นทั้งนั้น ท่านพ่อก็เล่าได้เหมือนกัน” 

ซานเป่าทำหน้ามุ่ย “แต่ท่านแม่เหมือนจะเล่าได้สนุกกว่า ซื่อเป่าหัวเราะชอบใจขนาดนั้นเลย” 

ต้าเป่ากล่าวสรุป “อย่างนั้นพรุ่งนี้ให้นางมาเล่าให้พวกเราฟังสิ” 

เอ้อร์เป่าและซานเป่าพยักหน้า “เห็นด้วย” 

————————————– 

[1] ผิงกั่ว คือคำทับศัพท์ภาษาจีน มีความหมายว่าแอปเปิ้ล 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท