ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 45 ข้าไม่รู้อักษร

ตอนที่ 45 ข้าไม่รู้อักษร

ซื่อเป่าได้ยินคำพูดของลู่เจียว ก็หันไปมองต้าเป่าทันที 

ต้าเป่าเบ้ปาก แล้วหันหลังเดินไปตรงมุมเตียงด้านหนึ่ง ยื่นมือไปคว้ากระดาษและพู่กันออกมาให้ลู่เจียว 

“อยู่นี่” 

นี่เป็นสิ่งที่บิดาใช้ตอนร่ำเรียนหนังสือ ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าจะโดนนางมารร้ายคนนี้เอาไปทิ้ง เลยซ่อนไว้ตรงมุมเตียง 

อันที่จริงตอนนี้ต้าเป่าก็ยังคงค่อนข้างกังวล กลัวว่านางจะเอาของพวกนี้ทิ้ง แต่เห็นช่วงนี้นางมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เขาเลยยอมเอาออกมาให้นาง ขืนนางกล้าทิ้ง วันหลังเขาจะไม่สนใจนางอีก 

ต้าเป่าตัดสินใจเช่นนี้ 

ลู่เจียวเห็นกระดาษและพู่กันก็รับไว้อย่างดีใจ เอาไปวางบนโต๊ะเก่าตรงกลางห้องนอน จากนั้นค่อยเอาน้ำมาฝนหมึก เตรียมเขียนสูตรยาแก้พิษงูสามเหลี่ยม 

หลังจากฝนหมึกเสร็จ ยกพู่กันขึ้นกำลังจะเขียนสูตรยา  

จู่ๆ ลู่เจียวก็นิ่งงันไป แล้วมองกระดาษอย่างเหม่อลอย ผ่านไปพักใหญ่ก็ไม่ได้เขียนแม้แต่ตัวอักษรเดียว 

นางเขียนอักษรสมัยนี้ไม่ได้ ไม่รู้จักเลยสักตัว แล้วจะเขียนสูตรยาแก้พิษงูสามเหลี่ยมได้อย่างไร 

ทุกคนในเรือนตะวันออกต่างมองลู่เจียวอย่างนิ่งงัน ไม่รู้ว่าเหตุใดทันทีที่นางกลับมาถึงก็หาทั้งกระดาษทั้งพู่กัน แล้วตอนนี้ได้สิ่งที่ต้องการแล้วกลับไม่ทำอะไร 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเตียงถามด้วยเสียงเรียบเฉย “เป็นอะไรไป” 

ลู่เจียวนึกถึงสวี่ตัวจินที่โดนงูกัด จึงกัดฟันเงยหน้ามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้ารู้จักสวี่ตัวจินหรือไม่ เขาโดนงูสามเหลี่ยมกัด” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าเปลี่ยนไปทันที สายตาเขาเย็นเยือก ถามด้วยเสียงกลุ้มใจ “ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว” 

พี่สวี่เป็นคนมีน้ำใจ แรกๆ ที่เขาได้รับบาดเจ็บก็ส่งของกินมาให้เขาไม่น้อย ตอนนั้นเขายังนอนไม่ได้สติบนเตียง ทว่าก็ได้ยินลอยๆ ว่าพี่สวี่ไปล่าสัตว์ เอาไปขายนำเงินมารักษาเขา นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะโดนงูสามเหลี่ยมกัดเช่นนี้ 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดยิ่งอดเป็นห่วงไม่ได้ ความเย็นชาแผ่ซ่านออกมาจากทุกอณูอีกครั้ง 

ลู่เจียวเลิกคิ้ว หากนางบอกว่านางแก้พิษได้ เขาจะคิดมากหรือไม่ 

ทว่าสถานการณ์ตอนนี้ นางจะมัวสนใจเรื่องหยุมหยิมไม่ได้อีก จึงพูดขึ้นทันที 

“เมื่อครู่ข้าขึ้นเขา บังเอิญเจอพี่สวี่ จึงช่วยรักษาเบื้องต้นไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่เป็นอะไรมากแล้ว เพียงแต่ว่ายังต้องเขียนสูตรยาแก้พิษงู” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้วมองนาง แววตาทั้งลุ่มลึกทั้งมืดมน 

ลู่เจียวมองแววตาเช่นนี้ของเขา สมองแล่นอย่างรวดเร็ว กำลังครุ่นคิดว่าจะแต่งเรื่องอะไรมาโกหก แต่ยังไม่ทันเอ่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พูดขึ้นก่อน 

“เช่นนั้นเจ้าก็รีบเขียนสูตรยาแก้พิษงูให้เขาสิ” 

ลู่เจียวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แล้วหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพริบตาหนึ่ง ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายเช่นนี้เลยหรือ ไม่สงสัยในตัวนางเลยหรือ 

ทว่าตอนนี้เขียนสูตรยาแก้พิษสำคัญยิ่งกว่า 

ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยยิ้มขมขื่น “ข้าไม่ค่อยรู้อักษร เลยเขียนไม่ได้” 

ครั้งนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลายเป็นฝ่ายตกตะลึง จึงมองนางอย่างไม่น่าเชื่อ 

ดูจากวาจาและท่าทีที่สูงสง่าของหญิงผู้นี้ ก็รู้ว่าได้รับการอบรมบ่มเพาะมาอย่างดีตั้งแต่เด็ก ตอนนี้กลับไม่รู้อักษร? 

เหตุใดเขาถึงไม่อยากเชื่อล่ะ แต่ถ้าหญิงผู้นี้รู้อักษร ก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้นี่ 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังครุ่นคิด ลู่เจียวก็พูดเสียงเบา “ที่จริงข้าก็พอรู้บ้าง แต่ยังมีตัวอักษรอีกมากมายที่ไม่รู้” 

ร่างเดิมพอรู้ตัวอักษรอยู่บ้าง รวมไปอักษรจีนแบบย่อกับแบบดั้งเดิมมีความคล้ายคลึงกันบ้าง นางจึงรู้เพียงบางตัว แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการเขียนสูตรยา  

เซี่ยอวิ๋นจิ่นที่ตกตะลึงในตอนแรกก็ได้สติกลับมา ตอนนี้เขากังวลสวี่ตัวจินที่สุด สำหรับเรื่องที่นางจะรู้หรือไม่รู้ตัวอักษร ก็ค่อยว่ากันภายหลัง 

“เอากระดาษและพู่กันมา เจ้าพูดข้าจะเป็นคนเขียนเอง” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดจบ ลู่เจียวก็เอ่ยด้วยความกังวลใจ “เจ้าเขียนได้ด้วยหรือ” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกัดฟันกรอด “เอามาเถอะ” 

ลู่เจียวคิดถึงพิษงูในร่างกายของสวี่ตัวจินก็ไม่กล้าชักช้าอีก เดี๋ยวก็มีคนมาเอาสูตรยาแล้ว รีบเขียนสูตรยาออกมาก่อนเถอะ แก้พิษงูสามเหลี่ยมได้ยิ่งเร็วยิ่งดี 

ลู่เจียวนึกถึงเรื่องนี้ก็เอากระดาษ พู่กันและหมึกดำไปข้างเตียง 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอียงลำตัวมาข้างเตียง แล้วยกพู่กันเริ่มเขียน 

ลู่เจียวพูดส่วนผสมยาสมุนไพรออกมาทันที “ปัวกิน้อยสิบเฉียน เก๊กฮวยป่า เหล่งต๋าเช่า จื้อหนานซิง ชวนเป้ย เซียงไป๋จื่อ ฝางเฟิง แปะหู่จื้อ ชะเอมอย่างละสามเฉียน ชิงมู่เซียงและสวีฉางชิงอย่างละสี่เฉียน เซิงต้าหวงหกเฉียน แมงป่องและตะขาบอย่างละสิบตัว เอาสมุนไพรพวกนี้มาต้มกับน้ำ ดื่มทุกเช้า กลางวัน เย็น วันละสามครั้ง” 

ลู่เจียวพูดจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นเขียนไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น สีหน้าของเขาก็ดูย่ำแย่มาก มือจับพู่กันไม่ค่อยอยู่ ลู่เจียวเห็นก็รู้ว่าเขาปวดศีรษะ จึงรีบพูดขึ้น 

“พักเสียหน่อยเถอะ เดี๋ยวค่อยเขียนต่อ” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ยอมแพ้ เขากัดฟันเขียนที่เหลือจนหมด จากนั้นก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียง ผ่านไปพักใหญ่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนเลย 

แฝดสี่เห็นก็ล้อมรอบเตียงเขาด้วยความตกตะลึง “ท่านพ่อ” 

ช่วงนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกินดีอยู่ดีมาก รวมถึงได้กินยาชั้นดีที่ลู่เจียวซื้อให้และน้ำแร่บ่อน้ำจิตวิญญาณที่คอยปรับสมดุลในร่างกาย 

แม้ใบหน้าจะซีดเซียวและเวียนศีรษะ แต่ไม่สลบเหมือนที่ผ่านมา แค่หายใจหอบสองสามทีก็ดีขึ้นแล้ว 

เห็นว่าแฝดสี่กระวนกระวาย เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็หันไปมองพวกเขาอย่างอ่อนแรง “พ่อไม่เป็นอะไร” 

ลู่เจียวมองเขาสองครา สังเกตเห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรร้ายแรง จึงเอากระดาษและพู่กันวางไว้บนโต๊ะเล็ก 

เดิมทีนางนึกว่าคนในตระกูลสวี่จะมาเอาสูตรยาทันที สุดท้ายกลับยังไม่มีใครมาเอาเลย 

ลู่เจียวนิ่งงันไป ทันใดนั้นก็คิดได้ทันที พวกเขาไม่เชื่อว่านางจะรู้สูตรยาแก้พิษงูสามเหลี่ยม ไม่แน่ตอนนี้อาจส่งไปรักษาตัวในเมืองแล้ว 

ลู่เจียวเก็บสูตรยาไว้ แล้วเดินไปทำอาหารค่ำในครัว 

นี่ไม่ใช่เพราะนางไม่ช่วยชีวิตเขา แต่คนอื่นไม่ยอมเชื่อใจนางต่างหาก อย่างไรก็ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ต้องละอายใจต่อตระกูลสวี่แล้ว 

ลู่เจียวไปทำอาหารในห้องครัว แล้วยังมอบหมายหน้าที่หนึ่งให้แฝดสี่ 

“พวกเจ้าเอากระต่ายส่งไปให้พี่เสี่ยวเป่า” 

เอ้อร์เป่าเดินหน้ามาก่อน “ท่านแม่ ข้าไปส่งเอง” 

ลู่เจียวมองเอ้อร์เป่าด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้แฝดทั้งสี่ไม่กลัวนางแล้ว เลยเริ่มแสดงจุดแข็งเฉพาะตัวของตัวเองออกมา ไม่รู้ว่าตอนท้าย นิยายเล่มนี้จะจบเช่นไร 

ลู่เจียวครุ่นคิดก็กวาดมองแฝดสี่คน “ไปส่งด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ อย่าลืมทักทายอย่างมีมารยาทด้วยล่ะ รู้จักทักทายคนอื่นอย่างไรแล้วใช่หรือไม่” 

แฝดสี่รีบพยักหน้าเต็มแรง “รู้ขอรับ” 

“อืม เช่นนั้นก็ไปเถอะ” 

เพราะช่วงนี้ที่บ้านไม่ขาดแคลนเนื้อ แฝดสี่เลยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย เอ้อร์เป่าพาต้าเป่า ซานเป่าและซื่อเป่าเอากระต่ายเดินไปที่ข้างบ้าน 

เพราะทั้งสองบ้านไม่ไกลกันมาก ลู่เจียวเลยไม่ได้เป็นห่วงพวกเขามาก เดินไปทำอาหารในครัว 

เนื่องจากอากาศร้อนเกินไป เย็นนี้นางเลยทำหมี่เย็น นางเอาแตงกวายำกับหมี่ เจียวไข่ขึ้นฉ่ายและหั่นหัวหมูใส่จาน 

หลังจากนางทำเสร็จ แฝดสี่ก็กลับจากข้างนอกพอดี 

นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีจ้าวซื่อและเซี่ยเสี่ยวเป่าตามมาด้วย 

จ้าวซื่อยิ้มให้ลู่เจียว พูดอย่างเกรงอกเกรงใจ “พวกเรากินแต่เนื้อบ้านเจ้า รู้สึกเกรงใจจริงๆ” 

เซี่ยเสี่ยวเป่าที่ยืนด้านข้างถามด้วยยิ้มเบิกบาน “อาสะใภ้สาม น้ำพะโล้ของท่านล่ะ แบ่งให้พวกเราหน่อยได้หรือไม่” 

ลู่เจียวตอบตกลง ยื่นมือไปรับชามที่จ้าวซื่อเอามาแล้วเดินเข้าครัวไปตักน้ำพะโล้ในห้วงอากาศ 

“เอากลับไปเติมน้ำและเคี่ยวจนเนื้อเปื่อย รสชาติจะได้ซึมเข้าเนื้อ” 

“ได้ ข้ารู้แล้ว” 

จ้าวซื่อพูดจบ ก็พูดเสียงเบาข้างหูลู่เจียว “เจ้ารู้หรือไม่ สวี่ตัวจินโดนงูกัด ทางบ้านส่งเขาไปในเมืองแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว” 

“ได้ยินว่าโดนงูสามเหลี่ยมกัด งูประเภทนี้กัดแล้วไม่ตายก็เป็นอัมพาต ตระกูลสวี่ช่างโชคร้ายเหลือเกิน” 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท