ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 41 มารดาควรปกป้องบุตร

ตอนที่ 41 มารดาควรปกป้องบุตร

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นเต็มตาว่าเด็กคนนี้เป็นห่วงตัวเอง จึงพูดขึ้นทันที “ต้าเป่า เจ้าไปเถอะ ข้าจะนอนพักสักพัก เจ้าค่อยกลับมาอยู่เป็นเพื่อนข้า” 

ต้าเป่าครุ่นคิดครู่หนึ่งก็พยักหน้า “อืม” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองส่งต้าเป่า ในบรรดาแฝดสี่ ต้าเป่าหน้าตาเหมือนเขาที่สุด และเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึกที่สุด อย่างไรก็ควรให้เขาออกไปเล่นกับรุ่นราวคราวเดียวกันให้มากๆ 

ลู่เจียวเก็บชามและตะเกียบบนโต๊ะ คว้าขวานตัดฟืน แล้วพาเแฝดสี่ไปที่บ้านของซย่าซื่อเพื่อคืนขวานก่อน จากนั้นก็พูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับซย่าซื่อไปสองสามคำ ถึงถามเรื่องสุนัข 

ซย่าซื่อได้ยินลู่เจียวจะเลี้ยงหมาก็เห็นด้วยอย่างมาก “บ้านพวกเจ้าควรมีหมาจริงๆ ไม่เช่นนั้นเด็กๆ คงน่าเป็นห่วง เจ้าก็คงเฝ้าอยู่บ้านไม่ได้ทั้งวันทั้งคืน ขืนวันไหนเจอเรื่องแบบวันนั้นอีกจะลำบาก” 

“แต่ไม่รู้ว่ามีใครในหมู่บ้านที่เลี้ยงหมาบ้าง” 

ได้ยินลู่เจียวพูดเช่นนี้ ซย่าซื่อก็พูดยิ้มๆ “บ้านลุงสามของเจ้าเลี้ยงหมาอยู่ ตอนนี้เพิ่งคลอดลูกหมาได้สามสี่ตัว เหมือนจะเพิ่งครบเดือนด้วย ก่อนหน้านี้ยังถามว่าบ้านใดต้องการหมาอยู่เลย” 

พ่อสามีของลู่เจียวเซี่ยเหล่าเกินมีพี่น้องทั้งหมดหกคน มีชายสี่และหญิงสองคน แต่ได้ข่าวว่าลุงคนโตเสียชีวิตเพราะโรคร้ายตอนสิบกว่าขวบ ป้าอีกคนหนึ่งก็เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือแค่ชายสามหญิงหนึ่ง 

เซี่ยเหล่าเกินเป็นบุตรคนสุดท้อง ลุงรองและลุงสามล้วนเป็นพี่ชายของเขา เขายังมีพี่สาวอีกหนึ่งคน ทว่าเพราะหร่วนซื่อใจดำ พี่น้องที่กล่าวมาจึงไม่ได้ไปมาหาสู่กับพวกเขาเลย 

ลุงสามและป้าสามยิ่งอาฆาตแค้นสองสามีภรรยาเซี่ยเหล่าเกินกว่าคนอื่น 

ได้ยินว่าตอนที่พวกเซี่ยเหล่าเกินกับพี่น้องยังไม่แยกครอบครัว บุตรชายคนโตของลุงสามป่วย ลุงสามให้เซี่ยเหล่าเกินช่วยออกเงินรักษา แต่หร่วนซื่อไม่ยอม แล้วยังโวยวายเสียงดังลั่นไปทั้งบ้าน สุดท้ายเป็นเพราะนางมัวแต่ถ่วงเวลา ทำให้บุตรชายคนโตของลุงสามตาย 

เพราะการตายของบุตรชายลุงสาม ทำให้พี่น้องตระกูลเซี่ยแยกครอบครัวกัน หลังจากแยกกันแล้ว ทั้งครอบครัวของลุงสามจึงเห็นเซี่ยเหล่าเกินเป็นศัตรู ทั้งสองครอบครัวไม่ถูกคอกันเพราะเหตุนี้ 

ฉะนั้นซย่าซื่อเพิ่งพูดจบ ลู่เจียวก็ยิ้มแห้ง “พวกเราคงไปขอไม่ได้กระมัง” 

นางไปขอ เขาคงไม่ให้อยู่แล้ว อย่างไรก็เป็นศัตรูกันมาหลายปีเช่นนี้  

ซย่าซื่อได้ยินคำพูดของลู่เจียวก็ตบมือนาง เปรยว่า 

“นิสัยของลุงและป้าสะใภ้สามของเจ้าไม่เลว ตอนนั้นแม่สามีเจ้าทำเกินไปหน่อย นั่นเป็นชีวิตของคนคนหนึ่งเชียวนะ แล้วหลังจากนั้นลุงและป้าสะใภ้สามของเจ้ายังมีลูกสาวทีเดียวสามคน ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีลูกชายอีกคน” 

พูดถึงเรื่องตอนนั้น ซย่าซื่อก็ถอนหายใจ แต่ผ่านไปสักพักก็พูดยิ้มๆ “แต่นั่นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่แล้ว ก่อนหน้านี้ลุงและป้าสะใภ้สามของพวกเจ้ายังเห็นใจพวกเจ้าอยู่เลย เขาไม่ได้มีเรื่องแค้นเคืองอะไรกับพวกเจ้าเสียหน่อย” 

แม้กระทั่งบุตรตัวเอง หร่วนซื่อยังทำเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น 

ซย่าซื่อคิดแล้วก็พูดต่อ “ไป ไปเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปขอลูกหมาที่บ้านเขาเอง” 

ลู่เจียวไม่ค่อยมั่นใจ จึงพูดด้วยความกังวล “คงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม” 

นางกลัวว่าจะไปทะเลาะกับครอบครัวลุงสาม กลัวว่าพวกเขายังคงขุ่นเคืองครอบครัวนางอยู่ 

ซย่าซื่อกลับตบหน้าอกรับประกัน “ไม่เป็นไร ผู้เฒ่าไม่ต่อว่าพวกเจ้าแน่นอน” 

ทีแรกลู่เจียวยังอยากพูดอะไรต่อ แต่แฝดสี่เงยหน้ามองนางอย่างพร้อมเพรียง แววตาทอประกายแสงแห่งความปรารถนา ลู่เจียวจะพูดอะไรได้ ทำได้เพียงหาทางอุ้มหมากลับบ้าน 

ในยุคสมัยนี้ แม้แต่คนยังกินข้าวไม่อิ่ม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัตว์เลี้ยง ฉะนั้นหมู่บ้านนี้นอกจากบ้านลุงสามแล้ว ก็ไม่มีบ้านไหนเลี้ยงหมาอีก 

บ้านของซย่าซื่อกับลุงสามถือว่าห่างกันไม่ไกล พวกเขาเดินไปสักพักก็ถึงแล้ว 

ลุงสามและป้าสามมีลูกชายสองคนลูกสาวสามคน ลูกชายคนโตล่วงลับไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย ลูกสาวสามคนก็ออกเรือนไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงลูกชายคนสุดท้องที่ยังอยู่ด้วยกัน 

ลุงสามและลูกชายคนเล็กของเขาไม่อยู่บ้าน มีเพียงป้าสะใภ้สามและสะใภ้กำลังทำสวน พอเห็นซย่าซื่อพาลู่เจียวและแฝดสี่ไปเยือน ป้าสามก็ตะลึงงัน สีหน้าดูไม่สบอารมณ์ ทว่าก็ไม่ได้หยาบคายใส่ 

ซย่าซื่อถลึงตามองนาง “ทำอะไรของเจ้า เด็กๆ อุตส่าห์มาเยี่ยม กลับทำหน้าบูดบึ้งเช่นนี้” 

คำพูดนี้สื่อให้เห็นว่าพวกนางสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว 

ป้าสะใภ้สามมีร่างเล็กผอม แต่กลับดูเปี่ยมพละกำลัง นางได้ยินคำพูดของซย่าซื่อก็ยิ้มเฝื่อน แล้วเงยหน้าทักทายลู่เจียว 

“ภรรยาอวิ๋นจิ่น เหตุใดถึงพาบุตรออกมาเดินเล่นล่ะ” 

พูดจบนางก็ขนเก้าอี้สองตัวด้านข้างมาให้ซย่าซื่อและลู่เจียวนั่งพลางตะโกนไปในเรือน “โก่วเสิ้ง ออกมาเล่นกับน้องๆ เร็ว” 

เด็กชายผิวดำเป็นถ่านวิ่งออกจากเรือนทันที พอเห็นว่าเป็นแฝดสี่ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ 

เขาวิ่งมาตรงหน้าสี่แฝด ถามว่า “ข้าได้ยินต้าโถวกับเหมาเหมาบอกว่า แมลงปอไม้ไผ่นั่น แม่พวกเจ้าเป็นคนทำเองหรือ” 

แฝดสี่พยักหน้า “ใช่ แม่พวกเราทำเอง” 

โก่วเสิ้งมองมือของพวกเขา ไม่เห็นว่ามีแมลงปอไม้ไผ่จึงมีสีหน้าผิดหวัง จากนั้นก็เงยหน้ามองลู่เจียวพร้อมโวยวาย “ป้าสาม ทำให้ข้าอันหนึ่งเถอะ” 

เด็กในยุคสมัยนี้ไม่มีของเล่นใดๆ พอเห็นของเล่นสักชิ้นก็อยากได้กันมาก 

โก่วเสิ้งเพิ่งพูดจบ ป้าสะใภ้สามก็โมโหเป็นไฟ “เจ้าอยากโดนตีใช่หรือไม่” 

มารดาของโก่งเสิ้งรีบดึงลูกชายตัวเองไว้เพื่อให้เขาหยุดโวยวาย 

ลู่เจียวกวาดสายตามองสะใภ้ลูกคนเล็กของป้าสะใภ้สาม เหมือนนางจะมีนามว่าเจียงจาวตี้ 

เจียงจาวตี้ก็เหลือบตามองลู่เจียว สิ่งที่เกิดขึ้นกับลู่เจียวเมื่อวาน นางก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ความน่าเกรงขามของลู่เจียวทำให้นางตกตะลึงมาก ดังนั้นพอเห็นว่าเป็นลู่เจียวก็ไม่กล้ามองอีก 

ป้าสะใภ้สามเห็นนางก้มหน้าก้มหน้าจึงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ไม่ได้หันไปมองสะใภ้ตัวเองอีก 

ลู่เจียวมองป้าสะใภ้สามแล้วพูดยิ้มๆ “เมื่อวานแม่หม้ายหลี่มาหาเรื่องในบ้านข้า ป้าสามน่าจะได้ยินแล้วใช่หรือไม่” 

ป้าสใภ้สามพยักหน้า รู้สึกนับถือลู่เจียวมาก แม้กระทั่งยังอดคิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อก่อนไม่ได้ 

ถ้าตอนนั้นนางปกป้องบุตรเหมือนลู่เจียว หร่วนซื่อไม่มีทางกล้าทำเรื่องเช่นนั้น ว่าไปแล้วเรื่องนั้นก็โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่อ่อนแอเกินไป ลูกชายจึงเลยต้องตาย 

ป้าสะใภ้สามมองลู่เจียว ไม่ได้รู้สึกว่านางโหดเหี้ยมขนาดนั้น รู้สึกว่าเรื่องเมื่อวานนางทำถูกแล้ว มารดาควรปกป้องบุตร แม้กระทั่งสัตว์ยังรู้จักปกป้องลูกของตัวเองเลย 

“เจ้าเป็นเด็กดี” 

ลู่เจียวนึกไม่ถึงว่าป้าสะใภ้สามจะพูดเช่นนี้ จึงรู้สึกโล่งอกไม่น้อย 

“แม้เมื่อวานข้าจะเล่นงานแม่หม้ายหลี่ไป แต่ข้าก็ไม่ทางอยู่ดูแลสี่แฝดได้ทั้งวันทั้งคืน อวิ๋นจิ่นก็ขยับตัวไม่ได้ ได้ยินว่าบ้านป้าสามเลี้ยงหมา ข้าเลยอยากขอลูกหมากลับไปสักตัวได้หรือไม่” 

ป้าสามได้ยินเช่นนี้ก็ตอบตกลงทันที “ได้สิ” 

เพียงแต่ว่านางเพิ่งพูดจบ โก่วเสิ้งก็คัดค้านก่อน “ข้าไม่เห็นด้วย” 

เหอะ ก่อนหน้านี้เขาขอแมลงปอไม้ไผ่กับลู่เจียว ท่านย่ายังดุเขาอยู่เลย 

ต้าเป่าได้ยินโก่วเสิ้งพูดเช่นนี้ ก็เดินไปตรงหน้าเขา “ข้าเอาแมลงปอไม้ไผ่มาแลกหมากับเจ้าได้ไหม” 

ในบ้านมีแมลงปอไม้ไผ่อยู่สี่อัน เขาเอาออกมาให้คนอื่นหนึ่งอัน ก็ยังเหลืออีกสามอัน เขาก็ยังเล่นของน้องๆ ได้ 

โก่วเสิ้งได้ยินก็ยิ้มเบิกบาน “ได้ ข้าจะพาเจ้าไปเลือกหมา” 

พูดจบก็วิ่งไปที่บ้านหมา แฝดสี่ก็วิ่งตามไปด้วย 

ป้าสะใภ้สามที่อยู่ด้านหลังเห็นหลานตัวเองทำเช่นนี้ก็ไร้คำเอ่ย หมาในบ้านมีค่าเท่ากับแมลงปอไม้ไผ่เพียงอันเดียวเองหรือ 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท