ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 40 วายร้ายใช้ได้อยู่นี่

ตอนที่ 40 วายร้ายใช้ได้อยู่นี่

ลู่เจียวลูบศีรษะเขาพลางเร่ง “รีบกินข้าวได้แล้ว กินเสร็จจะเอาของอร่อยให้” 

เพื่อของกินอร่อย ซื่อเป่าถึงกับรีบวิ่งกลับไปกินมื้อเช้า ลู่เจียวหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีกครั้ง เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เหตุใดถึงคิดจะกลับบ้านเจ้า” 

นางแต่งเข้าตระกูลเซี่ยมาสี่ปี กลับบ้านต้นตระกูลแทบนับครั้งได้ ตอนนี้แม่นางคนนี้ก็ไม่ใช่คนของตระกูลลู่แล้ว เหตุใดถึงกลับบ้านต้นตระกูลล่ะ 

ลู่เจียวพูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้แม่ข้าให้เงินไปซื้อยาให้เจ้าห้าตำลึง” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงยหน้ามองลู่เจียว แววตาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ จากนั้นก็ยกมุมปากยิ้มเย้ยหยันตัวเอง 

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดแม่ยายถึงทำดีกับเขาเช่นนี้ สี่ปีที่ผ่านมา เพราะลู่เจียว เขาไม่เคยเหยียบประตูบ้านแม่ยายแม้แต่ครั้งเดียว ทว่าหลังจากที่เขาพิการ แม่ยายกลับส่งเงินมาให้เขา แล้วยังให้ลู่เจียวร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเขา 

พอมองกลับมาที่พ่อแม่ตนเอง ตั้งแต่เด็กบิดามารดาก็ไม่เคยทำดีด้วย ภายหลังเขามีหน้ามีตาในสังคม พ่อแม่ถือว่าดีด้วยขึ้นมาหน่อย แต่สุดท้ายเพียงเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ถึงกับไล่เขาออกจากบ้านทันที 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกถึงเงินที่เขาหามาเลี้ยงดูครอบครัวตลอดหลายปีที่ผ่านนมา น้ำพักน้ำแรงทั้งหมดที่มีกลับไปป้อนให้สุนัขเลี้ยงไม่เชื่องกินจนหมด ที่แท้ในใจพ่อแม่ยังคงมองเขาเหมือนตอนเด็ก 

หลายปีมานี้ที่พ่อแม่ทำดีกับเขา ก็เพราะว่าเขามีหน้ามีตา มีการงานที่มั่นคง หาเลี้ยงครอบครัวได้ แต่เขากลับนึกไปเองว่าพ่อแม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหลับตาลง ทว่าใบหน้าหล่อเหลายังคงเยือกเย็นจนแทบเป็นน้ำแข็ง 

ลู่เจียวมองสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขากำลังคิดถึงเรื่องเลวร้าย จึงไม่กล้าส่งเสียงใดๆ รอให้เขาสงบสติอารมณ์ได้ถึงพูดต่อ 

“เจ้าก็รู้ว่าบ้านข้าแร้นแค้น ห้าตำลึงเงินที่แม่ข้าให้มา ส่วนมากก็ไปยืมมา ข้ากลัวว่านางจะทะเลาะกับคนในบ้านเพราะเรื่องนี้ เลยจะเอาเงินไปคืน” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินก็พยักหน้า “สมควรทำเช่นนี้” 

พูดจบก็ไม่อยากพูดมากอีก เขาไม่สบอารมณ์จนแม้แต่บะหมี่เนื้อต้มพะโล้แสนโอชะก็ไม่อยากกินต่อ 

ไม่รู้ว่าชาตินี้ขาของตัวเองจะดีขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ดีขึ้น หนี้บุญคุณที่เขาติดแม่ยาย เกรงว่าคงจะทดแทนไม่ได้แล้ว 

ลู่เจียวเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกินไม่ลงก็ไม่บีบบังคับเขาอีก เอ่ยถึงอีกเรื่องแทน 

“พรุ่งนี้ข้ากลับบ้านแม่ จะทำมื้อเที่ยงทิ้งไว้ให้พวกเจ้า แล้วรบกวนป้ารองช่วยมาดูแลพวกเจ้าหน่อย ยังมีอีกเรื่อง วันนี้ข้าตั้งใจว่าจะไปเดินดูในหมู่บ้านว่าบ้านใครมีหมา จะเอากลับมาเลี้ยงสักตัว” 

ลู่เจียวเพิ่งจะพูดจบ สี่แฝดที่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยก็ชะงัก เงยหน้าจ้องนางอย่างพร้อมเพรียง 

แม้แต่ต้าเป่ายังหันมามองนาง เอ้อร์เป่าแย่งพูดก่อนด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ท่านแม่จะเลี้ยงน้องหมาหรือ” 

“ใช่ มีหมาไว้ปกป้องพวกเจ้า ข้าจะได้วางใจขึ้นมาหน่อย” 

เอ้อร์เป่าพยักหน้าเต็มแรง “อืม เลี้ยงสิ” 

ซานเป่าลุกขึ้นอย่างดีใจ รีบวิ่งไปข้างกายลู่เจียวพร้อมให้คำมั่นสัญญา “ท่านแม่ ข้าจะกินน้อยหน่อย จะได้แบ่งให้น้องหมากิน” 

ซื่อเป่ารีบเอาบะหมี่ที่กินเหลือในถ้วยยื่นให้ “ท่านแม่ ข้าไม่กินแล้ว เหลือไว้ให้น้องหมากิน” 

ลู่เจียวรู้สึกขบขัน ยังไม่ทันได้เห็นแม้แต่ขนหมา เด็กๆ ก็ดีอกดีใจเช่นนี้แล้ว ดูแล้วไม่ว่าจะยุคสมัยใด สัตว์เลี้ยงก็ยังคงเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากเด็กๆ เสมอ 

“รีบกินเถอะ กินเสร็จข้าจะไปถามคนในหมู่บ้าน” 

“ขอรับ” 

แฝดสี่รีบวิ่งกลับไปกินบะหมี่ต่ออย่างว่องไว ท่าทางเหมือนกลัวว่ากินช้าแล้วลู่เจียวจะไม่พาพวกเขาไปด้วย 

ลู่เจียวเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่โต้ตอบใดๆ จึงยกบะหมี่ที่เหลือครึ่งชามออกไป พอถึงห้องครัวก็ตักบะหมี่ใหม่อีกชาม แล้วเอาลูกท้อห้าลูกจากห้วงอากาศออกมาล้างให้สะอาด จากนั้นค่อยเอาไปที่เรือนตะวันออก 

อันที่จริงในห้วงอากาศมีผลไม้อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกท้อ องุ่น แตงโม เฉ่าเหมย[1]และอิงเถา [2]แต่นางเอาออกมาไม่ได้ 

แฝดสี่ในห้องนอนเห็นลูกท้อในมือของลู่เจียวต่างก็ตกตะลึง นี่คือลูกท้อที่พวกเขารู้จักนี่ 

มีคนในหมู่บ้านปลูกต้นท้อไว้ ทว่าลูกท้อพวกกนั้นทั้งเขียวทั้งไม่อร่อย ต่อให้ผลกลายเป็นสีแดงก็ยังผลเล็กมาก 

ลูกท้อในมือของมารดาทั้งใหญ่ทั้งแดง แค่เห็นก็รู้ว่าต้องอร่อยมาก 

ลู่เจียวสื่อให้แฝดสี่รีบกินลูกท้อ แล้วยังบอกต้าเป่า “เอาไปให้พ่อเจ้าชิมสักลูกเถอะ” 

ก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่ค่อยได้กินอะไรอยู่แล้ว แต่นางต้องพยายามให้เขากินให้ครบห้าหมู่ จะได้ผ่าตัดง่าย 

ต้าเป่าได้ยินก็เอาลูกท้อเดินไปข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ รีบกินเถอะ” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองท้อลูกนั้น เขารู้จักว่าลูกท้อ ทว่าลูกท้อที่ทั้งแดงทั้งสดและฉ่ำเช่นนี้ เขาเคยเห็นแค่สองสามครั้งจริงๆ 

ในอำเภอมีคนเอามาขาย ทว่าราคาแพงมาก แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ จะมีลูกท้อที่อร่อยขนาดนี้ได้อย่างไร 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหรี่ตาลงด้วยความฉงนสงสัย ลู่เจียวเห็นสีหน้าของเขาก็รู้ว่าเขาสงสัย จึงรีบพูดกลบเกลื่อน 

“วันนั้นไปขายเห็ดหลินจือในเมือง ไม่รู้ว่าจั่งกุ้ยในหอยาเป่าเหอไปเอามาจากไหน ข้าเห็นเลยขอซื้อมาให้เด็กๆ ชิมหน่อย” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิด ได้ข่าวว่าจั่งกุ้ยหอยาเป่าเหอมาจากเมืองใหญ่ ลูกท้อพวกนี้คงไม่ใช่ของล้ำค่าในสายตาของเขาอยู่แล้ว 

เขามองต้าเป่ย แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ต้าเป่ากินเองเถอะ” 

ต้าเป่าส่ายหัว “ข้ายังมี” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นว่าบนโต๊ะยังมีลูกท้ออีกสี่ลูก จึงบอกต้าเป่า “เอาไปให้ท่านแม่เจ้ากินเถอะ” 

ไม่ว่าแม่นางคนนี้จะมาจากไหน แต่จนถึงตอนนี้ นางก็ไม่ได้ประสงค์ร้ายกับพวกเขาทั้งครอบครัว ทั้งยังทำดีต่อพวกเขามาก ฉะนั้นเขาควรเห็นความดีที่นางทำบ้าง 

ลู่เจียวได้ยินคำพูดของเขาก็เลิกคิ้วขึ้น แหม วายร้ายยังรู้จักเสียสละให้นางกินอีกหรือ ใช้ได้อยู่นี่ 

ทว่านางมีผลไม้ในห้วงอากาศให้กินมากมายอยู่แล้ว ลูกท้อแค่ลูกท้อเดียวไม่ได้มีค่าสำหรับนาง 

“เจ้ากินเถอะ ข้ากินไปลูกหนึ่งแล้ว” 

ลู่เจียวพูดจบก็ก้มหน้ากินบะหมี่เนื้อต้มพะโล้ต่อ ต้าเป่าดึงดันที่จะป้อนบิดา เขาจึงยื่นมือรับไว้แล้วกัดหนึ่งคำ 

ต้าเป่ามองด้วยอย่างชื่นมื่น “ท่านพ่อ เป็นอย่างไรบ้าง อร่อยหรือไม่” 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นตะลึงงัน ลูกท้อนี้หอมหวานมาก ตอนกัดเข้าปากก็รู้สึกสดชื่นไปทั้งตัว เป็นเพราะว่ากินลูกท้อครั้งแรก หรือเพราะอะไรกันแน่ 

“หวาน ไปกินเถอะ” 

ต้าเป่าหันหลังเดินกลับโต๊ะด้วยรอยยิ้มเบิกบาน แฝดสี่คนกินคนละลูก ทุกคนต่างมีสีหน้าพึงพอใจ 

อร่อยมาก หอมหวานจริงๆ 

ซื่อเป่าเอาลูกท้อเดินไปข้างลู่เจียว แล้วป้อนไปข้างปากลู่เจียว “ท่านแม่ ท่านก็กินสิ” 

ลู่เจียวผลักออก “พวกเจ้ากินเองเถอะ ข้ากินไปแล้ว” 

ซื่อเป่ายังคงยื่นป้อน บางครั้งนางก็รู้สึกว่าเจ้าซื่อเป่าหัวดื้อจริงๆ จึงแสร้งทำเป็นกัดหนึ่งคำ 

พอเห็นเช่นนี้ เอ้อร์เป่าและซานเป่าก็อยากยื่นลูกท้อมาให้นาง นางจึงพูดว่า “รีบกินเถอะ ข้าจะไปถามหาลูกหมาในหมู่บ้านแล้วนะ คนที่กินลูกท้อไม่หมด ข้าจะไม่พาไปด้วย” 

แฝดสี่จึงไม่กล้าชักช้า รีบกินลูกท้อทันที 

ลู่เจียวลุกขึ้นเก็บชามและตะเกียบ แฝดสี่ตามนางไป ต้าเป่าตามอยู่ด้านหลังสุด ยังคงมีท่าทางลังเลเล็กน้อย 

เขาไปแล้ว ท่านพ่อจะทำอย่างไร 

———————————- 

[1] เฉ่าเหมย คือคำทับศัพท์ภาษาจีน แปลว่า สตรอว์เบอร์รี  

[2] อิงเถา คือคำทับศัพท์ภาษาจีน แปลว่า เชอร์รี 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท