ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 57 เจ้าเอาเงินหนีดูสิ

ตอนที่ 57 เจ้าเอาเงินหนีดูสิ

ตอนที่ 57 เจ้าเอาเงินหนีดูสิ
ลู่เจียวตกตะลึงมาก “ไหนๆ เจ้าก็มีเงิน เหตุใดตอนแรกถึงไม่สั่งให้คนไปเอาเงินกับหันถงล่ะ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดอย่างไม่เป็นมิตร “ตอนนั้นข้าบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ ตอนฟื้นขึ้นมาก็หาคนไปตามหาหันถงไม่ได้”

เขากับหันถงทำธุรกิจร่วมกัน เรื่องที่แอบสร้างธุรกิจไว้ให้แฝดสี่นี้ เขายังไม่อยากให้ใครรู้

เขาไม่ไว้วางใจพ่อแม่ ส่วนพี่รองก็ซื่อตรงเกินไป ขืนรู้เรื่องนี้เข้า คงหลุดความจริงให้พ่อแม่รู้ อีกประการ เมื่อเขาทราบว่าตนกลายเป็นคนพิการติดเตียงก็ท้อแท้จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ จึงไม่คิดจะรักษาให้หาย

ดังนั้นมีเพียงแต่ต้องฝากเงินไว้ที่หันถง เขาจึงจะไม่กังวลใจ

ก่อนหน้านี้เขากับหันถงตกลงกันไว้แล้ว เงินที่ได้จะเก็บออมไว้เพื่อการศึกษาของสี่แฝดในอนาคต ดังนั้นถ้าเขาตายไปจริงๆ หันถงต้องเอาเงินส่งสี่แฝดเรียนแน่นอน

แต่ตอนนี้เขาจะรักษาขาให้หายเพื่อเด็กๆ ต่อให้รักษาไม่หาย ก็จะใช้ชีวิตอย่างดี จะดูแลแฝดสี่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

ลู่เจียวได้ยินก็ไม่ได้ถามให้มากความอะไร เพียงแค่ตกตะลึงที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับเปิดเผยความจริงนี้ให้นางรู้ เขาไม่กลัวว่านางจะคิดร้ายเลยหรือ

“เจ้าไม่กลัวข้าจะเชิดเงินหนีหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองลู่เจียวคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เจ้าลองเชิดเงินหนีดูสิ?”

ลู่เจียวถึงกับขนหัวลุก แม้นางจะทะลุมิติมา ทว่าหลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันมาระยะหนึ่ง นางก็รู้ว่าเล่ห์เหลี่ยมของนางคงสู้กับว่าที่โส่วฝู่ผู้นี้ไม่ได้

ลู่เจียวยิ้มแห้ง “แค่หยอกเจ้าเล่นเท่านั้น ข้าจะหนีไปไหนได้เล่า”

ทว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นยอมเอาเงินให้นาง ก็แสดงว่าเขาไม่ได้เกลียดนางขนาดนั้นแล้ว นั่นก็เท่ากับว่าถ้าขาเขาหาย พวกเขาจะได้หย่าร้างกันโดยดี

ลู่เจียวคิดแล้วก็มีความสุขมาก นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “วางใจเถอะ ข้าจะไม่เอาเงินเจ้าแม้แต่ตำลึงเดียว แค่เอามาใช้จ่ายที่บ้านเท่านั้น”

หลังจากหย่าร้างกับเขา ก็จะคืนที่เหลือให้เขา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเตียงไม่กล่าวให้มากความ เพียงกำชับนาง “ขาดอะไรในบ้านก็ไปซื้อเถอะ ถ้าไม่พอก็ค่อยมาเอากับข้าอีก”

ลู่เจียวพูดด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “พอแล้วๆ”

นางยังเหลือเงินที่ไปขายเห็ดหลินจืออีกร้อยกว่าตำลึง รวมของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็สองร้อยกว่าตำลึงเงิน ใช้ได้ถึงตอนที่นางจากไปแน่นอน

ลู่เจียวคิดพลางเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างอารมณ์ดี “เจ้าหิวหรือไม่ ข้าจะเอาของว่างมาให้เจ้ารองท้องก่อน”

พูดจบก็ไม่รอให้อวิ๋นจิ่นตอบกลับ นางหันหลังเดินออกไปด้านนอก พลางเรียกแฝดสี่ “เด็กๆ มานี่ จะให้พวกเจ้ากินของดีกัน”

แฝดสี่หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ไปเถอะ”

แฝดสี่ตามลู่เจียวออกไปด้านนอก เสียงอ่อนโยนดังขึ้นจากด้านนอก

“ดูสิ พวกเจ้าชอบกินอะไรบ้าง นี่เป็นขนมเหอเถา[1] นี่เป็นขนมรวมมิตร ส่วนนี่เป็นขนมพุทราและขนมมันม่วง”

ลู่เจียวแนะนำของว่างแต่ละอย่างให้แฝดสี่ พวกเขาโตมาจนป่านนี้ยังไม่เคยเห็นของกินที่ห่อไว้หรูหราขนาดนี้มาก่อน ถึงขั้นมองแล้วตาลาย เลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไร

ลู่เจียวจึงตัดสินใจแทนพวกเขา “เช่นนั้นก็กินขนมเหอเถาดีหรือไม่”

แฝดสี่พยักหน้าเต็มแรง “อืม ดี”

ลู่เจียวให้หนึ่งชิ้นแบ่งกันสองคน “ขนมเหอเถากินแล้วแน่นท้อง พวกเรากินคนละครึ่งชิ้นพอ เผื่อท้องไว้กินอย่างอื่นตอนมื้อค่ำ มื้อค่ำนี้จะทำเนื้อทรายและกระต่ายให้กิน เป็นอย่างไรบ้าง”

แฝดสี่แววตาลุกวาวดั่งดวงดาวบนฟากฟ้า แต่ละคนรื่นเริงยินดีมาก

“ดีๆ”

ลู่เจียวแบ่งขนมให้ต้าเป่าครึ่งหนึ่ง ให้ต้าเป่าเอาไปให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น “เอาครึ่งนี้ไปให้พ่อเจ้าลองชิมดู”

ต้าเป่าพยักหน้าทันที หันหลังเอาขนมครึ่งชิ้นนี้เข้าไปในเรือน เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ปฏิเสธ รับขนมเหอเถาในมือของต้าเป่าไว้ ลิ้มลองรสชาติด้วยความตั้งใจ

แม้ก่อนหน้านี้ พฤติกรรมแย่ๆ ของลู่เจียวจะทำให้เขาหดหู่ใจ แต่พอเห็นบรรยากาศในบ้านตอนนี้ เขาก็รู้สึกสบายใจแล้ว

นี่ถึงจะเป็นบ้านอย่างที่ควรเป็น มารดาดีใจและอ่อนโยน บุตรก็รู้จักกตัญญูรู้คุณ

นอกเรือน นอกจากลู่เจียวจะแบ่งขนมให้เด็กๆ กินแล้ว ตนเองก็กินไปครึ่งหนึ่ง นางไม่ใช่พวกที่เก็บของกินไว้ให้เด็กๆ แล้วปล่อยให้ตัวเองอดอยาก

นอกจากจะแบ่งให้แฝดสี่ ยังแบ่งให้เถียนซื่อและลู่กุ้ยกินด้วย

เถียนซื่อปฏิเสธ นางกำลังชำแหละกระต่าย ไม่มีเวลากิน ทว่าลู่เจียวกลับป้อนเข้าปากนางให้

หัวใจเถียนซื่อชุ่มฉ่ำเกินบรรยาย ลูกสาวกตัญญูและใส่ใจพ่อแม่มากกว่า มิน่าล่ะ ทุกคนถึงพูดว่ามีลูกสาวเป็นเรื่องดี

ลู่กุ้ยไม่คิดมากเช่นมารดา รับขนมมาแล้วกินทันที ขณะเดียวก็คิดว่า พี่สาวเขามีชีวิตดีจริงๆ แม้กระทั่งขนมเหอเถายังได้กิน

ลู่เจียวไม่ได้สนใจลู่กุ้ย ขนของที่เหลือในห้องโถงเข้าไปในเรือนตะวันออก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เห็นเถียนซื่อกับลู่กุ้ย จึงถามด้วยความห่วงใย “ท่านแม่และน้องกุ้ยมาได้อย่างไร”

ลู่เจียวไม่มีทางบอกว่ามารดาตัวเองทะเลาะกับคนในบ้าน จึงคลี่ยิ้ม

“ข้ากลัวว่าตอนที่ในบ้านไม่มีใครอยู่ แล้วแฝดสี่จะโดนรังแกอีก เลยขอให้แม่ข้ามาช่วยดูแลสองสามวัน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหรี่ตามองลู่เจียวเพียงปราดเดียวก็รู้ทันทีว่านางกำลังพูดปด

แม่ยายจะดีเพียงใด ก็คงไม่ทิ้งคนทั้งครอบครัวมาดูแลบ้านบุตรีอยู่แล้ว ฉะนั้นบ้านลู่ต้องเกิดเรื่องอะไรแน่นอน หรือเป็นเพราะเงินห้าตำลึงนั่น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่ได้ถามมาก นี่เป็นเรื่องภายในบ้านลู่ เขาคงไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยว

อาหารค่ำโอชะเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่มีเนื้อทรายตุ๋นน้ำแดง ยังมีกระต่ายคั่วแห้ง หัวหมูผัดกระเทียม และผักกาดขาวคลุกน้ำส้มสายชู

ลู่เจียวยังตุ๋นไข่ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นพิเศษ

อาหารหน้าตาดีและเลิศรส มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่ดีก็คือโต๊ะเก่าชำรุดเกินไป แม้แต่เก้าอี้ก็ยังไม่มีให้นั่ง

เก้าอี้ยาวที่สหายของเซี่ยอวิ๋นจิ่นนั่งเมื่อบ่ายวันนี้ก็ไปยืมมาจากบ้านซย่าซื่อ ลู่เจียวเอาไปคืนตั้แต่เมื่อเย็นแล้ว

บ้านอื่นก็ไม่มีเก้าอี้สำรองเหมือนกัน นางจึงไม่อยากยืมมานาน

ฉะนั้นคืนนี้ นอกจากเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่กินบนเตียงแล้ว คนที่เหลือก็ยืนกินกันหมด

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นว่าไม่ค่อยเหมาะสมจึงมองลู่เจียว “พรุ่งนี้เจ้าไปถามจู๋จ่าง[2]ว่าพวกเขามีไม้หรือไม่ ถ้ามีก็ให้ท่านอาโหย่วไฉทำเก้าอี้และโต๊ะมาให้ที่บ้านชุดหนึ่งเถอะ”

ลู่เจียวเลิกคิ้วมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านอาโหย่วไฉเป็นช่างไม้หรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า หันไปมองเถียนซื่อและลู่กุ้ยอย่างรู้สึกผิด “ท่านแม่และน้องกุ้ยได้โปรดอย่าถือสาเลย”

เถียนซื่อและลู่กุ้ยส่ายหน้าไม่หยุด “ไม่เป็นไรๆ”

เถียนซื่อที่เคยผ่านเรื่องราวมามาก มองออกว่าบุตรีและบุตรเขยเป็นหนึ่งใจเดียวกันแล้ว นี่ทำให้นางดีใจมาก ต่อให้ไม่มีที่นั่ง ยืนกินก็อร่อย

หลังกินมื้อค่ำและล้างจานเสร็จ ลู่เจียวเพิ่งจะสังเกตว่า เถียนซื่อนอนกับนางในเรือนตะวันตกได้ แต่จะให้ลู่กุ้ยนอนที่ไหน

ลู่เจียวจึงให้น้องชายไปนอนกับสามีก่อนหนึ่งคืน

ใครจะไปรู้ว่าลู่กุ้ยกลับไม่เห็นด้วย “พี่เขยบาดเจ็บ ข้านอนกับเขา คงจะรบกวนเขาแย่”

ลู่เจียวมองลู่กุ้ยอย่างสงสัย นางคิดว่าว่าลู่กุ้ยไม่อยากนอนกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเพราะกลัวเขากระมัง

“เจ้าไม่นอนกับพี่เขย แล้วจะนอนที่ไหน”

—————————————————

[1] เหอเถา เป็นคำทับศัพท์ภาษาจีน แปลว่าวอลนัท

[2] จู๋จ่าง (族长) คำเรียกผู้นำ หรือหัวหน้าสกุลขนาดใหญ่ ในสกุลนั้นๆ อาจมีหลายครอบครัวก็ได้ ในที่นี้หมายถึงผู้นำตระกูลลู่ของหมู่บ้านลู่

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท