ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 68 ไร้ยางอายกันทั้งบ้าน

ตอนที่ 68 ไร้ยางอายกันทั้งบ้าน

ตอนที่ 68 ไร้ยางอายกันทั้งบ้าน
จู่ๆ เซี่ยเหล่าเกินก็นึกถึงคำพูดที่ลู่เจียวเคยบอกเมื่อครั้งที่แล้ว ‘แค่ท่านพ่อไม่เสียใจภายหลังก็พอแล้ว’

นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะต้องกลับมาเยือนบ้านอวิ๋นจิ่นเร็วขนาดนี้ เซี่ยเหล่าเกินไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว

หร่วนซื่อที่อยู่ด้านข้างถลึงตาอย่างร้ายกาจ ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของลู่เจียว ตรงเข้าไปในห้องโถงทันที

ลู่เจียวเดินไปที่ห้องโถงเรือนตะวันออกกับพวกเขา เฉินหลิ่วที่อยู่ด้านหลังหร่วนซื่อเห็นลู่เจียวไม่แม้แต่จะกล่าวทักทายนาง กระแทกเสียงด้วยความขุ่นเคือง

“น้องสะใภ้สามไม่อยากต้อนรับพวกเราหรือ”

ลู่เจียวหันไปมองเฉินหลิ่ว “คนที่โดนไล่ออกจากบ้าน จะกล้าไม่ต้อนรับผู้สูงส่งอย่างพวกท่านได้อย่างไร”

คำพูดเย้ยหยันนี้ทำให้เฉินหลิ่วหน้าบูดบึ้งไปทันที

เซี่ยต้าเฉียงข้างกายเฉินหลิ่วจ้องหน้าลู่เจียว “เจ้าไม่รู้จักจบสิ้นเลยจริงๆ พ่อแม่ทำอะไรก็ย่อมมีเหตุผลของพวกท่านเสมอ เจ้าก็แค่คนนอก มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทนเจ้าสาม”

ลู่เจียวยังไม่ทันพูดอะไร เถียนซื่อก็เดินออกจากเรือนตะวันตกมาจ้องหน้าเซี่ยต้าเฉียง

“ต้าเฉียง อยู่ที่บ้านเซี่ยยังรังแกลูกเขยกับลูกสาวข้าไม่พออีกหรือ ไล่พวกเขาออกจากบ้านไม่พอ ยังมาตามรังควานที่นี่อีก พวกเจ้านึกว่าตัวเองเก่งมากหรือ”

เซี่ยต้าเฉียงหน้าบึ้งตึง กำลังจะอ้าปากกำลังด่าเถียนซื่อ ก็นึกขึ้นได้ว่าเถียนซื่ออาวุโสกว่าตน จึงไม่กล้าหยาบคาย

เซี่ยหลานฉีกยิ้มกว้างมองเถียนซื่อ “แม่เฒ่าเถียน นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวเซี่ย เจ้าอย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า”

เถียนซื่อไม่ฟังคำพูดของนาง เอ่ยอย่างไม่เป็นมิตร “นั่นน่ะสิ ตอนนี้ข้าคือคนนอก ที่ผ่านมาลูกเขยบาดเจ็บสาหัส เหตุใดถึงไม่เห็นคนในครอบครัวเขามาเยี่ยมแม้แต่คนเดียวล่ะ”

ก่อนหน้านี้ เซี่ยเหล่าเกินไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เดิมทีพวกเขาก็ทำไม่ถูกเอง ยิ่งโวยวายก็ยิ่งเป็นที่ขบขันของคนอื่น จึงหันไปตวาดใส่คนในครอบครัว “พูดน้อยหน่อยจะตายไหม”

คนในสกุลเซี่ยต่างถลึงตามองเซี่ยเหล่าเกิน

ลู่เจียวปลอบเถียนซื่อ “ท่านแม่ อย่าโกรธเคืองไปเลย โกรธคนพวกนี้ไปก็ไม่คุ้มหรอก”

คนทั้งตระกูลเซี่ยโมโหจนแทบกระอัก

ลู่เจียวพาพวกเขาไปที่เรือนตะวันออก ทั้งยังขนเก้าอี้จากห้องอื่นเข้าไปให้ จากนั้นก็เดินออกมา ไม่สนใจคนสกุลเซี่ยอีก

หร่วนซื่อหงุดหงิดมาก นางถลึงตามองลู่เจียวอย่างโหดเหี้ยม นางหมูตอน ข้าจะสั่งให้ลูกข้าหย่ากับเจ้า

เซี่ยเหล่าเกินกลัวว่าหร่วนซื่อจะโวยวายจนเรื่องบานปลาย จึงยื่นมือไปจับมือนางไว้

ในเรือนนอกจากมีเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้ว ยังมีผู้ใหญ่บ้านและผู้เฒ่าสกุลเซี่ย หนึ่งในผู้ที่อาวุโสสุดแทบจะเป็นปู่ของเซี่ยเหล่าเกินได้แล้ว ปีนี้ผู้เฒ่าอายุแปดสิบกว่า แต่ยังคงดูแข็งแรงดี คนในหมู่บ้านเรียกเขาว่าผู้เฒ่าเซี่ย

ผู้เฒ่าเซี่ยเห็นเซี่ยเหล่าเกิน ก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เจ้าสี่มาแล้วหรือ”

เซี่ยเหล่าเกินชะงักไปเล็กน้อยก็ยิ้มแห้ง

หร่วนซื่อเอ่ยด้วยใบหน้ายินดี “ได้ยินว่าขาของเจ้าสามรักษาหายได้ ข้าที่เป็นแม่ก็ดีใจมาก ถึงได้มาหาเจ้าอย่างไร”

นางพูดจบก็มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยความเมตตา “เจ้าสาม ข้าได้ยินเรื่องนี้ก็ดีใจมาก”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินคำนี้พูดของนาง มุมปากก็เผยยิ้มเย้ยหยัน แล้วมองหร่วนซื่อคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

เซี่ยเหล่าเกินเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นเช่นนี้ ภายในใจรู้สึกหม่นหมอง บุตรชายคนที่สามคนนี้เกลียดพวกเขาแล้ว

เซี่ยเหล่าเกินรู้สึกเสียใจภายหลัง เหตุใดตอนแรกตนถึงได้ยอมเชื่อฟังภรรยา ไล่บุตรชายคนที่สามออกจากบ้าน

พวกเขาน่าจะช่วยรักษาบุตรชายให้หาย รอเขาสอบขุนนาง หากเขาได้เป็นขุนนางย่อมช่วยเหลือคนทั้งบ้านแน่นอน พอตอนนี้ บุตรชายมาอคติกับทั้งครอบครัวเช่นนี้ อนาคตเขาได้ดิบได้ดีแล้วทั้งครอบครัวจะเป็นอย่างไร

เซี่ยเหล่าเกินรู้สึกปวดใจมาก

หร่วนซื่อเห็นว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นแค้นเคืองตนมากก็ขุ่นเคืองใจ

ตอนนั้นเขาบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น แม้แต่หมอก็ยังบอกว่ารักษาไม่หาย ต้องนอนติดเตียงตลอดชีวิต เรื่องนี้จะโทษนางได้อย่างไร ถ้าจะโทษก็ต้องโทษหมอคนนั้นถึงจะถูก

หร่วนซื่อคิดดังนั้นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ทว่าเพื่อเอาอกเอาใจเซี่ยอวิ๋นจิ่น จึงยังคงยิ้มประจบประแจง “แค่ขาของเจ้าหาย ต่อให้ชีวิตข้าสั้นลงก็ยอม”

นางพูดจบก็แสร้งน้ำตาคลอ แล้วยังจงใจเช็ดน้ำตาตัวเอง

ผู้อาวุโสทั้งหลายเห็นนางเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกว่านางเสแสร้งอย่างมาก แต่ละคนรังเกียจนาง คนอย่างนางเป็นเช่นไร พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร

“น้องสาม เจ้าช่างลำบากเหลือเกิน ข้ารู้ว่าเจ้าทนทุกข์ทรมานมามาก กลับบ้านกับพวกเราเถอะ พวกเราจะดูแลเจ้าอย่างดีเลย”

เซี่ยอวิ๋นหวาที่อยู่ด้านหลังกล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง พี่สาม ทั้งครอบครัวควรอยู่บ้านเดียวกัน จะได้คอยดูแลกันและกัน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหรี่ตามองเซี่ยอวิ๋นหวาตั้งแต่หัวจรดเท้า เดิมทีเข้าก็ไม่ได้คิดถึงสาเหตุที่เจ้าสี่ผิวพรรณผุดผ่องสะอาดสะอ้าน ทว่าตอนนี้มมองดูอีกครั้งก็รำคาญใจ

พวกเขาเป็นเกษตรกร รักษาผิวพรรณให้ผ่องใสได้เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าต้องมีเงินถึงจะทำได้หรือ หากเขากับพี่รองไปทำไร่ทำนาด้วยกัน กินอาหารไม่ดี ใช้ของไม่ดี แน่นอนว่าเจ้าสี่ก็ย่อมแก่ก่อนวัยไม่ต่างจากพี่รอง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มจางๆแววตาดำสนิทคู่นั้นทอประกายเย็นเฉียบขึ้นมาทันที เขาเอ่ยถามคล้ายไม่ตั้งใจ

“น้องสี่ไม่สู่ภรรยาแล้วหรือ ถ้าพวกเรากลับไป น้องสี่จะอยู่ที่ไหน”

เซี่ยอวิ๋นหวาได้ยินคำพูดของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ดูไม่สบอารมณ์เล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะมารดาเกลี้ยกล่อมเขา เขาคงไม่อยากให้พี่สามกลับบ้านแน่นอน

มารดาเขาบอกเขาแล้ว ถ้าพี่สามของเขากลับไปแล้ววันข้างหน้าได้เป็นขุนนาง เขาย่อมได้ติดตามพี่สามเข้าเมือง เรื่องนี้ดีเพียงใด

เขาครุ่นคิดดูก็คิดว่าสมเหตุสมผล จึงตกลงในที่สุด

ทว่าได้ยินคำพูดของเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในใจก็ไม่ยินดีอีกครั้ง เขาสัญญากับว่าที่ภรรยาไว้แล้วว่าหลังจากแต่งงาน พวกตนจะได้อาศัยอยู่ในห้องใหญ่

ภายในบ้าน มีเพียงห้องพี่ใหญ่ที่ใหญ่โต อีกห้องที่กว้างหน่อยก็คือห้องพี่สาม

ห้องพี่รองไม่เพียงแต่เล็ก ประตูยังอยู่ทิศเหนือ ฤดูร้อนทีไร ราวกับแดดจะเผาคนตายได้จริงๆ ตอนฤดูหนาวก็หนาวจนจะแข็งตาย เขาจึงไม่ยอมเอาห้องนั้น

หร่วนซื่อเห็นเซี่ยอวิ๋นหวาไม่ตอบรับจึงรีบเอ่ยขึ้น “ที่ดินที่บ้านกว้างขนาดนั้น ถ้าไม่มีห้องนอนจริงๆ ก็แค่ต่อเติมฝั่งตะวันตกอีกสองห้องก็พอ”

เซี่ยอวิ๋นหวาตาลุกวาว หร่วนซื่อครุ่นคิดไว้แล้ว ได้ยินว่านางหมูตอนรักษาคนเป็น ถึงเวลาแค่เอาเงินให้นางไปต่อเติมห้อง ก็ย่อมไม่ใช่ปัญหา

แม้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่รู้ว่าหร่วนซื่อคิดอะไรในใจ แต่รู้ดีว่ามารดาของเขาไม่มีทางไม่กอบโกยผลประโยชน์

ทว่าหลังจากนี้ เขาที่เป็นบุตรชายกตัญญูได้เท่าไรก็เท่านั้น จะไม่ให้อะไรไปมากกว่านั้น

แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นเย็นชาอย่างไม่อาจบรรยาย เขาเงียบงันกำมือแน่น

เซี่ยหลานจึงโน้มน้าว “พี่สามกลับบ้านกันเถอะ ท่านออกมาอยู่ข้างนอกเช่นนี้ พวกเราไม่สบายใจจริงๆ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเซี่ยหลาน ก็กล่าวเย้ยหยัน “แล้วเหตุใดที่ผ่านมาถึงสบายใจล่ะ”

คำพูดนี้ออกมา สีหน้าของเซี่ยเหล่าเกินและหร่วนซื่อดำคล้ำทันที เซี่ยเหล่าเกินพูดอย่างอัดอั้นใจ “เจ้าสาม นี่กำลังโทษพวกเราอยู่หรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงยดวงหน้าเรียบเฉย จ้องมองเซี่ยเหล่าเกินด้วยแววตาเย็นชา ไม่อ่อนโยนแม้แต่น้อย

“ท่านพ่อพูดอะไร คนเป็นลูกจะโทษพ่อแม่ได้อย่างไร แต่ไหนๆ ข้าออกมาแล้วก็จะไม่คิดกลับไปอีก เรือนใหญ่แออัดอยู่แล้ว เจ้าสี่ยังต้องสู่ขอภรรยาเข้าเรือนอีก”

หร่วนซื่อเบ้ปากร้องไห้ทันที เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับเอ่ยขัด

“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าพวกท่านคิดอะไร กลับไปกับไม่กลับไปก็เหมือนกัน ไม่กลับไป พวกท่านก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกันกับข้า ที่ข้าควรช่วยก็จะช่วยแน่นอน และต่อให้ข้ากลับไป ถ้าไม่อยากช่วยก็ไม่ช่วยอยู่ดี แน่นอน พวกท่านคือพ่อแม่บังเกิดเกล้า ข้าย่อมกตัญญูต่อพวกท่านสองคนอยู่แล้ว”

แม้เขาจะพูดได้อ่อนโยนมาก ทว่าคำพูดกลับมีความนัยแอบแฝง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท