ตอนที่ 62 ผ่าตัดได้แล้ว
ลู่เจียวพูดจบ ฉีเหล่ยก็เปรยขึ้น “มิน่าล่ะ ยาลดไข้ที่หอยาเป่าเหอจ่ายมาถึงไม่มีประโยชน์ ที่แท้เป็นเช่นนี้”
ฉีเหล่ยมองลู่เจียวด้วยแววตาอึ้งทึ่ง ฝีมือการแพทย์ของแม่นางลู่ เกรงว่าคงเหนือกว่าเขาแล้ว
“แม่นางลู่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
คนสกุลหลินเอ่ยอย่างร้อนรน “ภรรยาอวิ๋นจิ่นรีบจ่ายยาให้พวกเราเถอะ พวกเราจะได้รีบไปซื้อยาในเมือง”
ลู่เจียวมองเอ้อร์ตั้น เขาไข้ขึ้นสูงจนหน้าแดงก่ำ ดูทุกข์ทรมานยิ่งนัก
ลู่เจียวพูดขึ้น “ไม่ต้องไปซื้อยาในเมืองหรอก บ้านข้ามีโกศน้ำเต้าอยู่ ไปเอาโกศน้ำเต้าที่บ้านข้ามาต้มให้เขาดื่มเดี๋ยวก็ถ่ายออกเอง จากนั้นค่อยให้เขาดื่มน้ำอุ่นขับเหงื่อเรื่อยๆ ขับจนหมดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว”
คนสกุลหลินได้ยินคำพูดของลู่เจียวก็กล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ ซุนซื่อตามไปส่งลู่เจียวพร้อมไปเอาโกฐน้ำเต้าที่บ้านเซี่ย
ฉีเหล่ยมองคนอื่นๆ ในสกุลหลินปราดหนึ่ง แล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลใจไป ไม่เป็นอะไรแน่นอน”
พูดจบเขาก็สาวเท้าก้าวใหญ่ตามลู่เจียวไป
ชาวบ้านที่อยู่กลางลานบ้านล้วนรู้ว่าเรือนข้างตะวันตกเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ว่าคนสกุลหลินตื่นตะลึงแล้ว ชาวบ้านกลับยิ่งตกตะลึงยิ่งกว่า
“สวรรค์ ภรรยาของอวิ๋นจิ่นเก่งเกินไปแล้วกระมัง แค่เห็นอาการของเอ้อร์ตั้นก็รู้ว่าทำไมเขาถึงมีไข้สูง นางยังเก่งกว่าหมอในหอยาหุยชุนและหอยาเป่าเหออีก”
“ไม่รู้ว่าได้ผลจริงหรือไม่ ต้องรอดูว่าเอ้อร์ตั้นไข้ลดไหม แล้วค่อยว่ากันอีกที”
“ถ้าได้ผลจริงๆ แม่นางลู่ก็สุดยอดเกินไปแล้ว นับได้ว่าเป็นหมอเซียนที่สุดแล้ว”
ทุกคนพูดกันไม่หยุด ลู่เจียวไม่สนใจคนในหมู่บ้าน พาซุนซื่อกลับบ้านเซี่ย
ระหว่างทาง นางนึกถึงเรื่องที่จะต้องผ่าตัดให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น ทันใดนั้นก็เงยหน้ามองฉีเหล่ย คนคนนี้เหมือนจะมาจากเมืองหลวง ไม่สู้ลองขอความช่วยเหลือจากเขาดู
ลู่เจียวคิดได้ดังนี้แววตาก็ลุกวาวขึ้นที นางมองฉีเหล่ยด้วยสีหน้าร่าเริง “หมอฉี ข้าขอความช่วยเหลืออะไรจากเจ้าได้หรือไม่”
ตอนนี้ฉีเหล่ยเคารพนับถือลู่เจียวอย่ามาก ได้ยินคำพูดของนางก็พยักหน้าไม่หยุด “แม่นางลู่ว่ามาได้เลย”
ลู่เจียวไม่รีบร้อน เพราะข้างกายมีซุนซื่อ นางคงไม่สะดวกคุยเรื่องผ่าตัดของเซี่ยอวิ๋นจิ่น
“ประเดี๋ยวค่อยคุยกัน”
ทั้งสามเดินกลับไปบ้านเซี่ย ลู่เจียวไปเอาโกฐน้ำเต้าในครัว ที่จริงนางแค่อยากถือโอกาสแอบเอาของจากห้วงอากาศเท่านั้น
สมุนไพรพวกนี้นางแปรรูปแล้วเก็บไว้ที่บ้านไม้ไผ่ในห้วงอากาศ
ลู่เจียวเอาโกฐน้ำเต้าแบ่งให้ซุนซื่อ ทั้งยังกำชับว่า “โกฐน้ำเต้ามีพิษ ใช้แค่เท่านี้ก็พอแล้ว เจ้าเอากลับไปต้มเป็นยาสองถ้วย ให้เอ้อร์ตั้นดื่มก่อนหนึ่งถ้วย ถ้าเขาถ่ายออกก็ไม่ต้องดื่มถ้วยที่สอง ถ้าดื่มแล้วยังถ่ายยาก ก็ค่อยให้ดื่มถ้วยที่สอง ต้องให้แน่ใจว่าถ่ายหนักออกมาแล้ว”
ซุนซื่อรีบรับโกฐน้ำเต้าไว้ กล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ
ซุนซื่อเดินจากไป ฉีเหล่ยก็มองลู่เจียว “เจ้าจะให้ข้าช่วยอะไรหรือ”
ลู่เจียวพลันพึมพำเสียงเบา “ตอนนี้เจ้าไม่ต้องพูดอะไร และยังไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวให้ความร่วมมือข้าก็พอแล้ว”
ฉีเหล่ยพยักหน้าทันที ลู่เจียวพาฉีเหล่ยเข้าไปในเรือนตะวันออกอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็คุยกับฉีเหล่ยด้วยความตื่นเต้น
“หมอฉี ที่แท้เจ้าเป็นหมอเลื่องชื่อจากเมืองหลวงนี่เอง เยี่ยมไปเลย เช่นนั้นข้าคงต้องฝากสามีข้ากับเจ้าแล้ว”
ฉีเหล่ยถึงกับขนลุกไปทั้งตัว เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ค่อยดีขึ้น
แต่ตอนนี้ทั้งสองเดินเข้าไปในเรือนตะวันออกแล้ว
ลู่เจียวเดินไปหาเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ “ท่านพี่ ข้ามีข่าวดีจะบอก หมอฉีเป็นหมอที่มาจากเมืองหลวง มีฝีมือการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ เขาบอกว่าเขาผ่าตัดรักษาท่านพี่ได้”
ฉีเหล่ยตะลึงงัน นี่หมายความว่าอะไร เขาผ่าตัดไม่เป็นเสียหน่อย แม่นางลู่อย่าขุดหลุมฝังเขาสิ
ฉีเหล่ยกำลังจะเอ่ย ลู่เจียวก็ใช้แววตาเหี้ยมเกรี้ยมมองเขา ตกลงกันไว้แล้วว่าจะให้ความร่วมมือกัน ก็อย่ามากความสิฉีเหล่ยกระวนกระวายจนเหงื่อท่วมหัว ไม่สิ ประเด็นคือข้าผ่าตัดไม่เป็น
โอ้สวรรค์ แม่นางลู่หลอกลวงคนเก่งเหลือเกิน
ลู่เจียวไม่ได้สนใจเขา หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยความตื่นเต้นดีใจ “อวิ๋นจิ่นได้ยินหรือยัง หมอฉีจะผ่าตัดขาให้เจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตื่นตะลึง สีหน้าไม่อยากเชื่อ เขาระงับความตื่นเต้นดีใจไว้ไม่อยู่ เอ่ยถามแทบไม่ได้ศัพท์ “หมอฉี ท่านจะผ่าตัดขาให้ข้าจริงหรือ”
ข้าไม่ใช่หมอผ่าตัด ข้าไม่เป็น ข้าไม่กล้าด้วย
ลู่เจียวที่อยู่ข้างเตียงถลึงตามองเขา ท่าทางของนางสื่อว่า ถ้ากล้าขัดนาง นางจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก
ทั้งศีรษะของฉีเหล่ยอาบเหงื่อเย็นทันที ภายในใจร้องทุกข์ว่า เหตุใดถึงไปตอบตกลงว่าจะให้ความร่วมมือนางด้วย นี่ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ
ลู่เจียวทวนอีกครั้ง “หมอฉี รีบมาดูอาการให้อวิ๋นจิ่นเถอะ ดูว่าขาของเขาผ่าตัดได้หรือยัง”
ฉีเหล่ยสบสายตาอำมหิตของลู่เจียว ก็รีบเดินไปตรวจขาเซี่ยอวิ๋นจิ่น
แม่นางลู่เป็นนางมารร้ายชัดๆ
ก่อนหน้านี้เหตุใดเขาถึงนึกว่านางอ่อนโยนไม่มีพิษมีภัยล่ะ พลั้งผิดในกรรมหนักเพียงครั้งเดียว ฝังเจ็บกลางใจชั่วชีวิต
ฉีเหล่ยตรวจดูอาการของเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้วพูดด้วยความมั่นใจ “ขาของคุณชายเซี่ย แค่ได้ผ่าตัดก็มีหวังแล้ว”
สิ้นเสียงฉีเหล่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็นึกว่าเขาผ่าตัดเป็นจริงๆ จึงตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง ผิวพรรณผุดผ่องแดงระเรื่อขึ้นมาทันตา
ดวงตาดำสนิทเจือความยินดี บุรุษที่มีใบหน้าเยือกเย็นถึงกับดูอ่อนโยนขึ้นมาไม่น้อย
“เป็นเรื่องดีจริงๆ”
ลู่เจียวก็คล้อยตามเขาไป “นั่นน่ะสิ ในความโชคร้ายย่อมมีความโชคดี เจ้าจะได้รักษาขาแล้ว”
ฉีเหล่ยกระวนกระวายใจ หน้าซีดเป็นไก่ต้ม โอ้สวรรค์ เขามาหมู่บ้านเซี่ยทำไมกัน เหตุใดวันนี้ก่อนจะออกจากบ้านถึงไม่ดูดวงก่อน
วันนี้เขาต้องดวงถึงฆาตแน่ๆ ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี ควรทำอย่างไรดี
ลู่เจียวไม่สนใจฉีเหล่ย หันไปมองฉีเหล่ยด้วยรอยยิ้มเบิกบาน “หมอฉี การผ่าตัดครั้งนี้ รอให้อวิ๋นจิ่นเตรียมตัวสองสามวันได้หรือไม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอยากจะผ่าตัดทันที ฉะนั้นพอสิ้นคำของลู่เจียว เขาก็พูดอย่างทนไม่ไหว “อันที่จริงผ่าตัดตอนนี้เลยก็ได้”
ลู่เจียวไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ต้องรอให้นางเตรียมตัวสักวันสองวัน นางยังไม่ได้หารือกับหอยาเป่าเหอเลย จะเริ่มผ่าตัดได้อย่างไร
นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นหน้าตาย “อวิ๋นจิ่น การผ่าตัดครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องให้หมอฉีกลับไปเตรียมตัวก่อน”
ลู่เจียวพูดจบก็หันไปมองฉีเหล่ยเพื่อให้เขาเอ่ยอะไรสักอย่าง
สีหน้าฉีเหล่ยขมขื่น อยากร้องไห้มาก ทำอย่างไรดี ตอนนี้เขาอยากบอกบุรุษบนเตียงดังๆ ข้าผ่าตัดไม่เป็น ข้าไม่กล้าด้วย อย่ามาฝากความหวังกับข้า
แต่ลู่เจียวจ้องมองเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขา ฉีเหล่ยจึงต้องเงียบปากไว้ “เจ้าพักผ่อนอีกสองวันเถอะ รอให้ข้าเตรียมตัวแล้วจะบอกเจ้าอีกที”
ตอนนี้เขาอยากนั่งรถม้าออกจากหมู่บ้านเซี่ยแล้วไม่มาเยือนสถานที่อับโชคนี้อีกเลย เหตุใดถึงต้องมาเจอแม่นางสติฟั่นเฟือนเช่นนี้
เขาไม่ได้ขุดหลุมฝังตัวเองหรือ ไม่สิ นางขุดหลุมฝังสามีตัวเองต่างหาก
ตอนนี้นางให้ความหวังสามี เดี๋ยวพอสามีรู้ว่าผ่าตัดไม่ได้ สติต้องวิปลาสแน่นอน ฉะนั้นแม่นางผู้นี้ไม่ได้หลอกลวงเขา แต่หลอกลวงสามีนางต่างหาก สามีนางกับนางมีเรื่องเคียดแค้นใจอะไรกันแน่
ฉีเหล่ยคิดอเงียบๆ ลู่เจียวไม่มองเขาอีก แค่เกลี้ยกล่อมเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เอาเถอะน่ะ อีกสองวันเท่านั้น สองวันนี้เจ้าจะได้บำรุงร่างกายดีๆ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอัดอั้นความตื่นเต้นในใจไม่ได้ ไม่เคยนึกเลยว่าจะเจอหมอที่ผ่าตัดให้ตนเองได้เร็วเช่นนี้
เป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆ