ตอนที่ 73 เล่นละครตบตา
ไช่โต้วแค่นเสียงไม่สบอารมณ์ “ข้าทั้งขู่ทั้งปลอบพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่สนใจข้า แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร ข้าบอกพวกเขาแล้วว่าจะให้กินลูกกวาด พวกเขาก็ไม่ยอมตกลง”
หร่วนซื่อได้ยินคำพูดของไช่โต้วก็โกรธแฝดสี่จนพูดไม่ออก “มีมารดาดาวไม้กวาดสั่งสอน ทั้งบ้านไม่มีใครดีเลยจริงๆ”
หร่วนซื่อเพิ่งกล่าวจบ นอกประตูก็มีเสียงของเถียนซื่อดังขึ้น “เซี่ยต้าเฉียง ลูกชายเจ้ามารังแกหลานข้าถึงบ้าน เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
คนในห้องโถงได้ยินเสียงนี้ พวกผู้ใหญ่ต่างก็มองไปที่ไช่โต้ว
“เจ้าตบน้องชายเจ้าจริงหรือ”
ไช่โต้วพูดอย่างโกรธเคือง “ข้าทั้งปลอบทั้งขู่พวกเขา พวกเขาก็ไม่ฟังข้า ข้าเลยโมโหพลั้งมือตบเอ้อร์เป่าไปหนึ่งที ใครสั่งให้เขาไม่เชื่อฟังข้า ที่ผ่านมาพวกเขากล้าทำอย่างนี้ที่ไหน”
ผู้ใหญ่ทุกคนเครียดจนอยากตาย เดิมทีให้เขาไปโน้มน้าวแฝดสี่ สุดท้ายเขากลับไปตีคนอื่นเช่นนี้
ทว่าหร่วนซื่อไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ นางแค่นเสียงเย็นชา “ตีก็ตีไปแล้ว แล้วยังสมควรโดนตีด้วย”
หร่วนซื่อเพิ่งจะพูดจบ ประตูใหญ่ของตระกูลเซี่ยถูกลู่เจียวถีบอย่างแรง
เดิมทีประตูก็ไม่ได้ลงกลอนอยู่แล้ว แค่งับไว้เท่านั้น พอถูกถีบก็เปิดออกอย่างง่ายดาย
ลู่เจียวพาเอ้อร์เป่าเดินเข้าประตูมา ยังมีชาวบ้านตามอยู่ด้านหลัง
ลู่เจียวเข้าไปหาเซี่ยต้าเฉียงและเฉินหลิ่ว “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ให้ไช่โต้วเกลี้ยกล่อมแฝดสี่ให้งอแงกับบิดาของพวกเขา พอแฝดสี่ไม่เห็นด้วย ไช่โต้วกลับตบหน้าเอ้อร์เป่า”
ลู่เจียวเพิ่งจะพูดจบ ต้าเป่าก็จ้องเอ้อร์เป่า เอ้อร์เป่าพลันเบ้ปากร้องไห้ ขณะเดียวกันก็ตะโกนเสียงดัง “ข้าเจ็บหน้า เจ็บมาก ท่านแม่ ข้าเจ็บเหลือเกิน”
ชาวบ้านที่เดินตามหลังต่างหันไปมองเด็กคนนี้ ตลอดทางไม่ร้องไห้ เหตุใดตอนนี้ถึงร้องแล้วล่ะ
ทว่าเห็นว่าเด็กคนนี้ร้องไห้ด้วยความเศร้าสลด ต่างก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจมาก
เซี่ยต้าเฉียงและเฉินหลิ่วมองลู่เจียว ไม่ต้องพูดถึงว่าโมโหแค่ไหนเลย เซี่ยต้าเฉียงยังใคร่อยากจะลุกขึ้นสั่งสอนแม่นางคนนี้ให้สาสม
แววตาเขาเย็นยะเยือก กล่าวเสียงแข็ง “เด็กทะเลาะกัน ผู้ใหญ่จะทำอย่างไรได้”
ลู่เจียวหัวเราะอย่างเย็นชา “ไช่โต้วอายุแปดขวบแล้ว กลับมารังแกเด็กอายุสี่ขวบ เจ้ายังกล้าพูดเช่นนี้หรือ”
ลู่เจียวพูดจบก็ไม่รอให้เซี่ยต้าเฉียงเอ่ยสิ่งใดต่อ นางหันไปมองไช่โต้วแล้วพูดเสียงเย็น “ถ้าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้สอนเด็กไม่เป็น ข้าจะสอนแทนพวกเจ้าเอง เด็กไม่รู้จักกาลเทศะ โดนสั่งสอนหน่อยก็จะรู้เอง”
ไช่โต้วตกใจในสีหน้าโหดเหี้ยมของนาง จึงถอยไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว
เซี่ยต้าเฉียงได้ยินคำพูดของลู่เจียวก็ถลึงตามองลู่เจียวด้วยความโมโห “เจ้าจะตีไช่โต้วของพวกเราหรือ”
ลู่เจียวส่ายหัว “ไม่ ข้าจะให้พี่ใหญ่สั่งสอนลูกชายตัวเองต่างหาก”
อันที่จริงเซี่ยต้าเฉียงตีบุตรชายตัวเองไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ลู่เจียวมาบีบบังคับให้เขาตีอีก เขาจะเห็นด้วยได้อย่างไร เวลานี้สีหน้าจึงค่อนข้างย่ำแย่
“ข้าจะสั่งสอนลูกตัวเองทีหลัง เจ้ารีบไสหัวกลับไปเถอะ”
“ลูกเจ้าตบตีลูกข้า จะปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ อย่างนี้หรือ”
ลู่เจียวพูดด้วยแววตาเย็นชา เซี่ยเหล่าเกินลุกขึ้นจ้องลู่เจียวแล้วเปรยว่า
“สะใภ้สาม เจ้าอย่าดุเด็กแบบนี้สิ เด็กทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ เด็กในหมู่บ้านทะเลาะกันบ่อยจะตาย นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรกระมัง”
“ถ้าเด็กทะเลาะกันธรรมดาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แต่ไช่โต้วมาเกลี้ยกล่อมให้ลูกข้าไปงอแงกับอวิ๋นจิ่น นี่มีคนเสี้ยมมาชัดๆ ฉะนั้นเรื่องนี้จะละเลยไม่ได้เป็นอันขาด”
เซี่ยเหล่าเกินได้ยินคำพูดของลู่เจียว ใบหน้าก็ดำคล้ำไปทันที
สะใภ้สามคนนี้ไร้เหตุผลจริงๆ เจ้าสามสมควรหย่าร้างกับนาง
เซี่ยเหล่าเกินพลางคิดพลางปั้นหน้าตาให้ถมึงทึงกว่าเดิม “เจ้ามาโวยวายเช่นนี้ คนนอกก็ขบขันแย่ เอาเถอะ ประเดี๋ยวพวกเราจะสั่งสอนไช่โต้วเอง”
เซี่ยเหล่าเกินพูดจบก็หันไปมองไช่โต้ว พูดด้วยความดุดัน “วันหลังห้ามตีน้อง”
เซี่ยเหล่าเกินเพิ่งจะเอ่ยจบ เอ้อร์เป่าก็ร้องไห้โวยวายอีกครั้ง “ข้าไม่มีพี่ชายอย่างเขา วันหลังเขาไม่ใช่พี่ชายของข้าอีก”
เซี่ยเหล่าเกินโดนสะใภ้ตบหน้า แล้วยังจะโดนหลานตบหน้าอีก สีหน้าจึงย่ำแย่จนทนดูไม่ได้
หร่วนซื่อที่อยู่ข้างกายเขาผุดลุกขึ้นด้วยความเดือดดาล “ไอ้สัตว์เดรัจฉาน แม้แต่บิดาเจ้ายังไม่กล้าพูดเช่นนี้เลย เจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหน แม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังกล้าเสียมารยาทด้วยแบบนี้”
หร่วนซื่อพูดจบก็พุ่งตรงไปหมายจะตีเด็กชายคนนี้ เถียนซื่อกลับเดินไปชี้หน้านางก่อน “หน็อยแน่ ดูสิว่าวันนี้ข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร”
หร่วนซื่อพลันคิดถึงตอนที่นางโดนเถียนซื่อลากตัวออกไป จึงไม่กล้าเดินขึ้นหน้าต่อ เพราะนางสู้กับเถียนซื่อไม่ไหว
เซี่ยต้าเหลียงได้ยินคำพูดของเถียนซื่อก็ตวาดด้วยความโกรธเคือง “นี่เป็นบ้านเซี่ยของข้า ไม่ใช่บ้านพวกเจ้า เจ้ากลับมารังแกคนอื่นถึงบ้าน อยากเจอดีหรือ”
ลู่เจียวจ้องมองหน้าเซี่ยต้าเฉียงแล้วยิ้มเย้ยหยัน “มาสิ ดูว่าข้ากลัวเจ้าหรือไม่ เจ้าคิดว่าเจ้าคือผู้ชาย แล้วข้าจะกลัวเจ้าหรือ”
เซี่ยต้าเฉียงถลึงตามองนางอย่างเหี้ยมโหด กระโจนเข้าไปหมายจะสั่งสอนนาง ทว่าเฉินหลิ่วกลับรั้งไว้เสียก่อน
เฉินหลิ่วหันไปบิดหูลูกชายตัวเอง แล้วฟาดสะโพกของเขาอย่างโมโห ขณะที่ฟาดก็พูดอย่างมีโทสะ
“ใครสั่งให้เจ้าตีน้องชาย นั่นเป็นน้องชาย ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน วันหลังพวกเจ้ายังต้องพึ่งพาอาศัยกัน”
เฉินหลิ่วสั่งสอนไช่โต้วไม่เบาจนเขาร้องไห้เสียงดังพลางร้องเรียกเซี่ยเหล่าเกิน “ท่านปู่ ช่วยข้าด้วย”
ทว่าครั้งนี้เซี่ยเหล่าเกินทำอะไรไม่ได้ เขารู้ว่าวันนี้ลูกสะใภ้สามมาถึงที่นี่ จะต้องเอาเรื่องไช่โต้วให้ถึงที่สุดแน่
ตอนนี้นางยังเป็นสะใภ้สาม พวกเขาทะเลาะเบาะแว้งไปก็มีแต่จะทำให้คนนอกขบขัน แม้เซี่ยเหล่าเกินจะรักและเอ็นดูหลานเพียงใดก็ต้องอดทนไว้
สำหรับเฉินหลิ่ว นางก็แค่ตีบุตรชายให้ลู่เจียวดูเท่านั้น
นางกับเซี่ยต้าเฉียงไม่เหมือนกัน เซี่ยต้าเฉียงคิดว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นคือน้องสามของเขา ไม่ว่าจะเมื่อไรก็คือน้องสามของเขา
แต่เฉินหลิ่วรู้ว่าพี่น้องย่อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ถ้าเซี่ยต้าเฉียงเอาแต่ขัดใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ วันหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ดิบได้ดี ต้องไม่ช่วยพวกเขาแน่นอน ฉะนั้นนางถึงตัดสินใจทำเช่นนี้
ลู่เจียวเห็นว่าเฉินหลิ่วตีบุตรชายแรงๆ ไปหลายทีแล้ว จึงพูดด้วยเสียงเย็นชา “นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ถ้ายังมีครั้งต่อไป ข้าจะสั่งสอนแทนพวกเจ้าเอง”
นางพูดจบก็พาเอ้อร์เป่าเดินจากไป เถียนซื่อก็พาแฝดสามคนที่เหลือจากไป
กลางลานบ้านเซี่ย เซี่ยเหล่าเกินเห็นลู่เจียวพาแฝดสี่จากไปก็ถลึงตาใส่เฉินหลิ่ว “เอาเถอะ หยุดตีได้แล้ว เด็กจะไปรู้เรื่องอะไร”
หร่วนซื่อด่าทอลู่เจียวจนสองสามีภรรยาจนเซี่ยเอ้อร์จู้ทนฟังต่อไปไม่ได้
“ท่านแม่ ถ้าท่านอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับน้องสามก็ไม่ควรทำเช่นนี้”
หร่วนซื่อขุ่นเคืองใจมาก “เจ้ามีปัญญาก็ไปเกลี้ยกล่อมน้องสามให้เขากลับมาที่บ้านสิ”
เซี่ยเอ้อร์จู้มีสีหน้าเหมือนกินยาขม “ข้าไม่มีหน้าไปเกลี้ยกล่อม ก่อนหน้านี้ท่านไม่ได้ไล่พวกเขาออกจากเรือนใหญ่แล้วหรือ ตอนนี้กลับจะไปตามพวกเขากลับมา”
หร่วนซื่อโมโหจนตะคอกเสียงดัง