ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 76 เจ้าเหมือนจะอ่านหนังสือไม่ออกหรือเปล่า

ตอนที่ 76 เจ้าเหมือนจะอ่านหนังสือไม่ออกหรือเปล่า

ตอนที่ 76 เจ้าเหมือนจะอ่านหนังสือไม่ออกหรือเปล่า
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียว ไม่เอ่ยถึงเรื่องอนุภรรยาอีก เขาเพียงถามด้วยสีหน้าเย็นชา “เมื่อกี้เจ้าไปที่โน่นเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ถูกเอาเปรียบใช่หรือไม่”

ลู่เจียวได้ยินก็รู้ว่าเขาถามถึงเรื่องที่นางพาเอ้อร์เป่าไปที่บ้านใหญ่ตระกูลเซี่ย

ลู่กุ้ยต้องเล่าเรื่องที่เอ้อร์เป่าโดนตบให้เขาฟังแน่ๆ

ลู่เจียวจึงเล่าเรื่องที่เกิดในบ้านใหญ่ตระกูลเซี่ยให้เขาฟัง จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นชา

“เจ้าไม่เห็นตอนที่ท่านพ่อสั่งสอนไช่โต้ว เขาดูเจ็บปวดแค่ไหน ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ทุกคนก็เป็นหลานของเขา เหตุใดท่านพ่อถึงรักและเอ็นดูลูกของพี่ใหญ่ แต่ไม่รักลูกของพวกเราเล่า”

ลู่เจียวเล่าถึงตอนสุดท้าย จู่ๆ ก็นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง จึงจ้องหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้าไม่ได้เป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยงใช่ไหม”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินลู่เจียวพูดเช่นนี้ แววตาหม่นหมองไปทันที ที่ผ่านมาเขาก็สงสัยเช่นนี้เหมือนกัน เลยไปสืบมาเป็นการเฉพาะ ทว่าสืบไปสืบมา ก็ได้เรื่องว่าเขาเป็นลูกแท้ๆ ของเซี่ยเหล่าเกินและหร่วนซื่อจริงๆ

“ข้าเคยสืบแล้ว พวกเขาคือพ่อแม่ข้าจริงๆ”

ใต้หล้านี้ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ทุกคนล้วนรักและเอ็นดูลูกหรือ

อย่างไรก็ตาม บ้านไหนมีลูกหลายคน พ่อแม่ก็มักจะลำเอียง ตระกูลเซี่ยมีลูกสี่คน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรักลูกทุกคนเท่ากันลู่เจียวได้ยินคำพูดของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ถอนหายใจ “ในอนาคตครอบครัวเจ้าต้องเป็นภาระให้เจ้าแน่นอน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วมองนางปราดหนึ่ง ถามว่า “เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าอยู่หรือ”

ลู่เจียวตะลึงงัน รีบส่ายหัว “เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าเป็นห่วงแฝดสี่ต่างหาก”

นางเป็นห่วงแฝดสี่จากใจจริง พวกเขาช่างโชคร้ายที่มีปู่ย่าเช่นนี้ ปู่ย่านับว่าเป็นผู้อาวุโส เด็กๆ เป็นคนรุ่นหลัง ผู้อาวุโสรังแกคนรุ่นหลังย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดอย่างอ่อนโยน “ถ้าอยากให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุขก็ย่อมมีทางออก เพียงแต่ตอนนี้ข้ายังพิการ ไม่มีปัญญาไปเอาเรื่องพวกเขาเท่านั้น รอให้ขาของข้าดีขึ้น พวกเขาก็ไม่มีทางกล้ามาหาเรื่องเช่นนี้อยู่แล้ว”

เขาพูดราวกับเรื่องนี้ช่างง่ายดาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด

ลู่เจียวครุ่นคิดถึงความสามารถที่เขามี ก็คลายความกังวลลงไปมาก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดจบก็คิดถึงเรื่องผ่าตัดขึ้นมา จึงหันไปมองลู่เจียว “ตอนนี้เรื่องผ่าตัดสำคัญที่สุด รีบคิดวิธีผ่าตัดให้เร็วที่สุดก่อนเถอะ”

ลู่เจียวครุ่นคิด “เช่นนั้นมะรืนข้าจะไปหารือเรื่องผ่าตัดของเจ้ากับหมอฉีในเมือง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยอย่างร้อนใจ “ไปพรุ่งนี้เลยไม่ได้หรือ”

ถ้าไปพรุ่งนี้ก็ต้องได้ผ่าตัดมะรืน ขาของเขาอย่างไรก็ต้องหาย เขาต้องกลับมาลุกขึ้นยืนให้ได้อีกครั้ง

ครั้งนี้ตนเองได้รับบาดเจ็บจนพิการ จึงได้รู้ถึงสันดานของคนใกล้ตัว คนไหนเป็นมิตรแท้มีบุญคุณ เขาก็จะตอบแทน ส่วนใครที่ใจดำกับเขา เขาก็จะไม่ปรานี

ลู่เจียวได้ยินคำพูดของเซี่ยอวิ๋นจิ่น จึงพูดอย่างไม่เห็นด้วย “แม้เจ้าเหมือนไม่เวียนหัวแล้ว แต่ห้ามใจร้อนเด็ดขาด มะรืนข้าค่อยไปหารือเรื่องผ่าตัดกับหมอฉีจะดีกว่า พรุ่งนี้ข้ายังมีธุระ ต้องสอนท่านแม่ทำเต้าหู้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียวอย่างตะลึง นางแรงเยอะและมีความรู้ด้านสมุนไพร ตอนนี้ก็ทำเต้าหู้เป็นด้วย แม่นางผู้นี้คือใครกันแน่

“เจ้าทำเต้าหูเป็นด้วยหรือ”

ลู่เจียวแย้มยิ้ม “ข้าฝึกจากในตำราน่ะ”

เซี่ยอวิ๋นจินแค่นเสียงเบาในลำคอ “เจ้าเหมือนจะอ่านหนังสือไม่ออกไม่ใช่หรือ”

ลู่เจียวปั้นหน้าบึ้งทันที ผ่านไปสักพักจึงแย้งกลับ “ข้าฟังคนเขาอ่านเอาไม่ได้หรือ”

“อ้อ เช่นนั้นเจ้าก็มีความสามารถจริงๆ ฟังคนอื่นอ่านก็ทำเป็นแล้ว ยอดเยี่ยมจริงๆ”

ลู่เจียวตะลึงงัน จ้องหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น สงสัยว่าเจ้าหมอนี่ประชดตัวเองใช่หรือไม่ ทว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกินอิ่มก็มองลู่เจียว “รีบออกไปกินข้าวเถอะ ฟ้ามืดมากแล้ว”

ลู่เจียวพลันลืมประโยคประชดประชันของเซี่ยอวิ๋นจิ่น เอาถ้วยเปล่าเดินออกไปทันที

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองตามลู่เจียว พลางยกยิ้มจางๆ ขึ้นช้าๆ

หลังจากกินมื้อค่ำเสร็จ เถียนซื่อก็ล้างจานและอุ่นยาให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น

ลู่เจียวไปอาบน้ำให้แฝดสี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้พวกเขา ทั้งยังไม่ลืมหวีผมมัดแกละสองข้างให้ ก่อนหน้านี้พวกเขาโกนหัวมาตลอด ปีนี้ผมเพิ่งจะยาวขึ้นมานิดหน่อย ฉะนั้นจึงมัดได้อย่างเดียว มัดเสร็จก็ผูกด้วยเชือกสีเดียวกับชุด

พอเด็กๆ แต่งตัวเช่นนี้ ก็น่ารักเหมือนเด็กในภาพวาด ยิ่งพวกเขาทั้งสี่คนแต่งตัวเหมือนกัน ก็ยิ่งน่ารักน่ามองขึ้นไปอีกเถียนซื่อมองแล้วเปรยว่าเด็กดีๆ จากนั้นก็อุ้มหลานมาหอมแก้มไม่หยุด

“นี่เป็นเด็กบ้านใครกัน เหตุใดถึงน่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ราวกับรูปแกะสลักกระนั้นแหละ”

ลู่เจียวได้ยินคำพูดของเถียนซื่อก็เผลอเงยหน้ามองโดยไม่รู้ตัว อันที่จริงแฝดสี่มีเบ้าหน้าไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย ทว่าเพราะว่าอายุเท่ากัน ไว้ผมทรงเดียวกัน สวมเสื้อผ้าเหมือนกัน จึงมีหลายคนที่แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร

ลู่เจียวมองยิ้มๆ “เอาเถอะ ไปให้พ่อพวกเจ้าดู วันนี้พวกเจ้าดูดีเหลือเกิน”

แฝดสี่ยิ้มไม่หุบ หันหลังเดินไปที่เรือนตะวันออกด้วยความภูมิใจ

ลู่เจียวรินยาที่อุ่นแล้วลงในถ้วย เถียนซื่อยื่นมือมาแตะมือของนาง “เจียวเจียวของข้าจะได้มีชีวิตที่สุขสบายแล้ว”

ลู่เจียวสีหน้าอ่อนใจ สุขสบายอะไรเล่า บุรุษคนนี้ไม่ใช่ของนาง บุตรก็ไม่ใช่ของนางด้วย

ทว่านางจะพูดคำเหล่านี้กับเถียนซื่อได้อย่างไร ลู่เจียวน้ำท่วมปาก รู้สึกปวดหัวนัก

ช่างเถอะ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แล้วกัน ไว้ค่อยพูดทีหลัง นางเงยหน้ามองเถียนซื่อ “ท่านแม่ ข้าไปป้อนยาให้อวิ๋นจิ่นก่อน ท่านถือเวลนี้ไปอาบน้ำเถอะ”

“ได้”

เถียนซื่อหยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำ ลู่เจียวยกยาเข้าไปในเรือนตะวันออก ยังไม่ทันเดินเข้าไปในเรือน เด็กชายสี่คนก็ร้องจิ๊บๆ ราวกับนกกระจอก

“ท่านพ่อ พวกเราหล่อไหม”

“ชุดใหม่ใส่สบายเหลือเกิน”

“ข้าโตป่านนี้แล้วยังไม่เคยได้ใส่เสื้อผ้าใหม่เลย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นแฝดสี่ตื่นเต้นดีใจขนาดนั้น จึงอดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ เห็นพวกเขารื่นเริงใจ นางก็รื่นรมย์ตาม

ลู่เจียวยกถ้วยยาเข้ามาแล้วพูดยิ้มๆ “เอาเถอะ เลิกอวดได้แล้ว รีบเข้านอนเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว”

แฝดสี่พยักหน้า จากนั้นแฝดสี่ก็นึกถึงเสี่ยวเฮยและฮวาฮวาขึ้นมา พลันหันมองลู่เจียว “ท่านแม่ พวกเราไปดูเสี่ยวเฮยและฮวาฮวาก่อน อีกเดี๋ยวจะกลับมานอน”

“ได้ ไปเถอะ”

เพราะเสี่ยวเฮยและฮวาฮวาเพิ่งจากแม่มาอยู่ในสถานที่ใหม่จึงไม่ค่อยมีชีวิตชีวา ชอบอยู่แต่ในบ้านหมา แฝดสี่มีเวลาจะก็จะไปเล่นกับพวกมัน

ลู่เจียวไม่ได้ห้าม

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือมายกถ้วยมา ทว่าไม่ได้รีบดื่ม กลับเงยหน้ามองลู่เจียว

“ขอบคุณเจ้าที่ทำเพื่อเด็กๆ”

ลู่เจียวมองเขาอย่างตกตะลึง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่วายร้ายจะขอบคุณนาง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่มองนางอีก ก้มหน้าดื่มยา

ลู่เจียวพูดอย่างอารมณ์ดี “ขอบคุณอะไรเล่า พวกเขาก็คือบุตรชายข้าเหมือนกัน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินคำพูดนี้ แววตาก็เข้มขึ้น เขาดื่มยาอย่างนิ่งเฉย “ก็ถูกของเจ้า”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท