ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 79 พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ

ตอนที่ 79 พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ

ตอนที่ 79 พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ
ลู่เจียวแย้มยิ้ม นี่จ้าวซื่อกำลังนินทาคนอื่นอยู่หรือ

บรรดาสตรีเกิดมาก็ล้วนชอบซุบซิบนินทา นางก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น ไม่เช่นนั้นเหตุใดพอได้ยินจ้าวซื่อพูดเช่นนี้จึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมาเล่า

“โวยวายอะไร”

จ้าวซื่อพูดอย่างขบขัน “หลัววั่งไฉลากตัวเสิ่นซิ่วออกจากบ้านเจ้า นางก็มาโวยวายอีกแล้ว แล้วยังบอกแม่หม้ายหลี่ว่า ขอแค่ไม่ให้นางแต่งงานกับหลัววั่งไฉ สิบตำลึงนั่น นางยอมจ่ายเอง”

“สุดท้ายนางวิ่งเข้าไปหาเงินในเรือนแต่กลับหาไม่เจอ จึงวิ่งออกไปด่าหลัววั่งไฉ บอกว่าหลัววั่งไฉขโมยเงินสิบตำลึงของนางไป”

“เจ้าว่านางพูดจริงหรือ หลัววั่งไฉคงไม่ขโมยเงินของนางจริงๆ กระมัง หรือว่านางต้องการใส่ร้ายหลัววั่งไฉ”

“ตอนนั้นหลัววั่งไฉตะโกนออกมาทันทีว่าโดนใส่ความ เพื่อที่จะสู่ขอนาง เขาถึงกับไปยืมเงินคนอื่น แล้วเขายังมีพยานมายืนยันว่าไม่ได้ปด”

“แม่หม้ายหลี่โมโหมาก สั่งให้เสิ่นซิ่วรีบแต่งงานกับหลัววั่งไฉเสียวันนี้เลย”

ลู่เจียวได้ยินก็ตกตะลึง “แต่งวันนี้จัดงานทันหรือ”

จ้าวซื่อมองลู่เจียวด้วยความขบขัน “จัดงานอะไรกันเล่า แม่หม้ายออกเรือนใหม่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเสียหน่อย พาเจ้าสาวกลับบ้านไปก็พอแล้ว”

ลู่เจียวทำหน้าแปลกใจ นางจำได้ว่าครั้งก่อนหลัววั่งไฉบอกว่าจะเชิญนางไปร่วมงานด้วยตัวเอง เขาไม่คิดจะจัดงานจริงหรือ

ทว่าเสิ่นซิ่วมีจุดจบเช่นนี้ก็สมควรแล้ว ลู่เจียวไม่เห็นใจนางแม้แต่น้อย

จ้าวซื่อแวะมานินทาแล้วก็เดินกลับบ้านไปอย่างสบายใจ ทว่าเดินไปสองก้าวก็หันกลับมากำชับลู่เจียว “เจ้าต้องระวังนางให้มากๆ ล่ะ”

ลู่เจียวเลิกคิ้ว “ทำไมหรือ”

จ้าวซื่อจ้องหน้าลู่เจียวราวกับเจ็บใจที่ไม่อาจหลอมเหล็กให้เป็นเหล็กกล้าได้ “นางจ้องจะจับอวิ๋นจิ่นอยู่”

ลู่เจียวไม่คิดเช่นนั้น “นางเป็นแม่หม้ายที่กำลังจะแต่งงานใหม่แล้ว อวิ๋นจิ่นไม่โปรดปรานนางหรอก”

จ้าวซื่อเตือนสตินาง “กลัวก็แต่ว่านางจะคิดร้าย อวิ๋นจิ่นมีอนาคตสดใส หากนางทำลายชื่อเสียงของอวิ๋นจิ่น อนาคตเขาต้องป่นปี้แน่”

คำพูดนี้ลู่เจียวฟังแล้วเก็บใส่ใจ จึงขอบคุณจ้าวซื่อ “ขอบคุณพี่สะใภ้ที่เตือนสติ ข้าจะระวังให้มากๆ”

จ้าวซื่อจากไปในที่สุด ลู่เจียวหันหลังเดินกลับไปในบ้าน แฝดสี่กำลังฝึกจู่โจมคนร้ายอย่างตั้งอกตั้งใจ ลู่เจียวเห็นว่าเริ่มสายแล้วจึงตามพวกเขากลับมา “เอาเถอะ กินมื้อเช้าแล้วค่อยมาฝึกต่อ ไปล้างหน้าล้างมือกันเถอะ”

แฝดสี่วิ่งไปล้างหน้าล้างมืออย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็วิ่งไปกินข้าวในห้องโถง

ลู่เจียวตักโจ๊กหนึ่งถ้วย คีบแตงกวา เตรียมเข้าไปป้อนเซี่ยอวิ๋นจิ่น มารดาของหลินเอ้อร์ตั้นก็มาเยือน ครั้งนี้นางส่งไข่มาหนึ่งตะกร้า วางทิ้งในบ้านแล้วก็วิ่งหนีไปเลย“ภรรยาอวิ๋นจิ่น เจ้าต้องรับไข่ไว้นะ ถ้าไม่รับไว้ พวกเราจะไม่มีหน้ามาขอความช่วยเหลืออีก”

ลู่เจียวมองไข่ไก่ ก็ไม่มากความอีก ยกโจ๊กเดินไปป้อนอวิ๋นจิ่น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ดื่มน้ำพุจากบ่อจิตวิญญาณมาตลอด ทั้งยังได้กินยาดี ตอนนี้จึงดูมีชีวิตชีวา ใบหน้าซีดเซียวในตอนแรกก็ดูมีสีเลือดขึ้นมามาก แววตาดำสนิททอประกายราวกับหยดน้ำ ทั้งตัวดูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ประหนึ่งได้ดื่มน้ำวิเศษจากเทพเซียน

ลู่เจียวมองอย่างพึงพอใจ อีกสองสามวคงจะผ่าตัดได้แล้ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วดกดำขึ้น เขามองลู่เจียวพร้อมเอ่ยด้วยเสียงเรียบเฉย “เช้านี้เจ้าให้แฝดสี่ฝึกวิชาป้องกันตัวหรือ”

ลู่เจียวก็ไม่ได้ปิดบังเขา จึงพยักหน้า “อืม เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นนึกถึงบุตรชายที่โดนตบเมื่อวาน สีหน้าจึงเย็นชาโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อตอนเงยหน้ามองลู่เจียวอีกครั้ง ก็ดูอ่อนโยนทันตา น้ำเสียงก็ฟังดูอ่อนหวานขึ้นไม่น้อย

“แค่ให้พวกเขาฝึกป้องกันตัว ไม่ได้ให้พวกเขาไปรังแกคนอื่น จะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร เจ้าทำดีมาก”

วิธีสอนลูกของนางคล้ายคลึงกับของเขามาก ตอนนี้นับวันเขายิ่งอยากให้นางอยู่ดูแลเด็กๆ ต่อ

ลู่เจียวได้ยินคำพูดของเขาก็ดีใจมาก นางไม่ชอบคนที่เอาแต่อ่อนข้อให้คนอื่น ไม่ชอบคนที่พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธอย่างมาก

เหตุใดถึงต้องเอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ ไร้สาระสิ้นดี

เพราะว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่โทษนาง นางจึงอารมณ์ดีมาก ท่าทีที่ป้อนโจ๊กดูนุ่มนวล ดูกลายเป็นคนอ่อนโยนขึ้นมาทันที

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองออก จึงเงยหน้ามองนางพริบตาเดียวแล้วพูดขึ้น “ข้ารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนับวันก็ยิ่งดีขึ้น พรุ่งนี้เจ้าไปในเมืองถามหมอฉีดูว่าอีกสองสามวันจะผ่าตัดให้ข้าเลยได้หรือไม่”

ลู่เจียวมองเขาปราดหนึ่งก็ดูออกว่าเขาค่อนข้างร้อนใจ

“ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเขาดู ให้เขารีบจัดการเรื่องเจ้าโดยเร็วที่สุด”

ในที่สุดเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ดูโล่งใจ แววตาเคล้าด้วยความหวังราวกับต้นไม้แห้งเหี่ยวที่เริ่มผลิใบอีกครั้ง

ตอนนี้เขากับลู่เจียวเหมือนกลายเป็นคนละคน ทั้งสองคนล้วนแตกต่างจากเมื่อก่อนราวกับฟ้ากับดิน

ลู่เจียวป้อนโจ๊กพลางพูด “พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปทันที เจ้าอย่าใจร้อนไปเลย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำชับ “ถ้าเกวียนควายของผู้ใหญ่บ้านไม่เข้าเมือง เจ้าก็เช่าเกวียนเขาไปเลย ไม่ต้องเดินไปเอง”

แม่นางผู้นี้ดูแลบุตรชายเป็นอย่างดี เขาต้องทำดีกับนางสักหน่อย

ลู่เจียวได้ยินคำพูดของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็หวาดกลัวที่ได้รับความโปรดปราน เลยถอนหายใจหนึ่งที ดูๆ แล้วหลังจากหย่าร้างกัน คนคนนี้คงไม่หาเรื่องนาง ไม่ตามฆ่านางให้ตายแล้ว

เพราะเรื่องนี้ ทั้งสองจึงเข้ากันได้ดีมากขึ้น

มีคนสี่คนรออยู่นอกบ้าน พวกเขาไม่ได้เข้ามา แต่ขานเรียก “ท่านแม่ พวกเรามาเยี่ยมท่าน”

ลู่เจียวได้ยินเสียงจึงเงยหน้ามองไปทางเรือนตะวันออก เห็นว่าเป็นพี่ใหญ่และพี่รองของนางมาพร้อมภรรยา

ลู่เจียวเห็นพวกเขาก็ไม่ได้ขยับไปไหน ยังคงป้อนโจ๊กเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงยหน้ามองลู่เจียว สังเกตเห็นว่านางป้อนโจ๊กเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคอยสังเกตนางมาสักพักแล้ว เขาเข้าใจในลู่เจียวคนนี้ไม่น้อย

อย่ามองเพียงว่านางมีสีหน้าอ่อนโยนและยิ้มแย้มเบิกบาน ที่จริงแล้วนางเป็นคนสดใส ยามมีความสุขก็ดีต่อเจ้า ทว่ายามทุกข์ ก็จะไม่มองเจ้าแม้แต่ปราดเดียว ใครกล้ามีเรื่องกับนาง นางก็พร้อมจะสั่งสอนอย่างไร้ความปรานี

เซี่ยอวิ๋นจิ่นก้มหน้าต่ำ ดูๆ แล้วพี่ใหญ่และพี่รองของนางคงมีเรื่องบาดหมางใจกับนาง

ทั้งสี่คำนับเถียนซื่อ เถียนซื่อก็พูดคุยเสียงเรียบเฉย ทว่าสีหน้ากลับดูดีกว่าที่ผานมา

พี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองค่อนข้างกลัวน้องสาวสามีตัวเอง เพราะเคยเห็นลู่เจียวตอนเดือดดาลเมื่อครั้งก่อนดูน่ากลัวยิ่ง

ลู่กุ้ยดึงพี่ใหญ่และพี่รองเข้าไปในเรือนตะวันออก

“พี่เจียว พี่ใหญ่กับพี่รองมาเยี่ยมท่านแม่”

พวกเขาสองคนส่งยิ้มให้ลู่เจียว “น้องสาว พวกเรามารับท่านแม่กลับบ้าน”

ลู่เจียวเงยมองเขา “จะรับกลับไปก็ใช่ว่าไม่ได้ แต่ต่อไปห้ามทำให้ท่านแม่ลำบากใจอีก พวกเรามีแม่แค่คนเดียว มีเรื่องอะไรต้องเคืองแค้นนางขนานั้นด้วย นางอายุปูนนี้แล้ว ต้องมาอารมณ์เสียบ่อยๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพกระมัง”

ลู่ผิงและลู่อันได้ยินเช่นนี้ ก็นึกถึงคำกำชับของบิดา ไม่กล้าโต้แย้งกลับ เพียงแค่พยักหน้าคล้อยตาม

“ต่อไปท่านแม่พูดอะไร พวกเราจะว่าตาม สัญญาว่าจะไม่ทำให้นางโกรธอีก”

“น้องสาววางใจเถอะ พวกเราจะเชื่อฟังท่านแม่อย่างดี”

สองสามวันมานี้ บิดาพวกเขาไม่ค่อยชิน รู้สึกไม่สบายใจ ตกกลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ

พ่อแม่พวกเขาเป็นสามีภรรยามาหลายปีไม่เคยพรากจากกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ห่างกัน

ฉะนั้นบิดาพวกเขาจึงทนนั่งนิ่งไม่ไหวอีกต่อไป ตอนกลางดึกถึงกับลุกขึ้นมาสั่งพวกเขาให้มารับมารดากลับไป ถ้ามารดาไม่กลับมาด้วย พวกเขาก็ไม่ต้องกลับบ้าน

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท