ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 102 พี่สาวข้ามีวาสนาดี

ตอนที่ 102 พี่สาวข้ามีวาสนาดี

ตอนที่ 102 พี่สาวข้ามีวาสนาดี
ลู่เจียวกำลังครุ่นคิด แต่เสียงของเจ้าตัวเล็กทั้งสี่ก็ดังขึ้นขัดจังหวะนาง

ต้าเป่ามองเถียนซื่อ “ท่านยาย ท่านจะมาอีกเมื่อไร”

หลายวันมานี้ แฝดสี่กับเถียนซื่อและลู่กุ้ยผูกพันกันแล้ว เมื่อได้ยินว่าท่านยายกับท่านน้าจะกลับบ้าน แฝดสี่ก็อาลัยอาวรณ์มาก

เมื่อได้ยินคำถามของต้าเป่า ในใจเถียนซื่อก็อาลัยอาวรณ์เช่นกัน แฝดสี่คนนี้ไม่เหมือนกับหู่จื่อที่บ้านเลยสักนิด หู่จื่อชอบโวยวายนอนกลิ้งอยู่บนพื้น ถ้าอยากได้ของเล่นอะไรก็ร้องโวยวายจนกว่าได้มาถึงยอมหยุด

ส่วนเจ้าแฝดสี่พวกนี้ไม่เคยทำอย่างนั้นเลย อายุน้อยกว่าหู่จื่อแท้ๆ แต่กลับมีเหตุผลกว่ามาก หากพูดกับพวกเขาให้ชัดเจน พวกเขาก็จะเชื่อฟัง

เถียนซื่ออยู่ที่เรือนสกุลเซี่ยมาหลายวัน ก็พอจะคิดได้แล้วว่า ต่อไปนี้จะตามใจหู่จื่ออีกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นโตไปจะมีภัยแน่นอน

“ต้าเป่าทำใจไม่ได้ที่ท่านยายจะกลับบ้านใช่ไหม เช่นนั้นคราวหลังเจ้ากับแม่เจ้ามาเที่ยวเล่นที่บ้านท่านยายด้วยกันนะ”

ต้าเป่ามองลู่เจียว แล้วลู่เจียวก็พยักหน้า “ได้ ครั้งหน้าหากแม่ไปบ้านท่านยาย แม่จะพาพวกเจ้าไปด้วย”

เจ้าตัวเล็กทั้งสี่ยิ้มแย้มดีใจ เพราะพวกเขาไม่เคยไปเยี่ยมญาติมาก่อน

“ท่านแม่ แล้วท่านจะไปบ้านท่านยายเมื่อไร” เอ้อร์เป่าถามอย่างตื่นเต้น

“รอให้พ่อเจ้าหายดีก่อน” ลู่เจียวพูดยิ้มๆ

“พาท่านพ่อไปด้วยกัน” ซานเป่ากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ลู่เจียวกำลังจะตอบ เถียนซื่อก็พูดแทนอย่างยินดี “เช่นนี้ก็ดีเลย พวกเจ้าไปกันทั้งบ้านเลย ถึงตอนนั้นยายจะฆ่าไก่ให้พวกเจ้ากิน”

“ขอรับท่านยาย” แฝดสี่พากันพยักหน้า

ดวงตาลู่เจียวฉายแววหดหู่ จะให้นางพาเจ้าตัวเล็กทั้งสี่ไปด้วยนั้นเป็นไปได้ แต่ถ้าจะให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปด้วย ทั้งชาตินี้ก็ไม่มีวันเป็นไปได้

เมื่อเซี่ยอวิ๋นจิ่นขาหายดี เขากับนางก็จะแยกทางกันแล้ว

ทว่าลู่เจียวไม่ได้บอกเถียนซื่อ

วันต่อมา ตอนที่ฟ้าเริ่มสาง ลู่เจียวลุกก็ขึ้นจากเตียงอย่างเบามือเบาเท้า เถียนซื่อกับซื่อเป่ายังหลับอยู่ นางเดินออกไปโดยไม่ทำให้ใครตื่น

คิดไม่ถึงว่าจะเห็นลู่กุ้ยที่ตื่นแล้วอยู่ในลานบ้าน น้ำในอ่างเต็มแล้ว เขาถือไม้กวาดผุพังด้ามหนึ่ง กำลังจะกวาดลานบ้าน พอเห็นลู่เจียวตื่นขึ้นมา เขาก็เดินเข้าไปถามอย่างเป็นห่วง

“ท่านพี่ ทำไมท่านไม่นอนพักผ่อนอีกสักหน่อย”

ลู่เจียวมองลู่กุ้ย น้องชายนางคนนี้ช่างขยันขันแข็ง ทั้งยังซื่อสัตย์มากด้วย หลายวันมานี้เขาไม่เคยอยู่เฉย พอมีงานก็แย่งทำตลอด

ลู่เจียวอยู่กับเขามาหลายวันแล้ว ไม่ได้รู้สึกแย่กับเขาเท่าเมื่อก่อน

“เมื่อวานท่านแม่บอกว่าจะกลับตอนบ่าย ข้าเลยเตรียมจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์สักหน่อย ให้พวกเจ้านำกลับไปด้วย”

พอลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ ลู่กุ้ยก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ท่านพี่จะขึ้นเขาไปล่าสัตว์หรือ ข้าไปกับท่านด้วยได้หรือไม่”

“ได้ เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” ลู่เจียวไม่ปฏิเสธ

พี่สาวน้องชายแบกตะกร้าสะพายหลังเดินขึ้นเขาไปด้วยกัน ระหว่างทาง ลู่กุ้ยคอยมองลู่เจียวอย่างระมัดระวัง ถามเสียงเบาว่า “ท่านพี่ ท่านยังโกรธข้าอยู่หรือ”

เขาเพิ่งถามเสร็จ เห็นว่าลู่เจียวไม่สนใจเขา จึงยื่นมือไปเขย่าแขนนางเสียเลย “ท่านพี่ ท่านอย่าโกรธข้าเลย เมื่อก่อนเป็นข้าที่ไม่ดีเอง”

ตอนนี้พี่สาวเก่งกาจแล้ว ทำให้เขารู้สึกเคารพ ถึงขั้นรู้สึกภูมิใจที่มีพี่สาวเช่นนี้ด้วย ดังนั้นเขาจะปล่อยให้พี่สาวโกรธเขาไม่ได้

“พอแล้ว ปล่อยข้า” ลู่เจียวผลักเขาอย่างทนไม่ไหว

ลู่กุ้ยไม่ปล่อย ดึงนางไว้แน่น “ท่านพี่ ท่านให้อภัยข้าเถอะนะ”

ลู่เจียวไม่อยากให้เขามาตามตอแย จึงพยักหน้ารับ “ข้าให้อภัยเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งให้ได้ก่อน เจ้าต้องทำดีกับท่านแม่ให้มากหน่อย หากข้ารู้ว่าเจ้าทำไม่ดีกับท่านแม่อีก รอดูได้เลยว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร”

ลู่กุ้ยยืดอกรับประกัน “ท่านพี่ ท่านวางใจได้เลย ต่อไปนี้ข้ารับรองว่าจะไม่ทำให้ท่านแม่โมโหแล้ว เดี๋ยวข้ากลับบ้านไปก็จะบอกพี่ใหญ่กับพี่รองด้วย ต่อจากนี้จะไม่ทำให้ท่านแม่ต้องรำคาญใจแม้แต่น้อย”

ลู่กุ้ยกำลังคิดในใจว่า ท่านแม่ช่างให้กำเนิดบุตรสาวที่ดีจริงๆ

ดูท่าแล้ว ให้กำเนิดบุตรสาวนั้นมีประโยชน์กว่าให้กำเนิดบุตรชายมาก ในภายหลังเขาจะต้องมีบุตรสาวที่เหมือนพี่สาวของตัวเองให้ได้แน่นอน

ลู่กุ้ยยิ้มตาหยีจนมองไม่เห็นดวงตา ส่วนลู่เจียวก็ทำสีหน้าประหลาดใจ

“จำคำพูดของเจ้าไว้แล้วกัน”

“ขอรับๆ ข้าจะจำไว้”

สองพี่น้องพูดคุยกันขณะเดินขึ้นเขา ลู่เจียวเจอกับดักที่เคยวางไว้ก่อนหน้านี้ นางเก็บไม้ไผ่แหลมที่อยู่ในนั้นออกมาเหลาใหม่แล้วเสียบกลับไปในนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็ปูหญ้าเขียวไว้ด้านบน นำเนื้อกวางที่เหลืออยู่ในห้วงอากาศมาทาน้ำแร่จากน้ำพุจิตวิญญาณเล็กน้อยแล้วโยนเข้าไป จากนั้นก็เสร็จธุระของนางแล้ว

“เท่านี้ก็เสร็จแล้วหรือ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว?” ลู่กุ้ยมองอย่างประหลาดใจ

เขาคิดมาตลอดว่าการทำกับดักคือเรื่องที่ซับซ้อนมาก เขาเองก็เคยเห็นคนในหมู่บ้านทำกับดักมาก่อนเช่นกัน แต่กับดักที่พี่สาวของเขาทำเรียบง่านเกินไป ทำแค่นี้ก็ล่าสัตว์ได้แล้วหรือ

ลู่กุ้ยทำหน้าเหลือเชื่อ ลู่เจียวตอบสีหน้าราบเรียบ “สัตว์ที่เจ้ากินก่อนหน้านี้ ก็ล่ามาด้วยวิธีนี้”

ลู่กุ้ยมองดูในหลุมกับดักแล้วก็มองพี่สาวตัวเอง ได้ข้อสรุปแล้ว

บางทีกับดักแบบนี้อาจจะมีแค่พี่สาวของเขาที่ทำได้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงทำไม่ได้

ส่วนสัตว์ที่นางล่าได้ ก็คงจะเป็นเพราะนางเป็นคนที่วาสนาดีมาก ดังนั้นแค่ทำกับดักไปเรื่อยเปื่อย นางก็ล่าสัตว์ได้แล้ว

ลู่เจียวไม่สนใจลู่กุ้ย เดินขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร นางตัดสินใจแล้วว่าอีกสองวันจะสอนชาวบ้านให้รู้จักสมุนไพร แต่นางกังวลว่าถ้าสอนปากเปล่าแล้วชาวบ้านก็อาจจะดูไม่เป็นอยู่ดี เช่นนั้นนางก็จะนำสมุนไพรไปเป็นตัวอย่างให้พวกเขาดู

ลู่กุ้ยเห็นลู่เจียวกำลังเก็บสมุนไพร จึงรีบเดินตามไป “ท่านพี่ ท่านสอนข้าให้รู้จักสมุนไพรได้ไหม”

เขารู้ว่าพี่สาวเขาต้องการจะสอนให้พวกชาวบ้านรู้จักสมุนไพร เช่นนั้นเขาก็จะเรียนด้วยเช่นกัน หากเรียนจนดูเป็น เขาก็สามารถเก็บสมุนไพรจากบนเขาที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาได้แล้ว

“ได้สิ”

ลู่เจียวไม่ได้ปฏิเสธ นำลู่กุ้ยไปเก็บสมุนไพร “ดูนะ ต้นนี้คืออินเฉิน พืชในวงศ์ทานตะวัน ใบหงิกงอออกเป็นช่อสีเทาปนขาวหรือไม่ก็สีเทาเขียว มันมีฤทธิ์ดับร้อน บำรุงตับและถุงน้ำดี แต่มันเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น คนที่ม้ามกับกระเพาะไม่ดี เวลากินต้องระวัง”

“นี่คือผูกงอิง ขอบใบของผูกงอิงมีฟันเลื่อยเหมือนคลื่น ก้านใบเป็นสีม่วงแดง ผูกงอิงดับร้อนแก้พิษ ขับปัสสาวะ เคลือบลำไส้ แก้ดีซ่าน ขับน้ำดี แต่มันก็เป็นพืชฤทธิ์เย็นเหมือนกัน คนที่ตับกับกระเพาะไม่ดีต้องจำกัดปริมาณการกิน”

“นี่คือ…”

ลู่เจียวเก็บสมุนไพรไปพลาง อธิบายให้ลู่กุ้ยฟังไปพลาง แต่น่าเสียดายที่อธิบายไปได้ครู่เดียว ลู่กุ้ยก็ปวดหัวแล้ว เขารีบบอกนางว่า “ท่านพี่ ข้าไม่เรียนแล้ว ข้าปวดหัว”

ลู่เจียวหันไปมองเขาอย่างนึกขัน ท่าทางเขาดูมึนงงมาก

“ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องเรียนแล้ว ไปตัดฟืนให้ข้า”

พอลู่กุ้ยได้ฟังคำพูดของนางก็ไปตัดฟืนด้วยความดีใจ

พูดตามตรง เมื่อก่อนเขานึกว่าการเรียนรู้สมุนไพรเป็นเรื่องง่ายมาก มาตอนนี้กลับพบว่าเป็นเรื่องยากเกินไป เขาจำไม่ได้เลย

ลู่กุ้ยนึกถึงเรื่องที่พี่สาวจะสอนให้พวกชาวบ้านรู้จักสมุนไพร แล้วคนพวกนั้นจะจำได้หรือ

ลู่เจียวเก็บสมุนไพรได้กองหนึ่ง ลู่กุ้ยก็ตัดฟืนได้มัดใหญ่เช่นกัน สองพี่น้องแบกสมุนไพรและฟืนเดินไปทางหลุมกับดัก

เนื่องจากครั้งนี้มีลู่กุ้ยอยู่ด้วย ลู่เจียวจึงไม่ได้นำสมุนไพรเก็บเข้าห้วงอากาศ จะได้ไม่ถูกลู่กุ้ยจับพิรุธได้

ทั้งสองเดินไปยังไม่ทันถึง ก็ได้ยินเสียงขลุกขลักดังออกมาจากในหลุมกับดักแล้ว

ลู่กุ้ยรีบวิ่งไปอย่างตื่นเต้น ลู่เจียวเดินตามหลังไปติดๆ เมื่อทั้งสองเดินไปถึงข้างหลุมก็เข้าไปดูใกล้ๆ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท