ตอนที่ 106 ชื่อเสียงของหมอเทวดา
จ้าวซื่อได้ยินคำพูดของลู่เจียวแล้วก็คิดได้ ใช่แล้ว ถ้าแต่งผู้หญิงเจ้าปัญหาเข้ามาจะทำอย่างไรล่ะ
หลินชุนเยี่ยน ลูกสะใภ้คนนี้เชื่อฟังมาตลอด หลังจากนี้จะต้องปรนนิบัติบุตรคนโตของนางอย่างดีแน่นอน มีลูกสะใภ้เช่นนี้ ในภายภาคหน้านางก็เบาใจได้
ในที่สุดจ้าวซื่อก็ล้มเลิกความคิดที่จะให้หลินชุนเยี่ยนหย่าร้าง นางถามลู่เจียวว่า “หากรักษาโรคนี้แล้วจะให้กำเนิดบุตรได้จริงหรือ”
“ได้สิ”
คำพูดประโยคนี้เท่ากับช่วยชีวิตหลินชุนเยี่ยนเอาไว้ หลินชุนเยี่ยนมองลู่เจียวด้วยความซาบซึ้งใจ หากไม่ใช่เพราะมีจ้าวซื่ออยู่ตรงนี้ด้วย นางก็อยากจะโขกศีรษะกับพื้นคำนับลู่เจียวเหลือเกิน
“เดี๋ยวข้าจะเขียนใบสั่งยาให้นาง ท่านก็เคี่ยวยาให้นางดื่มทุกวันแล้วกัน ยานี้ไม่เปลืองเงินเท่าไรนัก คิดเสียว่าแค่ได้กินของดีมากขึ้นอีกหน่อย”
“ดีๆๆ รบกวนภรรยาอวิ๋นจิ่นแล้ว”
พอจ้าวซื่อได้ยินว่าไม่เปลืองเงินมาก ในที่สุดนางก็โล่งอกแล้ว
อันที่จริงลู่เจียวก็สามารถเขียนใบสั่งยาดีๆ ได้ ทำเช่นนั้นแล้วหลินชุนเยี่ยนก็จะหายเร็วขึ้น แต่ถ้านางเขียนใบสั่งยาแพงเกินไป เกรงว่าจ้าวซื่อคงเกิดความคิดที่จะหย่าลูกสะใภ้อีกแน่ๆ
ดังนั้นลู่เจียวจึงตัดสินใจเขียนใบสั่งยาทั่วไป เดี๋ยวนางค่อยคิดหาทางนำน้ำแร่จากน้ำพุจิตวิญญาณมาให้หลินชุนเยี่ยนกินในภายหลัง ทำเช่นนี้นางจะได้หายเร็วขึ้น
ในห้องโถง หลังจากลู่เจียวตรวจอาการให้หลินชุนเยี่ยนเสร็จแล้ว นางก็ลุกขึ้นเตรียมจะพาแฝดสามออกไป
แต่นางยังไม่ทันเดินออกไป ท่านย่ารองที่อยู่ด้านนอกก็เดินนำฉางเหมยลูกสะใภ้คนเล็กของนางรีบร้อนเดินเข้าประตูมา
“เจียวเจียว เจ้าช่วยตรวจอาการให้ฉางเหมยหน่อยได้ไหม”
ท่านย่ารองพูดจบแล้วก็รู้สึกกระดากใจนิดหน่อย แต่ลู่เจียวกลับเอ่ยรับทันที
“ได้”
รักษาให้คนเดียวก็คือการรักษา รักษาให้สองคนก็คือการรักษาเหมือนกัน อย่างไรเสียท่านย่ารองก็เอ่ยปากขอแล้ว
ลู่เจียวเดินกลับมานั่งในห้องโถงดังเดิม แล้วบอกให้ฉางเหมยเข้ามาให้นางจับชีพจร
ฉางเหมยสีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมมาก ราวกับว่าหากลมพัดมาวูบหนึ่งนางก็คงปลิวไป
แค่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้านี้แวบแรกก็รู้แล้วว่าสุขภาพไม่ดี ราวกับคนป่วยเป็นโรคเรื้อรังมานาน
ตอนที่ลู่เจียวจับชีพจรให้ฉางเหมย ท่านย่ารองก็หันตัวเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง หยิบน้ำตาลทรายขาวออกมา แล้วก็วิ่งเข้าครัวไปต้มน้ำตาลสามถ้วย
“เด็กดี มาดื่มน้ำตาลต้มเร็ว”
แฝดสามหันขวับไปมองลู่เจียว ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อยให้พวกเขา
แฝดสามยิ้มตาหยีขณะวิ่งเข้าไปหาน้ำตาลต้ม ขณะที่ดื่มจนปากหวานแล้ว พวกเขาก็กล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณท่านย่ารอง”
ท่านย่ารองมองเด็กน้อยที่น่ารักทั้งสามคน นางบรรยายไม่ถูกเลยว่าโปรดปรานพวกเขาเพียงใด จากนั้นก็มองหลานสะใภ้กับสะใภ้เล็กในห้องโถงแล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
หลานสะใภ้ให้กำเนิดบุตรไม่ได้ ลูกสะใภ้คนเล็กของนางให้กำเนิดบุตรสาวไปแล้วสามคนติด ไม่มีบุตรชายสักคนเดียว ตอนนี้ยังมาล้มป่วยอีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้กำเนิดบุตรชาย เพราะหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปอาจจะเอาชีวิตไม่รอดแล้ว
หลังจากลู่เจียวจับชีพจรให้ฉางเหมย นางก็ถามอาการฉางเหมยโดยละเอียด สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าฉางเหมยอาจจะเป็นโรคเฉพาะสตรี
ยุคสมัยนี้ไม่มีหมอหญิง เมื่อผู้หญิงเป็นโรคเฉพาะสตรีก็ไม่สะดวกจะพูดกับหมอผู้ชาย ทำให้หลายครั้งเขียนใบสั่งยาไม่ตรงกับโรคจนรักษาไม่หาย
คิดได้ดังนั้นลู่เจียวก็ถามท่านย่ารอง “ท่านย่ารอง จัดเตรียมห้องให้ข้าสักห้องได้หรือไม่”
คนในห้องโถงหันมามองนางพร้อมกัน ไม่เข้าใจว่าจู่ๆ นางจะถามหาห้องไปทำอะไร
แต่ท่านย่าก็รองลุกขึ้นเอ่ย “ข้าจะพาเจ้าไปหาห้อง”
ลู่เจียวพยักหน้าแล้วบอกฉางเหมยว่า “ตามข้ามา ข้าจะตรวจอาการเจ้าให้ละเอียดอีกสักหน่อย”
พอนางพูดจบก็บอกกับเด็กน้อยสามคนในห้องโถงว่า “แม่จะพาป้าสะใภ้รองไปตรวจร่างกาย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่สักประเดี๋ยว เดี๋ยวแม่ก็กลับมาแล้ว”
เด็กน้อยทั้งสามพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย “พวกเราเข้าใจแล้ว ท่านแม่”
จ้าวซื่อเห็นเด็กน้อยน่ารักก็จ้องตาเป็นมัน ไม่รู้ว่าบ้านอวิ๋นจิ่นทำได้อย่างไร เด็กเหล่านี้นอกจากหน้าตาดีแล้วยังว่านอนสอนง่ายอีก ไม่เหมือนเด็กในบ้านพวกตนเลยสักนิด ดูอย่างลูกชายคนเล็กของนางสิ อย่างกับว่าถ้าไม่ทำให้นางโมโหสักวันแล้วจะตายอย่างนั้นละ
จ้าวซื่อยิ่งมองแฝดสามก็ยิ่งชอบ ยื่นมือไปจูงทั้งสามเข้ามาพูดคุยหยอกล้อ อยากจะเอาทั้งสี่คนนี้มาไว้ที่บ้านตัวเองเหลือเกิน
ในห้องข้าง ท่านย่ารองเข้าไปเป็นเพื่อนฉางเหมย ลู่เจียวเองก็ไม่ได้บอกให้ท่านย่ารองออกไป นางบอกให้ฉางเหมยถอดกางเกงชั้นในออก เพราะต้องการจะตรวจช่วงล่างสักหน่อย
ฉางเหมยพลันหน้าซีด ปฏิเสธว่าไม่อยากตรวจแล้ว
ท่านย่ารองถลึงตาใส่นาง แล้วก็บอกลู่เจียวว่า “เจียวเจียว ทำไมต้องถอดด้วยล่ะ”
“ข้าสงสัยว่าพี่สะใภ้จะเป็นช่องคลอดอักเสบ” ลู่เจียวอธิบาย
นางรู้ว่าท่านย่ารองกับฉางเหมยไม่เข้าใจ จึงอธิบายเพิ่ม “หมายถึงร่างกายท่อนล่างได้รับเชื้อโรค อาการที่เป็นคือจะรู้สึกคัน แล้วก็มีกลิ่นผิดปกติด้วย ช่องคลอดอักเสบแบ่งได้หลายประเภท ให้ข้าตรวจดูสักหน่อยว่านางเป็นช่องคลอดอักเสบประเภทไหน”
ท่านย่ารองหันไปมองฉางเหมย พอฉางเหมยได้ฟังคำพูดของลู่เจียว นางก็อายจนอยากจะเอาหน้ามุดดินไปเสียเลย
เมื่อท่านย่ารองเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าลู่เจียวพูดถูก จึงสั่งฉางเหมยเสียงเข้ม “เอาละ รีบถอดออกแล้วมาให้เจียวเจียวตรวจดูหน่อย ถ้าป่วยก็ต้องรักษา”
พอฉางเหมยได้ยินคำพูดของท่านย่ารอง ก็รีบเงยหน้ามองลู่เจียว “โรคที่ข้าเป็นรักษาได้หรือไม่”
ลู่เจียวพยักหน้า “รักษาได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ฉางเหมยก็ถอดกางเกงชั้นในทันที นางรู้สึกคันตรงจุดนั้นจะแย่อยู่แล้ว ทรมานเหลือเกิน อีกทั้งพักนี้สามีนางก็ไม่ยอมแตะต้องนาง รังเกียจว่าตรงนั้นของนางเหม็น
ปัจจัยภายนอกเหล่านี้ทำร้ายจิตใจนาง ทำให้นางรู้สึกแย่ ร่างกายถึงได้แย่ลงตามไปด้วย
ลู่เจียวนำคีมปากเป็ดออกมา หลังจากตรวจให้ฉางเหมยอย่างละเอียดแล้ว ก็ยืนยันได้แล้วว่าฉางเหมยเป็นช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา
“เจ้าเป็นช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา ยามปกติจะคัน มีระดูขาวมากขึ้น ระดูขาวข้นเหมือนเต้าหู้ ตอนปัสสาวะรู้สึกแสบ”
เดิมทีลู่เจียวอยากจะพูดด้วยว่ารู้สึกเจ็บตอนมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็กลัวว่าจะทำให้ผู้หญิงสองคนนี้ตกใจ จึงไม่ได้พูดออกไป
ลู่เจียวพูดจบก็ถอดถุงมือ วางคีมปากเป็ดไว้ด้านข้าง แล้วบอกกับท่านย่ารองว่า “วานท่านนำไปทิ้งให้ด้วยนะเจ้าคะ”
“ได้ ย่ารองเข้าใจแล้ว” ท่านย่ารองพยักหน้า
นางเอ่ยรับแล้วจ้องลู่เจียว “เจียวเจียว โรคนี้ของฉางเหมยรักษาได้จริงหรือ หลังจากนางให้กำเนิดบุตรสาวสามคน นางก็ไม่ตั้งครรภ์อีกเลย เป็นเพราะโรคนี้ด้วยหรือไม่”
“โรคนี้ก็มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อยู่บ้าง” ลู่เจียวพยักหน้า
นางพูดจบแล้วเงยหน้ามองฉางเหมย “ตอนที่รักษาโรคอยู่ พวกเจ้าสามีภรรยาห้ามนอนร่วมห้องกัน เมื่อเจ้ารักษาจนหายดีแล้ว ต่อไปก็ให้สามีเจ้ารักษาความสะอาดด้วย”
ท่านย่ารองกับฉางเหมยมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี พวกนางอายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย ราวกับกำลังฟังคัมภีร์สวรรค์
ลู่เจียวไม่ได้อธิบายละเอียด เพราะกลัวทำให้พวกนางตกใจกว่าเดิม
“เดี๋ยวข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ เจ้าไปรับยาได้ที่หอยาเป่าเหอ”
แม้ในบ้านนางจะมียาอยู่บ้าง แต่ก็มีไม่ครบ ไปที่ร้านขายยาในเมืองดีกว่า
“ได้”
ลู่เจียวเดินออกไปล้างมือ พอล้างมือเสร็จก็พาเด็กน้อยสามคนเดินไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน
ปรากฏว่าระหว่างทางมีหลายคนเข้ามาดักนางไว้ อยากจะเชิญนางไปตรวจโรคให้คนที่บ้านตัวเองหน่อย
ลู่เจียวพูดไม่ออก ดูท่าคงเป็นเพราะเรื่องที่นางช่วยชีวิตซย่าเหลียนเมื่อวานนี้ ทำให้คนในหมู่บ้านเซี่ยแน่ใจแล้วว่าทักษะการแพทย์ของนางยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นไม่ว่าบ้านไหนมีคนรู้สึกไม่สบายตัว ก็อยากจะให้นางไปตรวจดูอาการให้ทั้งนั้น
แต่นางก็ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น จะให้ไปตรวจทุกคนทีละบ้านก็คงไม่ไหว