ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 108 ที่แท้ก็มาช่วยพวกเขาทำงาน

ตอนที่ 108 ที่แท้ก็มาช่วยพวกเขาทำงาน

ตอนที่ 108 ที่แท้ก็มาช่วยพวกเขาทำงาน
ลู่เจียวแสยะยิ้ม มองหร่วนซื่อพร้อมกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ท่านแม่ ทำไมข้าไม่รู้เลยล่ะว่าตระกูลของเรามีญาติผู้น้องคนนี้อยู่ด้วย”

มารดาคนนี้สมองมีปัญหาจริงๆ ถ้าจะคิดจะหาภรรยาคนใหม่ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น จะดีจะเลวก็น่าหาคนที่สวยและมีสมองกว่านี้หน่อย อย่าให้อัปลักษณ์ขนาดนี้สิ คิดจะทำให้ลูกชายตัวเองระคายตาหรือ มาตรฐานของเขาสูงลิ่วปานนั้น จะชอบผู้หญิงแบบนี้ได้อย่างไร

ลู่เจียวพูดแขวะพร้อมมองประเมินโจวเสี่ยวเถาที่อยู่ตรงหน้า สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า ผู้หญิงคนนี้กับเสิ่นซิ่วที่นางเคยเผชิญหน้าด้วยก่อนหน้านี้เป็นคนประเภทเดียวกัน ล้วนเป็นดอกบัวขาวไร้ความสามารถ

แต่อย่างน้อยเสิ่นซิ่วก็ยังหน้าตาใช้ได้ ส่วนผู้หญิงคนนี้มีแต่ข้อเสีย ดูแล้วอายุน่าจะราวๆ สิบเจ็ดสิบแปดปี ร่างกายผอมแห้ง รูปร่างแบนเป็นไม้กระดาน หน้าตาก็ธรรมดา ทว่าแต่งหน้าเก่งมาก

เพียงแต่นางอาจจะไม่รู้ว่าใบหน้าของตัวเองน่าเกลียดขนาดไหน แป้งบนใบหน้าถูกน้ำตาไหลผ่านจนเป็นคราบแล้ว ใบหน้าของนางตอนนี้บางจุดขาวบางจุดเหลือง อัปลักษณ์เกินบรรยาย

เด็กแฝดสี่คนที่อยู่ในห้องเริ่มซุบซิบกัน

“น่าเกลียดมาก”

“เหมือนผีเลย”

“ชวนผวากว่าผีอีก”

“ข้ายังไม่เคยเห็นใครอัปลักษณ์เท่านี้มาก่อน”

แฝดสี่คิดว่าตัวเองพูดเสียงเบาแล้ว แต่ทุกคนในห้องกลับได้ยินหมดทุกคำ

โจวเสี่ยวเถาร้องไห้อย่างปวดใจกว่าเดิม ในขณะที่หร่วนซื่อตำหนิแฝดสี่ด้วยความโมโห

“ต้าเป่า พวกเจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน นี่คืออาหญิงของพวกเจ้านะ เหตุใดจึงเสียมารยาทกับอาหญิงเช่นนี้”

แฝดสี่ไม่สนใจหร่วนซื่อ พวกเขาหันไปมองลู่เจียวพร้อมกัน

ลู่เจียวกล่าวกับหร่วนซื่อเสียงเรียบ “ท่านแม่ ข้าจำไม่เห็นได้ว่าในครอบครัวเรามีญาติผู้น้องเช่นนี้อยู่ด้วย ทำไมในวันแต่งงานของข้ากับอวิ๋นจิ่น ข้าถึงไม่เห็นนางเลยล่ะ”

พอหร่วนซื่อได้ยินคำพูดของลู่เจียว ใจก็คิดอยากจะโผเข้าไปขยุ้มหนังหน้าของผู้หญิงคนนี้

นางตัวแสบ เป็นเพราะนาง บุตรชายถึงได้เอาใจออกหากจากตนเช่นนี้ มิฉะนั้นเจ้าสามจะใจจืดใจดำกับนางได้อย่างไร เมื่อก่อนบุตรชายคนนี้ว่านอนสอนง่าย แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นตนอยู่ในสายตาเลยสักนิด

แม้ในใจหร่วนซื่อจะเกลียดลู่เจียวจนอยากพุ่งเข้าไปตบตีนางใจจะขาด แต่พอนึกถึงความพ่ายแพ้หลายครั้งก่อนหน้านี้ นางก็จำต้องอดทนไว้

นางยิ้มทื่อๆ ให้ลู่เจียว “ทำไมจะไม่มี อาหญิงของอวิ๋นจิ่นแต่งเข้าสกุลโจว นี่ก็คือลูกสาวของท่านลุงเล็กของอาหญิงคนนั้น เช่นนี้ก็นับว่าเป็นญาติผู้น้องของอวิ๋นจิ่นไม่ใช่หรือ”

พอลู่เจียวคิดดู ในที่สุดก็รู้แล้วว่าคำเรียกญาติผู้น้องได้มาได้อย่างไร ที่แท้ก็เป็นหลานสาวอาหญิงของเซี่ยอวิ๋นจิ่น เพื่อที่จะไล่ตนออกจากบ้านนี้ไป ยายแก่นี่คงสิ้นเปลืองความคิดไปมากมาย

แต่นางจำได้ว่าตระกูลโจวไม่เคยไปมาหาสู่กับหร่วนซื่อ ตอนนี้พวกนั้นเห็นประโยชน์อะไรจากตัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้วหรือ ไม่น่าเชื่อว่าจะถึงกับทำให้คนของสกุลโจวมาถึงสกุลเซี่ย

ลู่เจียวคิดดูแล้วก็กล่าวด้วยเสียงที่ฟังดูสบายๆ “อ้อ ที่แท้ก็เป็นญาติผู้น้องสกุลโจว เช่นนั้นจ้าอยากถามสักหน่อย ท่านแม่พาญาติผู้น้องสกุลโจวมาถึงที่นี่เพื่ออะไร”

พอลู่เจียวพูดจบ บนใบหน้าหร่วนซื่อก็เผยรอยยิ้มจอมปลอม “ตอนนี้มารดากับน้องชายเจ้ากลับบ้านไปแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าคนเดียวต้องดูแลเจ้าสามกับเด็กแฝดสี่คนคงลำบากเกินไป ข้าเลยให้เสี่ยวเถามาช่วยเจ้าดูแลเจ้าสาม”

เด็กทั้งสี่ก็เป็นกลุ่มแรกที่ไม่เห็นด้วย พวกเขากล่าวอย่างโมโหว่า

“ท่านพ่อข้าไม่ต้องการให้นางดูแล”

“นางอัปลักษณ์ขนาดนี้ ท่านพ่อไม่ชอบหรอก”

“ท่านแม่ของข้าดูแลท่านพ่อได้”

“บ้านของพวกเราไม่ต้อนรับนาง”

โจวเสี่ยวเถาเริ่มร้องไห้อีกครั้ง นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเตียงด้วยแววตาน้อยเนื้อต่ำใจ อยากจะให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นออกหน้าให้นาง

แต่น่าเสียดายที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ชายตาแลนางเลย สายตาเย็นยะเยือกของเขาจับจ้องเพียงหร่วนซื่อ นัยน์ตาดำมืดครึ้มราวกับท้องฟ้าก่อนพายุพัด

หร่วนซื่อไม่ทันได้สนใจสีหน้าของเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางเอาแต่จ้องเด็กแฝดสี่อย่างโมโห จากนั้นก็เงยหน้าสั่งสอนลู่เจียว

“ลู่เจียว ดูเจ้าเด็กสี่คนนี้สิ เจ้าสอนจนกลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว หากเจ้าสั่งสอนคนไม่เป็น ข้าจะพากลับไปสั่งสอนเอง”

พอหร่วนซื่อพูดจบ บรรยากาศรอบตัวลู่เจียวก็เปลี่ยนไป รังสีอำมหิตพวยพุ่ง แววตาน่าเกรงขาม

นางมองหร่วนซื่อแล้วยิ้มเย้ย “ท่านแม่ ท่านคิดว่าเด็กแฝดสี่คนที่ข้าเลี้ยงและอบรมมานี้ เมื่อเทียบกับท่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง”

ประโยคเดียวก็ทำให้หร่วนซื่อสีหน้าตึงขึ้นมาทันที นางจ้องลู่เจียวอย่างดุดัน “ลู่เจียว นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

รอยยิ้มที่มุมปากลู่เจียวยิ่งฉายชัด แม้ใบหน้าจะอวบใหญ่ แต่สีหน้ากลับชัดเจนมาก

“ที่แท้ท่านแม่ก็ทราบดีแล้วว่าตัวเองมีสันดานเช่นไร ในเมื่อรู้แล้ว ก็อย่ามาหาว่าข้าอบรมเด็กๆ ไม่ดี ต่อให้ข้าจะอบรมได้แย่ขนาดไหน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ลูกชายของข้าก็ยังดีกว่าท่านตั้งมาก ไม่สิ ดีกว่าท่านหลายขุมเลยด้วยซ้ำ”

หร่วนซื่อหน้าดำหน้าแดง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพร้อมถลึงตาจ้องลู่เจียว “ลู่เจียว เจ้าบังอาจพูดจาเช่นนี้กับแม่สามีหรือ”

พูดจบก็ไม่มองลู่เจียวอีก นางหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่อยู่บนเตียงแทน “เซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าเห็นแล้วหรือยัง ว่าเมียเจ้าทำอย่างนี้กับแม่ของเจ้า ภรรยาเช่นนี้ยังคิดจะเก็บไว้อีกหรือ”

นัยน์ตาดำมืดของเซี่ยอวิ๋นจิ่นเย็นชาไร้อารมณ์ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อย เมื่อหร่วนซื่อเห็น ในใจของนางก็ยิ่งร้อนรน

แต่ไม่นานหร่วนซื่อก็โทษลู่เจียวว่าเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นมีท่าทีเช่นนี้ นางตัวแสบคนนี้ยุยงเขา ต้องให้เสี่ยวเถาทำให้อวิ๋นจิ่นรักนางหลงนางให้ได้ จากนั้นก็ไล่นางตัวแสบอย่างลู่เจียวออกไปเสีย

จู่ๆ หร่วนซื่อก็เริ่มร้องไห้ แล้วพูดพล่ามอย่างเจ็บปวดรวดร้าว

“ข้าหวังดีหาคนมาช่วยเหลือพวกเจ้า คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะทำตัวเช่นนี้ ข้ารู้ว่าข้ามันไม่ดีที่ก่อนหน้านี้ให้พวกเจ้าแยกบ้านออกมา แต่ตอนนี้ข้าก็เริ่มกลับตัวกลับใจ ปรับปรุงตัวเองแล้วไม่ใช่หรือ ข้าตั้งใจจะคืนดีกับพวกเจ้า ก็เลยหาคนมาช่วยเหลือ แต่ดูผลที่ได้สิ พวกเจ้าไม่เพียงแค่ไม่ยอมรับน้ำใจ ยังทำเช่นนี้กับมารดาด้วย พวกเจ้ายังมีหัวใจอยู่หรือไม่”

หร่วนซื่อพูดจบก็คิดจะวิ่งออกไปด้านนอก แต่ลู่เจียวเลิกคิ้วแล้วกล่าวขึ้นมาก่อนว่า

“ท่านแม่ ที่แท้พวกเราก็เข้าใจท่านผิดไป ท่านส่งคนมาช่วยพวกเราทำงาน เช่นนั้นพวกเราขอน้อมรับน้ำใจของท่านแม่ไว้”

ลู่เจียวกำลังกลุ้มใจอยู่เลยว่าในบ้านไม่มีคนทำงาน หร่วนซื่อพาคนมาช่วยทำงานถึงบ้านโดยไม่คิดเงินแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก

ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป นางก็จะต้องไปสอนเรื่องสมุนไพรให้ชาวบ้านแล้ว นอกจากนี้นางยังต้องจัดตารางเรียนเขียนอ่านของเด็กๆ ทั้งยังต้องดูแลแฝดสี่กับเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก หลังจากที่มารดาของนางกลับบ้านไปแล้วก็ไม่มีคนช่วยจัดการงานในบ้าน หากมีคนให้ใช้งานเพิ่มมาเช่นนี้ก็ไม่เลว

หร่วนซื่อที่อยู่ในบ้านรู้สึกว่าคำพูดนี้ฟังดูไม่ชอบมาพากล

โจวเสี่ยวเถาก็รู้สึกว่าไม่เสนาะหูเช่นกัน นางมาเพื่อช่วยดูแลอวิ๋นจิ่น เหตุใดจึงบอกว่าช่วยพวกนางทำงานล่ะ ฟังดูเหมือนให้นางมาเป็นบ่าวไพร่มากกว่า

โจวเสี่ยวเถากำลังจะเถียง ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างรวมทั้งผู้อาวุโสสองสามคนในหมู่บ้านเดินเข้าประตูเรือนมาแล้ว

เมื่อคนกลุ่มนี้เดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศไม่ชอบมาพากล

พอผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างเห็นหร่วนซื่อ ก็คิดไปโดยจิตใต้สำนึกทันทีว่าหร่วนซื่อมาก่อเรื่องอีกแล้ว จู๋จ่างพูดขึ้นก่อน “ภรรยาเจ้าสี่ นี่เจ้าคิดจะทำอะไรอีก”

ลู่เจียวตอบเขา “จู๋จ่าง ท่านแม่เห็นว่าข้าทำงานคนเดียวเหนื่อยเกินไป เลยตั้งใจหาคนมาช่วยงานข้า”

หร่วนซื่อกับโจวเสี่ยวเถาหน้าถอดสี โจวเสี่ยวเถาอ้าปากจะโต้แย้ง

แต่จู๋จ่างชิงเอ่ยถาม “ภรรยาเจ้าสี่ เจ้ามีจิตใจงดงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ”

หร่วนซื่อค่อนข้างกลัวจู๋จ่างกับบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ คนพวกนี้ปฏิบัติไม่ดีกับนางมาตลอด เอาแต่บอกให้เซี่ยเหล่าเกินหย่ากับนาง นางจะก่อเรื่องอะไรให้พวกเขาเห็นไม่ได้อีกเป็นอันขาด

ดังนั้นหร่วนซื่อจึงขยิบตาให้โจวเสี่ยวเถาก่อนจะตอบไปว่า “ใช่แล้ว ข้าเห็นลูกสะใภ้เหนื่อยเกินไป ก็เลยหาคนมาช่วยนางดูแลบ้าน”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท