ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 111 แม่ต้องขอบคุณเจ้า

ตอนที่ 111 แม่ต้องขอบคุณเจ้า

ตอนที่ 111 แม่ต้องขอบคุณเจ้า
ต้าเป่ากล่าวสรุปอย่างไร้ความรู้สึก “แม่นางผู้นี้มาอยู่ที่บ้านพวกเรา คงอยากมาเป็นอนุของท่านพ่อ แล้วมีลูกกับท่านพ่อแน่ๆ”

เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าล้วนสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนที่ทั้งสามคนจะหันไปมองต้าเป่าโดยไม่ได้นัดหมาย

ลู่เจียวเลิกคิ้วมองสี่แฝด “พวกเจ้าเลยให้นางไปทำความสะอาดคอกหมาอย่างนั้นหรือ”

ทั้งสี่คนหันไปมองลู่เจียวทันที เมื่อเห็นว่าลู่เจียวไม่โกรธก็พากันโล่งอก

ลู่เจียวกำชับสี่แฝด “พวกเจ้าสั่งงานนางได้อยู่แล้ว ใครสั่งให้ท่านย่าส่งนางมาช่วยงานพวกเราล่ะ เพียงแต่พวกเจ้าห้ามทำร้ายนางเป็นอันขาด เข้าใจไหม”

ลู่เจียวไม่อยากให้สี่แฝดทำตัวเกเรและกลายเป็นวายร้ายในวันข้างหน้า จึงตั้งใจว่าจะสั่งสอนเขาให้เป็นคนดีตั้งแต่ยังเด็ก

เอ้อร์เป่า ซานเป่าและซื่อเป่าพยักหน้าเต็มแรง แสดงให้เห็นว่าพวกเขารู้แล้ว ทว่าดวงตาของต้าเป่ากลับทอประกายหม่นเศร้า เขานึกถึงเรื่องที่ตนวางยามารดา ท่านแม่จะจำเรื่องนี้ได้หรือไม่ นางจะรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กไม่ดีหรือเปล่า

ต้าเป่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดใจ

ลู่เจียวไม่ทันสังเกตเห็นแววตาของต้าเป่า ก็หันหลังไปขัดถังน้ำ

หลังจากนางขัดถังน้ำเสร็จ ก็หยิบถังสองใบเพื่อไปตักน้ำในหมู่บ้าน

นึกไม่ถึงว่าเมื่อนางหันไปก็เห็นร่างน้อยเดินเลียบกำแพงไปทางหลังบ้านเงียบๆ ร่างเล็กนั้นดูเสียใจและเศร้าหมองมาก แม้ไม่เห็นหน้า แค่มองจากท่าเดินลู่เจียวก็รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังทุกข์ใจอยู่

และต่อให้ไม่เห็นหน้า นางก็รู้ว่าเป็นใคร

ลู่เจียววางถังน้ำลงโดยไม่รู้ตัว แล้วเดินตามไปอย่างเงียบๆ เด็กน้อยเดินตรงไปทางเรือนหลัง ก่อนจะนั่งขดตัวที่มุมกำแพง มือน้อยๆ เขี่ยที่พื้นดินไม่หยุด

เด็กคนนี้ดูเหมือนจะเสียใจมาก

ลู่เจียวเดินไปนั่งยองๆ นางสังเกตเห็นดวงตาแดงระเรื่อของเด็กน้อยมีน้ำตาหยดโตไหลลงมา

เวลานี้ลู่เจียวเห็นชัดว่าต้าเป่าดูโศกเศร้าใจเป็นอย่างมาก

นางตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก ในบรรดาแฝดสี่คน เขาหนักแน่นและกล้าหาญที่สุด อีกอย่างนิสัยของเขาค่อนข้างเหมือนบิดาที่สุขุมเยือกเย็นและฉลาดหลักแหลม น้อยครั้งที่จะแสดงความรู้สึกเช่นนี้ออกมาให้ใครเห็น

ทว่าพอเห็นเขาโศกเศร้าเสียใจเช่นนั้น ลู่เจียวก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ นางยื่นมือไปดึงเขามาใกล้ แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “ต้าเป่าเป็นอะไรไป เล่าให้แม่ฟังซิ”

ต้าเป่าตื่นตระหนกในแวบแรกที่เห็นลู่เจียว ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของลู่เจียว เขาก็ยิ่งเสียใจกว่าเดิม น้ำตาไหลพรากลงมากว่าเก่า

เด็กน้อยร้องไห้เงียบๆ ราวกับเสียงร้องของลูกแมวน้อย เห็นเขาเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้นางใจเสีย

ลู่เจียวกอดเขาไว้แน่นๆ แล้วถามอย่างอ่อนโยน “นี่เจ้าเป็นอะไรไป บอกแม่สิ”

ลู่เจียวเอ่ยจบ พยายามครุ่นคิดอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้เด็กคนก็ยังปกติดี เหตุใดจู่ๆ ก็กลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ลู่เจียวคิดถึงคำพูดก่อนหน้านี้ที่นางเอ่ย นางเพียงแค่ห้ามพวกเขาไม่ให้ทำร้ายคนอื่น

หรือต้าเป่าจะนึกถึงตอนที่เขาวางยานาง?

ต้าเป่าได้ยินคำพูดของลู่เจียวก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ลู่เจียวยื่นมือไปตบหลังเขา แล้วพูดเสียงเบา

“ต้าเป่าคิดถึงสิ่งที่เคยทำกับแม่ใช่หรือไม่”

ต้าเป่าชะงักงัน ร่างน้อยแข็งเกร็งเล็กน้อย

ลู่เจียวรู้ว่าตัวเองเดาถูก นางกอดเขาไว้ และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “อันที่จริงแม่ไม่โทษเจ้า ก่อนหน้านี้เป็นแม่ที่ไม่ดีเอง เจ้าถึงได้ทำเช่นนั้นออกมา อีกอย่างแม่จะบอกอะไรเจ้า เพราะว่าเจ้าวางยาแม่ ตอนนี้แม่ถึงได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี”

ลู่เจียวพูดเช่นนี้ ต้าเป่าก็หยุดร้องไห้ทันที จากนั้นเงยหน้ามองลู่เจียวอย่างตกตะลึง ลู่เจียวกอดเขาไว้หลวมๆ เพื่อให้เขาได้ขยับมาสบตากับนางโดยตรง

“เพราะเจ้าวางยาแม่ แม่ถึงรู้ตัวว่าตัวเองทำเกินไป แม้กระทั่งลูกในไส้ยังคิดจะวางยาตัวเอง แม่รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวในการเป็นมารดามาก เลยตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามทำดีกับพวกเจ้า”

ลู่เจียวพูดจบก็ยื่นมือไปลูบศีรษะของต้าเป่า “แม่ต้องขอบคุณเจ้า ขอบคุณเจ้าที่ทำให้แม่ได้สติกลับมา”

ต้าเป่าได้ยินคำพูดของลู่เจียวก็เหมือนได้ยกหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่ในใจออก แววตาเคล้าด้วยแสงอันอบอุ่นอีกครั้ง

ลู่เจียวเห็นเขาเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกตื้นตันใจ จึงกอดเขาด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไปเถอะ พวกเราลืมเรื่องที่ผ่านมาดีหรือไม่”

ต้าเป่าได้ยินคำพูดของลู่เจียว ใบหน้าน้อยก็ยิ้มได้เสียที เขายื่นมือไปโอบคอลู่เจียวไว้ แล้วตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา

“ขอรับ”

ท่านแม่บอกว่าไม่โทษข้า แล้วยังขอบคุณข้าด้วย

ลู่เจียวกอดเขาไว้สักพัก ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “แต่เจ้าต้องสัญญากับแม่อย่างหนึ่งก่อน”

ต้าเป่าพยักหน้า “อืม ท่านแม่ว่ามาเถอะ”

“ต่อไปห้ามทำเรื่องเช่นนั้นอีกเด็ดขาด เพราะการทำแบบนั้นจะทำลายตัวเจ้าเอง แม่หวังว่าเจ้าจะมีชีวิตที่สงบสุข”

ต้าเป่าได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเกินคำบรรยาย เด็กน้อยพยักหน้าเต็มแรง “ท่านแม่วางใจเถอะขอรับ ต่อไปข้าจะไม่ทำเช่นนั้นแล้ว”

“เด็กดี งั้นพวกเรากลับกันเถอะ”

ลู่เจียวปล่อยเด็กน้อยออกจากอ้อมกอด แล้วจูงมือกันเดินไปเรือนหน้า ต้าเป่าเงยหน้ามองลู่เจียวตลอดทาง รู้สึกตื้นตันใจมาก ท่านแม่ไม่โทษข้าแล้วยังขอบคุณข้าอีก ท่านแม่ช่างดีเหลือเกิน

สองแม่ลูกเพิ่งจะเดินไปถึงเรือนหน้า จู่ๆ ก็มีคนคนหนึ่งวิ่งผ่านรั้วบ้านเข้ามา

คนคนนี้ก็คือโจวเสี่ยวเถา นางวิ่งไปที่หน้าถังน้ำ กำลังจะเตรียมตัวขัดถังน้ำ ทว่าลู่เจียวขัดจนสะอาดแล้ว น้ำที่สกปรกก็เททิ้งไปหมดแล้ว

โจวเสี่ยวเถาหันไปเห็นถังไม้สองถัง จึงรีบไปหยิบและวิ่งออกไปตักน้ำทันที

ลู่เจียวที่อยู่ด้านหลังมองโจวเสี่ยวเถาถือถังน้ำวิ่งไปไกลด้วยสีหน้าตกตะลึง นี่นางกลับมาได้อย่างไร

ลู่เจียวครุ่นคิดก็เข้าใจทันที หร่วนซื่อต้องเกลี้ยกล่อมให้นางกลับมาแน่ๆ คงเอาผลประโยชน์อะไรมาล่อนาง นางถึงยอมกลับมาทำงานแบกหามเช่นนี้

ลู่เจียวไม่ได้สนใจอะไรมาก ทว่าสี่แฝดกลับไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง พากันลุกขึ้นพร้อมพูดอย่างโกรธเคือง

“ท่านแม่ นางกลับมาอีกแล้ว”

“นางจะมาเป็นอนุท่านพ่อใช่ไหมขอรับ”

“และยังจะมีลูกกับท่านพ่อด้วยใช่ไหม”

“เหอะ ฝันไปเถอะ พวกเราจะเฝ้าท่านพ่อไม่ให้คลาดสายตาเลยคอยดู อย่าหวังว่าจะได้แตะต้องท่านพ่อเลย! ”

เนื่องจากลู่เจียวและสี่แฝดยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างเรือนตะวันออกพอดี เซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงได้ยินทุกคำพูดของพวกเขา

สีหน้าของเซี่ยอวิ๋นจิ่นบึ้งตึงเหลือจะเอ่ย นี่มันอะไรกัน ต้องเป็นเพราะว่านางสอนแน่ๆ ไม่เช่นนั้นเด็กๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าอนุแปลว่าอะไร

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกัดฟันกรอด

ส่วนลู่เจียวไม่เห็นสีหน้าของเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางจึงกลัวว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะสงสัยว่านางไม่ใช่ลู่เจียวคนเดิม รีบแสร้งทำเป็นพูดอย่างแค้นเคือง

“ถ้านางคิดจะแตะต้องท่านพ่อของพวกเจ้าแม้แต่นิดเดียว ดูสิว่าแม่จะจัดการนางอย่างไร”

ลู่เจียวหันไปมองสี่แฝดพร้อมปลอบโยนว่า “อย่ากังวลไปเลย แค่คิดว่าในบ้านมีคนใช้เพิ่มขึ้นอีกคนก็พอ แม่จะสั่งงานนางเอง”

แม้ลู่เจียวจะพูดเช่นนี้ สี่แฝดก็ยังกังวลใจอยู่ดี

“ไม่ได้ พวกเราจะเฝ้าท่านพ่อไว้ไม่คลาดสายตาเลย”

“ใช่”

สี่แฝดหันหลังวิ่งเข้าไปในเรือนตะวันออก ลู่เจียวที่อยู่ด้านหลังเบ้ปากอย่างไร้คำเอ่ย พ่อของพวกเจ้ารสนิยมสูงขนาดนั้น จะชอบสตรีเช่นนี้ได้อย่างไร

ลู่เจียวเห็นว่าเวลาสายมากแล้ว จึงหันหลังเตรียมตัวไปทำมื้อเย็น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งผ่าตัดขาไป ตอนนี้ห้ามกินอาหารรสจัด นางเลยทำแต่อาหารรสอ่อน

คืนนี้พวกเขาจะกินโจ๊กถั่วลิสงใส่ผักกาดและผัดผักอีกสองอย่าง อันที่จริงนางอยากนึ่งหมั่นโถวให้สี่แฝดกิน แต่เสียดายที่บ้านไม่มีหม้อใบอื่นแล้ว จึงทำอาหารได้เพียงเท่านี้

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท