ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 120 นี่คือขนมที่อร่อยที่สุดที่แม่เคยกินมา

ตอนที่ 120 นี่คือขนมที่อร่อยที่สุดที่แม่เคยกินมา

ตอนที่ 120 นี่คือขนมที่อร่อยที่สุดที่แม่เคยกินมา
ฉีเหล่ยรับปากทันทีและรับประกันว่า “งั้นข้ากลับไปก็ไปตัวจังหวัดหาแม่แพะมาให้ท่าน รับรองพรุ่งนี้ท่านไปที่ร้านเอาหม้อ ก็จะได้แม่แพะกลับไปด้วย”

“โอ้ เอามาได้เร็วขนาดนี้เลยหรือ”

ฉีเหล่ยพยักหน้า “คนที่จังหวัดทางนั้นชอบกินเนื้อแพะ ทางนั้นมีแพะมาก ข้าจะไปหาแม่แพะที่เพิ่งคลอดลูกมาให้ท่านสักตัว”

ลู่เจียวได้ยินก็ดีใจขึ้นมาทันที “เยี่ยม งั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว”

ฉีเหล่ยมองลู่เจียวอย่างไม่เห็นด้วย กล่าวว่า “อาจารย์ ท่านอย่าได้เกรงใจกับข้าเช่นนี้”

ลู่เจียวยิ้มพลางพยักหน้า “วันหน้าไม่แล้ว”

ฉีเหล่ยตามนางออกมานอกบ้านอย่างพึงพอใจ เดินไปๆ เขาก็คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง พลันเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์ ท่านว่าสถานที่อย่างอำเภอชิงเหอเหมาะกับการเพาะปลูกสมุนไพรไหม”

ลู่เจียวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “เพาะปลูกสมุนไพร? ทำไมต้องเพาะปลูกสมุนไพร”

ฉีเหล่ยกล่าวด้วยท่าทางเก้อเขินว่า “หาเงินไง”

ลู่เจียวตกใจกล่าวว่า “เส้นทางหาเงินมีมากมาย ทำไมต้องอาศัยเพาะปลูกสมุนไพรหาเงินด้วย”

ฉีเหล่ยกดเสียงให้เบาลง กล่าวว่า “พวกเราคิดตั้งร้านยาขนาดใหญ่ ต้องการตัวยาไม่น้อย หากรับซื้อยาจำนวนมากพ่อค้าอาจจะโก่งราคา เป็นเช่นนี้เกรงว่าหาจะเงินไม่ได้เท่าไร ดังนั้นพวกเราเลยกะว่าจะปลูกสมุนไพรทำยาเอง”

ฉีเหล่ยกล่าวถึงตรงนี้ก็พลันชะงักไปทันที หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “อาจารย์ เมื่อครู่ท่านบอกว่าเส้นทางหาเงินมีมากมาย”

ลู่เจียวพยักหน้า ความคิดแอบหวั่นไหว ความจริงก่อนหน้านี้นางคิดเปิดร้านยาขนาดใหญ่ เพราะในมือนางมีน้ำจากน้ำพุจิตวิญญาณ หากว่าเพิ่มตัวยาลงไป จะเพิ่มประสิทธิภาพของยาให้ดียิ่งขึ้นได้ นี่เป็นเรื่องดีกับทั้งแผ่นดินและประชาชน

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าฉีเหล่ยถึงกับก็คิดเปิดเหมือนกัน ไม่ถูกต้อง น่าจะเป็นเจ้าของร้านหอยาเป่าเหอผู้นั้นคิดเปิดร้านยากระมัง นางจะร่วมมือกับเขาได้ไหมนะ

ลู่เจียวเริ่มใช้ความคิด เพียงแต่พอได้ฟังคำถามฉีเหล่ย นางก็พยักหน้า “ใช่น่ะสิ เส้นทางหาเงินมีมากมาย เปิดร้านยาในระยะสั้นหาเงินก้อนโตไม่ได้หรอก ก่อนอื่นก็ต้องสร้างชื่อให้ร้านยาก่อน จึงจะทำเงินได้”

ฉีเหล่ยได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็มองลู่เจียวอย่างตื่นเต้นกล่าวว่า “อาจารย์ ท่านมีวิธีการหาเงินมากมายหรือ”

ลู่เจียวพยักหน้า “ใช่ มากมาย”

เช่นว่า สบู่หอม ซีอิ๊วหรือซอสเปรี้ยว และออกแบบเสื้อผ้าอะไรพวกนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร อย่างไรนางก็ทะลุมิติมาจากยุคข้อมูลข่าวสาร

ฉีเหล่ยได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ดีใจมาก ยื่นมือออกไปคิดคว้ามือลู่เจียวอย่างตื่นเต้น

ลู่เจียวรีบหลบทันที แม้ว่าเป็นลูกศิษย์แต่ก็ควรระวังคำครหา นับประสาอะไรกับอยู่ข้างนอกอีกด้วย

ฉีเหล่ยรีบชักมือกลับอย่างเก้อกระดาก เขามองลู่เจียวกล่าวว่า

“อาจารย์ ท่านเคยคิดทำการค้าหาเงินไหม ไม่รู้ว่าข้ากับเจ้าของร้านเราร่วมมือกันจะเป็นอย่างไร อาจารย์ ท่านเป็นคนฉลาด น่าจะรู้ว่าการทำการค้าหาเงินก้อนโต เบื้องหลังจำเป็นต้องมีคน เบื้องหลังท่านไม่มีคนหนุนก็ย่อมมีคนเฝ้าจับจ้องการค้าท่าน วันหน้ายังไม่ทันหาเงินได้ ไม่แน่คงถูกคนทำบ้านแตกสาแหรกขาดเพราะการค้านี้”

ลู่เจียวย่อมรู้หลักการนี้ ดังนั้นก่อนหน้านี้นางจึงไม่ได้เสี่ยงทำการค้าอะไร ควรรู้ว่าตระกูลนางมีคนพิการหนึ่ง คนอ่อนแออีกสี่

แต่ทว่าร่วมมือกับเจ้าของหอยาเป่าเหอ?

ลู่เจียวมองฉีเหล่ยกล่าวว่า “เจ้าของร้านพวกเจ้าไว้ใจได้ไหม”

ฉีเหล่ยกำลังคิดจะกล่าวอะไร ด้านหน้าตระกูลเฉินที่ขึ้นรถม้าไปแล้วก็ตะโกนว่า “ท่านหมอฉี ไปได้แล้ว”

ฉีเหล่ยได้แต่หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “อาจารย์ พรุ่งนี้ท่านมาหอยาเป่าเหออีกครั้ง มาหารือกับเจ้าของร้านเรา หารือกันสักหน่อยดีไหม ท่านวางใจเถิด เจ้าของร้านเราเป็นคนไว้ใจได้ ท่านเชื่อข้า”

ลู่เจียวคิดแล้วก็พยักหน้า รอไว้ให้ขาเซี่ยอวิ๋นจิ่นหายแล้ว นางก็จะไปจากตระกูลเซี่ย ก่อนหน้านี้นางยอมเป็นหมอที่หอยาเป่าเหอ ก็เพื่อให้ตนเองมีที่พึ่ง ในยุคสมัยนี้ สตรีอ่อนโยนลำบากอย่างยิ่ง หากไม่มีที่พึ่ง ย่อมถูกคนรังแก

ในเมื่อนางเข้ามาเกี่ยวข้องกับหอยาเป่าเหอแล้ว ก็ไม่สู้ร่วมมือกันดีกว่าหรือ

“ได้”

ฉีเหล่ยได้ฟังคำลู่เจียวก็อดดีใจอย่างมากไม่ได้ กำชับลู่เจียวแล้วกำชับอีกว่า “อาจารย์ พรุ่งนี้ท่านต้องมานะ”

ลู่เจียวรับคำอย่างนึกขำ กล่าวว่า “รู้แล้ว”

นางกล่าวจบก็ไม่สนใจฉีเหล่ยอีก ก้าวเท้าไปทักทายกับคนตระกูลเฉินในรถม้า “อาจารย์ อาจารย์แม่ รอให้อวิ๋นจิ่นขาหายดีก่อน ต้องพาเด็กๆ ไปเยี่ยมเยียนพวกท่านแน่”

“ดี เจ้าก็มาด้วยกันกับอวิ๋นจิ่น”

อาจารย์แม่มองลู่เจียวด้วยสายตาอ่อนโยน แม้ว่าเมื่อก่อนนางเคยโมโหพาลใส่สตรีเช่นลู่เจียว แต่ความจริงเรื่องของบุตรสาวนางไม่อาจโทษลู่เจียว

ตอนนี้ลู่เจียวช่วยสามีนางไว้ เท่ากับช่วยนางด้วย นางได้แก้ปมในใจนั้นแล้ว ดังนั้นการได้เห็นสาวน้อยอวบอ้วนผู้นี้ ในใจก็รู้สึกอ่อนโยนขึ้นมา

“เจ้ามากับพวกเขาด้วย”

ลู่เจียวแสร้งรับคำ “เจ้าค่ะ”

ฉีเหล่ยขึ้นรถม้าไปแล้ว รถม้าค่อยๆ เคลื่อนออกไป

จ้าวซื่อฮูหยินเฒ่ารองที่บ้านข้างๆ เดินออกมาถามอย่างห่วงใยว่า “ภรรยาอวิ๋นจิ่น อาจารย์เฉินไม่เป็นไรกระมัง”

อาจารย์เฉินผู้นี้แต่ไรมาเป็นคนมีใจเมตตาอารี ละแวกหมู่บ้านชีหลี่มีเด็กไม่น้อยเรียนหนังสือกันที่สำนักศึกษาส่วนตัวของเขา ดังนั้นพวกจ้าวซื่อก็ไม่อยากให้อาจารย์เฉินเกิดเรื่อง

ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าเขียนเทียบยาให้เขาแล้ว วันหน้ากินยาไป ระวังหน่อยก็ย่อมไม่เป็นอะไร”

“เช่นนั้นก็ดีๆ”

ฮูหยินเฒ่ารองมองลู่เจียวอย่างเมตตาอารี กล่าวว่า “เจียวเจียวเอ๊ย โชคดีมีเจ้า เจ้าเป็นหน้าเป็นตาให้ชาวหมู่บ้านเซี่ยเราจริงๆ”

จ้าวซื่อเองก็พยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยกับเรื่องนี้

ลู่เจียวกล่าวลาพวกนางแล้วก็หันหลังเดินมุ่งกลับบ้านตนเอง นางเพิ่งก้าวเข้ามาในลานบ้าน ก็เห็นเซี่ยเสี่ยวเจวียนกับหลินชุนเยี่ยนเดินออกมาจากห้องครัว สองสาวยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า

“พี่สะใภ้สาม พวกเราช่วยท่านทำอาหารกลางวันเสร็จแล้ว พวกท่านรีบกินเถอะ พวกเรากลับก่อน”

พอเซี่ยเสี่ยวเจวียนกับหลินชุนเยี่ยนกล่าว ลู่เจียวจึงได้พบว่าตอนนี้สายแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับตัวเล็กทั้งสี่ยังไม่ได้กินอาหารกลางวัน

โชคดีที่เซี่ยเสี่ยวเจวียนกับหลินชุนเยี่ยนมาทำอาหารกลางวันแทนนาง ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะได้กินข้าวตอนไหน

ลู่เจียวยิ้มเชิญเซี่ยเสี่ยวเจวียนกับหลินชุนเยี่ยนอยู่กินข้าวด้วยกัน “พวกเจ้าก็กินที่บ้านข้าเถอะ”

แต่สองสาววิ่งออกไปไกลนานแล้ว

ลู่เจียวได้แต่จนใจ เข้าไปในครัวตักข้าว

เซี่ยเสี่ยวเจวียนกับหลินชุนเยี่ยนมาหุงข้าวแทนนาง ยังทำกับข้าวสองอย่าง ไข่ตุ๋นต้นห้อม ผักผักกวางตุ้งเห็ดหูหนู

ลู่เจียวตักข้าวไปก็คิดถึงเรื่องที่จะร่วมมือกับฉีเหล่ยก่อนหน้านี้ไปด้วย ในใจก็ดีใจมาก ฉีเหล่ยไม่เพียงช่วยนางหาหม้อมาสองใบ ยังหาแม่แพะมาอีกตัว เรื่องนี้ทำให้นางยิ่งอารมณ์ดีอย่างยิ่ง

นอกห้องครัว หนูน้อยทั้งสี่พากันวิ่งเข้ามา ในมือต้าเป่าถือขนมหรูอี้มาชิ้นหนึ่ง ขนมแป้งข้าวเหนียวหรูอี้นี่เป็นสหายร่วมศึกษาของเซี่ยอวิ๋นจิ่นส่งมาให้ในตอนนั้น ลู่เจียวมอบให้ตระกูลลู่ไปกล่องหนึ่ง ที่เหลือก็เก็บไว้ในห้วงอากาศ ทุกวันก็จะเอาออกมานิดหน่อยให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เป็นอาหารว่าง แต่ตอนนี้เหลือแค่ชิ้นเดียวแล้ว

“ท่านแม่ ท่านหิวแล้วใช่ไหม อันนี้ให้ท่านกิน”

ลู่เจียวคิดไม่ถึงว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ถึงกับเอาขนมแป้งข้าวเหนียวหรูอี้มาให้นางกิน

นางส่ายหน้ากล่าวว่า “แม่ไม่หิว พวกเจ้ากินเถอะ”

น่าเสียดายที่ต้าเป่าดึงดันจะเอาขนมแป้งข้าวเหนียวหรูอี้ให้นาง

จากนั้นเจ้าสามตัวเล็กก็เอาแต่จ้องมองนางไม่วางตา “ท่านแม่ ถ้าท่านแม่ไม่กิน พวกเราไม่ให้ท่านแม่ไป”

“ท่านแม่รักษาให้พวกเขาต้องหิวแน่เลย”

ซื่อเป่ากอดขาลู่เจียวออดอ้อน “ท่านแม่ ท่านกินสิ ท่านกินแล้วพวกเราจะดีใจ”

ลู่เจียวได้ฟัง ในใจก็หวานล้ำอย่างบอกไม่ถูก มีความคิดว่าหากวันหนึ่งต้องหย่ากันก็จะห่อเจ้าหนูน้อยทั้งสี่นี่ไปด้วย

แต่ก็ได้แต่แค่คิด

นางแอบรู้สึกขื่นขมใจ ทว่าสีหน้ายังคงเป็นปกติ

“งั้นก็ได้ พวกเราห้าคนกินด้วยกัน”

นางกล่าวจบก็ยื่นมือออกไปรับขนมแป้งข้าวเหนียวหรูอี้มากินคำหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวอย่างรู้สึกซาบซึ้งว่า “นี่เป็นขนมที่อร่อยที่สุดที่แม่เคยกินมา เพราะนี่เป็นขนมที่ลูกแม่ตัดใจกินไม่ลง มอบให้แม่กิน จึงหอมหวานกว่าอะไรทั้งนั้น”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ยินคำพูดลู่เจียว ใบหน้าก็สดใสบานแฉ่งเสียยิ่งกว่าดวงตะวัน

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท