ตอนที่ 139 ตั๋วเงินห้าพันตำลึงเงิน
ลู่เจียวครุ่นคิด มองไปยังคนในห้องกล่าวว่า “นอกจากฉีเหล่ย คนอื่นออกไปให้หมด”
ม่อเป่ยพอได้ฟังก็ไม่เห็นด้วย ในฐานะลูกน้องของเจ้านาย เขาไม่อาจห่างไกลจากเจ้านาย
“ข้าไม่ออกไป”
จ้าวหลิงเฟิงก็ไม่คิดออกไป เขามองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “เจ้าดึงของเจ้าไป พวกเรารับรองว่าจะไม่พูดจาอะไร”
ลู่เจียวมองม่อเป่ย เตือนด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “ดีที่สุดเจ้าอย่าได้พูดมาก อย่าได้กระทบต่อข้า ไม่งั้นเจ้านายเจ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไร อย่าให้โทษลงหัวข้า แต่ให้ลงหัวเจ้า”
“เจ้า!”
ม่อเป่ยกัดฟัน สุดท้ายก็อดกลั้นเอาไว้
ลู่เจียวอาศัยกระบุงหลังหยิบยาชาแบบกิน มีดผ่าตัด ผ้าพันแผลและยาปฏิชีวนะออกจากห้วงอากาศ
ยาชาฉีดลงไปในหลอดเลือดที่เข้าสู่หัวใจ ประสิทธิภาพของยาเร็วและปลอดภัย แม้ยาชาแบบกินมีฤทธิ์ระงับปวด แต่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ทว่าหากไม่ได้กินบ่อย ครั้งเดียวก็ไม่เป็นไร ยาชาแบบกินส่วนใหญ่ใช้ในการระงับปวดให้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าคนมากมาย ลู่เจียวไม่อาจหยิบหลอดเข็มฉีดยาออกมาฉีดเข้าหลอดเลือดได้ ดังนั้นได้แต่ให้เขากินยาชาแบบกินแทน
ลู่เจียวหยิบยาชาแบบกิน แสดงท่าทางให้ฉีเหล่ยไปเทน้ำมาป้อนผู้บาดเจ็บ
“นี่คือหมาเฟ่ยส่านแบบกิน อีกสักครู่ข้าจะลงมีดผ่าตำแหน่งหัวลูกธนูแฉก ดึงลูกธนูออกมา จากนั้นก็จะพันแผล”
ลู่เจียวกล่าวจบก็เรียงอุปกรณ์ผ่าตัด ฉีเหล่ยไปเทน้ำมาป้อนคนบนเตียงกินยาชาอย่างตื่นเต้น
เขาจะได้เห็นการผ่าตัด รู้สึกตื่นเต้นมาก
ลู่เจียวไม่ได้สนใจฉีเหล่ย ตั้งใจตรวจบริเวณที่ถูกลูกธนูบาดเจ็บ และสอนฉีเหล่ว่า “เจ้าดูตำแหน่งที่บาดเจ็บเพราะธนูหัวแฉกกลับด้านนี่ ทำให้เกิดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ทั้งสองข้างแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งแฉกเกี่ยวอยู่ราวนี้ ดังนั้นขอเพียงผ่าตัดเปิดบาดแผลออกสองข้างนี้ ก็จะดึงธนูหัวแฉกกลับด้านออกมาได้อย่างราบรื่น”
“ทำการผ่าตัด ลงมีดต้องเร็วและแม่นยำ อีกสักครู่ข้าผ่าผิวหนังออก เจ้าก็รีบโรยยาห้ามเลือด รอให้ดึงลูกธนูออกมาได้ ก็รีบพันบาดแผลทันที จากนั้นให้ยาห้ามเลือด ยาลดการอักเสบแบบกิน”
ฉีเหล่ยฟังไปก็รับคำอย่างนอบน้อมไป ยาชาเห็นผลรวดเร็ว ลู่เจียวเริ่มผ่าบาดแผลดึงลูกธนูให้ผู้บาดเจ็บบนเตียง พอดึงลูกธนูออกมา ฉีเหล่ยก็โรยยาห้ามเลือดลงไปเพื่อทำการห้ามเลือด
ความจริงในอุปกรณ์ผ่าตัดของลู่เจียวมีมีดผ่าตัดแบบใหม่ที่ไม่ทำให้สูญเสียเลือดมาก ขอเพียงใช้มีดนี้ผ่าลงไปบนบาดแผล ปริมาณเลือดที่ออกก็จะน้อยมาก มีดนี้ทำการเปิดปิดเส้นเลือดได้ แต่นางไม่อาจใช้มีดชนิดนี้ต่อหน้าผู้คน มีดเช่นนี้ในแคว้นต้าโจวไม่มีทางหาได้ หากนางใช้ จะอธิบายอย่างไร วันหน้าหากมีคนอยากได้มีดเช่นนี้ นางจะไปเอามาจากไหน
ดังนั้นลู่เจียวได้แต่ใช้ยาห้ามเลือด หลังใส่ยาห้ามเลือด นางก็จะเริ่มเย็บบาดแผล บาดแผลเย็บเสร็จ ก็โรยยาแก้อักเสบอีกที แล้วก็พันแผล
พอทำขั้นตอนเหล่านี้เสร็จ ลู่เจียวก็หยิบยาเม็ดปฏิชีวนะออกมา ให้ฉีเหล่ยป้อนผู้บาดเจ็บบนเตียง
“นี่คือยาแก้อักเสบ หลังจากเขากินไป บาดแผลก็จะไม่ติดเชื้ออักเสบ ไม่เน่า และก็ไม่เป็นไข้ด้วย”
ลู่เจียวกล่าวจบ จ้าวหลิงเฟิงกับฉีเหล่ยในห้องก็สองตาเปล่งประกาย ทั้งสองคนมองยาแก้อักเสบในมือฉีเหล่ยพร้อมกัน
ของนี่ร้ายกาจเพียงนี้ หากพวกเขาผลิตยาเช่นนี้ออกมาได้ นอกจากสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับกองทัพ ยังสร้างประโยชน์ให้กับปวงประชาอีกด้วย
จ้าวหลิงเฟิงมองลู่เจียวนิ่งลึก กล่าวว่า “ลู่เหนียงจื่อ ยาเหล่านี้มาจากไหน”
ลู่เจียวหาข้อแก้ตัวไว้เรียบร้อยแล้ว กล่าวในทันทีว่า “นี่คือยาที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้ข้า ทั้งหมดเหลือไม่มากแล้ว ระยะนี้ข้าพยายามศึกษายาตัวนี้มาตลอด พอจะรู้ตัวยาบ้างแล้ว อีกระยะหนึ่งก็น่าจะผลิตได้”
จ้าวหลิงเฟิงพอได้ฟังลู่เจียว ก็ทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นอย่างมากขึ้นมาทันที
แต่ก็หันเหความสนใจไปที่คนบนเตียงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อาการบาดเจ็บคุณชายผู้นี้สำคัญกว่า
ลู่เจียวทำการผ่าตัดให้ผู้ป่วยบนเตียงเสร็จ เดิมคิดจะกลับ ไม่คิดว่าม่อเป่ยถึงกับขวางนางไว ไม่ยอมให้นางไป
“คุณชายเราตอนนี้ยังไม่ตื่น ดังนั้นเจ้าห้ามไป”
ลู่เจียวโมโหสีหน้าดำคล้ำ มองม่อเป่ยด้วยแววตาเย็นเยียบ ในใจคิดว่า วันหน้าหากคนผู้นี้บาดเจ็บ อย่าได้หวังว่านางจะรักษาให้
ลู่เจียวคิดจบ จ้าวหลิงเฟิงก็เดินเข้ามาทันที “ลู่เหนียงจื่อ เจ้าอย่าได้โมโห ม่อเป่ยเขานิสัยเช่นนี้ เจ้าไม่ต้องสนใจเขา อีกสักครู่ข้าจะให้ผู้จัดการหลี่เตรียมตั๋วเงินห้าพันตำลึงเงินให้และพาเจ้ากลับไป”
ลู่เจียวพอได้ฟัง สีหน้าก็ดีขึ้นมาทันที ใบหน้ายิ้มแย้ม สายตาที่มองจ้าวหลิงเฟิงก็จริงใจขึ้นมามาก
เจ้าของหอยาเป่าเหอผู้นี้ช่างรู้เงานจริงๆ ไม่เลว
จ้าวหลิงเฟิงเองก็เสียดายเงินห้าพันตำลึงเงิน แต่ผู้ใดให้ม่อเป่ยล่วงเกินลู่เหนียงจื่อกัน หากเขาไม่ทำให้นางพอใจ วันหน้าคุณชายเป็นอะไรอีก คิดให้นางรักษาก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
อย่าเห็นว่าลู่เหนียงจื่อเป็นสตรีบ้านนอก แต่เป็นคนมีหลักการสูง และจ้าวหลิงเฟิงแอบรู้สึกว่าสตรีผู้นี้พูดจริงทำจริง
จ้าวหลิงเฟิงคิดไปก็ถลึงตาใส่ม่อเป่ยไป จากนั้นก็ไปส่งลู่เจียวที่ประตูด้วยตนเอง กล่าวกับฉีเหล่ยว่า “เจ้าไปบอกผู้จัดการหลี่ เตรียมเงินห้าพันตำลึงเงินให้ลู่เหนียงจื่อ”
ฉีเหล่ยพยักหน้า ความเชี่ยวชาญของลู่เจียวทำให้เขาตกตะลึง ในใจเขาตอนนี้ที่เลื่อมใสที่สุดก็คืออาจารย์น้อยผู้นี้แล้ว วิชาการแพทย์ช่างร้ายกาจยิ่ง อย่าว่าแต่ท่านพ่อเขา แม้แต่ปู่เขาก็เทียบกับอาจารย์น้อยผู้นี้ไม่ได้
หากวันหน้าเขาได้เรียนวิชาการแพทย์จากอาจารย์น้อยผู้นี้ ก็ไม่เสียชาติเกินแล้ว
ฉีเหล่ยยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น เดินไปกล่าวเบาๆ กับลู่เจียวไปว่า “อาจารย์ ฝีมือผ่าตัดท่านร้ายกาจยิ่ง”
พวกเขาเห็นธนูหัวแฉกกลับด้านร้ายกาจขนาดนั้น แต่ถูกอาจารย์จัดการอย่างง่ายดาย
ลู่เจียวอารมณ์ดีอย่างมากเพราะตั๋วเงินห้าพันตำลึงเงิน นางยิ้มมองฉีเหล่ย ให้กำลังใจว่า “ขอเพียงเจ้าตั้งใจศึกษา วันหน้าวิชาการแพทย์เจ้าย่อมร้ายกาจเหมือนข้า เจ้าไม่เพียงแต่จะรักษาคนได้ ยังหาเงินได้ก้อนโตอีกด้วย”
ลู่เจียวยิ้ม ฉีเหล่ยมองอาจารย์น้อยตนเองด้วยสีหน้าไร้วาจาจะกล่าว อาจารย์ พวกเราจะทำตัวเป็นคนที่ไม่เห็นแก่เงินได้ไหม
ลู่เจียวไม่สนใจเขา ก้าวเท้าออกไปทันที หันถงนอกประตูเห็นนางออกมาก็รีบเข้าไปรอรับ “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ไม่เป็นไรใช่ไหม”
ลู่เจียวส่ายหน้า แสดงให้รู้ว่าตนเองไม่เป็นไร
ฉีเหล่ยกลับก้าวไปยังด้านหน้าหอหลังเล็ก
ผู้จัดการหลี่ได้ยินว่าเจ้านายตนให้เขาเตรียมตั๋วเงินห้าพันตำลึงเงินให้ลู่เจียวก็ปวดใจมาก แต่นี่เป็นคำสั่งเจ้านาย เขาจะทำอย่างไรได้
ตั๋วเงินห้าพันตำลึงเงินแทบจะเท่ากับรายได้หนึ่งปีของร้านเขา ช่างเข้าเนื้อจริงๆ
แต่ก็ยังเตรียมตั๋วแลกเงินมอบให้ลู่เจียวแต่โดยดี
ลู่เจียวหยิบปึกตั๋วแลกเงินแล้ว สีหน้าก็ระรื่นยินดีเดินออกจากประตูไป ฉีเหล่ยตามมาส่งนาง
หันถงนึกถึงท่านหมอซือได้ ก่อนหน้านี้ท่านหมอซือนั่งรถม้าตระกูลหันพวกเขามา ตอนนี้เขาล่ะ
“ท่านหมอฉี ท่านได้พบท่านหมอซือไหม เขาไปไหนแล้ว”
ฉีเหล่ยนึกถึงท่านหมอซือที่ได้พบเมื่อวานขึ้นมาได้ทันที พอเห็นเขาก็ดึงมือเขาไว้อย่างตื่นเต้น ชมวิชาการแพทย์เขาร้ายกาจอย่างนั้นอย่างนี้ จากนั้นก็ยังขอความรู้จากเขาว่าผ่าตัดอย่างไรไม่ให้บวมและไม่เน่า
ฉีเหล่ยย่อมไม่เข้าใจรายละเอียดในเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่สนใจเขา คนผู้นั้นตื้ออยู่ที่หอยาเป่าเหอจนตกค่ำจึงได้จากไป
“หากไม่เหนือความคาดหมาย เขาน่าจะไปพักโรงเตี๊ยมข้างๆ ไม่ไกลจากที่นี่”
หมู่บ้านชีหลี่เป็นสถานที่เล็ก ทั้งหมู่บ้านมีแค่โรงเตี๊ยมแห่งเดียว การค้าก็ไม่ได้ดีเท่าไร
หากท่านหมอซือไม่มีที่ไป ย่อมไปพักโรงเตี๊ยมแห่งนั้น
หันถงได้ฟังฉีเหล่ยกล่าว ก็รีบไปหาท่านหมอซือ ลู่เจียวรออยู่หน้าประตูหอยาเป่าเหอ โดยมีฉีเหล่ยเป็นเพื่อนคุยกับนาง