ตอนที่ 148 โกยเงินก้อนโตแล้ว
ลู่เจียวกลัวเอ้อร์เป่าหยิบกิน จึงรีบพาต้าเป่ากับซื่อเป่าไปดู
เอ้อร์เป่ากับซานเป่ากำลังเก็บผลไม้ที่พื้นอยู่ ลู่เจียวมองออกว่าผลไม้นี้ก็คือซานจาป่า[1]
ซานจาป่าไม่อร่อย ทั้งเปรี้ยวและฝาด แต่ลู่เจียวเห็นซานจาป่าก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา ทำถังหูลู่ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กินสักหน่อย แม้ว่านางไม่มีน้ำตาลกรวดในมือ แต่ลองใช้น้ำตาลทรายดูได้
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็เงยหน้ามองไปยังต้นซานจาป่า ต้นซานจาป่าค่อนข้างสูง ต้นตรงหน้าตอนนี้น่าจะสูงสามเมตรกว่าได้
ยอดไม้ยังมีซานจาผลแดงๆ กระจุกตัวอยู่พวงหนึ่ง
“นี่คือซานจาป่า กินแล้วเจริญอาหาร แต่กินอย่างนี้จะเปรี้ยวและฝาด เดี๋ยวแม่เก็บกลับไปทำถังหูลู่ให้พวกเจ้า”
ลู่เจียวกล่าวจบ เอ้อร์เป่าก็ถามอย่างตื่นเต้นดีใจ ว่า “อะไรคือถังหูลู่[2]”
“ก็คือเอาน้ำตาลมาเคลือบผลซานจาไง รับรองอร่อยแน่”
รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ไม่เลวเลย
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็กอดลำต้นเขย่าไปมา ซานจาป่าบนยอดถูกนางเขย่าจนร่วงลงมา
“รีบเก็บสิ”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่วิ่งเข้าไปเก็บซานจาป่ากันอย่างสนุกสนาน ตื่นเต้นกันอย่างมาก
ท่านแม่เก็บซานจาป่าได้ราวครึ่งกระบุงก็หยุด
“เอาละ สายแล้ว แม่จะลงเขาไปทำอาหารแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ใช่แล้ว พรุ่งนี้จะสอนพวกเจ้าปีนต้นไม้ด้วย”
ปีนต้นไม้ก็เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้ แต่อันตรายเล็กน้อย ต้องบอกกฎกับเจ้าหนูน้อยให้กระจ่าง
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ยินลู่เจียวจะสอนพวกเขาปีนต้นไม้ ก็ดีใจล้อมรอบนางพลางถามว่า “ท่านแม่ ท่านปีนต้นไม้เป็นหรือ”
น่าแปลกใจอย่างมาก แม้ว่าในหมู่บ้านมีคนปีนต้นไม้ได้ แต่ล้วนเป็นผู้ชาย และเด็กผู้ชายบางคนเท่านั้นที่ปีนต้นไม้เป็น
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ทุกครั้งที่เห็นคนปีนต้นไม้ก็ตื่นเต้นมาก พวกเขาคิดไม่ถึงว่าท่านแม่ตนเองแม้แต่ต้นไม้ก็ปีนเป็น ท่านแม่ร้ายกาจมากจริงๆ
ลู่เจียวยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่ แม่ปีนเป็น แต่พวกเจ้าต้องรับปากแม่สองสามข้อ แม่จึงจะสอนพวกเจ้าปีนต้นไม้”
เอ้อร์เป่ารีบกล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านแม่ว่ามาได้เลย”
เขาเป็นลูกที่สนใจเรื่องออกกำลังกายมากที่สุดในบรรดาหนูน้อยทั้งสี่ ทุกครั้งที่เป็นเรื่องออกกำลังกายพวกนี้ เขาก็จะตื่นเต้นอย่างมาก
ซานเป่า ซื่อเป่าเองก็ไม่เลว ส่วนต้าเป่าเป็นคนที่ไม่สนใจในเรื่องออกกำลังกายมากที่สุด แต่ทุกครั้งก็ตามเจ้าสามตัวน้อยออกกำลังกายพวกนี้จนจบ
ลู่เจียวมองไปยังเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กล่าวว่า “หนึ่ง ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยถึงจะปีนต้นไม้ได้ เพราะปีนต้นไม้อันตรายมาก แต่ปีนต้นไม้ก็เป็นการออกกำลังกายมือและเท้าอย่างหนึ่ง ฝึกมือเท้าให้ว่องไว ดังนั้นพวกเจ้าต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยจึงจะปีนได้”
“สอง ตอนปีนต้นไม้ ห้ามปีนในพื้นที่อันตราย เช่น ริมแม่น้ำ ริมหน้าผา ต้องปีนที่ปลอดภัยหน่อย และทุกครั้งที่ปีนต้นไม้ห้ามปีนขึ้นไปหลายคน ต้องปีนทีละคน”
“สาม ห้ามแข่งปีนต้นไม้ แข่งปีนต้นไม้ก็คิดแต่จะชนะ ทำให้ลืมตัวจนเกิดอันตรายได้ง่าย”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็รีบตอบรับทันที “ท่านแม่ พวกเราทราบแล้ว”
ลู่เจียวยิ้มพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ลงเขา เอ้อร์เป่าไม่หยุดถามว่า “งั้นพรุ่งนี้ก็เริ่มเรียนปีนต้นไม้?”
“ใช่”
แม่ลูกห้าคนแบกซานจาป่าลงเขาอย่างอารมณ์ดี
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พอถึงบ้านก็วิ่งไปที่เรือนนอนตะวันออกเล่าเรื่องขึ้นเขาวันนี้ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟัง ลู่เจียวเข้าครัวเตรียมอาหารเย็น
นางเริ่มต้มโจ๊ก หลินชุนเยี่ยนก็มาช่วยนางก่อไฟ
ลู่เจียวเห็นนาง คิดถึงว่าคนในหมู่บ้านวันนี้ขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร ก็ถามหลินชุนเยี่ยนอย่างห่วงใย “วันนี้ขึ้นเขาเก็บสมุนไพรเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้พบเจออันตรายอะไรกระมัง”
หลินชุนเยี่ยนสีหน้าเปื้อนยิ้ม อารมณ์ดีจนไม่อาจกล่าวเป็นคำพูด “พวกเราเก็บสมุนไพรได้ไม่น้อย เซี่ยหู่กับท่านพ่อเอาไปขายในเมืองแล้ว ไม่รู้ว่าขายได้เท่าไร”
หลินชุนเยี่ยนกล่าวจบมองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “พี่สะใภ้สาม วันนี้ข้าเก็บเก่อเกิน[3]ได้ไม่น้อยด้วยนะ”
ลู่เจียวรีบยิ้มกล่าวว่า “งั้นก็ไม่เลว ราคาเก่อเกินไม่น่าจะต่ำ ครอบครัวพวกเจ้าวันนี้รายได้น่าจะไม่น้อย”
พอลู่เจียวกล่าว หลินชุนเยี่ยนก็ยืนขึ้นขอบคุณลู่เจียวอย่างตื้นตันใจ “พี่สะใภ้สาม ขอบคุณพี่มาก พี่เป็นผู้มีพระคุณของครอบครัวพวกเรา ไม่สิ พี่คือผู้มีพระคุณของคนหมู่บ้านตระกูลเซี่ย”
ลู่เจียวโบกมือ “เอาละๆ คนหมู่บ้านเดียวกัน พวกเจ้ามีชีวิตที่ดี ข้าก็ดีใจ”
ลู่เจียวกล่าวจบ ก็คิดถึงผ้าที่ตนซื้อมาให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่ายังไม่ได้ตัด
หลินชุนเยี่ยนไม่มีอะไรก็มาช่วยงานนาง หรือว่าให้นางช่วยงานตัดเย็บพวกนี้ เช่นนี้ก็จะทำให้หลินชุนเยี่ยนสบายใจ และยังได้ช่วยงานนางด้วย
แม้ว่าลู่เจียวรักษาโรคเป็น ทำอาหารเป็น แต่งานเย็บปักไม่ค่อยได้จริงๆ ผ้าที่ก่อนหน้านี้ซื้อกลับมาให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ลงมือเลย สาเหตุหลักเพราะกลัวตนเองทำไม่ดี ทำผ้าเสียไปเปล่าๆ
“ชุนเยี่ยน พี่สะใภ้สามรบกวนเจ้าเรื่องหนึ่งได้ไหม”
หลินชุนเยี่ยนรีบมองลู่เจียวอย่างดีใจ “พี่สะใภ้สาม พี่ว่ามาเลย”
“แม้ว่าข้ารักษาอาการป่วยได้และรู้จักสมุนไพรหลายอย่าง แต่เรื่องเสื้อผ้าไม่ค่อยชำนาญเท่าไร เจ้าช่วยข้าตัดเสื้อผ้าสักสองสามตัวได้ไหม”
ฝีมือปักเย็บหลินชุนเยี่ยนดีมาก พอได้ฟังลู่เจียวก็พยักหน้าเต็มแรง “ได้สิ ข้าช่วยพี่ตัดเอง”
ลู่เจียวกลัวนางตัดเย็บกลางคืนจึงกำชับนางว่า “ข้าตัดให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ไม่ได้เร่งรีบมาก ดังนั้นไว้เจ้ามีเวลาค่อยตัด จำไว้ ค่ำแล้วห้ามตัด หากให้ข้ารู้ว่าเจ้าทำจนไม่รู้วันคืน ข้าคงไม่กล้ารบกวนเจ้าอีก”
หลินชุนเยี่ยนได้ฟังคำพูดลู่เจียว ในใจก็รู้สึกอบอุ่น พี่สะใภ้สามเป็นคนดีจริงๆ
ลู่เจียวเข้าไปเรือนนอนตะวันตกเอาผ้าที่เตรียมไว้ตัดชุดให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกมา
“ทั้งหมดสามชิ้น สองชิ้นให้ตัดชุดของแต่ละคน แบบชุดก็ตามแต่เจ้าตัดสินใจ ชิ้นนี้ตัดเป็นเสื้อนอนไม่มีแขน ก็คือเอาไว้สวมตอนนอน ง่ายๆ ก็พอ”
“ได้”
หลินชุนเยี่ยนเอาผ้ากลับไปแล้ว ลู่เจียวกำชับนางว่าห้ามตัดเย็บตอนกลางคืน กลางวันมีเวลาก็ทำสักหน่อย อย่างไรเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มีเสื้อผ้าใส่ ไม่รีบใช้
ค่ำคืนนี้ ทั้งหมู่บ้านตระกูลเซี่ยก็ครึกครื้นกันมาก
ตอนกลางวันทุกคนขึ้นเขาเก็บสมุนไพร เพราะเป็นห่วงว่าสมุนไพรที่พวกนางเก็บมาจะขายไม่ได้ราคาดังนั้นทุกคนจึงเก็บทั้งวัน พอตกค่ำวันนั้นก็จะส่งไปขายในเมือง
ปรากฏว่าหอยาเป่าเหอรับสมุนไพรพวกเขาไว้ทั้งหมดจริงๆ ในนั้นมีบางตัวยังมีราคาแพงมาก เช่น หวงจิง[4]ที่บ้านผู้ใหญ่บ้านขุดได้ หวงจิงบวกกับสมุนไพรอื่น บ้านผู้ใหญ่บ้านวันนี้มีรายได้ถึงสามตำลึงกว่า
ผู้ใหญ่บ้านเซี่ยฟู่กุ้ยกับลูกชายเซี่ยเถี่ยหนิวตื่นเต้นจนเกือบเป็นลม ตอนเดินออกจากหอยาเป่าเหอก็เข่าอ่อนไปหมด วันเดียวหาเงินได้สามตำลึงกว่า
แต่ไรมาพวกเขาไม่เคยคิดว่าจะหาเงินได้เช่นนี้
ผู้ใหญ่บ้านกับเซี่ยเถี่ยหนิวรีบวิ่งเข้าเมืองไปซื้อซาลาเปาเนื้อห่อใหญ่มามอบให้ครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ไม่เพียงแต่บ้านผู้ใหญ่บ้านมอบของให้ คนในหมู่บ้านไม่น้อยก็ยังมอบของให้ด้วย
วันนี้แต่ละครอบครัวขึ้นเขาเก็บสมุนไพรได้จับเงินกันไม่น้อย พวกที่ได้มากอย่างบ้านผู้ใหญ่บ้านก็หาได้ถึงสามตำลึงกว่า พวกที่ได้น้อยก็เจ็ดแปดร้อยเหวิน แต่ละครอบครัวล้วนดีใจกันแทบตาย
“ขอบคุณเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับภรรยา พวกเจ้าเป็นผู้มีพระคุณหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเราจริงๆ”
“วันหน้าครอบครัวพวกเจ้ามีเรื่องอะไร ก็ขอให้บอกพวกเรา พวกเราจะทุ่มเทช่วยเหลือให้ถึงที่สุด”
ในเรือนนอนตะวันออกเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยิ้มแสดงท่าทีให้ทุกคนอย่าได้เกรงใจ
แม้ว่าบ้านผู้ใหญ่บ้านเก็บหวงจิงได้มาสามตำลึงกว่า แต่คนส่วนใหญ่ได้หลักร้อยเหวิน ทว่าเช่นนี้ทุกคนก็ดีใจกันมากแล้ว ซื้อของมามอบแสดงความขอบคุณกันยกใหญ่
———————————————-
[1] ซานจาป่า ผลไม้ลูกขนาดเชอร์รี สีแดงอมชมพู รสเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมาทำเป็นแผ่นกลมๆ ขนาดเท่าเหรียญห้าบาทกินเป็นขนม คนไทยบางคนเรียกว่า เซียงจา
[2] ถังหูลู่ ผลไม้เชื่อมเสียบไม้
[3] เก่อเกิน กราวเครือจีน
[4] หวงจิง คนไทยเชื้อสายจีนเรียกว่า เง็กเต็ก เป็นสมุนไพรจีนประเภทรากชนิดหนึ่ง