ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 140 นางต้องอยู่ต่อแน่

ตอนที่ 140 นางต้องอยู่ต่อแน่

ตอนที่ 140 นางต้องอยู่ต่อแน่
ลู่เจียวอารมณ์ดีมากเพราะได้รับห้าพันตำลึงเงิน จึงได้หยิบยาปฏิชีวนะจำนวนหนึ่งไว้แก้อักเสบให้กับฉีเหล่ย

“นี่คือยาแก้อักเสบที่อาจารย์ทิ้งไว้ เจ้าให้คนไข้กินวันละสามครั้ง บริเวณที่เขาผ่าตัดก็จะไม่บวมและเน่า”

ฉีเหล่ยเป็นหมอ ก็เข้าใจกระบวนการนี้ ยาน้ำที่พวกเขาปกติจ่ายเพื่อขับพิษร้อนก็เพื่อแก้อาการอักเสบ แต่ยาน้ำพวกนั้นแก้อาการอักเสบได้ช้ามา ยาแก้อักเสบในมืออาจารย์นี้ร้ายกาจมาก

ฉีเหล่ยแอบคิดอย่างตื่นเต้น หากยาแก้อักเสบอาจารย์นี้ผลิตออกมาได้ ย่อมต้องเป็นวาสนาบารมีแห่งแคว้นต้าโจวแล้ว

ลู่เจียวเลิกคิ้วมองฉีเหล่ย กล่าวว่า “ยานี้ก็ทำไม่ยาก เพียงแต่ตอนนี้ขาดของหนึ่งอย่าง ข้าไม่รู้ว่าไปหาทีไหน”

“ของอะไร”

ฉีเหล่ยถามอย่างห่วงใย วันหน้าพวกเขาเปิดโรงผลิตยา หากสามารถผลิตยาเช่นนี้ออกมาได้ ก็ย่อมดังกระหึ่มไปทั่วแคว้นต้าโจว

“แร่เจี่ยเหยียน[1]”

วิธีการใช้แร่เจี่ยเหยียนนั้นมากมายอยู่ นางดึงเอาโพแทสเซียมไอออนออกมาได้ โพแทสเซียมไอออนกับเพนิซิลลินรวมกันเป็นเพนิซิลลิน วี แม้ว่าประสิทธิภาพของยาเทียบกับเพนิซิลลินแล้วอ่อนกว่าสองสามเท่า แต่ฤทธิ์แก้อักเสบไม่อาจมองข้าม

นี่ก็คือยาแก้อักเสบที่ตอนนี้มีความน่าจะเป็นมากสุดที่น่าจะผลิตออกมา สกัดเอาเพนิซิลลินให้เป็นน้ำ วิธีการพื้นบ้านก็ทำได้ แต่ยาน้ำเพนิซิลลินต้องใช้เข็มฉีดเข้าเส้นเลือด หลอดเข็มฉีดยากับเข็มจะผลิตอย่างไร

ฉีเหล่ยข้างกายลู่เจียวฟังแล้วก็อึ้งไป เขาไม่เคยได้ยินเลยว่าแร่เจี่ยเหยียนคืออะไร

“อาจารย์?”

ฉีเหล่ยคิดจะถามรายละเอียด ผู้ใดจะรู้ว่าหันถงพาหมอซือกลับมาแล้ว

“พี่สะใภ้ ฟ้าใกล้สางแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”

ลู่เจียวรับคำ กล่าวกับฉีเหล่ยคำหนึ่งก็ขึ้นรถม้าหันถงไป ทั้งหมดมุ่งตรงไปหมู่บ้านตระกูลเซี่ย

พอรถม้าเข้าหมู่บ้าน ฟ้าก็สางแล้ว คนในหมู่บ้านไม่น้อยก็ตื่นกันแล้ว เรื่องของเที่ยงคืนวานนี้ ทุกคนต่างรู้ หมอฉีแห่งหอยาเป่าเหอมาเชิญภรรยาอวิ๋นจิ่นไปช่วยคน ได้ยินว่าผู้ป่วยอาการหนักมาก หมอฉีไร้หนทาง ได้แต่มาขอให้ภรรยาอวิ๋นจิ่นไปดูหน่อย

กล่าวเช่นนี้ภรรยาอวิ๋นจิ่นวิชาการแพทย์ร้ายกาจกว่าหมอฉีอีก หากคนในหมู่บ้านพวกเขาล้มป่วย วันหน้าไม่ต้องเข้าเมืองไปรักษาแล้ว เชิญภรรยาอวิ๋นจิ่นมารักษาก็ได้แล้ว

ตอนลู่เจียวถึงบ้าน ในเรือนนอนตะวันออกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ตื่นกันแล้ว กำลังพูดคุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นอยู่

“ท่านพ่อ ท่านแม่จะกลับมาตอนไหน”

“ฟ้าสางก็กลับมาแล้ว”

“งั้นหากฟ้าสางนางยังไม่กลับมาล่ะ”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่สีหน้าเป็นห่วงมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นท่าทางเคร่งเครียดเป็นห่วงของเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ในใจก็ตัดสินใจได้เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือต้องรั้งให้ลู่เจียวอยู่ต่อ หากนางไป เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ต้องไม่ยินดี เด็กน้อยยังต้องการการดูแลจากมารดา

เขาคิดว่าหากตนเองพูดเรื่องนี้กับลู่เจียว นางน่าจะอยู่ต่ออย่างดีใจ อย่างไรเขามองออกว่านางชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังคิดอยู่ เสียงฝีเท้าม้าก็ดังขึ้นนอกประตู เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไถลตัวลงจากเตียงราวกับปลาหนีชิวตัวลื่น วิ่งออกไปทันที

ลู่เจียวเพิ่งก้าวเข้ามาในลานบ้าน เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็แย่งกันออกมากอดนางไว้ “ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้ว”

“อืม พวกเจ้าทำไมตื่นเช้าอย่างนี้ ไม่นอนอีกสักครู่หรือ”

ซื่อเป่ายู่ปากออดอ้อนกล่าวว่า “เป็นห่วงท่านแม่ นอนไม่หลับ”

ลู่เจียวหัวเราะขำท่าทางของเขา ลูบศีรษะเขากล่าวว่า “ยังไงก็เป็นลูกแม่ที่รักแม่”

เอ้อร์เป่า ซานเป่ารีบรับคำต่อ “ท่านแม่ ข้าด้วย ข้าก็เป็นห่วงท่านแม่ นอนหลับไม่สนิทเลย”

ลู่เจียวยิ่งดีใจ ยิ้มมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ “แม่ไม่ได้เลี้ยงพวกเจ้ามาเสียเปล่า ตอนนี้ง่วงไหม จะเข้าห้องไปนอนอีกสักครู่ไหม”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ส่ายหน้า “ไม่นอน”

ทุกคนคุยกันไปก็เดินไปทางเรือนนอนตะวันออกไปด้วย เซี่ยอวิ๋นจิ่นในห้องนั่งพิงเตียงอยู่ ตอนนี้เขาเคลื่อนไหวอิสระแล้ว เพียงแค่ไม่โดนขาก็พอ

“เหนื่อยไหม จะไปนอนสักครู่ไหม”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียว ถามอย่างห่วงใย

ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ไม่นอนคืนเดียวไม่เป็นอะไรมาก”

ร่างกายนางได้ใช้น้ำพุจิตวิญญาณปรับสมดุลแล้ว ตอนนี้สภาพร่างกายไม่เลว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังก็ไม่ได้ดึงดัน แต่ถามถึงผู้ป่วยที่หอยาเป่าเหอ

“ผู้ป่วยผู้นั้นอาการเป็นอย่างไร”

ลู่เจียวกล่าวไปอย่างนั้นว่า “ไม่ได้ป่วย แต่ถูกคนยิงด้วยลูกธนูแฉกกลับหัว ดังนั้นขอให้ข้าไปดูว่าจะดึงธนูออกมาอย่างไร”

ลู่เจียวกล่าวจบ แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นลุ่มลึกครุ่นคิด จากนั้นก็หันไปมองหันถงข้างๆ

หันถงรีบกล่าวว่า “คนที่ถูกธนูยิงน่าจะไม่ใช่คนธรรมดา ลูกน้องที่พาเขามาไม่ยอมให้ข้าเข้าไป ดังนั้นข้าไม่รู้สถานการณ์ในนั้น”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นอดขมวดคิ้วไม่ได้ แววตาสงสัยมองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “วิชาการแพทย์หมอฉีร้ายกาจขนาดนั้น จัดการลูกธนูหัวแฉกไม่ได้หรือ”

ลู่เจียวอึ้งไป มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น มองความสงสัยของเซี่ยอวิ๋นจิ่นออก

ลู่เจียวไม่อยากให้เรื่องนี้ก่อเกิดเหตุไม่คาดคิดตามมา ก็รีบกล่าวว่า “เขาต้องการคนร่วมมือรักษา ตอนดึงลูกธนูหัวแฉกออกมา ต้องรีบห้ามเลือด เขาจะได้เย็บบาดแผลได้ พวกเขาเพิ่งมาหมู่บ้านชีหลี่ ไม่ค่อยเชื่อมือคนอื่น จึงได้มาตามข้าไปร่วมมือกับพวกเขา”

ลู่เจียวกล่าวจบไม่คิดจะคุยเรื่องนี้อีก ป้องกันไม่ให้ตนเองเผยพิรุธอะไรออกไป

“สายแล้ว ข้าไปทำอาหารเช้าก่อน”

กล่าวจบก็พาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไปทันที แม่ลูกห้าคนเพิ่งออกไป ก็เห็นหลินชุนเยี่ยนเดินเข้ามาในลานบ้าน

“พี่สะใภ้สาม ข้าช่วยท่านทำอาหารเช้า”

ลู่เจียวรู้ว่าไม่อาจปฏิเสธได้ ก็ขี้เกียจจะปฏิเสธแล้ว ยิ้มกล่าวว่า “ได้ เจ้าช่วยข้าติดฟืนต้มโจ๊กก่อน ข้าจะไปบีบนมแพะ”

ก่อนหน้านี้นางได้รับปากเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่าจะบีบนมแพะให้พวกเขาดื่ม

แม่แพะเชื่องมาก ตอนลู่เจียวบีบนมแพะก็ไม่ได้โมโห

นมแพะมีกลิ่นสาบคาว ลู่เจียวเติมซอสเปรี้ยวดับกลิ่นสาบคาว ความจริงเติมเมล็ดซิ่ง[2]ได้ยิ่งดี แต่ในมือนางตอนนี้ไม่มีเมล็ดซิ่ง ดังนั้นเติมซอสเปรี้ยวดับกลิ่นสาบคาวแทน

แต่แม้เติมซอสเปรี้ยว แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดื่มลงไปแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่อร่อย เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดื่มไปได้สองสามอึกก็ไม่ค่อยอยากดื่มอีก

ลู่เจียวมองพวกเขา กล่าวอย่างเข้มงวดว่า “ดื่มนมแพะมีผลดีอย่างมาก สุขภาพพวกเจ้าตอนนี้ไม่แข็งแรงพอ ตัวไม่สูง ดังนั้นต้องดื่มนมแพะมากๆ ดื่มนมแพะทำให้ตัวสูงใหญ่แข็งแรงได้ วันหน้าเจอคนมารังแกพวกเจ้า พวกเจ้าก็ไม่ต้องกลัวพวกเขาแล้ว”

พอลู่เจียวกล่าวจบ เอ้อร์เป่าก็ยกนมแพะขึ้นดื่มคนแรก ต้าเป่า ซานเป่า ซื่อเป่าก็พากันยกนมแพะขึ้นดื่มตามกัน

แต่พอดื่มเสร็จ พวกลูกทั้งสี่ก็ยังขมวดคิ้วเบะปากบ่น “ไม่อร่อยเลย”

ลู่เจียวบีบแก้มพวกเขาอย่างนึกขำ “ดื่มทุกวันก็ชินเอง คิดถึงวันหน้าพวกเจ้าโตขึ้น ตัวสูงใหญ่รูปงาม หล่อกว่าท่านพ่อพวกเจ้าอีก ดีขนาดไหนกัน”

ซานเป่าดวงตาเปล่งประกาย สูงและหล่อกว่าท่านพ่อ เขาชอบ

ซานเป่ามองลู่เจียวอย่างดีใจ รับประกันว่า “ท่านแม่ วันหน้าข้าจะดื่มทุกวัน”

ซื่อเป่าก็พยักหน้าเต็มแรง “วันหน้าข้าก็ดื่มทุกวันเหมือนกัน โตแล้วสูงกว่าท่านพ่อ วันหน้าปกป้องท่านแม่”

“เช่นนั้นวันหน้าแม่ก็หวังพึ่งพาพวกเจ้าแล้ว”

ต้าเป่ายิ้มเสริมอีกประโยคว่า “ข้าด้วย ข้าเองก็จะปกป้องท่านแม่”

ลู่เจียวมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ด้วยสีหน้ายิ้มละไม คิดว่าไม่นานต้องไปจากพวกเขา ก็ตัดใจไม่ลงจริงๆ

ในเรือนนอนตะวันออกเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังเสียงคุยกันด้านนอกก็เลิกคิ้ว ในใจก็ยิ่งมั่นใจ ขอเพียงตนเองเสนอให้ลู่เจียวอยู่ต่อ นางต้องอยู่ต่อเป็นแน่

———————————————-

[1] แร่เจี่ยเหยียน แร่โปแตส

[2] เมล็ดซิ่ง อัลมอนด์

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท