ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 142 วันนี้ดีใจจริง

ตอนที่ 142 วันนี้ดีใจจริง

ตอนที่ 142 วันนี้ดีใจจริง
ลู่เจียวครุ่นคิด ใบหน้าแย้มยิ้มกล่าวว่า “ตอนนี้ยังอ้วนไปสักหน่อย ไว้รอลดอีกหน่อยค่อยซื้อ เวลานั้นเสื้อผ้าจะยิ่งพอดีตัว”

พอได้ฟังว่านางว่ายังต้องลดความอ้วน เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่เห็นด้วย

เขารู้สึกว่าลู่เจียวอย่างนี้กำลังดี ไม่อ้วนเกินไป มีเนื้อมีหนังพอดี

แม้สตรีแคว้นต้าโจวให้ค่าความผอมว่าสวย แต่เขากลับรู้สึกว่าสตรียังไงมีเนื้อหนังหน่อยดีกว่า

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิด เอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าคิดว่าเจ้าอย่างนี้ดีมาก”

ลู่เจียวเริ่มกัดฟันแล้ว ข้าไม่อยากให้เจ้าคิดว่าดี ข้าต้องการให้ข้าเองคิดว่าดี

แต่เพื่อเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ นางยอมก็ได้

“เซี่ยอวิ๋นจิ่น หากยังไม่สอนอีกเวลาก็จะผ่านไปแล้ว อีกสักครู่เจ้าแฝดสี่ยังต้องสอนเด็กๆ ในหมู่บ้านเรียนหนังสืออีก”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็ทำสีหน้าคืนสู่ปกติ ตั้งใจสอนลู่เจียวอ่านหนังสือ หลักๆ ก็คือเขาอ่าน ลู่เจียวเทียบกับตัวเล่มทีละคำ

คัมภีร์สามอักษรสำหรับเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้วเป็นวิชาเด็กน้อย เขาไม่ต้องดูก็ท่องได้คล่อง ดังนั้นแม้แต่หนังสือก็ไม่ต้องใช้

ลู่เจียวจ้องมองตัวหนังสืออ่านไปทีละวรรค เรียนรู้อักษรไป

นอกห้อง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในเรือนนอนตะวันออก ก็รีบวิ่งมาที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว เห็นท่านพ่อสอนท่านแม่อ่านหนังสือด้วยตนเอง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็อดปิดปากหัวเราะกันขึ้นมาไม่ได้

ท่านพ่อกับท่านแม่ตอนนี้ดีมากเลย

ต้าเป่ายกนิ้วจ่อที่ปากให้ทุกคนเงียบ บุ้ยใบ้ให้สามตัวเล็กที่เหลืออย่ารบกวนท่านพ่อกับท่านแม่

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ค่อยๆ เดินออกมาเงียบๆ ในห้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่หลบที่หน้าประตูนานแล้ว แต่ลู่เจียวไม่ทันสังเกต

เพราะนางตั้งใจอยู่กับคัมภีร์สามอักษร เซี่ยอวิ๋นจิ่นสอนรอบหนึ่ง นางก็อ่านตามรอบหนึ่ง จากนั้นก็เทียบกับตัวอักษรตัวเต็มแบบเก่าบนหน้าคัมภีร์อีกรอบ

ครึ่งชั่วยามผ่านไปเร็วมาก

ลู่เจียววิ่งไปที่ห้องครัวเทน้ำมาให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างขยันขันแข็ง ตอนเทน้ำก็ยังเติมน้ำพุจิตวิญญาณไปสองหยด

คนผู้นี้ไม่เลวจริงๆ นางตัดสินใจว่าก่อนจะหย่าก็จะดีกับเขาสักหน่อย

ลู่เจียวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยใบหน้าอมยิ้ม สายตายิ่งอ่อนโยนได้เท่าไรก็อ่อนโยนเท่านั้น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นสบตาคู่นี้ แก้มก็เริ่มร้อนผ่าวเล็กน้อย ในใจก็แอบบอกกับตนเองขึ้นมาไม่ได้ว่า แม้นางจะชอบเขา อย่างไรก็ควรสงบเสงี่ยมบ้าง มีหญิงที่ไหนแสดงความรู้สึกออกมาชัดเจนเช่นนี้กัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงนหน้าขึ้นด้วยสัญชาตญาณ คิดจะบอกลู่เจียวสักหน่อย แต่พอนึกได้ว่า อาจจะทำให้นางเสียหน้าได้ คิดถึงที่นางดีกับเขา ดีกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เช่นนั้นก็แล้วไปเถอะ

นางชอบแสดงออกก็ให้นางแสดงออกไปละกัน อย่างไรนางก็เป็นภรรยาเขา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็ก้มหน้าลงดื่มน้ำ ใบหน้าหล่อเหลางดงามราวบุปผา

ลู่เจียวแอบชื่นชมอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวว่า “ข้าออกไปเตรียมอาหารกลางวัน เจ้านอนพักสักครู่ หากต้องการอะไรก็เรียกข้าได้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินเสียงอ่อนโยนเบาๆ ข้างใบหู เห็นชัดว่าอ่อนโยนกว่าเมื่อก่อนและยังมีความสุข ดูท่าไม่หย่านั้นถูกต้องแล้ว

มุมปากเขาแอบยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

ลู่เจียวไม่คิดสนใจเขาอีก หันหลังเดินออกไปด้านนอก เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เริ่มสอนหนังสือเพื่อนๆ ในหมู่บ้านกันในห้องโถงตระกูลเซี่ยแล้ว

คนที่มาเรียนหนังสือยิ่งมากขึ้น นอกจากเด็กผู้ชาย แม้แต่เด็กผู้หญิงก็มีสองสามคน ถึงกับมีเด็กผู้ชายอายุมากสองสามคนมาเรียนด้วย เซี่ยเสี่ยวเป่าก็มาด้วย

เซี่ยเสี่ยวเป่าเห็นลู่เจียวก็แอบเขินเล็กน้อย เขาอายุสิบสามแล้ว ถึงกับยังต้องเรียนรู้หนังสือกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ น่าขายหน้าจริง

แต่ท่านพ่อท่านแม่เขาบีบบังคับให้เขามาเรียนหนังสือ บอกว่าเรียนได้นิดหน่อยก็ยังดี วันหน้าก็ไม่ต้องเป็นพวกลืมตาอยู่แต่เหมือนตาบอดแล้ว

“พี่สะใภ้สาม”

ลู่เจียวพยักหน้า กำชับเสี่ยวเป่าให้เรียนให้ดี “ตั้งใจเรียน เรียนรู้หนังสือไว้ไม่เสียเปรียบ”

เซี่ยเสี่ยวเป่าคิดไม่ถึงว่าลู่เจียวไม่เพียงแต่ไม่หัวเราะเยาะเขา ยังให้กำลังใจเขา พลันก็รู้สึกมีกำลังใจ พยักหน้าเต็มแรง “พี่สะใภ้สาม ข้าจะตั้งใจเรียน”

ลู่เจียวเดินไปเตรียมอาหารกลางวัน วันนี้เป็นวันมงคลยิ่ง นางนับว่าได้มงคลคู่มา อย่างแรกคือตั๋วแลกเงินห้าพันตำลึง จากนั้นยังได้สิทธิ์ดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ สวรรค์ช่างดีกับนางเกินไปแล้ว

ลู่เจียวเตรียมอาหารเที่ยงอย่างกระปรี้กระเปร่า วันนี้ทำอาหารที่ถนัดให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่สองสามอย่าง เอาปลาตัวใหญ่ก่อนหน้านี้ของนางออกมาก่อน แล่เนื้อออกมาสับเป็นเนื้อปลาสับ เติมไชเท้าตำละเอียด ทอดเป็นลูกชิ้นปลา เด็กๆ กินอันนี้ที่สุด

ลู่เจียวเอาหัวปลาไปหมักไว้สักครู่ ตอนเที่ยงไว้ทำน้ำแกงหัวปลา นางจะทำเนื้อน้ำแดงอีกอย่างด้วย

ซี่โครงกระดูกตุ๋นน้ำแกงเอามาใส่หมี่แผ่นแป้ง แล้วค่อยเก็บผักในสวนครัวออกมาผัดผักอีกสองอย่าง

ลู่เจียวยุ่งกับงานมีความสุข ในใจรู้สึกสุขอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้นางรู้สึกสนุกกับการเลี้ยงลูกแล้ว

นอกรั้วบ้าน มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ตรงไปยังห้องครัว

“เจียวเจียว อยู่ไหม”

ลู่เจียวหยุดมือหันเดินไปที่ประตู เห็นป้ากุ้ยฮวาด้านนอกมาอย่างเร่ง

“ทำไมหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ลู่เจียวคิดว่าบ้านป้ากุ้ยฮวามีคนล้มป่วย ดังนั้นจึงถามอย่างห่วงใย

ป้ากุ้ยฮวารีบเดินมาข้างกายนาง กระซิบบอกนางว่า “เจียวเจียว ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้า เจ้ารีบไปบอกอวิ๋นจิ่น”

นางกล่าวจบไม่รอให้ลู่เจียวถาม ก็กระซิบกระซาบเบาๆ ว่า “เจ้ารู้จักนางจิ้งจอกข้างบ้านข้าไหม ข้าจ้องมองนางทุกวัน กลัวว่านางจะมาล่อลวงสามีข้า เมื่อวานตกค่ำข้าพบว่ามีคนผู้หนึ่งเข้าประตูบ้านนางไปอย่างลับๆ ล่อๆ ข้านอนไม่หลับ จ้องมองความเคลื่อนไหวทางนั้น ดูว่าแท้จริงเป็นผู้ใดถูกนางล่อลวงไปได้ ปรากฏเจ้าเดาสิ ว่าข้าเห็นใครเข้า”

ป้ากุ้ยฮวามองลู่เจียวด้วยท่าทางลึกลับซับซ้อน

ในใจลู่เจียวรู้อยู่แล้ว ไม่เหนือความคาดหมาย คนที่ถูกแม่หม้ายหวังล่อลวงไปก็คือบิดาสามีนาง เซี่ยเหล่าเกินไง ไม่งั้นป้ากุ้ยฮวาจะแล่นมาบอกนางหรือ

ลู่เจียวได้แต่ส่ายหน้าทำเป็นไม่รู้

ป้ากุ้ยฮวากล่าวสะใจกับหายนะผู้อื่นว่า “บิดาสามีเจ้า เซี่ยเหล่าเกิน”

ลู่เจียวส่งเสียงตกใจได้พอเหมาะพอดี “โอ จริงหรือเท็จกัน”

ป้ากุ้ยฮวารีบกระซิบว่า “นังหนูนี่ ข้าจะหลอกเจ้าหรือไง เมื่อวานตกค่ำข้าไม่ได้เอะอะ ก็เพราะเซี่ยเหล่าเกินเป็นบิดาสามีเจ้า หากไม่งั้นข้าย่อมป่าวประกาศแล้ว ตบหน้าหร่วนซื่อชัดๆ นางไม่ใช่ว่าอยู่บ้านเป็นใหญ่หรือ สามีและลูกๆ ล้วนฟังการครอบงำของนาง”

“ตอนนี้ผู้ชายของนางแล่นไปแอบกินข้างนอกแล้ว ข้าอยากเห็นสีหน้านางจริงๆ หากรู้เรื่องนี้เข้า วันหน้าดูซิว่านางยังมีหน้ามาโอ้อวดตนเองไหม”

ลู่เจียวได้ฟังคำพูดป้ากุ้ยฮวา ก็ทำสีหน้าตกใจและแสดงท่าทางเหมือนไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้

“ป้ากุ้ยฮวา ป้าต้องมองผิดแน่เลย บิดาสามีข้าไม่ทำเรื่องเช่นนี้เด็ดขาด เขากลัวมารดาสามีข้าราวกับหนูกลัวแมว จะใจกล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ป้ากุ้ยฮวา ป้าคิดดูว่ามีเหตุผลไหม”

ป้ากุ้ยฮวาเริ่มไม่แน่ใจ อย่างไรเมื่อวานตกค่ำก็มืด โคมไฟก็ไม่มี นางเห็นเงาเหมือนเซี่ยเหล่าเกิน แต่ก็อาจไม่ใช่เขา คนในหมู่บ้านที่มีรูปร่างใกล้กับเซี่ยเหล่าเกินก็มีไม่น้อย

ดังนั้นนางมองผิดหรือ ป้ากุ้ยฮวาเดิมคิดแล่นมาเอาความดีความชอบต่อหน้าลู่เจียว ปรากฏคว้าได้แต่ลม แอบรู้สึกเสียใจ แค่นเสียงฮึกล่าวว่า

“ดีที่สุดอย่าให้ข้าจับได้ หากให้ข้าจับได้อีกละก็ จะลอกหนังแม่หม้ายหวังให้ได้”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท