ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 160 ไม่เคยสะใจอย่างนี้มาก่อน

ตอนที่ 160 ไม่เคยสะใจอย่างนี้มาก่อน

ตอนที่ 160 ไม่เคยสะใจอย่างนี้มาก่อน
เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อโมโหจนหน้าเขียว เดิมเซี่ยอวิ๋นจิ่นออกไปแล้วคนหนึ่ง ก็ทำพวกเขาเสียไปแล้วคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ถึงกับมีเซี่ี่ยเอ้อร์จู้อีกคน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่เชื่อฟัง แม้ว่าเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อโมโห แต่ไม่ว่าโมโหอย่างไร ทว่าอย่างไรเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เป็นซิ่วไฉ ว่าที่ขุนนางในอนาคต พวกเขาไม่กล้าหาเรื่องเขามากเกินไป

แต่เซี่ี่ยเอ้อร์จู้นี่มันตัวอะไรกัน ถึงกับกล้าพูดจากับพวกเขาที่เป็นบิดามารดาเช่นนี้

เซี่ยเหล่าเกินโมโหจนหน้าเขียว ตวาดใส่เซี่ี่ยเอ้อร์จู้ “เจ้าเนรคุณ ถึงกับกล้าพูดจากับบิดามารดาเช่นนี้ ข้าจะไปหาจู๋จ่าง ให้ขับพวกเจ้าออกไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย พวกเจ้าไสหัวไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ไปขอทานไป”

เซี่ี่ยเอ้อร์จู้คิดไม่ถึงว่าท่านพ่อตนถึงกับกล่าวเช่นนี้ โมโหจนน้ำตาร่วงไม่หยุด

หร่วนซื่อยังด่าทอไม่หยุด “อยากตายก็ไป เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้จะข่มขู่พวกเราได้หรือ พวกเราขาดอะไรก็ไม่ขาดลูกอย่างเจ้า เจ้าตายไปคน ยังมีลูกคนอื่นอีก”

หร่วนซื่อกล่าวจบ เสียงผู้ใหญ่บ้านก็ดังมาทางหน้าประตู “นี่พูดจาอะไรกัน”

คนตระกูลเซี่ยหันไปมอง เห็นพวกผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างมากันแล้ว

ข้างๆ พวกผู้ใหญ่บ้านจู๋จ่างยังมีลู่เจียวตามมาด้วย เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อเห็นลู่เจียวก็โมโห แต่กลับไม่กล้าหาเรื่องนาง

หญิงผู้นี้ไม่เพียงแต่ดุร้าย ประเด็นสำคัญคือยังมีความสามารถ ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างต่างยกย่องนาง พวกเขาไม่กล้าหาเรื่องนางต่อหน้าผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง

เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อไม่พูด ลู่เจียวกลับกล่าวแทนว่า “ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างมาแล้ว เรื่องนี้เกิดเพราะข้า ข้าได้บอกว่าจะสอนชาวบ้านในหมู่บ้านเลี้ยงปลิงใช่ไหม ท่านพ่อท่านแม่ก็เลยคิดกันเอง คนหนึ่งอยากให้พี่ใหญ่เรียน คนหนึ่งอยากให้เจ้าสี่เรียน ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างก็รู้ ไม่ว่าพี่ใหญ่หรือเจ้าสี่ ความสัมพันธ์กับข้าล้วนไม่ดี”

“ของของข้าไม่อาจสอนให้คนที่ข้าไม่ยินดี ข้าบอกแล้วว่าจะสอนพี่รอง ปรากฏพวกเขากลับมาก็บีบคั้นพี่รอง”

ลู่เจียวกล่าวจบมองไปยังผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง กล่าวว่า “เดิมข้าคิดให้หมู่บ้านตระกูลเซี่ยได้ร่ำรวยกัน ปรากฏว่าเพราะเรื่องนี้ ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ เรื่องนี้ก็แล้วไปละกัน”

ลู่เจียวกล่าวจบก็หันหลังจากไป ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างยืนเซ่อกันไปหมด ชาวบ้านในหมู่บ้านหน้าบ้านตระกูลเซี่ยพากันยืนเซ่อตาม จากนั้นมีคนตั้งสติได้ก่อน ยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า “ภรรยาอวิ๋นจิ่น เจ้าอย่าสนใจพวกไร้สมองตระกูลเซี่ยพวกนี้ พวกเขาสมองมีปัญหา”

“ใช่ พวกเขาสมองไม่ดี ไม่งั้นคงไม่ขับไล่ซิ่วไฉออกจากบ้านหรอก”

ลู่เจียวกลับโบกมือ สีหน้าลำบากใจกล่าวว่า “ยังไงก็แล้วไปเถอะ ตอนอวิ๋นจิ่นบาดเจ็บ พี่รองช่วยเหลือพวกเรามาตลอด ในใจพวกเราเดิมซาบซึ้งใจเขามาก คิดช่วยเหลือเขาสักครั้ง ปรากฏเพราะเรื่องนี้ทำร้ายเขา ในใจข้าก็เสียใจมาก เรื่องนี้ก็แล้วไปเถอะ”

ลู่เจียวกล่าวจบก็หันหลังจากไป คนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยพากันยืนเซ่อ สุดท้ายทุกคนก็โมโหหันไปมองคนตระกูลเซี่ย

จู๋จ่างมองเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อกล่าวเสียงแข็งว่า “หากภรรยาอวิ๋นจิ่นไม่สอนคนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเลี้ยงปลิงจริงๆ พวกเจ้าทั้งครอบครัวก็ออกไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยให้หมด”

เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อตกใจหน้าตาเซ่อซ่า พอได้สติคืนมา เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อก็ไม่กล้าเอาเรื่องอีก พากันวิ่งไปขอร้องจู๋จ่าง

โดยเฉพาะเซี่ยเหล่าเกินที่ตกใจสุดขีด แสดงท่าทีต่อจู๋จ่างและผู้อาวุโสในวงศ์ตระกูลว่า วันหน้าจะไม่หาเรื่องเจ้าสามกับสะใภ้สามอีกแล้ว

จู๋จ่างและผู้อาวุโสในวงศ์ตระกูลหารือกันทั้งคืน วิจารณ์ตำหนิเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อ สุดท้ายเพราะว่าพวกเขาเป็นบิดามารดาเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็ไม่ขับไล่ออกจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยชั่วคราว

แต่นี่เป็นครั้งสุดท้าย หากครั้งหน้าพวกเขาไปหาเรื่องครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก ก็จะขับพวกเขาออกจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย และยังห้ามรังแกครอบครัวเซี่ี่ยเอ้อร์จู้ด้วย หากเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ก็จะให้พวกเขาไสหัวไป

การประชุมจบลง บรรดาผู้อาวุโสในวงศ์ตระกูลยังร่างสัญญา ให้เซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อประทับลายนิ้วมือ

ลู่เจียวรู้ว่าที่พูดไปก่อนหน้านี้ คนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยย่อมไม่ปล่อยเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อไป แต่คิดไม่ถึงว่าจะก่อให้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้

ยามนี้นางกำลังกระซิบเล่าเรื่องที่ตระกูลเซี่ยให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟัง

“ท่านพ่อเจ้า ท่านแม่เจ้าเกินไปจริงๆ คนหนึ่งว่าให้ขับพี่รองออกจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย คนหนึ่งว่าเขาทำไมไม่ไปตาย ข้าไม่เคยเห็นพ่อแม่ใจร้ายอย่างนี้เลยจริงๆ”

สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นดุดันน่ากลัว นิ้วมือกำแน่น ในนาทีนี้เขาแทบอยากจะตัดสัมพันธ์กับบิดามารดาไร้คุณธรรมคู่นี้

เขาสนิทกับพี่รองที่สุดในตระกูลเซี่ย พี่รองเป็นคนเลี้ยงเขาโตมา เพราะเขาไม่เป็นที่ชื่นชอบของบิดามารดา

บิดามารดาให้กำเนิดเขา แล้วก็ทอดทิ้งเขาไว้ในบ้าน พี่รองเขาป้อนข้าวป้อนน้ำเขา ต่อมาพอโตอีกหน่อยก็ยังคอยแบกเขาทำงานบ้านไปด้วย

แม้ว่าเป็นพี่น้อง แต่พี่รองสำหรับเขาแล้วก็เป็นดั่งบิดามารดา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจ จนมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านนอก เจ้าหนูน้อยทั้งสี่วิ่งเข้ามาตาม

“ท่านแม่ ลุงรองมา”

เซี่ี่ยเอ้อร์จู้เดินเข้ามา เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นเขาก็รีบถามอย่างห่วงใยกล่าวว่า “พี่รอง พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม”

เซี่ี่ยเอ้อร์จู้ส่ายหน้า สีหน้าถึงกับสะใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“น้องสาม วันนี้ข้าดีใจมาก แต่ไรมาไม่เคยได้สะใจเช่นนี้มาก่อน”

แม้ท่านพ่อท่านแม่เขาพูดจาไม่น่าฟังเพียงใด แต่เขายังคงรู้สึกว่าวันนี้สะใจที่สุด

เขาได้ขว้างปาสิ่งของต่อหน้าคนในบ้าน ตอนนั้นทั้งบ้านถูกเขาทำตกใจจนนิ่งค้างกันไปหมด ราวกับไม่รู้จักเขา

ตอนนั้นเซี่ี่ยเอ้อร์จู้รู้สึกได้ว่าตนเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง

แต่เขาปลอดภัยไม่เป็นอะไรได้ ก็ต้องขอบคุณคำพูดสุดท้ายของน้องสะใภ้สาม

เซี่ี่ยเอ้อร์จู้คิดแล้วก็ยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า “ข้าต้องขอบคุณน้องสะใภ้สาม หากไม่ได้เจ้าบอกไปว่าไม่สอนคนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเลี้ยงปลิงแล้ว เกรงว่าวันนี้คงจบไม่สวย”

ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่เป็นไร พี่รองอย่าได้เป็นห่วงท่านพ่อท่านแม่ว่าจะมาหาเรื่องพี่อีก วันนี้หากพวกเขาไม่ให้คำตอบ ข้าก็จะไม่สอนคนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเลี้ยงปลิงจริงๆ”

พอลู่เจียวกล่าว เซี่ี่ยเอ้อร์จู้ก็ตื้นตันพูดไม่ออก เขารู้ว่าน้องสะใภ้สามทำเช่นนี้ก็เพื่อเขา

“ขอบคุณน้องสะใภ้สาม”

เขากล่าวจบ ก็สำทับอีกประโยคว่า “ท่านพ่อท่านแม่ถูกพาไปบ้านจู๋จ่างแล้ว”

ลู่เจียวไม่ได้สนใจบิดามารดาไร้คุณธรรมคู่นั้น มองเซี่ี่ยเอ้อร์จู้กล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่รอง พี่อยากเรียนเลี้ยงปลิงไหม”

เซี่ี่ยเอ้อร์จู้พอได้ฟังก็อึ้งไป ก่อนจะมือไม้พัลวันมองลู่เจียว กล่าวว่า “ข้ากลัวเรียนไม่เป็น”

ลู่เจียวส่ายหน้า “ข้าจะค่อยๆ สอนพี่เอง จนกว่าพี่จะเป็น”

แม้ว่าเซี่ี่ยเอ้อร์จู้โง่เง่า แต่เขาก็รู้ว่าเรียนเลี้ยงปลิงหมายถึงอะไร วันหน้าคนในหมู่บ้านตระกูลเซี่ยก็จะเคารพเขา ไม่มีคนกล้าพูดจาไม่เคารพเขาแม้แต่น้อย วันหน้าเขาจะมีชีวิตที่มีเกียรติ

เขายิ่งคิดก็ยิ่งเบิกบานใจ ลู่เจียวถามเขาอีกว่า “พี่รอง หากมีโอกาส ให้พี่ไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ไปทำงานอื่น พี่ยินดีไหม”

ลู่เจียวคิดถึงว่าตนเองจะซื้อที่นาไว้ปลูกสมุนไพร หากเซี่ี่ยเอ้อร์จู้ยินยอม นางก็จะสอนเขาดูแลแปลงสมุนไพร เช่นนี้ก็ไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยได้ ไปจากบิดามารดาใจดำ และเขาเป็นคนซื่อ นางก็วางใจ

แต่ลู่เจียวไม่มั่นใจว่าเซี่ี่ยเอ้อร์จู้จะยอมไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย เซี่ี่ยเอ้อร์จู้เป็นคนที่เติบโตในหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ทั้งชีวิตไม่เคยไปจากหมู่บ้าน ไม่แน่ว่าจะยอมไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย

ดังคาด พอลู่เจียวกล่าวออกมา เซี่ี่ยเอ้อร์จู้ก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที “ข้าไม่อยากไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย”

ลู่เจียวเข้าใจ ยิ้มกล่าวว่า “ไม่เป็นไร งั้นข้าสอนพี่เลี้ยงปลิง”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท