ตอนที่ 168 ท่านแม่ ข้าป้อนท่านกินข้าวนะ
ฮูหยินผู้เฒ่าสามพาครอบครัวเด็กจากไปอย่างรีบร้อน แต่ไม่ได้กลับทันที แต่ไปต้มยาให้เสี่ยวอวี๋กินที่บ้านฮูหยินผู้เฒ่าสามก่อน
ทางตระกูลเซี่ย เด็ก ๆ ต่างร้องไห้กันวิ่งกลับบ้านไปบอกที่บ้านว่าในท้องตนมีหนอน
ลู่เจียวกลับเตรียมขึ้นเขาเก็บสมุนไพรมาต้มขับพยาธิให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ พร้อมกันนั้นนางตั้งใจจะเก็บมามากหน่อย ไว้ต้มเป็นหม้อให้เด็กๆ ในหมู่บ้าน แต่ละครอบครัวที่มีเด็กก็ให้ตักกลับไปกันคนละชาม
เด็กที่ยังไม่ออกอาการ ดื่มวันละหนึ่งชาม สองวันก็จะถ่ายพยาธิออกไปได้
ในเรือนนอนตะวันออก เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เล่าเรื่องในท้องมีหนอนให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟังอย่างน่าสงสาร
“ท่านแม่บอกว่าในท้องมีหนอน”
“ท่านพ่อ น่ากลัวมาก”
“ท่านแม่บอกว่าต้องขึ้นเขาเก็บสมุนไพรมาต้มให้พวกเรา”
“กินแล้วหนอนก็จะออกมา ท่านแม่ว่าวันหน้ากินข้าวต้องล้างมือ กินอะไรก็ต้องล้างมือ ของกินอะไรก็ต้องล้าง ไม่สุกไม่ให้กิน ไม่งั้นในท้องก็จะมีหนอน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้เรื่องที่เกิดในเรือนตะวันตกก่อนหน้านี้แล้ว เขามองลู่เจียวอย่างตกใจมาก “ในท้องมีหนอนจริงหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้า “มีจริง การไม่รักษาสุขอนามัยเดิมก็ทำให้เกิดหนอนพยาธิได้ง่าย”
“งั้นเมื่อก่อนทำไมพวกเราไม่เป็นอะไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นถามอย่างแปลกใจ เขาไม่เคยได้ยินว่าในท้องมีหนอนได้ เรื่องนี้น่ากลัวจริง แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่ได้สงสัยลู่เจียว เพราะหญิงผู้นี้วิชาการแพทย์ร้ายกาจจริงๆ ดังนั้นในท้องเด็กๆ มีหนอนจริงหรือ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่เห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ใบหน้าขาวๆ นุ่มๆ ก็วางใจ
ลู่เจียวชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ขนาดนี้ ตอนนี้ดูท่าทางไม่ได้ร้อนใจอะไร คิดว่าหนอนนี้ก็คงไม่ทำร้ายสุขภาพชั่วคราว
“การไม่กำจัดหนอนพยาธิ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเด่นชัด มีปวดท้องบ้างบางครั้ง ระบบการทำงานลำไส้แปรปรวน แต่คนที่ในท้องมีหนอนพยาธิ จะดูดซึมสารอาหารไม่ดี ทำให้ร่างกายผอมซูบ หากเป็นเด็ก ก็จะเป็นโรคขาดสารอาหารเหมือนเสี่ยวอวี๋ ไม่เพียงซูบผอม ยังกินอะไรไม่ลง สุดท้ายก่อให้เกิดโรคหลายอย่าง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ร้อนใจ เริ่มเป็นห่วงแล้วเร่งลู่เจียวว่า “งั้นเจ้ารีบขึ้นเขาเก็บสมุนไพร ขับหนอนให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่”
“ได้เลย”
ลู่เจียวยิ้มตอบรับ หันหลังเดินออกไป เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็รีบตามไป
ทั้งหมดเพิ่งออกมาจากรั้วบ้าน ก็เห็นเซี่ยเสี่ยวเป่า มู่โถว โก่วเซิ่งจะตามไปด้วย
ทั้งสามคนแบกธนูไม้ไว้บนหลัง เดินตามพวกนางมาอย่างฮึกเหิม
แต่ครั้งนี้ที่สามคนนี้แปลกใจอยากรู้ที่สุดก็คือในท้องพวกเขามีหนอนจริงหรือ ดังนั้นก็พากันถามลู่เจียว
“พี่สะใภ้สาม ท้องพวกเรามีหนอนจริงหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้า “มีสิ”
“งั้นมันจะกินพวกเราไหม”
โก่วเซิ่งถามอย่างตื่นตกใจ
ลู่เจียวยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่หรอก มันกินแต่สารอาหารในร่างกายพวกเรา ไม่กินคน ขอเพียงพวกเราขับมันออกมาทุกปี ปีละครั้ง วันหน้าในท้องก็จะไม่มีหนอน ที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเราต้องรักษาสุขอนามัย รักษาความสะอาด”
เซี่ยเสี่ยวเป่า มู่โถวกับโก่วเซิ่งรีบแสดงท่าที “วันหน้าพวกเราจะรักษาสุขอนามัย กินข้าวล้างมือ กินอะไรก็ล้างมือ ไม่สุกไม่กิน”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบสำทับว่า “ยังมีอีก เข้าห้องน้ำมาก็ต้องล้างมือ”
เซี่ยเสี่ยวเป่ากับมู่โถว ยังมีโก่วเซิ่งรีบพากันพยักหน้า
เด็กๆ พูดจากันไปมาก็ลืมเรื่องหวาดกลัวในท้องมีหนอนกันไป ขึ้นเขาปีนต้นไม้ยิงธนูสนุกสนานตลอดทาง
ครั้งนี้ลู่เจียวไม่ได้สนใจพวกเขา เริ่มเก็บสมุนไพรบนเขา คิดถึงว่ามีเด็กๆ ไม่น้อยในหมู่บ้าน นางเก็บสมุนไพรไปสองมัดใหญ่จึงได้หยุด
“ลูกรัก พวกเราลงเขาได้แล้ว วันนี้ต้องดื่มยาขับหนอน พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นใหม่”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เป็นห่วงเรื่องหนอนในท้อง พอได้ฟังลู่เจียวเรียกก็รีบลงเขาอย่างเชื่อฟัง
พอทุกคนกลับถึงบ้าน นอกรั้วบ้านพวกเขาก็มีคนมากันไม่น้อย ล้วนเป็นคนในหมู่บ้าน มีทั้งเด็ก คนแก่ ผู้ชายและผู้หญิง พอเห็นลู่เจียวก็พากันรุมล้อมถามถึงเรื่องหนอน
ลู่เจียวพูดอีกรอบ สุดท้ายกล่าวว่า “ข้าเก็บยากลับมาแล้ว อีกสักครู่จะต้มหม้อใหญ่ ทุกครอบครัวที่มีเด็กก็ให้ตักกลับไปให้เด็กกินชามหนึ่ง”
ชาวบ้านในหมู่บ้านแม้ว่าปากตอบรับ แต่ใจกลับบ่นพึมพำ
แต่ไรมาไม่เคยได้ยินว่าในท้องมีหนอน จริงหรือเท็จกันนี่
ในนั้นมีคนหนึ่งเชื่อลู่เจียวอย่างงมงายมาก รีบกระโดดออกมากล่าวว่า “เจียวเจียวเป็นหมอเทวดา นางว่าในท้องมีหนอน ในท้องเด็กๆ ก็ย่อมต้องมีหนอน”
ป้ากุ้ยฮวากล่าวจบรีบมองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “เจียวเจียว ข้าช่วยเจ้าต้มยา อีกเดี๋ยวจะได้ตักกลับไปให้เถี่ยตั้นดื่ม”
“ได้”
นอกจากป้ากุ้ยฮวา ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนวิ่งเข้ามาช่วย ทุกคนช่วยกันมือไม้พัลวัน เอาสมุนไพรที่ลู่เจียวเก็บมาใส่ลงไปในหม้อต้มเป็นยาน้ำ ปรากฏว่าหม้อเดียวไม่พอ ต้องต้มอีกหมอ จึงจะพอให้เด็กๆ ทั้งหมู่บ้านได้แบ่งกัน
เรื่องนี้ทำเอาบ้านลู่เจียวยุ่งกันจนค่ำมืดจึงได้กินอาหารเย็นกัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นสภาพเหนื่อยล้าหมดแรงของลู่เจียว ก็รู้สึกปวดใจมาก
“วันหน้าไม่จำเป็นต้องเหนื่อยเช่นนี้ วันนี้ต้มไม่หมด พรุ่งนี้ก็ค่อยต้มอีก หลายปีมานี้พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็มองออกว่าท่านแม่ตนเหนื่อยมาก แฝดสี่รีบเข้าไปรุมล้อมลู่เจียว “ท่านแม่ ข้านวดให้ท่านแม่”
“ข้านวดบ่าให้ท่านแม่นะ”
“ท่านแม่ ข้าเทน้ำหวานให้ท่านแม่ดื่มนะ”
ซื่อเป่ามองลู่เจียวด้วยสายตาวาดหวัง กล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าป้อนข้าวท่านแม่นะ”
ทำเอาลู่เจียวขำ ยื่นมือไปลูบหัวซื่อเป่า “แม่ยังไม่แก่ถึงขั้นกินข้าวไม่ได้จนต้องให้เจ้ามาป้อนข้าวนะ”
นางกล่าวจบ ก็แสดงท่าทางให้เจ้าหนูน้อยรีบกินข้าว “เอาละ ดึกแล้ว รีบกินข้าว กินเสร็จก็ไปอาบน้ำเข้านอน”
เพราะท่านแม่เหนื่อยมาก เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่อยากให้นางต้องมายุ่งยากใจอีก ก็ปีนขึ้นโต๊ะกันไปกินข้าว ท่าทีเชื่อฟังกว่าปกติมาก
ทางครอบครัวเพิ่งกินข้าวเสร็จ เซี่ี่ยเอ้อร์จู้ก็มา
ตอนที่ลู่เจียวต้มยาถ่ายพยาธิ ทางตระกูลเซี่ยไม่มีคนมาตักยาไป
หร่วนซื่อกับเฉินหลิ่วไม่เชื่อ อยู่ที่บ้านหัวเราะเยาะว่าลู่เจียวเสแสร้งแกล้งทำ
หมอเทวดาอะไรกัน วันๆ ทำท่าทางวิเศษวิโส คนอื่นยกยอสองสามคำก็คิดว่าตนเองเป็นหมอเทวดา? ยังมีเรื่องว่าในท้องมีหนอน ในท้องคนจะมีหนอนโตได้อย่างไร หากมีจริงคนก็คงตายไปนานแล้ว
เพราะตระกูลเซี่ยไม่ได้มาตักยา ดังนั้นต้ายากับเอ้อร์ยา ลูกสาวสองคนของเซี่ี่ยเอ้อร์จู้ ก็ไม่ได้ดื่มยาขับหนอน
เซี่ี่ยเอ้อร์จู้กลับจากทำนามาได้ยินเรื่องนี้ ตอนมาก็อดถามลู่เจียวไม่ได้ว่า “น้องสะใภ้สาม ในท้องเด็กๆ มีหนอนจริงหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้า “ใช่”
เซี่ี่ยเอ้อร์จู้เชื่อลู่เจียวอย่างมาก น้องสะใภ้สามวิชาการแพทย์ร้ายกาจ นางว่ามีหนอนงั้นก็ต้องมีหนอน
เซี่ี่ยเอ้อร์จู้รีบมองลู่เจียวกล่าวว่า “น้องสะใภ้สาม เจ้ายังมียาไหม”
ลู่เจียวเก็บชามใหญ่ไว้ให้ต้ายากับเอ้อร์ยาจริงๆ เดิมนางคิดว่าหากเซี่ี่ยเอ้อร์จู้ไม่เชื่อ ก็ไม่ให้เขา หากเขาเชื่อ นางก็ให้เขา
ยามนี้ได้ฟังเซี่ี่ยเอ้อร์จู้ถาม ลู่เจียวรีบยิ้มกล่าวว่า “ข้าเหลือชามใหญ่ไว้ชามหนึ่งให้พวกนางแล้ว พี่กลับไปก็แบ่งสองส่วนให้พวกนางดื่ม”
เซี่ี่ยเอ้อร์จู้ได้ฟังก็ซาบซึ้งใจลู่เจียวอย่างบอกไม่ถูก “ขอบคุณน้องสะใภ้สาม”
เซี่ี่ยเอ้อร์จู้เพิ่งกล่าวจบ ก็มีเสียงคุยกันแตกตื่นด้านนอก ตามมาด้วยเสียงวุ่นวายไปหมด