ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 169 นี่ใครเลี้ยงดูกัน น่ารักขนาดนี้

ตอนที่ 169 นี่ใครเลี้ยงดูกัน น่ารักขนาดนี้

ตอนที่ 169 นี่ใครเลี้ยงดูกัน น่ารักขนาดนี้
คนในห้องมองออกไปทางหน้าต่าง เห็นนอกรั้วบ้านมีคนไม่น้อยเดินมา พอเข้ามาก็ส่งเสียงดังกล่าวว่า “ภรรยาอวิ๋นจิ่นอยู่ไหม”

ลู่เจียวเดินออกไปต้อนรับ เห็นว่าคนที่มาถึงกับเป็นฮูหยินผู้เฒ่าสามกับเซี่ยต้าหงบุตรสาวนาง และคนในครอบครัว แน่นอนด้านหลังพวกเขาก็มีคนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยตามมาไม่น้อย

ฮูหยินผู้เฒ่าสามพอเห็นลู่เจียวก็ดึงมือนางไว้กล่าวขอบคุณ “เจียวเจียว ท้องเสี่ยวอวี๋มีหนอนจริงๆ พวกเราได้เห็นแล้ว หนอนเยอะมาก”

คนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยด้านหลังได้ฟังก็ตกใจไม่หยุด “สวรรค์ ถึงกับมีหนอนจริง น่ากลัวมาก”

“ใช่ โชคดีภรรยาอวิ๋นจิ่นตรวจพบเรื่องนี้ ไม่งั้นเด็กๆ ในครอบครัวเราก็คงต้องป่วยเหมือนเสี่ยวอวี๋ไหม”

“เสี่ยวอวี๋ผอมขนาดนั้น ล้วนเป็นหนอนทำร้าย หมอในเมืองพวกนั้นไม่รู้เรื่องนี้ น่ารังเกียจจริง”

“แสดงให้เห็นว่าวิชาการแพทย์ภรรยาอวิ๋นจิ่นร้ายกาจมาก เก่งกว่าวิชาการแพทย์หมอในเมือง”

“ตอนนี้ข้ามั่นใจได้เลยว่า วิชาการแพทย์นางร้ายกาจกว่าผู้ใด เป็นหมอเทวดา”

“ใช่ ภรรยาอวิ๋นจิ่นเป็นหมอเทวดาแน่นอน”

ชมกันไปใหญ่โต เซี่ยต้าหงมองลู่เจียวอย่างซาบซึ้งใจ กล่าวว่า “ขอบคุณเจ้าที่ช่วยชีวิตเสี่ยวอวี๋เราไว้ หากไม่ใช่เจ้า เกรงว่าผู้ใดก็คงค้นไม่พบว่าเสี่ยวอวี๋ป่วยเพราะสาเหตุนี้”

หากยังเสียเวลาต่อไป เสี่ยวอวี๋ก็คงไม่รอดแล้ว โชคดีนางมาหมู่บ้านตระกูลเซี่ยหาภรรยาอวิ๋นจิ่น

เซี่ยต้าหงซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ล้วนคนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจ เสี่ยวอวี๋ดื่มอีกสองวัน กำจัดหนอนได้ก็ไม่เป็นไรแล้ว”

เซี่ยต้าหงกับครอบครัวเด็กพากันกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจอีกครั้งก่อนจากไป ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเซี่ยก็กล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจอีกครั้งก่อนจากไปเช่นกัน

ลู่เจียวเห็นว่าดึกแล้ว หันหลังเดินไปยังเรือนนอนตะวันออกดูว่าเซี่ี่ยเอ้อร์จู้จัดการให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเรียบร้อยแล้วหรือยัง นางจะได้ยกน้ำร้อนมาให้เซี่ี่ยเอ้อร์จู้เช็ดตัวให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น

ในเรือนนอนตะวันออกเซี่ี่ยเอ้อร์จู้จัดการให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเรียบร้อย ก็คว้ากระโถนจะเดินออกไปเท

ลู่เจียวรีบหันหลังเดินเข้าครัวยกน้ำร้อนมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังพลันเรียกนางไว้

“ลู่เจียว”

ลู่เจียวคิดว่าเขามีเรื่องอะไร ก็หันมาเดินไปหน้าเตียงมองเขา “ทำไมหรือ มีเรื่องอะไร”

ใต้แสงอ่อนละมุน ผู้ชายพิงตัวข้างเตียง ผมยาวดำขลับทิ้งตัวสลวย ผิวพรรณผ่องราวกับหยกมีน้ำมีนวล แววตาดำลุ่มลึกราวกับมีลูกไฟลุกวาบอยู่ ถึงกับเป็นดังภาพสาวงามอย่างไรอย่างนั้น

ลู่เจียวอดชมไม่ได้ว่า ใบหน้านี้ผิวพรรณดีมากเกินไปไหม แต่นางมักรู้สึกว่าระยะนี้สายตาชายผู้นี้มองนางไม่เหมือนปกติ แท้จริงไม่เหมือนตรงไหนกัน นางบอกไม่ถูก แต่ทว่าอย่างไรก็แปลกๆ

ช่างเถอะ บางทีคนเขาเพียงแค่ซาบซึ้งใจนางที่ระยะนี้คอยดูแลเขา ดังนั้นจึงอ่อนโยนกับนางหน่อยกระมัง

ลู่เจียวครุ่นคิด เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พูด ก็ถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ”

มุมปากเซี่ยอวิ๋นจิ่นยกยิ้มกล่าวว่า “วิชาการแพทย์เจ้าเหมือนว่าร้ายกาจมากจริงๆ”

ไม่เพียงชาวบ้านในหมู่บ้าน แม้แต่เขาเองก็ไม่เคยได้ยินเรื่องในท้องคนมีหนอน ดังนั้นวิชาการแพทย์หญิงผู้นี้เกรงว่าจะร้ายกาจมาก

ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในใจก็พลันสะดุ้ง ตามมาด้วยรอยยิ้มทันที กล่าวว่า “ที่ข้าเป็นคนอื่นไม่เป็น ที่คนอื่นเป็น ใช่ว่าข้าจะเป็น แต่ละคนล้วนมีความถนัดของตนเท่านั้น”

นางกล่าวจบไม่รอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวต่อ ทำทีหาวกล่าวว่า “ข้าไปยกน้ำร้อนมาให้พี่รองเช็ดตัวให้เจ้าก่อนนะ”

ลู่เจียวกล่าวจบก็หันหลังเดินไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังรอยยิ้มมุมปากยิ่งชัดขึ้น หญิงผู้นี้แอบเขินอายหรือ

ความจริงเมื่อครู่เขาเรียกนางก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่เพียงอยากคุยกับนาง เหมือนว่าได้คุยกับนางแล้วอารมณ์จะดี

ลู่เจียวข้างนอกไม่รู้ความคิดเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางเดินเข้าครัวยกน้ำร้อนมาให้เซี่ี่ยเอ้อร์จู้เช็ดตัวให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น นางเองไปอาบน้ำให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่

พออาบน้ำเสร็จ ลู่เจียวเองก็อาบน้ำให้ตนเองอย่างง่ายๆ ครู่หนึ่ง แล้วก็ตั้งใจว่าจะเล่านิทานให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ฟัง

คิดไม่ถึงว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กลับปฏิเสธ ซึ่งหาได้ยากมาก

ต้าเป่ามองเจ้าหนูสามคนข้างกายด้วยสีหน้าจริงจัง กล่าวว่า “วันนี้ท่านแม่เหนื่อยมาก นิทานคืนนี้ไม่ต้องเล่าแล้ว คืนพรุ่งนี้ค่อยเล่า”

เอ้อร์เป่าซานเป่าซื่อเป่ารีบเห็นด้วย ”ตกลง”

กล่าวจบสามหนูน้อยก็วิ่งไปตรงหน้าลู่เจียว หอมแก้มนางคนละที

ต้าเป่าก็วิ่งมาหอมแก้มลู่เจียวทีหนึ่ง จากนั้นก็โบกมือพาเอ้อร์เป่าไปเรือนนอนตะวันออกนอนเป็นเพื่อนท่านพ่อ

ลู่เจียวอมยิ้มมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เป็นเด็กที่รู้ความและรู้จักรักแม่ เชื่อฟังมากจริงๆ

นี่ใครเลี้ยงดูมากันนี่ น่ารักมากเลย

ลู่เจียวชมตัวเองเสียจนมีความสุขไปหมด ล้มตัวลงบนเตียงหัวเราะคิก แม้ว่าซานเป่า ซื่อเป่าไม่รู้ว่าท่านแม่ตนดีใจอะไร แต่ก็รู้ว่าต้องดีใจเป็นเพื่อนไปด้วย ปรากฏสามแม่ลูกยิ้มหลับไป

วันรุ่งขึ้น ทั้งครอบครัวกำลังกินอาหารเช้า ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างสองคนก็มา

ลู่เจียวมีสีหน้าพูดไม่ออก นี่มันเช้าไปไหม ต้องถึงขั้นนี้ไหม

“ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างกินข้าวเช้ากันมาแล้วหรือยัง จะกินด้วยกันไหม”

อาหารเช้าวันนี้ค่อนข้างง่ายๆ เป็นแค่โจ๊กข้าว ไข่ต้ม และผัดผักอีกสองอย่าง

แต่ผักที่ลู่เจียวปลูกนั้นกรอบอร่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นแม้เป็นแค่ผัก แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็กินกันจนออกรสออกชาติ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็กินอย่างเบิกบานใจมาก

ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้ากินเถอะ พวกเรากินมาแล้ว”

ลู่เจียวยกเก้าอี้ให้พวกเขานั่ง และยังเทน้ำหวานให้พวกเขา

คนในหมู่บ้านชอบกินน้ำหวานมาก ไม่ชอบกินน้ำชา ดังนั้นลู่เจียวจึงต้อนรับคนในหมู่บ้านด้วยน้ำหวาน

ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างนั่งอยู่ข้างเตียงคุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น คุยกันเรื่องการเรียนของเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่สำนักศึกษา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นขาบาดเจ็บครั้งนี้ รอให้ขาเขาหายดี อาจารย์ที่สำนักศึกษาในเมืองจะยอมให้เขาไปเรียนไหม

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างอย่าได้เป็นห่วง อาจารย์ทุกท่านแต่ไรห่วงใยเอาใจใส่ข้า ได้ยินว่าขาข้าจะหายแล้ว ยังกำชับหันถง ให้ข้าอย่าได้ร้อนใจกลับไปเรียน รอให้ขาหายดีก่อนค่อยไป เรื่องทางสำนักศึกษาในเมืองนั้นก็ขอให้ข้าวางใจได้”

ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในที่สุดก็วางใจยิ้มออกมาได้ ผู้ใหญ่บ้านคิดถึงว่าปีหน้าก็จะสอบเซียงซื่อแล้ว ก็ถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างห่วงใย “เดือนแปดปีหน้าก็เป็นการสอบเซียงซื่อที่สามปีจัดหนึ่งครั้ง?”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า แววตาหม่นลงเล็กน้อย การสอบเซียงซื่อครั้งนี้เขามั่นใจมาก ความจริงสามปีก่อนเดิมเขาก็คิดเข้าร่วมการสอบเซียงซื่อ แต่ตอนนั้นลู่เจียวเพิ่งคลอด คลอดทีเดียวสี่คน เขาไม่อาจวางใจได้จริงๆ ดังนั้นจึงละทิ้งการสอบเซียงซื่อ

การสอบเซียงซื่อครั้งนี้เขาไม่เป็นห่วงแม้แต่น้อย

ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพลางถามอย่างระมัดระวังว่า “การสอบเซียงซื่อครั้งนี้ อวิ๋นจิ่นน่าจะมีความมั่นใจกระมัง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกคิ้ว น้ำเสียงนิ่งเรียบกล่าวว่า “หากไม่เหนือความคาดหมายน่าจะมีชื่อติดประกาศ”

วาจานี้ก็เป็นวาจาถ่อมตน การสอบเซียงซื่อครั้งนี้ เป้าหมายเขาก็คือเจี่ยหยวนอันดับหนึ่ง

ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างไม่รู้ความหมายของเซี่ยอวิ๋นจิ่น ได้ฟังวาจาเขาก็หัวเราะดังขึ้น “เยี่ยม มีอนาคต ไม่เสียทีที่เป็นคนจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเรา”

ใบหน้าลู่เจียวราวกับมีแสงสีดำพาดผ่าน มองผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง ความภาคภูมินี้มากไปหน่อยกระมัง หมู่บ้านตระกูลเซี่ยเจ้าหากได้เรื่องกันจริง ทำไมไม่มีคนก้าวออกจากหมู่บ้านไปสู่โลกภายนอกได้มากกว่านี้ล่ะ

แต่สุดท้ายก็ยังคงไม่ได้กล่าวออกไป ชายชราสองคนนี้ดีมาก นางไม่อยากพูดจาสะเทือนใจพวกเขา

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท