ตอนที่ 184 จับตัวได้แล้ว
ลู่เจียวอดหัวเราะไม่ได้ พอเข้าไปในห้วงอากาศ ไม่มีคนได้ยิน นางก็หัวเราะลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ หัวเราะไปพูดไป
“เซี่ยซานโก่ว จะให้ดีวันหน้าเจ้าอย่าทำให้ข้าไม่พอใจ หากทำให้ข้าไม่พอใจ ข้าจะให้คนรู้ว่าเจ้ามีชื่อว่าเซี่ยซานโก่ว”
ลู่เจียวหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งก็ไปทำงานต่อ
หนึ่งชั่วยามถัดมา นางก็ออกมาจากห้วงอากาศ หากไม่เหนือความคาดหมาย คืนนี้ย่อมเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง ดังนั้นนางต้องออกมาก่อน
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็หลับตานอน เพียงแต่นางเพิ่งจะนอนไปได้ครู่เดียว นอกบ้านก็มีคนมาเรียกนาง
“ท่านอาสาม พี่สะใภ้สาม พวกท่านตื่นเถิด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนเตรียมตัวอยู่แล้ว ดังนั้นพอได้ยินเสียงเรียกก็ลืมตาพร้อมกัน ในใจทั้งสองคนรู้สึกสะใจขึ้นมาแล้วๆ
ลู่เจียวลุกขึ้นทันที เจ้าตัวน้อยบนเตียงตกใจตื่น รีบเรียก “ท่านแม่”
ลู่เจียวปลอบใจพวกเขา “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้างนอกมีคนมาตามแม่ อาจมีใครป่วย จึงตามแม่ไปรักษา”
เด็กน้อยสองคนเชื่อฟัง นิ่งลง ท่านแม่ตนรักษาอาการป่วยให้คนอื่น พวกเขาไม่มีอะไรต้องกลัว
ลู่เจียวลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องโถงมองออกไป ก็เห็นเซี่ยเถี่ยหนิวบ้านผู้ใหญ่บ้านกับเซี่ยตงตงลูกชายป้ากุ้ยฮวา
เซี่ยเถี่ยหนิวกับเซี่ยตงตงเห็นลู่เจียวก็พากันเรียก
“พี่สะใภ้สาม”
“ภรรยาอวิ๋นจิ่น”
ลู่เจียวแกล้งทำไม่รู้ถามพวกเขา “เกิดอะไรขึ้น ดึกดื่นเที่ยงคืนมาตามกัน”
สีหน้าเซี่ยเถี่ยหนิวไม่ดีนัก ไม่รู้ว่าควรกล่าวเช่นไร
เซี่ยตงตงแต่ไรมาถูกป้ากุ้ยฮวาตามใจจนไม่รู้อะไรควรไม่ควร พอได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็รีบกล่าวทันที
“ท่านอาเหล่าเกินกับแม่หม้ายหวังแอบมั่วกัน ถูกท่านแม่ข้าจับได้ ตอนนี้ทั้งสองคนถูกนำตัวไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้ว ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างให้พวกเราสองคนมาตามอวิ๋นจิ่นกับเจ้าไปหน่อย”
ลู่เจียวกลัวเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ยิน ก็ถลึงตาใส่เซี่ยตงตง กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “อะไรคือแอบมั่วกันพูดจาระวังหน่อย”
เซี่ยตงตงหัวเราะฮ่า กำลังจะพูดต่อ ก็ถูกเซี่ยเถี่ยหนิวรั้งไว้
ลู่เจียวหันหลังเดินไปยังเรือนนอนตะวันออก เซี่ยอวิ๋นจิ่นตื่นแล้ว ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าก็ตื่นแล้ว สองเด็กน้อยถามเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ อะไรคือแอบมั่วกัน”
เอ้อร์เป่ารีบตอบว่า “ก็คือไปเล่นด้วยกันไง พวกเราเล่นกับพี่มู่โถวก็เรียกว่ามั่วกัน”
ลู่เจียวไร้วาจาจะเอ่ยต่อ มองเอ้อร์เป่าก่อนมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “พวกเราไปดูกันหน่อยเถอะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นด้วย เพียงแต่เป็นห่วงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ พวกเขาไปกันหมด เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จะทำอย่างไร
ลู่เจียวย่อมคิดถึงเรื่องนี้ กล่าวว่า “หรือว่า ข้าอยู่บ้านดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ เจ้าไปดู”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ เซี่ยหู่กับเซี่ยเสี่ยวเป่าก็เดินเข้ามา “ท่านอาสาม อาสะใภ้สาม พวกเราช่วยพวกท่านดูแลต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่า ซื่อเป่า พวกท่านไปดูทางนั้นเถอะ”
ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าคิดตามท่านแม่ไป ดังนั้นจึงกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ ไปด้วยกันเถอะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไหนเลยจะยอมให้เด็กน้อยๆ อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นได้ หากเป็นดังคาดหมาย คืนนี้หร่วนซื่อจะโวยวายอย่างมาก และเซี่ยเหล่าเกินเกรงว่าจะถูกนางถลกหนัง
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปเห็นดีกว่า แต่พวกเขาสองคนกลับไปชมเรื่องสนุกได้
ลู่เจียวครุ่นคิดมองไปยังต้าเป่ากับเอ้อร์เป่ากล่าวว่า “พวกเจ้าอยู่บ้าน พ่อกับแม่ไปจัดการธุระครู่หนึ่งเดี๋ยวก็กลับมา”
ต้าเป่ายังคิดพูดต่อ ลู่เจียวลูบหัวเขากล่าวว่า “เชื่อฟัง เป็นเด็กดี พ่อกับแม่ไปจัดการธุระ วันหน้าหากไปเที่ยวก็จะพาพวกเจ้าไปด้วยแน่นอน”
ต้าเป่าได้ฟังก็เงียบ เซี่ยเสี่ยวเป่าเดินมาถึงข้างกายพวกเขาทันที ปลอบว่า “ต้าเป่า พวกเราไปนอนกัน ข้าจะเล่านิทานสนุกให้พวกเจ้าฟังดีไหม”
ต้าเป่าพยักหน้าเห็นด้วย ลู่เจียวหันหลังเดินไปยังควานหาเสื้อผ้ามาให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นสวม สวมเสื้อผ้าเสร็จ นางก็อุ้มเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นนั่งบนเก้าอี้เข็น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมยกมือกอดคอลู่เจียว ยามนี้ในห้องมืดสนิท มองเห็นสีหน้าไม่ชัด ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงไม่ปกปิดสีหน้ามาก เขาไม่เพียงแค่ยกมือกอดคอลู่เจียวไว้ ยังแอบสูดกลิ่นหอมหวานเย็นสดชื่นจากกายนางอีกด้วย กลิ่นนี้ทำให้กายและใจเขาสงบลงมาก
การเคลื่อนไหวเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำเอาลู่เจียวอึดอัด คลายมือจนเกือบทำชายผู้นี้ร่วงลงพื้น แต่สุดท้ายก็ยังวางเขาลงบนเก้าอี้เข็นได้
พอวางเซี่ยอวิ๋นจิ่นลงบนเก้าอี้เข็นแล้ว ลู่เจียวก็หันหลังเดินไปยังเรือนนอนตะวันตกอุ้มซานเป่ากับซื่อเป่ามา
“พี่เสี่ยวเป่าจะนอนเป็นเพื่อนพวกเจ้าสักครู่ พ่อกับแม่ไปทำธุระนิดหน่อย จะรีบกลับมา”
ซานเป่ากับซื่อเป่าเริ่มแรกยังสะลึมสะลือ แต่ตอนนี้ตื่นหมดแล้ว กำชับลู่เจียวกล่าวว่า “งั้นพวกท่านต้องกลับมาเร็วหน่อยนะ”
ลู่เจียวรับคำ เข็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นออกจากห้อง ตอนเดินผ่านเซี่ยหู่ ก็กล่าวขอบคุณเซี่ยหู่ “ขอบคุณพวกเจ้าสองพี่น้องมาก”
เซี่ยหู่ส่ายหน้า “ไม่เป็นไร พวกท่านวางใจได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวตามเซี่ยเถี่ยหนิวกับเซี่ยตงตงไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้าน
ตลอดทาง เซี่ยตงตงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ข้าตกค่ำก็ไม่หลับไม่นอน ไปปีนกำแพงจ้องมองลานบ้านข้างๆ คิดไม่ถึงว่าถูกนางจับได้จริง เริ่มแรกนางไม่ส่งเสียงดัง รอให้คนผู้นั้นเข้าห้องไปก่อน พอไปอยู่กับแม่หม้ายหวัง จึงได้หันหลังออกไปตะโกนเสียงดัง”
“ท่านว่าท่านแม่ข้าฉลาดไหม นางไม่ตะโกนว่าแม่หม้ายหวังลักลอบเป็นชู้ แต่นางตะโกนว่าขโมยเข้าบ้านแม่หม้ายหวัง ปรากฏหลายคนก็พากันบุกเข้าไปในบ้านแม่หม้ายหวัง จับท่านอาเหล่าเกินกับแม่หม้ายหวังได้ พวกท่านไม่รู้ ได้ยินว่าแม่หม้ายหวังตอนนั้นใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยด้วยนะ”
เซี่ยตงตงเล่าถึงตรงนี้ก็โมโหมาก “ทำไมไม่ให้ข้าได้เห็นตอนนางไม่ได้สวมเสื้อผ้านะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าเยียบเย็นมองเซี่ยตงตง ลู่เจียวค้อนขวับใส่เขาทีหนึ่ง
แม้ดึกดื่นเที่ยงคืน แต่บ้านผู้ใหญ่บ้านกลับมีคนมารวมตัวกันไม่น้อย ในกลุ่มนั้นมีเสียงด่าทอแหลมดังผสมอยู่ เสียงด่าทอเหมือนว่าสิ้นหวังราวกับถูกคนบีบคอไว้
“เซี่ยเหล่าเกิน เจ้าถึงกับกล้าไปมั่วกับหญิงอื่น”
หร่วนซื่อโมโหราวกับคนบ้า นางกระโดดข่วนใบหน้าเซี่ยเหล่าเกิน
แม่หม้ายหวังข้างๆ เซี่ยเหล่าเกิน รีบส่งเสียงร้องอย่างรักใคร่ “เหล่าเกิน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
น้ำเสียงยากปิดบังความห่วงใย
หร่วนซื่อได้ฟังน้ำเสียงห่วงใยของแม่หม้ายหวัง ก็โมโหจนขาดสติทันที หันไปปรี่เข้าหาแม่หม้ายหวัง แม่หม้ายหวังไม่หนี
หร่วนซื่อจิกผมแม่หม้ายหวังได้ทันที นางลากแม่หม้ายหวังมาหมายจะข่วนใบหน้าแม่หม้ายหวัง
เซี่ยเหล่าเกินเห็นหร่วนซื่อจะข่วนใบหน้าแม่หม้ายหวัง สีหน้าก็แปรเปลี่ยน ก้าวเข้าไปคว้ามือหร่วนซื่อไว้ จากนั้นเขาก็จับอีกมือของหร่วนซื่อไว้ด้วย
หร่วนซื่อขยับตัวไม่ได้ ถูกเซี่ยเหล่าเกินจับตรึงไว้ทั้งตัว
เซี่ยเหล่าเกินตัวสูงใหญ่ หร่วนซื่อทั้งผอมทั้งตัวเล็ก ไหนเลยจะสู้เซี่ยเหล่าเกินได้ ถูกเขาจับไว้จนดิ้นไม่หลุด
สุดท้ายนางได้แต่กัดฟันด่าอย่างโมโหจัด “เซี่ยเหล่าซื่อ เจ้าคนไร้คุณธรรม ถึงกับปกป้องนางนี่ ข้าต้องเอาเรื่องเจ้าให้ถึงที่สุด”