ตอนที่ 185 จับนางใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ
ความจริงเซี่ยเหล่าเกินเริ่มแรกที่ถูกจับได้ ในใจก็แอบกินปูนร้อนท้อง ครั้งพอเห็นหร่วนซื่อก็เกิดสำนึกขึ้นมา แต่พอถูกหร่วนซื่อโวยใส่ เขาก็ทนไม่ไหวแล้ว
“หุบปาก”
หร่วนซื่อไหนเลยจะสนใจเขา นางรู้สึกแค่ว่าตนเองเสียหน้ามาก ผู้ชายของตนวิ่งไปนอนกับผู้หญิงอื่น ลูกชายก็ไม่เชื่อฟัง ชีวิตนางช่างมืดมนแท้
หร่วนซื่อทั้งร้องไห้ทั้งโวยวาย สุดท้ายด่าทอแม่หม้ายหวังขึ้นมา “นางชั้นต่ำหน้าไม่อาย ถึงกับล่อลวงสามีข้า ข้าจะจับเจ้าใส่เล้าหมูถ่วงน้ำให้ตาย”
พอหร่วนซื่อกล่าว แม่หม้ายหวังก็ตกใจร้องไห้ นางร้องไห้กับหร่วนซื่อแผดเสียงร้องดังนั้นต่างกัน นางแอบหลั่งน้ำตาเงียบๆ หลั่งน้ำตาไปมองหร่วนซื่อไป ท่าทางอัดอั้นเหมือนโดนรังแกขอร้องว่า “ท่านพี่ ท่านอย่าได้โมโห ข้าไม่คิดแย่งชิงกับท่านพี่ วันหน้าข้าจะดูแลรับใช้ท่านพี่กับเหล่าเกินอย่างดี ท่านพี่จะเป็นพี่สาวข้าตลอดไป”
พอหร่วนซื่อได้ฟังก็ถุยน้ำลายใส่หน้าแม่หม้ายหวัง คนรอบๆ เห็นแล้วก็พากันสะอิดสะเอียนอย่างมาก แต่แม่หม้ายหวังกลับไม่โต้ตอบ เพียงแค่แอบหลังน้ำตาเงียบ
นางเช่นนี้ยิ่งทำให้คนเห็นใจ
ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมาถึงหน้าประตูห้องโถงบ้านผู้ใหญ่บ้าน มีคนเห็นพวกเขาก็ส่งเสียงเรียก
ครั้งนี้ที่มานอกจากเซี่ยอวิ๋นจิ่นสองสามีภรรยา ยังมีเซี่ยต้าเฉียง เซี่ี่ยเอ้อร์จู้และเซี่ยอวิ๋นหวากับเซี่ยหลาน
คนในตระกูลเซี่ยมากันหมด
พอเซี่ยเหล่าเกินเห็นลูกชายลูกสาวมากันหมดก็ปล่อยมือหร่วนซื่ออย่างร้อนตัวทันที
พอหร่วนซื่อเป็นอิสระก็เข้าไปจิกผมแม่หม้ายหวัง กดนางลงกับพื้นทุบตี
พอเซี่ยเหล่าเกินเห็นทุกอย่าง ก็คิดจะเข้าไปปกป้องด้วยสัญชาตญาณ แต่พอเห็นลูกชายลูกสาวพร้อมใจกันมองเขา เขาก็ไม่กล้าเข้าไปปกป้องคนอื่นออกหน้าออกตา ได้แต่ส่งเสียงเรียก “นางบ้า เป็นนางบ้าจริงๆ”
หร่วนซื่อยามนี้โมโหจนราวกับคนบ้า ทุบแม่หม้ายหวัง “นางชั้นต่ำ นางแพศยา เห็นผู้ชายก็กลายร่างเป็นนางปีศาจจิ้งจอก เจ้าขาดผู้ชายขนาดนี้ ทำไมไม่อ้าขาเจ้าไว้ ให้พันคนขี่หมื่นคนนอนกัน ทำไมเจ้าต้องมาจ้องเอาผู้ชายข้าด้วย”
“วันนี้ข้าต้องตีเจ้าให้ตาย ใครใช้ให้เจ้าไม่มีอะไรทำก็มาล่อลวงผู้ชายของข้า”
แม่หม้ายหวังสองมือป้องใบหน้า ขดตัวลงขอร้องน่าสงสาร ไม่ได้โต้ตอบ หากนางโต้ตอบ หร่วนซื่อย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง
ในห้องผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างมองเห็นทุกอย่าง กลัวว่าหร่วนซื่อจะทำคนตาย หมู่บ้านตระกูลเซี่ยเขาไม่นิยมเรื่องตีคนจนตาย
ดังนั้นจู๋จ่างมองหร่วนซื่อตวาดว่า “หยุดนะ ตบตีก็ตบตีแล้ว ด่าทอก็ด่าทอแล้ว หรือว่าคิดจะฆ่าให้ตายให้ได้”
จู๋จ่างกล่าวจบก็ให้คนรีบดึงหร่วนซื่อขึ้นมา หร่วนซื่อทั้งผอมทั้งตัวเล็ก แรงไม่มาก ตบตีไปครู่หนึ่งก็หมดแรง พอถูกคนดึงไว้ก็ขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อย
แต่แม้เช่นนี้ นางก็ไม่ลืมด่าแม่หม้ายหวัง วาจาด่าทอนั้นหยาบคายได้เพียงใดก็หยาบคายเพียงนั้น ทุกคนในห้องต่างฟังกันจนหน้าดำคร่ำเครียด
จู๋จ่างสีหน้าดุดันตวาดดังว่า “หุบปาก ตอนนี้มาดูว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร มัวด่าบ้าบออะไรกัน”
หร่วนซื่อด่าจนพอใจแล้ว ก็จ้องมองแม่หม้ายหวังกล่าวว่า “ใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ จับนางใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ”
แม่หม้ายหวังงึมงำอยู่ครู่หนี่ง ก็เงยหน้าทั้งน้ำตามองไปยังเซี่ยเหล่าเกิน
เซี่ยเหล่าเกินปวดหัวขึ้นมาทันที เขาหันไปมองจู๋จ่าง กล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่อาจโทษหวังเยว่ ข้าผิดเอง”
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างมองภาพตรงหน้า ก็ปวดหัวกล่าวว่า “นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน”
ทั้งสองคนหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่น เจ้าเห็นว่าเรื่องนี้ควรจัดการเช่นไร”
หร่วนซื่อมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นเสียงดังขึ้นว่า “เจ้าสาม หญิงผู้นี้คือหายนะ รีบให้ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างออกคำสั่งให้จับหญิงผู้นี้ใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ”
เซี่ยเหล่าเกินกลับส่งเสียงดังขึ้น “ไม่ได้ ข้าไม่เห็นด้วย”
เซี่ยเหล่าเกินกล่าวจบจ้องมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “นางเป็นผู้หญิงของบิดาเจ้า เจ้ากล้าจับนางใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ ก็คืออกตัญญู”
เซี่ยเหล่าเกินถูกหร่วนซื่อระเบิดใส่มา ยามนี้ไม่สนใจหร่วนซื่อเลย เอาแต่ปกป้องแม่หม้ายหวัง
เขารู้สึกว่าแม่หม้ายหวังน่าสงสารมาก พวกเขาสองคนอยากอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่แม่หม้ายหวังล่อลวงเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเซี่ยเหล่าเกินกับหร่วนซื่อด้วยสีหน้าลำบากใจ สุดท้ายก็มองผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง กล่าวว่า “หรือว่าเรื่องนี้ก็ให้ผ่านไปเช่นนี้ละกัน”
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างเองก็รู้สึกว่าจัดการเช่นนี้ก็ไม่เลว ก็แค่ชายหญิงแอบพบกันกลางคืน และจะว่าไป แม่หม้ายหวังก็ไม่มีสามี
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างสบตากันแล้วก็พากันพยักหน้า
ในห้อง แม่หม้ายหวังอยู่ๆ ก็คุกเข่าลง มองผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง กล่าวว่า “เดิมเรื่องนี้ไม่แดงขึ้นก็แล้วไป ตอนนี้วุ่นวายกันจนเป็นเช่นนี้ ข้ายังจะมีหน้าพบผู้ใดได้”
แม่หม้ายหวังกล่าวจบ ก็ร้องไห้ดัง พอร้องไห้จบก็กล่าวว่า “ผู้ใหญ่บ้าน จู๋จ่าง ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วข้ายินยอมเป็นอนุของเหล่าเกิน ”
“อา”
ในห้องโถง ตั้งแต่จู๋จ่างกับผู้ใหญ่บ้านไปจนถึงชาวบ้านในหมู่บ้าน ทุกคนต่างตกใจมองแม่หม้ายหวัง
เป็นอนุ?
เซี่ยเหล่าเกินเองก็ตกใจ จากนั้นในใจเขาก็เกิดความยินดีขึ้นมา
แม่หม้ายหวังเทียบกับหร่วนซื่อ ไม่เพียงอายุน้อยและหน้าตาดี ระยะนี้เซี่ยเหล่าเกินเพิ่งไปยุ่งเกี่ยวกับนางได้ไม่นานเอง
เดิมคิดว่าวันหน้าทั้งสองคนคงไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าแม่หม้ายหวังถึงกับยินยอมเป็นอนุ
เซี่ยเหล่าเกินรู้สึกได้ทันทีว่าหญิงผู้นี้ต้องชอบเขาแน่เลย ดังนั้นจึงได้ยินยอมเป็นอนุเขาด้วยตนเอง
ในห้องโถง แม่หม้ายหวังเหลือบตามองไปยังเซี่ยเหล่าเกิน ขอบตาแดงกล่าวว่า “เหล่าเกิน ข้ายอมเป็นอนุเจ้า เจ้ายินดีไหม”
เซี่ยเหล่าเกินเอ่ยปากอย่างดีใจยากระงับ “ดี ข้ายินดี”
เขากล่าวจบ แววตาหร่วนซื่อข้าง ๆ ก็เขียวปั้ด นางจ้องมองเซี่ยเหล่าเกินอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น ท่าทางเหมือนนางหมาป่าดุร้ายตัวหนึ่ง
นางหันปรี่เข้าไปหาเซี่ยเหล่าเกิน ยกมือข่วนใบหน้าเขา
เซี่ยเหล่าเกินไม่ทันระวัง ถูกนางข่วนจนเลือดซิบเป็นทาง
เขาเจ็บจนผลักหร่วนซื่อออก ตวาดใส่นางว่า “นางบ้า หลายปีนี้เอาแต่ทำตัวเหมือนแม่เสือ ข้าก็ต้องฟังเจ้าทุกเรื่อง หากไม่ฟังเจ้า เจ้าก็เอาแต่ร้องโวยวาย เอาแต่หาเรื่องข้า ข้าทนมาพอแล้ว”
แม่หม้ายหวังเห็นรอยเลือดบนใบหน้าเซี่ยเหล่าเกิน ก็รีบลุกขึ้นมาปลอบใจเซี่ยเหล่าเกิน
“เหล่าเกิน เจ็บไหม อดทนก่อนนะ ไว้เดี๋ยวข้าจะใส่ยาให้เจ้า”
แม่หม้ายหวังเดิมก็หน้าตาดี ยังพูดจาอ่อนโยนอีก ใจเซี่ยเหล่าเกินถูกนางครอบงำไปนานแล้ว
หร่วนซื่อถลึงตาแดงก่ำจ้องมองภาพตรงหน้า แทบจะจับทั้งสองคนไปใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ
นางหันไปมองผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง สุดท้ายก็มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นลูกชายตนเอง
“ใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ จับพวกเขาสองคนไปใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ”
คนในห้องมองหร่วนซื่อกางเล็บดุร้าย แต่ละคนก็นึกรังเกียจ หญิงเช่นนี้เสียทีที่ท่านเอาเหล่าเกินอดทนมานานหลายปี เป็นพวกเขาปีเดียวก็จะไม่ทน ใช้ได้ที่ไหนกัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วมองหร่วนซื่อ กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “เขาเป็นบิดา บุตรไม่อาจว่ากล่าวความผิดบิดา”
ทุกคนได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้สึกว่าเขากตัญญู
หร่วนซื่อเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเช่นนี้ ก็จ้องมองเขาอย่างโมโห กัดฟันกรอด กล่าวว่า “ข้าไม่เห็นด้วยที่จะให้หญิงผู้นี้แต่งเป็นอนุตระกูลเซี่ย ข้าไม่ยินยอม”
หร่วนซื่อเพิ่งกล่าวจบ ก็พลันนึกได้ว่าก่อนหน้านี้ลู่เจียวให้คนลงนามในสัญญา ก็รีบส่งเสียงร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจว่า
“เซี่ยเหล่าเกินก่อนหน้านี้ลงลายนิ้วมือไปแล้ว คนหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเราห้ามรับอนุ หากรับอนุก็ให้ขับไล่ออกจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย”