ตอนที่ 186 สัญญาขายตัว
หร่วนซื่อเพิ่งกล่าวจบ ป้ากุ้ยฮวาก็ส่งเสียงเรียก “เจียวเจียว ตอนนั้นบอกว่าไม่อนุญาตให้เอาเงินเลี้ยงปลิงไปรับอนุ ตอนนี้ปลิงยังไม่ทันเลี้ยง ดังนั้นเซี่ยเหล่าซื่อตอนนี้รับอนุได้”
ป้ากุ้ยฮวากล่าวจบ ก็หันไปมองทุกคนกล่าวว่า “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเขาทั้งสองคน คนหนึ่งยอมรับอนุ อีกคนยอมเข้าเป็นอนุตระกูลเซี่ย ข้าว่าเรื่องนี้ก็ดีมาก”
ป้ากุ้ยฮวาแทบจะตบมือจุดประทัด แต่พอคิดถึงเรื่องคืนนี้ว่าเป็นนางเปิดโปงขึ้นมาก็แอบรู้สึกกินปูนร้อนท้อง
นางคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เข้าบ้านแม่หม้ายหวังจะเป็นเซี่ยเหล่าซื่อ หากรู้ นางย่อมไปบอกอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก่อน
ป้ากุ้ยฮวาแอบลอบมองลู่เจียวแวบหนึ่ง กลัวลู่เจียวโกรธ
แต่ก็เห็นสีหน้าลู่เจียวปกติดี
คำพูดป้ากุ้ยฮวา คนในหมู่บ้านต่างได้ยินกัน คนไม่น้อยพยักหน้า “เรื่องนี้จัดการอย่างนี้เหมาะสมที่สุด ไม่งั้นเรื่องที่ทั้งสองคนลักลอบได้เสียกันถูกคนนอกหมู่บ้านรู้เข้า ย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงหมู่บ้านพวกเรา”
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง ต่างพยักหน้า คิดว่าเช่นนี้ก็ได้
แต่ทว่าเฉินหลิ่วภรรยาเซี่ยต้าเฉียงไม่พอใจ ที่บ้านอยู่ดีๆ จะมีอนุภรรยาเข้ามาอยู่ร่วมด้วย ยังเป็นอนุภรรยาของบิดาสามี คาดว่าที่บ้านต้องวุ่นวายกันไปหมดแน่
“ไม่ได้ เรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วย”
เฉินหลิ่วเพิ่งกล่าวจบ เซี่ยต้าเฉียงก็กระชากเฉินหลิ่วอย่างแรง
ท่านพ่อเขาคิดรับอนุภรรยา เฉินหลิ่วพูดไปไม่ใช่ล่วงเกินท่านพ่อเขาหรือ
ดังคาด พอเฉินหลิ่วพูด เซี่ยเหล่าเกินก็โมโหถลึงตาใส่เฉินหลิ่ว
เซี่ยต้าเฉียงรู้งานรีบตวาดว่า “หุบปาก นี่เป็นเรื่องของท่านพ่อ”
เซี่ยเหล่าเกินมองลูกชายคนโตอย่างพึงพอใจ ยังไงก็เป็นลูกชายคนโตที่เขาชอบที่สุด ช่างรู้ความจริง
ในห้องหร่วนซื่อเห็นเซี่ยต้าเฉียงถึงกับเห็นด้วยกับการรับแม่หม้ายหวังเข้าบ้าน ก็ด่าทอยกใหญ่อีกครั้ง ครั้งนี้ด่าลูกชายตัวเอง
เซี่ยเหล่าซื่อกับเซี่ยหลาน คนหนึ่งยังไม่แต่งภรรยา คนหนึ่งยังไม่ออกเรือน ก็ย่อมไม่รู้ว่าควรพูดอะไร และจากที่พวกเขาดู ท่านพ่อตนคิดรับแม่หม้ายหวังเป็นอนุภรรยา
เซี่ี่ยเอ้อร์จู้คิดจะพูด แต่เรื่องเช่นนี้ เขาไม่รู้ควรพูดอะไร
หร่วนซื่อมองทั้งครอบครัวตรงหน้า ไม่มีคนช่วยนางสักคน นางด่าสาปแช่งไม่หยุด ด่าทุกคนในครอบครัว
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างมองจนปวดหัวไปหมด เห็นหร่วนซื่อราวกับคนบ้า ก็หันไปมองเฉินหลิ่วกับเซี่ยหลาน กล่าวว่า “พาแม่สามีเจ้ากลับไป”
เฉินหลิ่วกับเซี่ยหลานไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้หร่วนซื่อ แต่หร่วนซื่อเพราะสะเทือนใจมากเกินไป ด่าได้ครู่หนึ่งก็หน้ามืดเป็นลมไปทันที
เฉินหลิ่วกับเซี่ยหลานรีบเข้าไปประคองนางกลับบ้าน
หร่วนซื่อไปแล้ว ในลานก็เงียบลงไปมาก
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกล่าวว่า “เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเจ้าสองคนว่าอย่างไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วมองเซี่ยเหล่าเกินกับแม่หม้ายหวัง
ทั้งสองคนมองสายตาเยียบเย็นของเขาก็แอบรู้สึกกลัว
แต่เซี่ยเหล่าเกินก็ยังทำเสียงแข็งกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาง เป็นเรื่องของข้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหัวเราะเยาะ ท่านพ่อเขาน่าจะคิดว่าแม่หม้ายหวังชอบเขากระมัง ไม่ลองคิดดูหน่อยว่าหญิงผู้นี้จะชอบคนแก่ไปทำไม ก็แค่มั่นใจว่าติดตามเขาแล้วชีวิตวันหน้าจะสบายก็เท่านั้น
แต่หญิงผู้นี้คิดเกินตัวไปแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิด มองผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่าง กล่าวว่า “จะเข้าตระกูลเซี่ยก็ย่อมได้ แต่หญิงผู้นี้ต้องลงนามในสัญญาขายตัว นางเข้าตระกูลเซี่ย วันหน้าก็เป็นอนุต่ำต้อย”
แม่หม้ายหวังสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน รีบกล่าวว่า “ข้าไม่ลงนาม”
สัญญาขายตัวนี้ อนุต่ำต้อยอะไรพวกนี้นางเข้าใจดี หากนางลงนามในสัญญาขายตัว ก็เหมือนกับคนใช้ ต้องยอมให้เขาทุบตีด่าทอ วันหน้าก็ไม่มีโอกาสได้เป็นภรรยาเอกของเซี่ยเหล่าเกิน ที่นางคิดไว้ดิบดีก็คือใช้สถานะอนุเข้าตระกูลเซี่ยก่อน รอให้เซี่ยเหล่าเกินทนหร่วนซื่อไม่ไหว ก็เขียนหนังสือหย่านาง
นางค่อยล่อลวงให้เซี่ยเหล่าเกินยกนางเป็นภรรยาเอก เช่นนี้นางก็จะมีลูกชายเป็นขุนนางแล้วใช่ไหม ดีไม่ดีสุดท้ายยังได้ตำแหน่งฮูหยินบรรดาศักดิ์อะไรนั่นอีก
แม่หม้ายหวังคิดได้ดี แต่คิดไม่ถึงว่ามาถึงตอนนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับจะให้นางลงนามในสัญญาขายตัว นางจะยอมลงนามได้อย่างไร
เซี่ยเหล่าเกินเองก็ไม่เห็นด้วยให้แม่หม้ายหวังลงนามในสัญญาขายตัว ดังนั้นจึงเสียงดังขึ้น
“อยู่ดีๆ มาเรียกให้นางลงนามสัญญาขายตัวอะไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเซี่ยเหล่าเกินสายตาเย็นเยียบ เซี่ยเหล่าเกินตกใจจนไม่กล้าพูดต่อ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองแม่หม้ายหวัง ค่อยๆ กล่าวว่า “ตอนนี้เจ้ามีทางเลือกสามทาง หนึ่ง ลงนามในสัญญาขายตัวเข้าตระกูลเซี่ยเป็นอนุ สอง ไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ยกับท่านพ่อ ไปใช้ชีวิตที่อื่น สาม ใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ”
ยามนี้สีหน้าแม่หม้ายหวังซีดเผือดแล้ว นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอ้าปากพะงาบพูดไม่ออก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกวาดตามองทุกคนในที่นั้นกล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องจัดการเด็ดขาด ไม่งั้นวันหน้าเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ไม่ใช่ว่าหมู่บ้านตระกูลเซี่ยเราจะยุ่งเหยิงกันไปหมดหรือ”
คำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับความเห็นชอบจากชาวบ้านในหมู่บ้านทันที พวกผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างก็พากันพยักหน้า
เดิมก็เป็นคนบ้านนอก ยังจะรับอนุอะไรกัน เรื่องวันนี้ไม่จัดการรุนแรง วันหน้าย่อมมีคนคิดทำตาม ดังนั้นต้องจัดการลงโทษให้หนัก
ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างพยักหน้าหงึกๆ “ทำตามอวิ๋นจิ่นว่า”
คนในห้องมองไปยังเซี่ยเหล่าเกินกับแม่หม้ายหวัง
ยามนี้แม่หม้ายหวังกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว สีหน้าซีดขาวราวกับดอกบัวถูกพัดกลีบร่วงกลางสายลม
เซี่ยเหล่าเกินคิดถึงเงื่อนไขสามข้อของเซี่ยอวิ๋นจิ่น สุดท้ายมองไปยังแม่หม้ายหวังกล่าวว่า “เจ้าลงนามในสัญญาขายตัวดีกว่าไหม”
อย่างไรก็อนุ ลงนามหรือไม่ก็เหมือนกัน
แม่หม้ายหวังเงยหน้ามองเซี่ยเหล่าเกินอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำไมตนเองจึงได้เลือกผู้ชายอ่อนแอไร้ความสามารถเช่นนี้ได้
เขาควรจะพานางไปจากที่นี่ ทั้งสองคนออกไปหางานทำ อย่างไรก็ยังชีพได้
เขาเป็นบิดาเซี่ยอวิ๋นจิ่น วันหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นขุนนาง เขาก็เป็นบิดาขุนนาง
แม่หม้ายหวังจ้องมองเซี่ยเหล่าเกิน มองออกว่าผู้ชายคนนี้ไม่กล้าไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ดังนั้นเกรงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเดาเรื่องนี้ได้ จึงได้เสนอเงื่อนไขเช่นนี้ เพราะเขารู้ว่าบิดาเขาไม่มีทางไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย
ดังนั้นแม้ว่าภายนอกเขาเสนอให้สามเงื่อนไข แต่ในความเป็นจริงมีเพียงสอง หนึ่ง นางลงนามในสัญญาขายตัวเข้าตระกูลเซี่ย สอง นางถูกจับใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเซี่ยเหล่าเกิน
แม่หม้ายหวังร้องไห้ขึ้นมาอย่างสุดแสนสิ้นหวัง
ในห้องโถง เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าเยียบเย็นกล่าวว่า “เจ้าคิดเสร็จหรือยัง จะลงนามในสัญญาขายตัวหรือจะจากไปกับท่านพ่อข้า…”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยังกล่าวไม่จบ เซี่ยเหล่าเกินก็ส่งเสียงร้องดัง “ข้าไม่ไปจากหมู่บ้านตระกูลเซี่ย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นค่อยๆ รับคำกล่าวว่า “งั้นหากไม่ลงนามสัญญาก็ได้แต่ใส่ชะลอมหมูถ่วงน้ำแล้ว”
แม่หม้ายหวังร้องไห้ ผู้ใหญ่บ้านกับจู๋จ่างก็ทนรำคาญไม่ไหว กล่าวว่า “เจ้าเลือกทางไหนกันแน่”
ป้ากุ้ยฮวาและสตรีด้านหลังนางพากันส่งเสียงดังว่า “รีบลงนามสัญญาขายตัวเข้าตระกูลเซี่ยเถอะ”
หญิงผู้นี้หากไม่เข้าบ้านใครไป คงกลายเป็นดังหายนะ ผู้ชายในหมู่บ้านไม่น้อยถูกนางล่อลวง อย่าคิดว่าพวกนางไม่รู้
นางไม่แต่ง พวกนางก็เอาแต่ต้องคอยระวังนางกันทั้งวันทั้งคืน นางเหนื่อยมากแล้ว
ตอนนี้นางจะได้เข้าบ้านเซี่ยเหล่าเกิน ดีมากจริงๆ