ตอนที่ 189 เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พร้อมรบ
ลู่เจียวสีหน้าเย็นเยียบทันที นี่คือท่านแม่ประสาอะไร ไม่สนใจชีวิตลูกสาวและเด็ก ถึงกับคิดแต่ชื่อเสียง
ลู่เจียวไม่ทันได้กล่าวอะไร หญิงตั้งครรภ์บนเตียงก็ส่งเสียงเรียก “ท่านแม่ ข้าต้องการให้เขามีชีวิตรอด ข้าต้องการให้เขามีชีวิตรอด”
ผู้เป็นมารดากัดฟัน กล่าวว่า “หากให้ผู้ชายเข้าไป ชื่อเสียงเจ้ายังจะเอาอีกไหม หูซ่านรู้เรื่องนี้ย่อมหย่ากับเจ้า”
ลู่เจียวอยากด่าคนมาก เห็นสีหน้าหญิงตั้งครรภ์จะไม่ไหวแล้ว หากยังไม่ลงมือผ่าตัดอีกก็ไม่ทันแล้ว นางเดินเข้าไปหามารดาหญิงตั้งครรภ์และหญิงผดุงครรภ์ ผลักพวกนางออกไป “พวกท่านออกไป”
ลู่เจียวแรงเยอะ สตรีสองคนดิ้นรนก็ไม่อาจสลัดหลุด ถูกลู่เจียวโยนออกมานอกห้อง
หน้าประตู เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอาสัญญาส่งให้ลู่เจียว “ให้นางลงลายนิ้วมือ หากเกิดเรื่องหูซ่านจะได้ไม่มาเอาเรื่องไม่จบไม่สิ้น”
ลู่เจียวรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นหวังดีกับนาง ก็ยื่นมือไปรับสัญญามองไปยังฉีเหล่ยกล่าวว่า “หมอฉี หญิงตั้งครรภ์ไม่อาจคลอดได้เอง ดูท่าต้องรบกวนท่านลงมือเองแล้ว”
ฉีเหล่ยพอได้ฟังก็รู้ว่าลู่เจียวจะลงมือผ่าตัด สีหน้าเขาทั้งตื่นเต้นและแตกตื่น นี่คือจะผ่าท้องหรือ อาจารย์แน่ใจว่าจะทำเช่นนี้หรือ
แต่ฉีเหล่ยไม่มีเวลาคิดมากแล้ว ก้าวเท้าเข้าไป มารดาหญิงตั้งครรภ์ด้านหลังเห็นฉีเหล่ยเข้าไปจริงๆ ก็สีหน้าแปรเปลี่ยนทันที คิดบุกเข้าไป
นอกประตู เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็รู้ว่าหญิงตั้งครรภ์ท่าทางไม่ดีแล้ว เป็นไปได้มากว่าต้องผ่าตัด การผ่าตัดนี้ลงมือโดยหมอฉี เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็โล่งอก ขอเพียงไม่ดึงลู่เจียวเข้าไปเกี่ยวข้องก็พอ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นมารดาหญิงตั้งครรภ์จะบุกเข้าไป ก็มองไปยังจ้าวหลิงเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดกล่าวว่า “ขวางพวกนางไว้”
จ้าวหลิงเฟิงรีบโบกมือให้คนงานสองสามคนขวางครอบครัวหญิงตั้งครรภ์ไว้ มารดาหญิงตั้งครรภ์ยังตะโกนเสียงดัง
“อวี้เหยา เจ้าอย่าให้ผู้ชายเข้าไป หากชื่อเสียงเจ้าเสียหาย หูซ่านต้องหย่าเจ้าแน่นอน”
ในห้องหลี่อวี้เหยาสีหน้ายิ่งหมองลง หมดแรงไปแล้ว
นางเหมือนละทิ้งความมุ่งมั่นในการมีชีวิตต่อแล้ว มองลู่เจียวกล่าวว่า “ไม่ต้องสนใจข้า ขอให้เจ้าช่วยลูกข้าไว้ก็พอ”
ลู่เจียวเคลื่อนไหวรวดเร็ว สวมเสื้อผ้าท่อนล่างให้นาง จากนั้นก็เดินไปหน้าหลี่อวี้เหยา นางมองออกว่า หลี่อวี้เหยาละทิ้งความมุ่งมั่นในการมีชีวิตต่อแล้ว ขอเพียงแค่ลูกมีชีวิตรอดก็พอ
ลู่เจียวเดินถึงหน้าหลี่อวี้เหยา มองนางกล่าวว่า “การบีบตัวมดลูกเจ้ามีปัญหา ปากมดลูกไม่เปิด ดังนั้นข้าจะผ่าท้องคลอดให้เจ้า วางใจ เจ้ากับลูกต้องไม่เป็นอะไร และไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเจ้า วันหน้าหากเจ้าต้องการ ข้าก็จะไปพูดกับสามีเจ้าให้เอง”
ผ่าท้องคลอดลูก ไม่เผยร่างกายช่วงล่าง เผยเพียงแค่ท้องเท่านั้น หากผู้ชายคนนี้แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจยอมรับได้ ผู้ชายเช่นนี้ไม่เอาก็ดี
ลู่เจียวกล่าวจบ ไม่รอให้หลี่อวี้เหยากล่าวอันใด ก็กล่าวต่ออีกว่า “แต่ข้าหวังว่าเรื่องนี้นอกจากสามีเจ้า อย่าได้กล่าวออกไปชั่วคราว”
แม้ว่าแคว้นต้าโจว หมอทหารเริ่มผ่าตัดเป็นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่อาจดำเนินการผ่าท้องได้ นางไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วทำคนแตกตื่นตกใจ
หลี่อวี้เหยาได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็มีกำลังใจ นางดิ้นรนมองลู่เจียวกล่าวว่า “ข้า ข้ารับปากเจ้า หากไม่อาจรักษาไว้ทั้งสอง ขอให้เจ้าช่วยลูกข้า ไม่ต้องสนใจข้า”
“ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าเกิดเรื่องหรอก” ลู่เจียวกล่าวจบก็เห็นว่าหลี่อวี้เหยาเริ่มหมดแรง รีบคว้าแผ่นโสมจากห้วงอากาศผ่านแขนเสื้อ ก่อนหน้านี้นางเก็บแผ่นโสมนี้เอาไว้ ตอนนางทำงานอยู่ในห้วงอากาศ ตอนนั้นกำลังจัดข้าวของก็เห็น ยังเหลืออีกหน่อยหนึ่ง
สภาพหลี่อวี้เหยาตอนนี้กำลังต้องการพอดี ลู่เจียวหยิบออกมาให้หลี่อวี้เหยาอมไว้ในปาก
“ตอนนี้เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
ลู่เจียวหยิบอุปกรณ์ผ่าตัดออกมาเตรียมลงมือผ่าตัด ฉีเหล่ยข้างๆ เตือนลู่เจียวเบาๆ กล่าวว่า “อาจารย์ สัญญา ท่านลืมให้นางลงลายนิ้วมือ”
ลู่เจียวเห็นสภาพหลี่อวี้เหยายิ่งเลวร้ายลงแล้ว ไม่ลงมือผ่าอีกก็ไม่ทันแล้ว นางเลิกคิ้วสีหน้านิ่งกล่าวว่า “เสียเวลาอีกก็ไม่ทันการแล้ว รีบลงมือผ่าตัด”
ลู่เจียวไม่สนใจฉีเหล่ยอีก ลงมือฉีดยาชาให้หลี่อวี้เหยา การผ่าท้องคลอดครั้งนี้นางตัดสินใจวางยาชาเป็นบางส่วน หากชาทั้งหมดจะส่งผลกระทบต่อทารก ดังนั้นนางได้แต่วางยาชาบางส่วน
ฉีเหล่ยในห้องมองลู่เจียว กล่าวเบาๆ ว่า “อาจารย์ หากเกิดเรื่อง ท่านก็โยนเรื่องนี้ให้ข้า ข้าไม่เป็นไร”
ลู่เจียวอดอุทานในจิตใจดีงามของฉีเหล่ยไม่ได้ ถึงกับเอ่ยปากเองว่าให้ผลักเรื่องนี้ไปที่เขา
“วางใจ ไม่เกิดเรื่องหรอก อีกสักครู่เจ้าก็ช่วยข้าอีกแรง”
ลู่เจียวกล่าวจบก็เริ่มปักเข็มไปที่ท้องหลี่อวี้เหยา ดูว่ายาชาออกฤทธิ์หรือยัง
ห้องโถงด้านนอกหอยาเป่าเหอ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับจ้าวหลิงเฟิงกำลังประจันหน้าประเมินกันและกัน
โดยเฉพาะเซี่ยอวิ๋นจิ่น มองเจ้าของร้านหอยาเป่าเหอด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกดำทะมึน ก่อนหน้านี้ผู้ชายคนนี้ตอนได้เห็นลู่เจียวแสดงท่าทางเป็นธรรมชาติมาก เขาเห็นได้ชัดเจน แม้ลู่เจียวเป็นหมอในหอยาเป่าเหอ แต่เจ้าของร้านกับหมอไม่ควรรักษาระยะห่างหรือ ทำไมพอเป็นพวกเขา กลับเหมือนคนครอบครัวเดียวกันได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงตรงนี้ แววตาก็เย็นเยียบบอกไม่ถูก
จ้าวหลิงเฟิงตรงข้ามเอ่ยขึ้นก่อน “ท่านคือสามีลู่เหนียงจื่อ เซี่ยซิ่วไฉ?”
จ้าวหลิงเฟิงแอบประเมินมองความสัมพันธ์เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เหนียงจื่อว่าน่าจะไม่ดีนัก ไม่เช่นนั้นเรื่องลู่เหนียงจื่อผ่าตัดให้พวกตน ทำไมไม่บอกเขา อีกอย่างเรื่องลู่เหนียงจื่อร่วมมือทำการค้ากับตน เหมือนว่าไม่ได้บอกเขาเช่นกัน
จ้าวหลิงเฟิงครุ่นคิด ตัดสินใจว่าวันนี้จะไม่พูดเรื่องร่วมมือกับลู่เหนียงจื่อ ป้องกันการหลุดเรื่องนี้ต่อหน้าสามีนาง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังวาจาจ้าวหลิงเฟิงก็พยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มนิดๆ พลางเอ่ยว่า “ใช่ ท่านก็คือเจ้าของร้านหอยาเป่าเหอ ข้าได้ยินภรรยาข้าเอ่ยถึงสองสามครั้ง คิดมาตลอดว่าจะมาขอบคุณท่านสักครั้ง ขอบคุณท่านที่ให้นางได้เป็นหมอในหอยาเป่าเหอ”
จ้าวหลิงเฟิงได้ฟังวาจาแฝงความนัยของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็อึ้งไปครู่หนึ่ง คนผู้นี้กำลังแสดงความเป็นเจ้าของของภรรยาของตนเองต่อหน้าเขาหรือ ดูท่าเขาแล้วเหมือนว่าใส่ใจลู่เหนียงจื่อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมลู่เหนียงจื่อไม่บอกเรื่องผ่าตัดกับเขา ไม่บอกเรื่องตนเองกับเขา
จ้าวหลิงเฟิงครุ่นคิด แววตาก็ไปหยุดที่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ พอเห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่สวมเสื้อผ้าเหมือนกัน ตัวสูงพอๆ กัน ประเด็นสำคัญก็คือสองคนในนั้นหน้าตาเหมือนลู่เจียวมาก
จ้าวหลิงเฟิงรู้ทันทีว่านี่คือลูกชายทั้งสี่ของลู่เหนียงจื่อ เขายิ้มมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กล่าวว่า “พวกเจ้าก็คือลูกชายลู่เหนียงจื่อ?”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่มองออกว่าท่านพ่อตนเหมือนไม่ชอบคนผู้นี้ ดังนั้นใบหน้าเล็กทั้งสี่ก็ทำหน้าเข้มจริงจัง
“ใช่แล้ว”
จ้าวหลิงเฟิงมองเจ้าหน้าหนูน้อยท่าทางได้เรื่องได้ราว ก็อดอิจฉาเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นมาไม่ได้ คนเขามีคนเดียวยังยาก แต่เขาคลอดทีเดียวสี่คน ร้ายกาจๆ
จ้าวหลิงเฟิงชอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มาก รีบเรียกผู้จัดการหลี่ไปเอาของกินมา
ผู้จัดการหลี่รับคำออกไปจัดเตรียมของกิน น่าเสียดายพอเขาวางบนโต๊ะ เจ้าแฝดสี่ไม่ขยับสักคน นั่งนิ่งอยู่ข้างท่านพ่อตน สีหน้าท่าทางพร้อมรบ