ตอนที่ 188 คลอดยาก
ลู่เจียวถูกปลุกตื่น สีหน้าก็โมโหหงุดหงิดอย่างมาก นางเดาว่ารถม้ามาเช้าขนาดนี้น่าจะเป็นคนจากหอยาเป่าเหอ หอยาเป่าเหอน่าจะรับผู้ป่วยเร่งด่วนมา ดังนั้นจึงได้เร่งมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็หาวก่อนจะลุกเดินออกไปนอกบ้าน
ในเรือนนอนตะวันออกเซี่ยเสี่ยวเป่ากับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ต่างถูกปลุกตื่นกันหมด วิ่งออกมานอกบ้านกันอย่างคล่องแคล่ว
ลู่เจียวออกมาก็เห็นพวกเขาพอดี เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีใจวิ่งมาหานาง
“ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้ว”
“อืม แม่กลับมานานแล้ว”
ลู่เจียวกำลังคุยกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ บนรถม้านอกรั้วก็มีคนหนึ่งลงมาอย่างเร่งร้อน คนผู้นี้ถึงคือผู้จัดการหลี่หอยาเป่าเหอ
พอผู้จัดการหลี่เห็นลู่เจียวก็ส่งเสียงตะโกนเรียกอย่างร้อนใจ “ลู่เหนียงจื่อ เร็ว ตามข้าไปหอยาเป่าเหอ ด่วน หอยาเป่าเหอรับหญิงตั้งครรภ์คลอดยากมาคนหนึ่ง ถุงน้ำคร่ำแตกมาได้คืนหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้เด็กยังไม่คลอด หากยืดเยื้อต่อไป เกรงว่าเด็กคงตายในท้องแล้ว”
ลู่เจียวสีหน้าแปรเปลี่ยน คิดแล้วก็จะวิ่งออกไปทันที แต่ก็ไม่วางใจทิ้งเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไว้ จึงได้เดินไปยังเรือนนอนตะวันตกก่อน
ในห้องเรือนนอนตะวันตก เซี่ยอวิ๋นจิ่นลุกขึ้นนั่งแล้ว เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้า ดังนั้นตอนนี้ก็อยู่ในชุดเรียบร้อย
ลู่เจียวมองเขา กล่าวว่า “หอยาเป่าเหอมีหญิงตั้งครรภ์คลอดยาก ข้าต้องไปดูสักหน่อย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็ขมวดคิ้ว หญิงตั้งครรภ์คลอดยาก อันนี้ดีไม่ดีลู่เจียวจะโดนไปด้วย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วแววตาก็เข้มขึ้นกล่าวว่า “ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”
ลู่เจียวมองเขาตกใจ “เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าไปเป็นเพื่อนข้า เจ้าแฝดสี่จะทำอย่างไร”
ด้านนอก เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กำลังวิ่งเข้ามา พอได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็ดีใจกล่าวว่า “ท่านแม่ พวกเรากับท่านพ่อไปเป็นเพื่อนท่านแม่”
ลู่เจียวแทบอยากจะร้องไห้ ตอนนี้นางจะไปช่วยคนนะ พาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปด้วยจะได้อย่างไรกัน
“ไม่ได้ พวกเจ้าอยู่บ้านกับท่านพ่อ แม่จะรีบกลับมา”
ลู่เจียวกล่าวจบก็หันหลังจะไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังยืนยัน “พวกเราไปเป็นเพื่อนเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบหันไปมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กล่าวว่า “พ่อกับแม่พาพวกเจ้าไปด้วยได้ แต่พวกเจ้าต้องเชื่อฟัง”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบพยักหน้าอย่างแรง แสดงท่าทีว่าตนเองเป็นเด็กดีเชื่อฟัง
ลู่เจียวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพูดไม่ออก อยู่ๆ เกิดลมพายุอะไรกัน ต้องตามนางไปหอยาเป่าเหอให้ได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยืนยันจะไป ประการแรก เป็นห่วงเรื่องหญิงตั้งครรภ์ คนที่บ้านมีเรื่องเมื่อคืน เขาต้องไปจัดการเรื่องให้เหมาะสม อย่าได้รอให้เกิดเรื่อง และกลัวหอยาเป่าเหอผลักลู่เจียวออกมารับผิดคนเดียว
ประการที่สอง เขาอยากดูสภาพการณ์ในหอยาเป่าเหอ เดิมก็มีหมอฉีทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พอใจแล้ว ปรากฏว่าต่อมายังมีเจ้าของร้านโผล่มาอีกคน เขาอยากไปดูว่าเจ้าของร้านนั่นเป็นคนเช่นไร
แน่นอน เรื่องพวกนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมไม่บอกลู่เจียว
เขาทำสีหน้าปกติหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
ลู่เจียวถลึงตาใส่เขา กำลังคิดห้าม ซื่อเป่าก็ยื่นมือมากอดคอนางไว้ ร้องขอว่า “ท่านแม่ ท่านพาพวกเราไปนะ พวกเรายังไม่เคยเข้าเมืองเลย”
ลู่เจียวเห็นว่าเวลาไม่ทันแล้ว ก็ขี้เกียจกล่าวมากความ สาเหตุหลักก็เพราะกลัวทำหญิงตั้งครรภ์คลอดบุตรยากเสียเวลา
“ได้ ไปกันเถิด”
ปรากฏครอบครัวหกคนต่างพากันขึ้นรถม้าตรงไปยังหอยาเป่าเหอ
บนรถม้า ผู้จัดการหลี่หอยาเป่าเหอไม่รู้ควรกล่าวอันใดดี เขามาเชิญลู่เหนียงจื่อไปช่วยคน ทำไมพามากันทั้งครอบครัวได้
แต่คนก็มากันแล้ว เขาจะทำอย่างไรได้
รถม้ามาถึงหอยาเป่าเหอ ลู่เจียวเพิ่งอุ้มเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ลงจากรถม้า จ้าวหลิงเฟิงก็พาคนงานในร้านสองคนเข้ามารอรับ
จ้าวหลิงเฟิงไม่ทันได้สังเกตเซี่ยอวิ๋นจิ่น เห็นลู่เจียวก็รีบร้อนกล่าวว่า “ลู่เหนียงจื่อ เจ้ามาเสียที รีบเข้าไปดูเร็ว สถานการณ์หญิงตั้งครรภ์ไม่ค่อยดี”
จ้าวหลิงเฟิงกล่าวจบ ลู่เจียวไม่ทันได้กล่าวอะไร เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเก้าอี้เข็นก็กล่าวขึ้น
“สามีนางอยู่ไหม”
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้น จ้าวหลิงเฟิงจึงได้สังเกตเห็น เขาก้มลงมองผู้ชายบนเก้าอี้เข็น ใต้ไฟแสงสลัว มองรูปร่างหน้าตาไม่ชัด แต่เขากลับมองออกถึงแววตาเยียบเย็นเป็นพิเศษกำลังส่องประกายราวกับดวงดาวในม่านรัตติกาล
จ้าวหลิงเฟิงคิดไปก็กล่าวตอบไปว่า “หญิงตั้งครรภ์มาหาญาติ สามีนางไม่อยู่ ท่านแม่นางกับพี่ชายอยู่”
จ้าวหลิงเฟิงกล่าวจบก็สำทับอีกประโยคว่า “หญิงตั้งครรภ์ผู้นี้คือสะใภ้คนโตของนายอำเภอชิง”
พอเขากล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เลิกคิ้ว น้ำเสียงเข้มกล่าวว่า “ภรรยาหูซ่าน”
หูซ่านเป็นนักเรียนในสถานศึกษาในอำเภอชิงเหอเหมือนเขา แต่เพราะท่านพ่อเขาคือนายอำเภอชิงเหอ ยามปกติก็จะรายล้อมไปด้วยเพื่อนนักเรียนที่ตามเอาใจ พรรคพวกพวกเขานั้นไม่ถูกกับนักเรียนที่มาจากครอบครัวยากจนอย่างพวกเขา
ปกติหูซ่านก็วิพากษ์วิจารณ์เอาเรื่องเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่น้อย แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นขี้เกียจจะสนใจเขา เพราะการที่เขาจะได้เรียนนั้นไม่ง่าย ดังนั้นเขาจึงพยายามสงบเสงี่ยมให้มากที่สุด
จ้าวหลิงเฟิงคิดไม่ถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นถึงกับรู้จักสามีนาง รีบกล่าวว่า “น่าจะใช่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องมองจ้าวหลิงเฟิงกล่าวว่า “รีบไปร่างหนังสือสัญญา ให้ภรรยาหูซ่านลงลายนิ้วมือ หากนางไม่ลง ลู่เจียวจะไม่ลงมือรักษานาง”
เดิมหูซ่านก็ไม่ถูกกับเขา หากรู้ว่าภรรยาเซี่ยอวิ๋นจิ่นช่วยภรรยาเขา สุดท้ายเกิดล้มเหลว ด้วยนิสัยหูซ่าน ไม่แน่ว่าจะกล่าวหาว่าภรรยาเขาทำร้ายนาง ถึงตอนนั้นภัยคงมาถึงตัว
จ้าวหลิงเฟิงมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นตกใจ ก่อนจะมองไปยังลู่เจียว
ลู่เจียวรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำเช่นนี้เพราะหวังดีกับนาง และฟังคำพูดเขาก่อนหน้า ก็มั่นใจว่ารู้จักกับสามีหญิงตั้งครรภ์ แต่ก็ยังให้ลงนามในสัญญา แสดงให้เห็นว่าสามีหญิงตั้งครรภ์ยากรับมือ
ลู่เจียวมองไปยังจ้าวหลิงเฟิง กล่าวว่า “ไปเตรียมสัญญา ข้าไปในห้องตรวจดูนางก่อน”
“ตกลง”
เวลาเร่งด่วน จ้าวหลิงเฟิงไม่อาจรอช้า รีบพาคนเดินเข้าไปด้านใน
ลู่เจียวเข้าไปในห้องคลอด เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ตามจ้าวหลิงเฟิงไป กำชับเขาว่า “รีบไปเขียนสัญญา”
จ้าวหลิงเฟิงยังจะกล่าวอะไรได้ ได้แต่รับคำสั่งไปเขียนสัญญาฉบับหนึ่ง จากนั้นก็เอาสัญญาไปรอหน้าห้อง
ในห้องลู่เจียวกำลังตรวจครรภ์ให้หญิงตั้งครรภ์ พบว่ามดลูกนางบีบตัวผิดปกติ ทำให้ปากมดลูกเปิดเพียงสองนิ้ว ถุงน้ำคร่ำในท้องแตกมาได้คืนหนึ่งแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ท้องนี้เป็นไปได้มากว่าจะสิ้นลม
บนเตียง หญิงตั้งครรภ์สีหน้าซีดขาวมองลู่เจียวขอร้องว่า “ขอร้องเจ้าช่วยลูกข้าด้วย ช่วยเขาด้วย”
ลู่เจียวยกมือขึ้นปลอบใจนาง กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะพยายามให้ดีที่สุด ไม่เป็นไรหรอก”
แววตานางส่องประกายขึ้นมา “เจ้าบอกว่าลูกข้าจะไม่เป็นไร”
ลู่เจียวกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าจะพยายามรักษาเขาไว้ให้ถึงที่สุด”
นางกล่าวจบหันไปมองนางผดุงครรภ์และสตรีสูงวัยข้างๆ กล่าวว่า “เพราะมดลูกนางหดตัว ปากมดลูกตอนนี้เปิดแค่เพียงสองนิ้วมือ เช่นนี้เด็กย่อมออกมาไม่ได้”
ตอนนี้แม้ว่ามียาเร่งครรภ์ เวลาก็ไม่ทันแล้ว เด็กอยู่ท้องอยู่นานไปแล้ว อาจหมดลมหายใจได้ง่าย
“พวกเจ้าสองคนออกไป ให้หมอฉีเข้ามาช่วยข้า”
พอลู่เจียวกล่าว นางผดุงครรภ์และสตรีสูงวัยก็สีหน้าแปรเปลี่ยน เพราะการคลอดลูกนี้จะให้ผู้ชายเข้ามาได้อย่างไร
สตรีสูงวัยก็คือมารดาหญิงตั้งครรภ์ รีบขวางเรื่องนี้ทันที “ไม่ได้ คลอดลูกจะให้ผู้ชายเข้ามาได้อย่างไร”