ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 209 แบ่งเงินทองแล้ว

ตอนที่ 209 แบ่งเงินทองแล้ว

ตอนที่ 209 แบ่งเงินทองแล้ว
สามหนูน้อยมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงตาแดงก่ำ เซี่ยอวิ๋นจิ่นถอนหายใจ มองเจ้าสามหนูน้อยกล่าวว่า “พ่อรับปากพวกเจ้าว่าจะพยายามชอบท่านแม่พวกเจ้า แต่หากพ่อยังคงไม่ชอบท่านแม่พวกเจ้าพวกเจ้าก็อย่าได้ตำหนิพ่อ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ สามหนูน้อยก็ยิ้มอย่างดีใจแล้ว ไม่ได้สนใจวาจาสุดท้ายแม้แต่น้อย

ลู่เจียวด้านนอกกำลังเดินเข้ามาพอดี “ออกมากินอาหารเช้าได้แล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นถลึงตาใส่นางอย่างอารมณ์เสีย กล่าวอย่างจริงจังว่า “วันหน้าเรื่องพวกนี้เจ้าต้องแก้ไขเอง”

ทำไมต้องพูดว่าเขาไม่ชอบนาง ผลักปัญหานี้มาลงหัวเขา เขายังอยากจะว่านางนั่นแหละจะหย่าให้ได้

พอลู่เจียวได้ฟังก็เข้าใจความหมายของเซี่ยอวิ๋นจิ่น แอบร้อนตัว นางรีบมองไปยังสามหนูน้อย กล่าวว่า “รีบออกไปกินอาหารเช้า”

กล่าวจบมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าวว่า “เจ้าเองก็ตื่นมากินอาหารเช้าได้แล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดมาทั้งคืน ยามนี้สงบลงมาก ลู่เจียวยืนยันจะหย่า เขาก็คืนอิสระให้นางละกัน

“ได้”

ในห้องสามหนูน้อยวิ่งไปซุบซิบเรื่องนี้กับซื่อเป่าที่อยู่นอกห้องก่อนหน้านี้ บอกว่าท่านพ่อบอกว่าเขาจะพยายามชอบท่านแม่

ซื่อเป่าก็ดีใจขึ้นมา เด็กๆ มั่นใจว่าเรื่องนี้ได้แก้ไขเป็นผลสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นอารมณ์ดีอย่างมาก

ทั้งครอบครัวนั่งลงกินอาหารเช้ากันอีกครั้ง

เพราะเมื่อวานเซี่ยอวิ๋นจิ่นอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นจึงไม่ได้สอนหนังสือเด็กๆ ในหมู่บ้าน วันนี้เขาเริ่มสอนหนังสือเด็กๆ อีกครั้ง

พอลู่เจียวกินข้าวเช้าเสร็จ ก็เก็บจานชามไปล้าง จากนั้นก็ไปปัดกวาดห้องโถงกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้สะอาด

ลู่เจียวเพิ่งปัดกวาดห้องโถงเสร็จ รถม้าหอยาเป่าเหอก็มาถึง บนรถผู้จัดการหลี่รีบลงมากล่าวกับลู่เจียวอย่างร้อนใจว่า “ลู่เหนียงจื่อ หอยาเป่าเหอเช้านี้รับผู้ป่วยมาคนหนึ่ง อยากจะเชิญลู่เหนียงจื่อไปตรวจอาการหน่อย”

ลู่เจียวรีบรับคำเสียงหนึ่ง หันหลังเดินไปยังห้องโถงกล่าวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นและเจ้าแฝดสี่ว่า “หอยาเป่าเหอมีผู้ป่วยสำคัญมา ข้าต้องไปหอยาเป่าเหอสักหน่อย”

พอลู่เจียวกล่าว เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็เป็นห่วงขึ้นมา ร้องเรียกพร้อมกัน “ท่านแม่ พวกเราไปกับท่านแม่ด้วย”

ครั้งนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้เอ่ยว่าจะไปหอยาเป่าเหอกับลู่เจียว ตอนนี้เขาไม่เหมาะจะไปกับนาง

แม้ว่าวันหย่าจะอีกครึ่งปี แต่ก่อนหน้านี้ลู่เจียวบอกเขาชัดเจนแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในสถานะหย่ากัน ดังนั้นเขาห้ามตามนางไป

แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดเช่นนี้ แต่ปากก็อดเม้มแน่นไม่ได้ สีหน้าเย็นเยียบอย่างยิ่ง

ลู่เจียวไม่มองเขาแม้แต่น้อย มองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กล่าวว่า “แม่ไปรักษาผู้ป่วย ไม่ได้ไปเที่ยว ครั้งหน้าหากไปเที่ยวก็จะพาพวกเจ้าไปด้วยดีไหม”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่ตอบ ลู่เจียวลูบหัวพวกเขา หันไปกำชับเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่า “เจ้าดูพวกเขาหน่อย ตอนเที่ยงข้าไม่รู้จะกลับมาได้ไหม หากกลับไม่ทัน เจ้าก็ให้ชุนเยี่ยนทำอะไรให้พวกเจ้ากินกันก่อน”

ลู่เจียวกล่าวจบ คิดถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ค่อยชอบพูดจากับสตรีในหมู่บ้าน ก็ถามอีกคำว่า “หรือให้ข้าไปบอกชุนเยี่ยน”

สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเย็นชา กล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะจัดการเรื่องพวกนี้เอง”

วันหน้านางไปแล้ว พวกเขาพ่อลูกห้าคนไม่ต้องกินข้าวหรือ

ลู่เจียวเองก็คิดถึงปัญหานี้ ไม่ถามมากอีก หันหลังไปทันที

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ด้านหลังมองตามแผ่นหลังนางจากไป ก็คิดอยากร้องไห้ขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นท่าทางเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ก็เข้าไปปลอบใจเด็กๆ อย่างไม่ได้สนใจอะไรอีก

“ท่านแม่เจ้าไปรักษาคนป่วย ไม่ใช่ว่าไม่อยากพาพวกเจ้าไป หากนางไปเที่ยว ก็ย่อมพาพวกเจ้าไปด้วย”

ต้าเป่าเม้มปากแน่น เป็นนานกว่าจะกล่าวว่า “พวกเราไม่ได้คิดอยากไปเที่ยว ก็แค่เป็นห่วงว่าท่านแม่จะไม่กลับมา”

พอเขากล่าวขึ้น สามหนูน้อยที่เหลือก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ ท่านแม่จะกลับมาไหม”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เช่นนี้ ไม่รู้ทำไมในใจก็แอบเฝื่อนขมขึ้นมา แต่ก็พยายามปลอบใจสี่หนูน้อยอย่างเต็มที่

“ไม่หรอก ท่านแม่เจ้าแต่ไรมาพูดได้ทำได้ นางไม่ได้บอกว่าจะไป ย่อมไม่ทิ้งพวกเจ้าไปหรอก”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกว่าก็ใช่ ท่านแม่พวกเขาพูดได้ทำได้ ก่อนหน้านี้นางบอกว่าจะให้โอกาสท่านพ่อได้ชอบนาง

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็หันพรึ่บไปจ้องมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น

“ท่านพ่อ ข้าจะบอกท่านให้นะ ท่านแม่นางชอบให้คนชมที่สุด ไม่มีอะไรก็ต้องชมๆ นางหน่อย”

พอต้าเป่ากล่าวจบ เอ้อร์เป่าก็รีบชมขึ้นทันที “ท่านก็บอกว่า เจ้าหน้าตางดงามจริงๆ อ้วนจ้ำม่ำน่ารักเหมือนลูกหมูตัวน้อย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นราวกับมีแสงสีดำพาดผ่านใบหน้า จ้องมองลูกชายสองคนของตน พวกเจ้าคำหนึ่งก็เอาท่านแม่เจ้าไปเปรียบกับลูกหมูน้อย สองคำก็ลูกหมูน้อย หากเขากล้าพูดเช่นนี้ หญิงเช่นลู่เจียวต้องถีบเขาแน่

ซานเป่ารีบสำทับตามมาว่า “ท่านพ่อ ท่านก็ชมว่าท่านแม่มีความสามารถมาก เป็นหมอเทวดาร้ายกาจสุดในใต้หล้า ข้าได้ยินคนอื่นชมท่านแม่ว่าวิชาการแพทย์ร้ายกาจ ท่านแม่ยิ้มตาหยีเลย”

ซื่อเป่ามองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านซื้อดอกไม้ประดับให้ท่านแม่ได้นะ ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ ใช่แล้ว ยังต้องซื้อของกินให้นางด้วย”

ซื่อเป่าพูดจนสุดท้ายก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านมีเงินไหม”

หากไม่มี ท่านพ่อต้องหาเงินก่อน ไม่งั้นไม่มีเงินซื้อดอกไม้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ท่านแม่

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเจ้าหนูน้อยทั้งที่ทุ่มเทใจคิดให้เขา ในใจก็หวานล้ำและปวดแปลบ แต่พอคิดถึงความใจร้ายของลู่เจียวแล้วก็รู้สึกขมขื่น

เอาละ ในเมื่อหญิงผู้นั้นจะไปแล้ว ไยเขาต้องคิดมาก วันหน้าเขากับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มีชีวิตต่อไปให้ดีก็แล้วกัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็กล่าวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ทันทีว่า “เดี๋ยวพ่อสอนหนังสือพวกเจ้า รีบไปเตรียมหนังสือ”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พอได้ฟังก็ลืมเรื่องลู่เจียวไปชั่วคราว สี่คนเริ่มจัดเตรียมหนังสือ เตรียมเรียนหนังสือกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น

บนรถม้าหอยาเป่าเหอ ลู่เจียวถามผู้จัดการหลี่อย่างห่วงใย “วันนี้รับผู้ป่วยอะไรมา”

ผู้จัดการหลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า “ลู่เหนียงจื่อ วันนี้ไม่มีผู้ป่วยหนักอะไร”

ลู่เจียวอดตกใจไม่ได้ “ไม่มีผู้ป่วย แล้วเจ้าร้อนใจมารับข้าไปหอยาเป่าเหอทำอะไร”

ผู้จัดการหลี่ยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า “เจ้าของร้านเราได้ทำน้ำแข็งไปขายในเมืองหลวงตามวิธีที่ลู่เหนียง จื่อบอก หาเงินมาได้ก้อนหนึ่ง คิดแบ่งให้ลู่เหนียงจื่อ แล้วก็จะได้คุยเรื่องสร้างโรงผลิตด้วย”

ผู้จัดการหลี่กล่าวจบ สีหน้าลู่เจียวก็ดีขึ้นทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ผู้จัดการหลี่อดแปลกใจไม่ได้ เจ้าของร้านตนกล่าวได้ถูกต้องจริงด้วย

เจ้าของร้านให้เขามาเชิญลู่เหนียงจื่อ บอกว่าลู่เหนียงจื่อรู้ว่าไม่มีคนป่วยก็ย่อมโมโหแน่ แต่ขอเพียงเขาบอกว่าเชิญลู่เหนียงจื่อไปแบ่งเงิน ลู่เหนียงจื่อย่อมดีใจ

เจ้าของร้านพบเจอลู่เหนียงจื่อไม่มาก แต่เข้าใจลู่เหนียงจื่อพอควร

ผู้จัดการหลี่ประเมินมองลู่เจียวอย่างละเอียด พบว่าตอนนี้ลู่เหนียงจื่อเหมือนผอมลงไม่น้อย เทียบกับนางก่อนหน้านี้ ราวฟ้ากับดิน ตอนนี้ใบหน้านางแม้ว่ายังคงมีเนื้อ แต่กลับไม่อ้วนฉุ เพียงแต่อิ่มเอิบเท่านั้น

สาวงามผิวพรรณขาว ท่วงท่ามั่นใจเปิดเผย ความงามเปล่งประกายยากบรรยาย ราวกับดอกไม้งามบานสะพรั่ง

ผู้จัดการหลี่อดชื่นชมไม่ได้ หญิงงามและมีความสามารถเช่นนี้ เซี่ยซิ่วไฉผู้นั้นได้กำไรไปแล้ว หากลู่เหนียงจื่อยังไม่ได้แต่งกับเซี่ยซิ่วไฉ ก็ยังแต่งกับเจ้าของร้านพวกเขา เป็นภรรยาเจ้าของร้านได้

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท