ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 217 กินดีอยู่ดี เขาไม่เอาได้หรือ

ตอนที่ 217 กินดีอยู่ดี เขาไม่เอาได้หรือ

ตอนที่ 217 กินดีอยู่ดี เขาไม่เอาได้หรือ
แววตาลู่เจียววิบไหว ครั้งก่อนเซี่ยอวิ๋นจิ่นต้อนรับลู่กุ้ยอย่างสนิทสนม เห็นลู่กุ้ยเป็นน้องภรรยาจริงๆ แต่ตอนนี้นางกับเขาเท่ากับได้หย่ากันแล้ว วันหน้าบ้านตระกูลลู่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีก เขาจะไม่เกรงใจได้หรือ

แน่นอนว่าลู่เจียวไม่อยากให้เถียนซื่อรู้เรื่องที่ทั้งสองหย่ากันในตอนนี้ นางมองเถียนซื่อยิ้มกล่าวว่า “ลู่กุ้ยมองผิดพลาดไปเอง เขาแต่ไรมาก็มีนิสัยเย็นชาอย่างนั้น ท่านแม่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้”

ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ ลู่กุ้ยก็เดินเข้ามา “พี่เจียว ข้ารู้สึกว่าครั้งนี้พี่เขยไม่เหมือนกับครั้งก่อน ครั้งก่อนต้อนรับสนิทสนมอย่างมาก เหมือนข้าเป็นคนในครอบครัว ครั้งนี้เหมือนเกรงอกเกรงใจอีกละ เกิดอะไรขึ้น”

สองคนในห้องต่างมองไปยังลู่เจียว ลู่เจียวยิ้มมองลู่กุ้ยกล่าวว่า “ครั้งก่อนเจ้าคิดมากไปแล้ว เขาก็เป็นคนเช่นนั้น พวกเจ้าก็ใช่ว่าไม่รู้”

เถียนซื่อมองลู่กุ้ย ลู่กุ้ยลูบหัว หรือว่าเขาคิดมากไป

ลู่เจียวรีบเปลี่ยนบทสนทนา มองลู่กุ้ยถามว่า “ครั้งก่อนให้เจ้ามาถามคนที่บ้านว่าจะเลี้ยงปลิงไหม ทำไมเงียบไป”

ลู่กุ้ยได้ยินคำถามนี้ ก็ลืมเรื่องเซี่ยอวิ๋นจิ่นไป มองลู่เจียวกล่าวว่า “พี่เจียว สองวันนี้ข้ากับพี่รองเดิมคิดไปคุยเรื่องนี้ที่บ้านพี่”

“อืม ว่ามา”

ลู่เจียวมองลู่กุ้ยอย่างนึกสนใจ ลู่กุ้ยกำลังจะพูด ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอก ทั้งสองคนเดินเข้ามา เป็นลู่ผิงและลู่อันพี่ใหญ่กับพี่รองของลู่เจียว

ลู่ผิงกับลู่อันเห็นลู่เจียวก็ทักอย่างดีใจ “น้องเจียวมาหรือ”

ลู่เจียวพยักหน้า ถามพวกเขา “พวกพี่สองคนไปไหนกันมา”

“เอากากถั่วไปส่งให้คนที่รับซื้อ”

ลู่ผิงกับลู่อันลากเก้าอี้มานั่งข้างลู่เจียวกับเถียนซื่อ

ลู่เจียวมองสามพี่น้องบ้านตระกูลลู่แล้วก็กล่าวว่า “ที่บ้านแม้มีกิจการเต้าหู้ แต่ข้ามาคิดดู พวกพี่ๆ สามคนเลยนะ ดังนั้นอยากให้พวกพี่ๆ เลี้ยงปลิงกัน ทำไมพวกพี่เงียบไปไม่ตอบ”

ครั้งนี้ลู่อันเอ่ยก่อน “น้องเจียว เรื่องนี้พวกเราประชุมกันก่อนหน้านี้ พี่กับลู่กุ้ยคิดอีกอย่าง เดิมคิดจะไปคุยกับน้อง แต่ไม่มีเวลา วันนี้น้องเจียวมา พวกเราก็มาคุยกันหน่อย”

ลู่อันกล่าวจบก็หยุดไปครู่หนึ่ง มองลู่เจียวกล่าวว่า “น้องเจียว พี่รู้ว่าเจ้ามีความสามารถ เจ้าหางานอื่นให้พี่ทำได้ไหม ข้าไม่อยากอยู่บ้านนอกไปตลอดชีวิต”

ลู่อันกล่าวจบ เถียนซื่อก็ยื่นมือไปดึงมือลู่เจียวมากุม “เจียวเจียว หากเจ้าลำบากใจ ก็ไม่ต้องสนใจเขา เจ้าหมอนี้ผีบังใจแล้ว คิดแต่จะออกไปหาทางข้างนอก”

เถียนซื่อไม่เห็นด้วยกับลู่อันที่จะออกไปหาช่องทาง ชีวิตข้างนอกไม่ได้หากินง่ายขนาดนั้น ทว่าลู่อันแต่เล็กก็มีนิสัยลื่นไหลเก่ง และก็มีความคิดมาก นางพูดแล้วเขาก็ไม่ฟัง

ลู่เจียวกลับไม่ได้คิดว่าความคิดลู่อันมีอะไรไม่ดี บนโลกนี้มีคนมากมายนับหมื่นพัน แต่ละคนล้วนมีความคิดของตนเอง ไม่อยากอยู่บ้านนอกก็เป็นเรื่องปกติมาก

“งั้นพี่คิดทำอะไร”

ลู่เจียวพลันคิดถึงว่าตนเองจะเปิดสามโรงผลิตกับจ้าวหลิงเฟิงเจ้าของหอยาเป่าเหอ นอกจากโรงหีบน้ำมัน โรงเวชสำอางกับโรงผลิตยา ล้วนต้องใช้น้ำพุจิตวิญญาณในมือนาง ถึงตอนนั้นต้องมีคนมารับน้ำพุจิตวิญญาณจากมือนางไป

คนผู้นี้ต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ เพราะคนผู้นี้จะต้องติดต่อกับนางบ่อย

นางเป็นผู้หญิงพบปะชายอื่นบ่อยๆ จะเกิดคำครหาได้ง่าย แต่คนคนนี้หากเป็นลู่อันก็ย่อมไม่มีปัญหา

แต่ลู่อันทำได้หรือ ลู่เจียวไม่ค่อยเข้าใจคนเช่นลู่อัน ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าเอาไว้ค่อยลองถามเถียนซื่อก่อน เถียนซื่อดีกับนางอย่างไม่มีอะไรจะกล่าว ไม่ทำร้ายนางแน่นอน

พอลู่เจียวมีความคิดในใจแล้ว สายตาที่มองลู่อันก็มีแววประเมินมองอยู่หลายส่วน

ลู่อันคนผู้นี้หัวไว ความคิดไม่นอกลู่นอกทาง พอเห็นสีหน้าลู่เจียวก็รู้ว่าในใจลู่เจียวมีแผนแล้ว

เขามองลู่เจียว ยืดอกกล่าวว่า “น้องเจียว เจ้าวางใจ ไม่ว่าเจ้าให้ข้าทำอะไร ข้าต้องตั้งใจทำ จะไม่ทำให้น้องเสียหน้าอย่างเด็ดขาด”

ลู่เจียวโบกมือกล่าวว่า “เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่สุด ที่สำคัญก็คือพี่มีความซื่อสัตย์จริงใจไหม พี่มีปัญหาเรื่องความประพฤติไหม”

วันหน้าสามโรงผลิตใหญ่ต้องเข้าไปข้องเกี่ยวับพ่อค้าใหญ่ หากลู่อันมีปัญหาเรื่องความประพฤติ ก็อาจเกิดเรื่องได้

ลู่อันพอได้ฟังคำลู่เจียวก็รู้ว่างานอยู่ในมือจริงๆ กล่าวอย่างตื่นเต้นดีใจทันทีว่า “เจียวเจียว เจ้าวางใจ พี่รับรองว่าจะไม่สร้างเรื่องเดือดร้อนให้เจ้า”

ลู่เจียวคิดแล้วก็กล่าวว่า “ได้ เรื่องนี้ข้าพอรู้แล้ว จะช่วยดูให้พี่”

ลู่อันไม่พูดอีก เขารู้ว่าน้องสาวรับปากไว้แล้ว ขอเพียงได้ตรวจสอบความประพฤติของเขาผ่าน ย่อมต้องคิดหาทางให้เขาแน่

ลู่อันดีใจพูดไม่ออก แต่เล็กเขาไม่ค่อยมีแรง ชอบใช้สมองทำการค้าเล็กน้อย แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อที่บ้านไม่มีเงินและไม่มีช่องทาง ตอนนี้ดีเลย

ลู่เจียวไม่ได้สนใจลู่อัน มองไปยังลู่กุ้ย นางเคยสัมผัสกับลู่กุ้ยหลายวัน รู้ว่าลู่กุ้ยคนผู้นี้เป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา และยังไม่กลัวงานหนัก

ลู่เจียววางใจในตัวลู่กุ้ยมาก

“เจ้าล่ะ มีความคิดอะไร”

ลู่กุ้ยพอได้ฟังลู่เจียว ก็ฉีกยิ้มกว้างกล่าวว่า “ข้าอยากติดตามทำงานกับพี่เจียว”

ลู่เจียวคิดว่าตนเองฟังผิด “อะไรนะ”

ลู่กุ้ยเอ่ยอีกครั้งว่า “ข้ารู้ว่าพี่เจียวเป็นคนมีวาสนาสูงส่ง ข้าแม้โง่ แต่ก็ไม่อยากอยู่บ้านนอกนี่ ดังนั้นก็ได้แต่ติดตามพี่เจียวทำงานดีกว่า ใช่แล้ว พี่เจียว วันหน้าพี่เขยย่อมได้เป็นขุนนาง พวกพี่ต้องขาดพ่อบ้านอะไรพวกนี้แน่นอน ข้าไปเป็นพ่อบ้านให้พวกพี่นะ”

ลู่เจียวค้อนใส่เขาทีหนึ่ง นี่มันอะไรกันเนี่ย

“พูดจาเหลวไหลอะไรกัน”

ลู่กุ้ยยกมือไปดึงแขนลู่เจียวโยกไปมา “พี่เจียว พี่ให้ข้าตามพี่ไปลุยงานเถอะนะ ข้าไม่มีความสามารถอะไร แต่ข้ารู้ว่าติดตามคนมีความสามารถย่อมมีเนื้อกิน”

ลู่เจียวถูกเขาโยกจนหน้ามืด ยกมือผลักเขาออก “เป็นการเป็นงานหน่อย”

ลู่กุ้ยไม่ทันได้พูดอะไร เถียนซื่อกลับเอ่ยว่า “เจียวเจียว ในเมื่อลู่กุ้ยมีใจเช่นนี้ เจ้าก็ให้เขาไปช่วยเจ้าเถอะ ตอนนี้เจ้ารักษาผู้ป่วย อวิ๋นจิ่นก็ต้องไปเรียน ก็อาจไม่มีเวลาดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ในเมื่อลู่กุ้ยจะไปกับเจ้า เจ้าก็ให้เขาช่วยเจ้าดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่”

ลู่เจียวได้ฟังเถียนซื่อ จึงได้ตั้งใจประเมินมองลู่กุ้ย “เจ้าอยากตามข้าไปลุยงานจริงหรือ”

ลู่กุ้ยแสดงท่าทางจริงจังจ้องมองลู่เจียวพยักหน้าเต็มแรงเพื่อแสดงว่าตนเองเอาจริง

เขาติดตามพี่สาวเขาได้กินดีอยู่ดีไม่ดีหรือ ทำไมต้องมาพยายามทำเอาเองให้เหนื่อย ไม่มีทั้งเงินทองและคนช่วย

ลู่เจียวคิดคำพูดของเถียนซื่อแล้วก็พบว่าก็ได้อยู่ นางยังต้องดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อีกระยะหนึ่ง นางไม่วางใจมอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้คนอื่นดูแล

จากนี้นางต้องยุ่งกับเรื่องของสามโรงผลิต และยังต้องรักษาผู้ป่วย ยังต้องซื้อที่ปลูกสมุนไพรอีก อย่างไรงานการก็มากมาย แต่มอบเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้คนอื่นดูแล นางไม่วางใจ มอบให้ลู่กุ้ยดูแลนางจึงจะวางใจได้

รอให้เจ้าหนูน้อยติดตามบิดาเข้าเมืองหลวงก่อน งานในมือนางยังมีอีกมาก ถึงตอนนั้นจัดงานให้ลู่กุ้ยทำก็ได้ ไม่ว่าไปดูแลแปลงสมุนไพรหรือไปดูแลงานในสามโรงผลิต หรือถึงขั้นว่าวันหน้านางอาจเปิดร้านอื่นอีกก็ได้ ถึงตอนนั้นก็ให้ลู่กุ้ยไปดูแลได้

สรุปอย่างไรก็มีงานมากมาย ลู่เจียวไม่กังวลว่าลู่กุ้ยไม่มีอะไรทำ

“เจ้าแน่ใจว่าจะติดตามข้า?”

ลู่กุ้ยแววตาเปล่งประกาย พยักหน้าเต็มแรง “ใช่”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท