ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 227 สร้างบ้านแล้ว

ตอนที่ 227 สร้างบ้านแล้ว

ตอนที่ 227 สร้างบ้านแล้ว
ทั้งสองคนหันไปมองอีกฝ่าย เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยก่อนว่า “ข้าออกไปดู”

ลู่เจียวพยักหน้า “อืม ได้”

กล่าวจบ นางส่งเสียงเรียกลู่กุ้ยที่กำลังเก็บกวาดอยู่ในห้องโถงมากล่าวว่า “ออกไปเป็นเพื่อนพี่เขยเจ้าหน่อย”

ลู่เจียวเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับขาของเซี่ยอวิ๋นจิ่น กว่าจะหายได้ อย่าได้เกิดอะไรเป็นดี

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียว แววตาก็แอบครุ่นคิด ลู่เจียวเป็นห่วงเขา หรือกลัวว่าขาเขาเกิดเรื่องอีกจะทำให้นางลำบากอีก

เขาคิดถึงท่าทีลู่เจียวยืนยันจะหย่าขึ้นมาได้ทันที ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นมั่นใจว่า ลู่เจียวเป็นห่วงขาตนเองล้มบาดเจ็บอีกจะทำให้นางลำบาก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเม้มปาก กล่าวว่า “ไม่ต้องตามมา ข้าจะระวัง”

กล่าวจบก็ก้าวเท้าออกไปข้างนอกทันที ลู่กุ้ยด้านหลังมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวอย่างแปลกใจ สองคนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมเหมือนมีเรื่องอะไรกันสักอย่าง หรือว่าทะเลาะกัน

ลู่กุ้ยกำลังครุ่นคิด ลู่เจียวก็เอ่ยว่า “เจ้ายังอึ้งอะไร ตามพี่เขยเจ้าไปสิ อย่าให้คนอื่นชนขาเขา”

ลู่กุ้ยรับคำรีบตามไป คำสั่งพี่สาวเขาต้องฟัง ไม่ฟังไม่อาจอยู่ต่อได้ไหม

ลู่กุ้ยตามไป ลู่เจียวไม่สนใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก หันหลังออกไปจัดการสวนผัก

ในสวนผักนางปลูกผักไว้ อย่าได้เอ่ยว่าเติบโตงามเพียงใด ไม่เพียงแต่ผักสดและมะเขือยาวเติบโตงาม แม้แต่มะเขือเทศและแตงกวาก็เติบโตได้ไม่เลว

มะเขือเทศเริ่มแดงอ่อนๆ แล้ว ลู่เจียวเด็ดสองสามลูก ใช้น้ำล้างสะอาดก่อนคลุกน้ำตาลในห้องครัว รอไว้ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ตื่นมากิน

นางยังไปเด็ดผักอีกสองสามอย่างในแปลงผัก เตรียมไว้ผัดกินเย็นนี้

ผ่านไปสองสามวัน เซี่ยอวิ๋นจิ่นจะรื้อบ้านเก่าทิ้งสร้างบ้านใหม่แล้ว สวนผักเกรงว่าไม่อาจรักษาไว้ได้ ดังนั้นสองสามวันนี้ก็ต้องรีบกินผักเหล่านี้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาลู่กุ้ยไปบ้านผู้ใหญ่บ้านคุยกับผู้ใหญ่บ้านก่อนว่า ตนเองไม่อาจสอนหนังสือเด็กๆ ในหมู่บ้านได้แล้ว ผู้ใหญ่บ้านได้ฟังย่อมเสียดาย แต่ได้ยินว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะไปสอนพวกถงเซิงในสำนักศึกษาที่อำเภอเพื่อเข้าร่วมสอบย่วนซื่อ ผู้ใหญ่บ้านก็รู้สึกภาคภูมิใจ พยักหน้าหงึกๆ กล่าวว่า “เจ้าทำงานเป็นเรื่องเป็นราว เด็กๆ เรียนหนังสือรู้อักษรได้บ้างก็นับว่าไม่เลวแล้ว อย่าได้ทำเจ้าเสียการงานสำคัญ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเล็กน้อย ส่งรายชื่อเด็กสิบกว่าคนที่ตนเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ให้ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า “นี่คือผลจากการสอนเด็กๆ ของข้าในระยะนี้ เด็กๆ ในรายชื่อด้านบนสุดสองสามคนมีพรสวรรค์ไม่เลว ส่งไปเรียนสำนักศึกษาส่วนตัวได้ พวกเขาเป็นเด็กใช้ได้ หากตั้งใจเรียน แล้วคอยชี้แนะดีๆ วันหน้าไม่แน่อาจสอบตำแหน่งซิ่วไฉได้สักสองสามคน”

พอผู้ใหญ่บ้านได้ฟังก็ก้มหน้าอ่านชื่ออย่างร้อนใจ ที่สำคัญคือเขาจะดูว่าหลานสองคนของตนเองอยู่รายชื่อต้นๆ หรือไม่

ปรากฏไม่เห็นชื่อต้าโถว แต่กลับเห็นเหมาเหมา แม้ผู้ใหญ่บ้านผิดหวังที่ต้าโถวไม่ติดอันดับ แต่ก็ดีใจที่มีชื่อเหมาเหมาติดอันดับ อย่างไรก็มีอยู่คนหนึ่งไม่ใช่หรือ

ผู้ใหญ่บ้านถามเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เหมาเหมาฉลาดกว่าต้าโถวหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่ใช่ว่าได้เรียนหนังสือก็ฉลาดกว่าคนไม่ได้เรียนหนังสือ คนเรามีพรสวรรค์ต่างกัน บางคนเก่งเรียนหนังสือ บางคนเก่งเรื่องอื่น”

“ต้าโถวไม่ได้ด้อยไปกว่าเหมาเหมา แต่นั่งำม่นิ่ง กลับกัน เหมาเหมาแม้อายุน้อยกว่า แต่นิ่งกว่ามาก เรียนหนังสือสำคัญที่ตนเองนิ่งได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ปรับเปลี่ยนได้ในวันสองวัน”

พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าว ผู้ใหญ่บ้านก็เข้าใจ ต้าโถวหลานชายคนโตของเขานั่งไม่นิ่งจริง นั่งทีก็เอาแต่ ยุกยิกไปมาอย่างกับลิง

“ข้าเข้าใจแล้ว ต้าโถวไม่อาจเรียนหนังสือได้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า “ก็ไม่ใช่เรียนหนังสือไม่ได้ ท่านหวังให้เขาเรียนหนังสือสอบเคอจวี่ย่อมไม่ได้ แต่หากท่านส่งเขาไปเรียนหนังสือรู้อักษรสักหน่อย วันหน้าไว้ให้เขาทำการค้าเล็กๆ หรืออะไร ย่อมไม่เลว”

พอผู้ใหญ่บ้านได้ฟัง ก็กล่าวอย่างดีใจทันทีว่า “งั้นก็ให้พวกเขาสองคนไปเรียนด้วยกัน รู้หนังสือสักหน่อยค่อยไปทำการค้าก็ไม่เลว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้ม ชี้รายชื่อในมือผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า “รายชื่อเด็กต้นๆ นี่มีพรสวรรค์เรียนหนังสือ ให้ร่ำเรียนดีๆ ได้ รายชื่อด้านล่างๆ แม้ไม่ได้ฉลาดเหมือนด้านบน แต่ก็ไม่เลว แม้วันหน้าเรียนไปไม่อาจสอบเคอจวี่ ก็เป็นผู้จัดการหรือเหรัญญิกได้”

ผู้ใหญ่บ้านได้ฟังก็รู้สึกว่าเป็นผู้จัดการหรือเหรัญญิกก็ไม่เลว พยักหน้าหงึกๆ กล่าวว่า “ไว้ข้าจะไปบอกบิดามารดาพวกเขา ให้พวกเขาส่งลูกๆ ไปเรียนหนังสือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “อืม ข้ายังมีอีกเรื่องอยากคุยกับผู้ใหญ่บ้านสักหน่อย”

ผู้ใหญ่บ้านมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้าว่ามา”

“วันนี้อาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาแนะนำให้ข้าให้คำชี้แนะนักเรียนเรียนหนังสือ พวกเขาจะจ่ายเงินให้ข้าด้วย ดังนั้นข้าคิดว่าจะรื้อบ้านที่อยู่ตอนนี้แล้วสร้างใหม่ แต่ที่ตรงนั้นเล็กไปหน่อย ข้าคิดขยายพื้นที่ออกไปทางตะวันออก อยากขอให้ผู้ใหญ่บ้านขายที่ตรงนั้นให้ข้า ผู้ใหญ่บ้านคิดว่าต้องการเงินเท่าไร ก็บอกข้ามาได้เลย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยปาก ผู้ใหญ่บ้านก็ตบหน้าอกกล่าวว่า “ไม่ต้องการเงินเจ้า เจ้าขยายพื้นที่ไปทางตะวันออกได้เลย คิดขยายออกไปเท่าไรก็ได้ ไม่มีคนในหมู่บ้านนินทาว่าร้ายเจ้าแน่”

บ้านเซี่ยอวิ๋นจิ่นเดิมก็อยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่บ้านแล้ว ทางตะวันออกของบ้านเขาไม่มีคนอื่น ที่ผืนนั้นความจริงก็รกร้าง เพราะใกล้กับภูเขา พื้นดินมีก้อนหินมาก ไม่อาจเพาะปลูกได้ ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะขยาย ผู้ใหญ่บ้านย่อมไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองผู้ใหญ่บ้าน กล่าวนุ่มนวลว่า “ดีจริง แต่ผู้ใหญ่บ้านก็บอกกับคนในหมู่บ้านสักคำ”

ผู้ใหญ่บ้านรับรองทันที กล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจได้ ดูซิว่าใครจะกล้าพูดอะไร หากมีคนพูดมาก ก็ให้พวกเขาไสหัวไป”

อวิ๋นจิ่นกับภรรยาเขาทำเรื่องดีๆ ให้หมู่บ้านไม่น้อย เรื่องเล็กแค่นี้หากมีคนพูดมาก คนคนนั้นย่อมจิตใจอกตัญญู ขับไล่เขาไปเสียเลย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นผู้ใหญ่บ้านแสดงท่าทีเช่นนี้ก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน

ผู้ใหญ่บ้านรีบถามเขาว่าจะสร้างบ้านเมื่อไร เขาจะให้คนในหมู่บ้านไปช่วยได้เลย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าวว่า “สองวันนี้ก็จะเริ่มจัดการถางพื้นที่ ผู้ใหญ่บ้านช่วยข้าถามคนในหมู่บ้านหน่อยว่าใครยอมมาช่วย คนมาช่วยข้าจ่ายเงินให้วันละสามสิบเหวิน อาหารเที่ยงมื้อหนึ่ง”

พอผู้ใหญ่บ้านได้ฟังก็รีบกล่าวว่า “คนในหมู่บ้านเดียวกัน เอาเงินอะไร เลี้ยงข้าวพวกเขามื้อหนึ่งก็พอแล้ว”

ออกไปทำงานปกติก็ได้กันแค่สิบห้าถึงยี่สิบเหวิน เงินที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยจะให้ ไม่น้อยเลยจริงๆ

เพียงแต่ผู้ใหญ่บ้านคิดว่าไม่อาจรับเงินก้อนนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับยืนยัน “คนละเรื่องกัน ทุกคนช่วยข้าล้วนเพราะน้ำใจ แต่ไม่อาจให้ทุกคนช่วยเฉยๆ ไม่ได้อะไร”

เขาไม่อยากติดค้างคนอื่นเพราะเงินเล็กน้อยแค่นี้ วันหน้าเอ่ยขึ้นมายังต้องตอบแทนน้ำใจ ไม่สู้มอบน้ำใจให้ผู้อื่น

ผู้ใหญ่บ้านเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นยืนยัน ก็ไม่ดึงดันต่อ “ถึงตอนนั้นเจ้าต้องการคนเท่าไรก็มาบอกข้าได้เลย”

“ได้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็กล่าวอำลาผู้ใหญ่บ้าน พาลู่เจียวไปตระกูลเซี่ย การไปตระกูลเซี่ยนี้ก็เพื่อไปบอกว่าเขาจะสร้างบ้าน

พวกเซี่ยเหล่าเกินได้ฟังก็อึ้งไปทันที ลูกชายตนคนนี้ร้ายกาจจริง ถึงกับสร้างบ้านอิฐชิงจวน นั่นต้องใช้เงินเท่าไรกัน

เซี่ยเหล่าเกินรีบคิดว่าจะไปอยู่กับลูกชาย เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยเตือนเซี่ยเหล่าเกินอย่างไม่เกรงใจทันที “ท่านพ่อ พวกเราแยกบ้านออกไปแล้ว ตอนนั้นแม้แต่บ้านก็ไม่มี บ้านท่านพ่อเหมือนอยู่ที่นี่กระมัง”

เซี่ยเหล่าเกินหน้าบึ้งทันที เงียบไม่พูดจาอยู่นาน เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยต่ออีกว่า “วันนี้ท่านน้ามาบอกว่าท่านแม่ข้าคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ให้ข้าไปรับท่านแม่กลับมา”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท