ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 248 ผู้ชายสองคนปะทะกัน

ตอนที่ 248 ผู้ชายสองคนปะทะกัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงลู่เจียวขึ้นมา ก็หันไปมองนางถามว่า “เจ้าบอกพวกเขาว่าเราอยู่ที่นี่หรือ” 

 

 

ลู่เจียวพยักหน้า “ใช่ ข้าเป็นหมอหอยาเป่าเหอ หากไม่บอกพวกเขา พวกเขาจะหาข้าได้อย่างไร” 

 

 

แม้ว่าในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พอใจ แต่กลับต้องอดกลั้นเอาไว้ 

 

 

ลู่เจียวหันไปมองลู่กุ้ย สั่งว่า “เชิญพวกเขาเข้ามา” 

 

 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับคืนสู่ปกติแล้ว มีเพียงกลิ่นอายรัศมีรอบกายที่เย็นเยียบอยู่บ้างเท่านั้น  

 

 

หันถงในห้องโถงรู้สึกได้ เขาคบหากับเซี่ยอวิ๋นจิ่นมานานขนาดนี้ พอเข้าใจในอารมณ์เขา  

 

 

หันถงมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างไม่เข้าใจ ทำไมจึงรู้สึกว่าอวิ๋นจิ่นไม่พอใจมาก 

 

 

หมอฉีนั่นไม่ใช่คนที่ช่วยผ่าตัดรักษาขาให้เขาหรือ หรือว่าที่เขาไม่พอใจไม่ใช่หมอฉี แต่เป็นเจ้าของร้านหอยาเป่าเหอ  

 

 

หันถงกำลังคิดอยู่นั้น ลู่กุ้ยก็เดินนำจ้าวหลิงเฟิงกับหมอฉีเข้ามา 

 

 

ทั้งสองคนพอเข้ามาก็ยิ้มทักทายเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว  

 

 

“มาเยือนไม่ได้นัดหมาย ขอเซี่ยซิ่วไฉกับลู่เหนียงจื่ออย่าได้ถือสา” 

 

 

จ้าวหลิงเฟิงหน้าตาสง่างาม ท่วงท่ากิริยาไม่ธรรมดา แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา  

 

 

หันถงพอเห็นก็เข้าใจว่า ทำไมอวิ๋นจิ่นไม่พอใจ นี่คงเกรงว่าอีกฝ่ายมุ่งหมายภรรยาเขา ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง แม้พี่สะใภ้เป็นคนดีมากความสามารถ แต่นางก็แต่งงานแล้ว ท่านจ้าวผู้นี้คงไม่มุ่งหมายพี่สะใภ้กระมัง  

 

 

หันถงคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ตนคุยกับลู่เจียวมากหน่อย อวิ๋นจิ่นก็อิจฉาแล้ว ดูท่าอวิ๋นจิ่นรักพี่สะใภ้มากจริงๆ 

 

 

ขณะหันถงกำลังคิดอยู่ เซี่ยอวิ๋นจิ่นในห้องโถงก็เอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อรู้ว่ามาโดยไม่นัดหมาย ทำไมยังจะมารบกวนอีก” 

 

 

แน่นอนว่าไม่ไว้หน้าจ้าวหลิงเฟิงแม้แต่น้อย 

 

 

รอยยิ้มบนใบหน้าจ้าวหลิงเฟิงแข็งค้าง แม้ว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่ได้ถือกำเนิดจากภรรยาเอกในจวนหย่งหนิงโหว แต่ก็ไม่เคยถูกหักหน้าเช่นนี้มาก่อนจริงๆ 

 

 

หมอฉีข้างๆ จ้าวหลิงเฟิงรีบยิ้มรับคำว่า “เซี่ยซิ่วไฉล้อเล่นแล้ว” 

 

 

ลู่เจียวข้างเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ยื่นมือไปหยิกเซี่ยอวิ๋นจิ่นทีหนึ่ง พร้อมกับถลึงตาจ้องเตือนเขา  

 

 

แม้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ชอบจ้าวหลิงเฟิงอย่างไร ก็ไม่อาจพูดอะไรได้ ได้แต่เบะปากตอบรับหมอฉี “ท่านจ้าวคงไม่ได้ล้อเล่นไม่ได้กระมัง” 

 

 

จ้าวหลิงเฟิงแต่เล็กถูกภรรยาเอกบิดารังแกมาไม่น้อย สีหน้าเขากลับคืนสู่รอยยิ้มปกติได้อย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “เซี่ยซิ่วไฉไม่เสียทีที่เป็นคนเรียนหนังสือมา ช่างมีอารมณ์ขัน” 

 

 

กล่าวจบก็ไม่มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก หันไปมองลู่เจียวฉีกยิ้มกว้างเอ่ยว่า “ลู่เหนียงจื่อนับวันยิ่งสวยขึ้นทุกวันแล้ว หากเดินอยู่กลางถนน เกรงว่าข้าคงไม่กล้าทักแล้ว” 

 

 

วาจาจ้าวหลิงเฟิงทำเอาสีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเย็นเยียบทันที มองจ้าวหลิงเฟิงแววตาประกายเย็นเยียบ 

 

 

ครั้งนี้ลู่เจียวไม่ได้ถลึงตาใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่กลับใส่จ้าวหลิงเฟิงแทน  

 

 

นางรู้ว่าจ้าวหลิงเฟิงจงใจแกล้งเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่ตอนนี้นางยังเป็นภรรยาเซี่ยอวิ๋นจิ่น จ้าวหลิงเฟิงกล่าวเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายที่ไหนก็ล้วนไม่พอใจ 

 

 

ลู่เจียวมองจ้าวหลิงเฟิง เอ่ยอย่างไม่พอใจนักว่า “มีธุระก็ว่ามา อย่านอกเรื่อง”  

 

 

ท่าทีลู่เจียวทำให้จิตใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นนิ่งลงได้ดีมาก สีหน้าเขาผ่อนคลายลงไม่น้อย ไม่เอ่ยวาจาตอกกลับอีก  

 

 

จ้าวหลิงเฟิงเองไม่กล้าพูดจาเหลวไหลอีก มองลู่เจียวยิ้มบางกล่าวว่า “วันนี้ที่มา ประการแรกเพื่อเยี่ยมเยือนลู่เหนียงจื่อ ประการที่สอง เพื่อบอกลู่เหนียงจื่อ หอยาเป่าเหอได้ย้ายจากหมู่บ้านชีหลี่มาที่อำเภอแล้ว อยู่ถนนจูเชวี่ย” 

 

 

ฉีเหล่ยข้างจ้าวหลิงเฟิงอธิบายต่อว่า “ถนนจูเชวี่ยห่างจากตรอกกุ้ยฮวาไม่ไกล แค่สองช่วงถนน” 

 

 

จ้าวหลิงเฟิงกับฉีเหล่ยกล่าวจบ สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่าได้เอ่ยว่าดำคล้ำเพียงใด 

 

 

จ้าวหลิงเฟิงอยู่ดีๆ ทำไมย้ายหอยาเป่าเหอมาอำเภอชิงเหอ เมื่อก่อนทำไมไม่ย้าย อีกอย่างย้ายก็ย้ายไป ยังย้ายมาติดกับตรอกกุ้ยฮวาพวกเขาอย่างนี้อีก พวกเขาทำเช่นนี้หรือว่าเพราะลู่เจียว? 

 

 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งเปล่งกลิ่นอายรัศมีเย็นเยียบ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจอัดแน่น  

 

 

ในห้องโถง หันถงเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลก ๆ นี่เหมือนว่ามุ่งหมายมาทางพี่สะใภ้ ตอนพี่สะใภ้มาอยู่อำเภอชิงเหอ หอยาเป่าเหอก็ย้ายตามมาอำเภอติดๆ ก็ยังไม่เท่าไร ประเด็นคือที่ย้ายมายังใกล้กับตรอกกุ้ยฮวาขนาดนี้  

 

 

ควรรู้ว่าอำเภอชิงเหอกว้างใหญ่ หากหนึ่งอยู่ใต้ หนึ่งอยู่เหนือ นั่งรถม้าก็ต้องหนึ่งชั่วยามกว่า ปกติยากจะได้พบเจอกัน 

 

 

ตอนนี้คนพวกนี้ย้ายหอยามาใกล้เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าส่งผลดีต่อพี่สะใภ้หรือ เช่นนี้ดูท่าท่านจ้าวผู้นี้มีจิตคิดไม่ซื่อต่อพี่สะใภ้จริงๆ แล้ว มิน่าอวิ๋นจิ่นถึงได้โมโห 

 

 

สีหน้าหันถงมองไปยังจ้าวหลิงเฟิงไม่ดีนัก 

 

 

ลู่เจียวเห็นบรรยากาศในห้องโถงไม่ค่อยดีนัก แต่ก็เข้าใจว่าทำไมเซี่ยอวิ๋นจิ่นโมโห  

 

 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่รู้ว่าจ้าวหลิงเฟิงกับนางร่วมกันทำการค้าหลายอย่าง ดังนั้นจึงได้ระแวงจุดมุ่งหมายของจ้าวหลิงเฟิงที่ทำเช่นนี้ แต่นางเองก็ไม่ได้คิดอธิบายกับเขา 

 

 

ลู่เจียวมองไปยังจ้าวหลิงเฟิงกับฉีเหล่ยกล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ข้ารู้แล้ว วันหน้าหอยาเป่าเหอมีผู้ป่วยอาการหนัก พวกเจ้าก็ให้คนมาตามข้า ข้าก็จะรีบไปดูอาการ” 

 

 

จ้าวหลิงเฟิงกลับส่ายหน้า มองลู่เจียวกล่าวว่า “ข้ายังมีอีกเรื่องคิดหารือกับลู่เหนียงจื่อ” 

 

 

จ้าวหลิงเฟิงกล่าวจบ ก็จงใจมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นทีหนึ่ง เหมือนมีวาจาบางอย่างที่ไม่ควรกล่าวต่อหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น  

 

 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นสีหน้าท่าทางจ้าวหลิงเฟิงก็ยิ่งโมโห ชายผู้นี้เห็นชัดว่าจงใจยั่วแหย่เขา 

 

 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องจ้าวหลิงเฟิงด้วยสายตาเย็นเยียบ ไม่ได้คิดจะหลบออกไปแม้แต่น้อย ยังไงวันนี้ข้าก็ไม่ไป จะดูซิว่าเจ้าจะพูดอะไร  

 

 

ลู่เจียวเห็นแล้วก็ปวดหัว หากจ้าวหลิงเฟิงพูดเรื่องที่ทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นโมโหหนักออกมาอีก ทั้งสองคนคงมีเรื่องชกต่อยกันแน่  

 

 

ดังนั้นนางมองไปยังจ้าวหลิงเฟิงเอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “มีอะไรไว้ค่อยคุยกัน”  

 

 

ฉีเหล่ยข้างจ้าวหลิงเฟิงรีบลากมือจ้าวหลิงเฟิง ถลึงตาเตือนจ้าวหลิงเฟิงทีหนึ่ง บอกให้เขากลับไปก่อน  

 

 

อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่าจ้าวหลิงเฟิงทำเช่นนี้เพราะต้องการยั่วโมโหเซี่ยซิ่วไฉ ไม่งั้นจ้าวหลิงเฟิงย่อมรอให้ลู่เหนียงจื่อไปรักษาคนไข้ที่หอยาเป่าเหอแล้วค่อยพูดก็ได้  

 

 

จ้าวหลิงเฟิงยอมฟังคำเตือนของฉีเหล่ย หันไปบอกลู่เจียว “งั้นข้ากลับก่อน ไว้ค่อยคุยกับลู่เหนียงจื่อ” 

 

 

 เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับเอ่ยว่า “มีเรื่องอะไรไม่อาจบอกคนอื่นได้หรือ มีอะไรก็คุยกันที่นี่เถิด”  

 

 

เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องจ้าวหลิงเฟิงด้วยสีหน้าดุดัน อยากดูนักว่าเจ้าหมอนี่จะพูดเรื่องอะไร  

 

 

จ้าวหลิงเฟิงหันไปมองลู่เจียว เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็มองไปยังลู่เจียว น้ำเสียงเย็นเยียบกล่าวว่า “เจ้าให้เขาพูด ข้าเองก็อยากรู้ว่าเขาคิดทำอะไร” 

 

 

หากเวลานี้ลู่เจียวดึงดันไม่ให้จ้าวหลิงเฟิงพูด ก็เห็นชัดว่าระหว่างนางกับเขามีเรื่องอะไรที่ไม่อาจบอกผู้อื่น  

 

 

ลู่เจียวเอ่ยขึ้น “เรื่องอะไร เจ้าว่ามา ระหว่างพวกเรามีเรื่องอะไรที่บอกใครไม่ได้”  

 

 

จ้าวหลิงเฟิงรีบยิ้มกล่าวว่า “คืออย่างนี้ ข้าตั้งใจว่าจะมอบหุ้นสามส่วนของหอยาเป่าเหอให้ลู่เหนียงจื่อ แต่วันหน้าทุกวันที่ห้ากับสิบลู่เหนียงจื่อต้องไปนั่งรักษาประจำที่หอยาเป่าเหอ ไม่ทราบว่าลู่เหนียงจื่อคิดเช่นไร” 

 

 

ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้ว่าจ้าวหลิงเฟิงทำเพื่อนาง อย่างไรนางกับเขาก็มีความร่วมมือทางการค้าใหญ่กัน สามส่วนของหอยาเป่าเหอไม่นับว่าเท่าไรเลยจริงๆ 

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท