ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 273 ผู้ชายล้วนใจดำราวสุนัข

ตอนที่ 273 ผู้ชายล้วนใจดำราวสุนัข

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นมือปราบจ้าวนิ่งงันไปนาน ก็มองมือปราบจ้าวด้วยสีหน้าที่ยิ่งเย็นเยียบ เอ่ยอีกครั้งว่า “มือปราบจ้าว ข้าหวังว่าท่านกลับไปจะอบรมบุตรสาวให้ดี อย่าได้มายุ่งเรื่องครอบครัวผู้อื่นอีก”

มือปราบจ้าวจึงได้สติ แววตาเขาเป็นประกายราวกับน้ำใสกระจ่าง หากว่าก่อนหน้านี้แววตาเขาดำทะมึนไร้แสงสว่าง ตอนนี้แววตาเขานับว่ากระจ่างใสราวกับดวงดาวในหน้าหนาว

เขามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น รับคำเสียงหนักแน่นว่า “เซี่ยซิ่วไฉวางใจ กลับไปข้าต้องอบรมบุตรสาวตนเองให้ดี ไม่ให้นางมาสร้างความวุ่นวายให้เซี่ยซิ่วไฉอีก”

มือปราบจ้าวรู้ว่าข้างบ้านมีซิ่วไฉมาอยู่ ยังเป็นซิ่วไฉอันดับหนึ่ง ก่อนหน้านี้นายอำเภอยังมอบรางวัลให้ แต่ตอนนั้นมือปราบจ้าวรับคำสั่งไปจับกุมคนร้าย ไม่ทันได้เห็นซิ่วไฉท่านนี้ ต่อมาทั้งสองคนก็ไม่เคยได้พบกัน นี่เป็นการพบกันครั้งแรก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดมือปราบจ้าวสีหน้าก็ดีขึ้นหน่อย เขามองมือปราบจ้าว พยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนี้ก็ขอบคุณมือปราบจ้าวมาก”

มือปราบจ้าวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นแล้วก็อดคิดทอดถอนใจไม่ได้ คุณชายเขาถึงกับโตเพียงนี้แล้ว สวรรค์ช่างมีตาเสียจริง

“ไม่เป็นไร”

มือปราบจ้าวอารมณ์ดีหันหลังเดินกลับบ้าน แต่พอคิดถึงคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นก่อนหน้านี้ สีหน้าเขาก็เย็นเยียบลงทันที จ้าวเหอฮวาไม่ใช่บุตรสาวเขา แต่เป็นบุตรสาวมือปราบที่ร่วมงานจับกุมคนร้ายกับเขาแล้วบาดเจ็บรักษาไม่ได้จนตายจากไป

ปรากฏภรรยาเขาหนีตามชายอื่นไป ทิ้งบุตรสาวสองขวบไว้ที่บ้าน พวกเขาไปเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ สุดท้ายก็ยอมรับเลี้ยงบุตรสาวคนนี้

คิดไม่ถึงว่านิสัยบุตรสาวเหมือนกับแม่ของนางที่ไม่รักนวลสงวนตัวของนาง ภรรยาเขาหาคู่หมั้นหมายให้นางหลายครั้ง ก็เอาแต่รังเกียจไม่พอใจ

ภรรยาเขาจึงไม่ยอมยุ่งเรื่องของนางอีก ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร ต้องรีบให้นางแต่งออกไป ครอบครัวพวกเขาไม่ได้ติดค้างนาง

มือปราบจ้าวเดินเข้าบ้านไปด้วยสีหน้าดุดัน

หน้าประตูบ้านตระกูลเซี่ย สวีเหนียงจื่อถูกเฝิงจือตามมาแล้ว

สวีเหนียงจื่อเช้ามาก็อยู่แต่ในห้องครัวด้านหลังยุ่งกับการทำอาหาร ตระกูลซูไม่ยอมใช้คนรับใช้ทำอาหาร แต่งานอื่นในบ้านก็มีคนรับใช้

แต่แม่สามีนางกลับให้นางลงครัวทุกวัน ให้นางเตรียมอาหาร นางได้แต่ตื่นแต่เช้าทุกวันเข้าครัวเตรียมอาหารเช้าให้พวกเขาสองผู้เฒ่ากิน

ตอนเฝิงจือไปเชิญสวีเหนียงจื่อ สีหน้าสวีเหนียงจื่อก็อับอายแดงก่ำ แทบจะหารูมุดหนี

ระหว่างเพื่อนบ้านเรื่องเล็กน้อยไม่ควรกล่าวอะไร น้องสะใภ้นางถึงกับแล่นมาก่อเรื่องบ้านคนอื่นเขาแต่เช้า

นี่จะให้วันหน้านางอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านได้อย่างไร สวีเหนียงจื่อแทบจะตีน้องสะใภ้ให้ตาย

บอกตามตรง หากไม่ใช่บุตรชายบุตรสาว นางหย่ากับซูต้าไห่ไปนานแล้ว

สิบปีก่อน นางแต่งกับซูต้าไห่ บ้านเขายากจนจนแม้แต่ของหมั้นก็ไม่มี นางเห็นเขาอดทนกับความยากลำบากได้ สมองก็ไว ส่วนนางก็ต้องตาคนเช่นเขาเข้า ไม่สนใจว่าครอบครัวเขายากจนก็แต่งกับเขา ต่อมานางมอบกำไลเงินของนางให้เขาไปแลกเป็นเงินมาทำการค้า

พอซูต้าไห่ทำการค้าประสบความสำเร็จ ปรากฏท่านพ่อท่านแม่เขาน้องชายน้องสะใภ้ก็พากันมาเกาะหนึบ กลับเป็นนางที่ต้องไปยืนหลบมุมแทน แม่สามีเอาแต่บีบคั้นนางมาตลอด ให้หลานห่างๆ มาเป็นอนุซูต้าไห่ ให้หญิงผู้นั้นติดตามซูต้าไห่ไปทำการค้า ปรากฏซูต้าไห่กับหญิงผู้นั้นนับวันยิ่งดีต่อกัน กับนางผู้เป็นภรรยาเอกนับวันก็ยิ่งเหินห่างไร้ความผูกพัน

ผู้ชายน่ะหรือ ล้วนใจดำราวสุนัข

หลายปีมานี้ สวีเหนียงจื่อชินชาเสียแล้ว นางเดินตามเฝิงจือมา พอเดินถึงหน้าประตูบ้านตระกูลเซี่ยเห็นลู่เจียว นางก็กล่าวขอโทษอย่างเกรงใจ

“ลู่เหนียงจื่อ ขอโทษด้วย ไว้กลับไปข้าจะบอกน้องสะใภ้ วันหน้าอย่าได้มาหาเรื่องบ้านพวกเจ้าอีก”

ลู่เจียวมองออกว่าสวีเหนียงจื่อผู้นี้ความจริงเป็นคนไม่เลว น่าเสียดายครอบครัวนี้ทำให้นางดูอ่อนแออิดโรยเช่นนี้

นางมองสวีเหนียงจื่อกล่าวว่า “สวีเหนียงจื่อ บางครั้งการยอมอ่อนข้อให้ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะดีกับเจ้า สำหรับคนที่ไม่ดีกับเจ้า เจ้ายอมให้ก็ได้แต่ทำให้คนเขารู้สึกว่าเจ้ารังแกง่าย ข้าว่านะ สวีเหนียงจื่อก็ไม่เหมือนคนโง่ ทำไมไม่ลองใช้สติปัญญาไตร่ครองดูเล่า”

“สวีเหนียงจื่ออดทนมานานหลายปีเช่นนี้ เหมือนว่ามีชีวิตไม่ได้ดังหวังเท่าไร ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ลอง ขอเพียงใช้สติปัญญาคิดมากหน่อย ก็มักหาทางออกที่สองฝ่ายปรองดองกันได้”

ลู่เจียวนับว่าได้เตือนสติแล้ว กล่าวจบก็มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “พวกเรากลับเข้าบ้านกันเถอะ”

สวีเหนียงจื่ออึ้งมองครอบครัวนี้ ครุ่นคิดคำพูดลู่เจียว รู้สึกว่าสมองที่คลุมเครือถูกกระทบอย่างแรง ได้สติขึ้นมามาก

ใช่แล้ว การยอมของนางได้แต่ทำให้บิดามารดาสามี น้องชายและน้องสะใภ้สามีนางรู้สึกว่านางรังแกง่าย

เมื่อก่อนนางเป็นดังแก้วล้ำค่าในมือท่านพ่อท่านแม่นาง ตอนนั้นนางแต่งกับซูต้าไห่ ท่านพ่อท่านแม่นางไม่เพียงแต่มอบสมบัติออกเรือนให้นางมาหลายหีบ ยังมอบต่างหูเงินกำไลเงิน และยังให้เงินก้นถุงมาอีกหลายตำลึง

ตอนนี้น่ะหรือ แม้แต่เวลาว่างกลับไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่ นางก็ไม่มี เพื่อดูสองตาแก่ยายแก่ไม่ตายสักทีคู่นี้หรือ เพื่อรับใช้ครอบครัวน้องชายสามีหรือ นางติดค้างตระกูลซูพวกเขาหรือ

สวีเหนียงจื่อแววตาเย็นเยียบ ปากบางเม้มแน่น หันหลังเดินกลับบ้านทันที

ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่สนใจเรื่องบ้านตระกูลซูอีก ทั้งสองคนเดินเข้าไปกินอาหารเช้าที่เรือนด้านหลัง

ตลอดทางมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงว่าลู่เจียวเมื่อวานเหนื่อยมาทั้งวัน เที่ยงคืนยังถูกคนปลุกตื่น ปรากฏเช้ามาก็ไม่ทันได้นอนเท่าไร ในใจก็แอบสงสารอยู่ไม่น้อย มองลู่เจียวกล่าวว่า “วันนี้ไม่มีเรื่องอะไร กินข้าวเช้าเสร็จเจ้าไปนอนต่ออีกสักครู่”

ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ไว้นอนสักครู่ตอนเที่ยงก็พอ”

นางกระปรี้กระเปร่าดีมาก แต่ร่างกายเหนื่อยล้าอยู่บ้าง คิดอยากนอนขี้เกียจสักครู่ก็เท่านั้น

ลู่เจียวคิดถึงเรื่องทะเลาะกันในวันนี้ล้วนเพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่น

เฉินเจาตี้น้องสะใภ้สวีเหนียงจื่อที่แล่นมาเอาเรื่อง เกรงว่าจุดมุ่งหมายแท้จริงก็คือคิดล่อลวงเซี่ยอวิ๋นจิ่น เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าจ้าวเหอฮวาตะวันออกถึงกับปรี่ออกมาช่วยเถียง

ลู่เจียวคิดไปก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นไป

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นนางมองเขาก็อดเอ่ยถามไม่ได้ว่า “ทำไมหรือ”

“ดู ใบหน้าเจ้านี้นำเรื่องมาให้ข้ามากมายเท่าไร”

แต่ใบหน้านี้ก็มองแล้วชื่นตาชื่นใจจริง อย่าว่าแต่จ้าวเหอฮวาตะวันออกกับเฉินเจาตี้ตะวันตก แม้แต่นางมองแล้วก็อดมองอีกสองสามทีไม่ได้

ลู่เจียวกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วกล่าวอย่างจนใจว่า “นั่นก็ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนหาเรื่องมานี่”

กล่าวจบเลิกคิ้วคิดแล้วก็กล่าวว่า “หรือว่าข้าควรทำลายใบหน้านี้ทิ้ง”

เขากล่าวจบคิดถึงว่ารอยแผลเป็นบนใบหน้าเฝิงจือ หันไปมองทันที คิดเลียนแบบเฝิงจือ

ลู่เจียวถลึงตาใส่เขาทันที กล่าวว่า “อย่าพูดจาเหลวไหล หากใบหน้าเจ้ามีรอยแผลก็ไม่อาจเข้าสอบเคอจวี่ได้ เจ้าไม่อยากสอบเคอจวี่เป็นขุนนางแล้วหรือ”

แคว้นต้าโจวสอบเคอจวี่มีกฎระเบียบชัดเจนว่า ร่างกายพิการไม่อาจเข้าร่วมสอบ ใบหน้ามีตำหนิก็ไม่อาจร่วมสอบได้

พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังก็แล้วไป ทำท่าทางกล่าวเหมือนไม่ใส่ใจนักว่า “ในเมื่อไม่อาจทำลายใบหน้า งั้นวันหน้าข้าก็อยู่ห่างจากหญิงเหล่านั้นไกลๆ ไม่เปิดโอกาสให้พวกนางเด็ดขาด”

เขากล่าวจบแอบเหลือบมองลู่เจียวเห็นสีหน้ายินดีของลู่เจียวดังคาด มุมปากเซี่ยอวิ๋นจิ่นแอบยกยิ้มอย่างไม่อาจสังเกตเห็น เช่นนี้ค่อยเป็นค่อยไป เชื่อว่าช้าเร็วสักวันหนึ่งลู่เจียวย่อมยอมรับเขา

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท