ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 278 คับแค้นกล้ำกลืน

ตอนที่ 278 คับแค้นกล้ำกลืน

ลู่เจียวควักเงินออกจากแขนเสื้อทันที หยิบตั๋วแลกเงินออกมาราวหมื่นห้าพันตำลึงมอบให้จ้าวหลิงเฟิง “งั้นเจ้าส่งคนไปช่วยข้าซื้อหน่อยละกัน”

จ้าวหลิงเฟิงไม่รับเงินนาง ถามว่า “เจ้าไม่ไปดูหน่อยหรือ”

ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “เจ้าทำงาน ข้ายังไม่เชื่อใจอีกหรือ”

พวกเขาทั้งสองคนมีผลประโยชน์เกี่ยวโยงกัน จ้าวหลิงเฟิงย่อมไม่หลอกนาง

คนเราทรยศอะไรก็ได้ ยกเว้นผลประโยชน์ตนเอง

จ้าวหลิงเฟิงยิ้มยื่นมือไปรับตั๋วแลกเงินหมื่นห้าพันตำลึง กล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าเชื่อใจข้า ข้าก็จะจัดการให้เจ้าอย่างเรียบร้อยเลย”

“เยี่ยม”

ในห้องโถง ม่อเป่ยหรี่ตามองลู่เจียว แม้ว่าหญิงผู้นี้ละโมบเงินทอง แต่พอได้ใกล้ชิดนาง ก็รังเกียจไม่ลงจริงๆ

นางละโมบก็ละโมบเปิดเผย ทำงานก็ใจกว้างฉับไว กลบภาพสตรีที่จอมปลอมในความคิดเขาไปหมดสิ้น

หญิงผู้นี้ไม่เหมือนกับหญิงอื่น

ขณะม่อเป่ยครุ่นคิด ลู่เจียวก็ลุกขึ้นเตรียมจะกลับแล้ว “ข้ากลับก่อนละ”

กล่าวจบนางหันไปมองฉีเหล่ย กำชับว่า “สุขภาพท่านอาหวังอ่อนแอมาก จำไว้ว่าต้องบำรุงหน่อย เช่นนี้จึงจะฟื้นตัวเร็วขึ้น”

“อาจารย์วางใจ ข้าจดจำไว้แล้ว”

ฉีเหล่ยลุกขึ้นไปส่งลู่เจียว

ม่อเป่ยมองตามลู่เจียวจากไปด้วยแววตาส่องประกาย จ้าวหลิงเฟิงข้างๆ มองเขาแล้วก็กล่าวว่า “วันหน้าเจ้าอย่าได้เอาแต่ว่าลู่เหนียงจื่อละโมบอะไรพวกนี้อีก หากทำนางโมโห วันหน้าไม่รักษาให้เจ้า เจ้าคิดดูคนที่นางรับรักษาครั้งไหน มีค่าไม่ถึงห้าพันตำลึงบ้าง”

เช่น เจ้านายพวกเขา นั้นช่วยชีวิตหนึ่งเลยนะ อย่าว่าแต่ห้าพันตำลึง แม้แต่ห้าหมื่นตำลึงก็คุ้มค่า

หรือกรณีหวังขุย หวังขุยเป็นคนที่เจ้านายต้องการดึงมาเป็นพวก เดิมเขาลังเลอยู่บ้าง ไม่อยากใกล้ชิดเจ้านาย แต่ครั้งนี้พวกเขาช่วยเขาไว้ ยังช่วยแขนเขาไว้ด้วย หากไม่เหนือความคาดหมาย วันหน้าหวังขุยต้องรับใช้เจ้านายแล้ว

เขาเป็นคนมีความสามารถ คนเช่นนี้ไม่คุ้มค่าห้าพันตำลึงหรือ

จ้าวหลิงเฟิงมองม่อเป่ยกล่าวว่า “ลู่เหนียงจื่อต้องการเงินไม่มาก เจ้าดูนางช่วยสะใภ้กับหลานของนายอำเภอหู เก็บแค่ห้าร้อยตำลึง”

ม่อเป่ยไม่พูดอะไรต่ออีก

ลู่เจียวพาเฝิงจือกลับบ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาแล้ว กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ

ลู่เจียวพาเฝิงจือไปหาเขาที่ห้องหนังสือ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นนางมาหาเขาด้วยตนเองก็ดีใจมาก แต่ทำสีหน้าปกติ ไม่ได้แสดงออกแม้แต่น้อย

“มีธุระกับข้าหรือ”

ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อยกล่าวว่า “เจ้าคงรู้แล้ว หมอฉีเอาแต่เรียกข้าว่าอาจารย์ เขาอยากเรียนการผ่าตัดจากข้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็มองนางแววตาเข้ม ค่อยๆ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเขาผ่าตัดให้ข้า คิดแต่ซาบซึ้งใจเขา ปรากฏว่าไม่ใช่”

สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นคับแค้นกล้ำกลืนอย่างมาก ลู่เจียวแอบกินปูนร้อนท้อง หัวเราะแหะๆ กล่าวว่า “ตอนนั้นถ้าข้าบอกว่าข้าผ่าตัดให้ เจ้าย่อมไม่เชื่อถือ ดังนั้นข้าจึงได้แต่อาศัยหมอฉีแล้ว”

“ต่อมาทำไมเจ้าไม่บอก เจ้าบอกข้าก็เชื่อ”

ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ต่อมารู้สึกว่าไม่จำเป็น”

กล่าวจบเกรงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะเอาแต่เอาเรื่องนี้ไม่เลิก ก็มองเขาดุดันกล่าวว่า “ข้ามาหาเจ้าเพื่อบอกธุระกับเจ้า เจ้าเอาแต่เอ่ยเรื่องที่ผ่านไปแล้วทำไม”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนาง คิ้วใบหลิ่วตั้งชัน สีหน้าดุดัน แต่กลับไม่ได้รู้สึกน่ารังเกียจแม้แต่น้อย กลับกัน เขากลับรู้สึกว่านางเช่นนี้น่ารักมาก

“เรื่องอะไร”

“แม้ว่าฉีเหล่ยเรียกข้าว่าอาจารย์ แต่ไม่เคยจัดพิธีคารวะอาจารย์ เขารู้สึกว่าเช่นนี้ไม่เป็นทางการ ดังนั้นคิดจัดงานเลี้ยงคารวะอาจารย์”

พอลู่เจียวกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นขมวดคิ้วกล่าวว่า “งานเลี้ยงคารวะอาจารย์? ตอนนี้พวกเราควรสงบเสงี่ยมหน่อยถึงจะถูก”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดว่างานเลี้ยงคารวะอาจารย์นี้มากไป ดังนั้นไม่เห็นด้วย

ตอนนี้อำเภอชิงเหอวุ่นวายมาก ไม่เหมาะกับเป็นจุดสนใจของผู้คนในยามนี้

ลู่เจียวพยักหน้า “ข้าเองก็คิดเช่นนี้ เลยให้เขาจัดเลี้ยงแค่โต๊ะเดียว ให้คนมาเป็นสักขีพยานสองสามคนก็เสร็จกระบวนการคารวะอาจารย์แล้ว วันหน้าก็ได้ชื่อเป็นศิษย์อาจารย์ถูกต้อง ไม่งั้นก็รู้สึกแต่ว่าไม่เป็นทางการอยู่เรื่อย”

พอลู่เจียวกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เห็นด้วย ยุคนี้ให้ความสำคัญกับการสืบทอดความรู้จากอาจารย์อย่างมาก หลังพิธีคารวะอาจารย์ วันหน้าฉีเหล่ยก็เป็นศิษย์ของลู่เจียวอย่างเป็นทางการ

“อันนี้ก็พอได้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบมองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “พวกเราต้องเชิญใครไปเป็นสักขีพยานสักหน่อยไหม”

ลู่เจียวยิ้มพลางส่ายหน้ากล่าวว่า “ข้าเองไม่รู้จักใคร ดังนั้นไม่คิดเชิญ ให้ฉีเหล่ยไปจัดการเรื่องนี้แล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มกล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าจัดการเอง ไม่ต้องให้เจ้ากังวลใจ”

“อืม” ทั้งสองคนพูดกันต่ออีกครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นเดินไปเรือนด้านหลังพร้อมกัน

เรือนด้านหลัง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เห็นลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง สี่คนก็ยิ้มจนเรียกว่าบานแฉ่งยิ่ง พร้อมกันนั้นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็แน่ใจได้เรื่องหนึ่ง

ท่านแม่น่าจะไม่ไปแล้ว วันหน้าพวกเขาก็มีท่านแม่แล้ว ตกค่ำเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็กระตือรือร้นเป็นพิเศษ หยิบตะเกียบกลางผลัดกันคีบอาหารให้ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น

ผู้ใหญ่สองคนสบตากัน “วันนี้พวกเจ้าเหมือนดีใจมาก ว่ามามีเรื่องอะไรให้ดีใจกัน”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เม้มปากหัวเราะ ต้าเป่ากะพริบตามองลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “เห็นท่านพ่อกับท่านแม่มีความสุข พวกเราก็ดีใจ”

เอ้อร์เป่ารีบพยักหน้า “พวกเราไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่แยกกัน หากท่านพ่อแยกกับท่านแม่ ก็จะเสียใจมาก”

ซานเป่ากะพริบตาปริบๆ มองลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าหน้าตาดี ยืนด้วยกันแล้วเหมือนภาพวาด ดังนั้นห้ามแยกจากกัน”

ซื่อเป่ากำลังนั่งอยู่ข้างลู่เจียว ยื่นมือไปโอบรอบคอลู่เจียว หอมแก้มนาง

“ท่านแม่ข้าเป็นเทพธิดาที่สวยที่สุด ท่านพ่อข้าย่อมต้องชอบ ข้าเองก็ชอบมาก”

ลู่เจียวมองซื่อเป่าไร้วาจาจะเอ่ย ชี้หน้าตนเอง กล่าวว่า “ซื่อเป่า พูดส่วนพูด ไม่หอมแก้มแม่ได้ไหม แก้มแม่มันแล้ว”

วาจานี้ทำเอาทั้งครอบครัวหัวเราะขันกันขึ้นมาทันที

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองทั้งครอบครัวมีความสุขเบิกบานใจ ในใจก็แน่ใจได้เรื่องหนึ่ง เขาต้องใช้ความจริงใจเกินสิบส่วนพิชิตใจลู่เจียว ต้องให้นางอยู่ต่อ

แต่แม้ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดเช่นนี้ แต่คำพูดและการกระทำกลับไม่ได้แสดงออกสักนิด เขาต้องใช้การถอยเพื่อรุก ให้ลู่เจียวไม่ทันป้องกัน

“อายุเท่าไรเอง เอาแต่กังวลเรื่องของผู้ใหญ่ รีบกินข้าว กินเสร็จก็ไปอาบน้ำ วันนี้เหงื่อออกมาทั้งวันแล้วใช่ไหม ไม่รังเกียจว่าเหม็นหรือไง”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พอได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็รีบเร่งกินอาหาร วันนี้พวกเขาวิ่งมาทั้งวัน เหม็นไปทั้งตัว

บนโต๊ะอาหาร ลู่เจียวหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น พบว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้มีท่าทีคิดมาก

ลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตนเองปฏิเสธไปชัดเจนแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างไรก็เป็นคนมีศักดิ์ศรี คิดว่าตอนนี้ยอมรับเรื่องหย่าของนางกับเขาได้แล้ว

ลู่เจียวจิตใจสงบลง ไม่คิดมากอีก กินข้าวเสร็จก็ไปอาบน้ำให้เจ้าหนูทั้งสี่ด้วยกันกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น

ยามนี้นางไม่ได้รู้สึกตัวแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้นางอาบน้ำให้เจ้าหนูทั้งสี่ด้วยกันกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นยังอึดอัด แต่ตอนนี้กลับยอมรับได้เปิดเผยแล้ว

ทั้งสองคนอาบน้ำให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เสร็จ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เล่านิทานให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่อย่างที่ไม่ค่อยได้ทำเท่าไร ลู่เจียวดีใจที่เขาไปดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ พาลู่กุ้ยไปคุยกันในเรือนบุปผาข้างๆ

“พรุ่งนี้เช้าเจ้าให้หลินต้าพาเจ้าไปหมู่บ้านซิ่งฮวา รับพี่รองมา ข้ามีงานให้เขาทำ”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท